Black Diamond อัญมณีแห่งคำสาป
เขียนโดย แม่มดไร้สังกัด
วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.22 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 10.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) สัญญาที่ไร้ความหมาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันนี้เป็นวันที่อัสลี่ ฟินเทอร์ เฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เธอเพิ่งได้รับแจ้งจากเฮเซลว่าได้นัดหมายให้ ฟาร์ซาส ชาร์ลีน พ่อค้าอัญมณีมาพบกับเธอที่คฤหาสน์ หากฟาร์ซาสคือคนคนนั้นจริงๆ อัสลี่ก็จะหลุดพ้นจากพันธสัญญานั้น เป็นอิสระจากคำสาปชวนน่าสะพรึงนั่นทันที และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เมื่อลมหายใจสิ้นสุดลง เธอก็ยินดีจากไปอย่างคนธรรมดาคนหนึ่ง โดยไม่คิดเสียดายความเป็นอมตะนั่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเธอก็ได้แต่หวัง ว่าวันนั้นจะมาถึงโดยเร็ว
“ นายหญิง คุณฟาร์ซาสมาแล้วครับ ” พ่อบ้านเจฟฟินรายงาน ขณะเดินนำเขาเข้ามา อัสลี่ยิ้มและเชื้อเชิญให้นั่งด้วยความยินดี
“ แหม เมื่อผมได้ข่าวจากคุณเฮเซล ว่านายหญิงแห่งคฤหาสน์ฟินเทอร์มีอัญมณีชิ้นหนึ่งอยากให้ดู ผมก็รีบมาทันที ไม่ทราบว่ามันคืออะไรหรือครับ ” ฟาร์ซาสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นตามความเคยชินของพ่อค้าที่อยากจะเห็นสินค้าเต็มแก่ เพียงแต่ครั้งนี้อัญมณีนั่นไม่ใช่สินค้า เพราะเขาได้รับแจ้งจาก เฮเซล อัชเชอร์ ล่วงหน้าแล้ว ว่าเจ้าของคฤหาสน์ฟินเทอร์ยินดีมอบให้เขาแบบไม่ต้องจ่ายแม้แต่เหรียญเดียว
“ ใจเย็นๆ คุณฟาร์ซาส อีกเดี๋ยวคุณต้องได้ดูแน่นอน เชิญดื่มชาให้สบายใจก่อนเถอะ ” อัสลี่บอกขณะหันไปยิ้มกับพ่อบ้านที่นำชามาให้เป็นเชิงขอบคุณ หลังจากทั้งคู่ดื่มชาและคุยกันครู่หนึ่งอัสลี่ก็ขอตัว เพื่อไปหยิบอัญมณีมาให้เขาได้ยลโฉม เมื่อคล้อยหลังอัสลี่ไปซาตานเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของฟาร์ซาส
“ หึ หึ เจ้าเองรึ คือคำตอบของนายหญิงแห่งคฤหาสน์ฟินเทอร์ ” คีชเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน ขณะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูก ฟาร์ซาสหันไปตามเสียงนั้นก็ได้เจอกับชายผู้มีผิวขาวซีดดูลึกลับอยู่ในชุดสีดำทั้งตัว
“ แกเป็นใคร มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ” ฟาร์ซาสมองบุรุษปริศนาที่อยู่ด้านหลังด้วยความแปลกใจ เขาได้ยินมาว่าอัสลี่ ฟินเทอร์ เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้อาศัยอยู่กับพ่อบ้านแค่ 2 คนเท่านั้น
“ เรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ” อีกฝ่ายตอบ “ ข้าได้ยินมาว่า เจ้ามาที่นี่เพื่อมารับอัญมณีนั่นไปไม่ใช่รึ ”
ฟาร์ซาสยิ่งแปลกใจเมื่อได้ยินคำถามนั้น ทำไมชายแปลกหน้าคนนี้ถึงรู้เรื่องอัญมณีนั่นได้
“ ใช่ คุณเฮเซลบอกว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้จะยกอัญมณีนั่นให้ฉัน ” ฟาร์ซาสตอบ ในขณะที่ยังคงมองคีชด้วยความสงสัยและแปลกใจ
“ หึ หึ อย่างงั้นรึ ” คีชพูดด้วยน้ำเสียงเยาะๆ “ เจ้าคิดว่าเขาจะยกอัญมณีนั่นให้เจ้าจริงๆงั้นเหรอ ”
“ หมายความว่ายังไง ” อีกฝ่ายถามอย่างไม่พอใจ “ ก็คุณเฮเซลบอกแล้วนี่ ว่าเธอจะยกมันให้ฉัน”
“ เธอโกหก ” คีชประกาศและแสร้งมองอีกฝ่ายด้วยความเวทนา “ เจ้าไม่แปลกใจบ้างรึไง มีใครบ้างจะยกของมีค่าให้คนอื่นฟรีๆ ก็แค่หลอกเล่นเท่านั้นแหละน่า” คีชบอกในขณะที่ซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้
“ เป็นไปไม่ได้ เธอต้องยกมันให้ฉันสิ ” ฟาร์ซาสพูดพึมพำในแววตาเต็มไปด้วยความละโมบ
“ ถ้าเจ้าอยากได้จริงๆละก็...” คีชก้มลงไปพูดข้างหูและกระซิบเบาๆ “ ทำไมไม่ขโมยมันซะเลยล่ะ แย่งมันมาเลยสิ ” ฟาร์ซาสตาโตเมื่อได้ยินประโยคที่ยั่วยุนั้น การล่อหลอกให้มนุษย์ทำตามที่ตนต้องการ เป็นสิ่งที่ซาตานโปรดปราณอย่างที่สุด
“ ยะ แย่งมารึ ” เขาเอ่ยถามด้วยเสียงที่เบาหวิว
“ ใช่ แย่งมาเลยสิ แล้วเจ้าก็จะได้เป็นเจ้าของมัน” ซาตานตัวร้ายพยายามล่อหลอก และยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้เห็นสายตาและท่าทางของฟาร์ซาสที่อยากได้อัญมณีนั่นเต็มแก่
“ ขอโทษที่ให้รอนาน ” อัสลี่เอ่ยขณะเดินไปหาฟาร์ซาส ในมือของเธอถือกล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องหนึ่งมาด้วย
“ อะ เอ่อ ก็ไม่นานเท่าไหร่ ” ฟาร์ซาสบอกขณะหันซ้ายหันขวามองหาคีช ซึ่งตอนนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ มีอะไรรึ ” เธอถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นท่าทางนั้นของฟาร์ซาส
“ ปะ เปล่า ” เขาปฏิเสธลนลาน “ ไหนล่ะ อัญมณีนั่นขอฉันดูหน่อย ” อัสลี่ยื่นกล่องอัญมณีให้กับฟาร์ซาส เขารีบรับมันมาดูด้วยความละโมบ เมื่อเปิดออกดูก็พบกับเพชรสีดำที่เป็นประกายสวยงาม ความงามที่เจือความลึกลับนั้น ดึงดูดผู้พบเห็นจนไม่อาจละสายตาจากมันได้
“ แน่ใจรึ ว่าเธอจะมอบมันให้ฉันจริงๆ ” ฟาร์ซาสถามขณะที่มองอัสลี่ไม่คลาดสายตา
“ คุณเฮเซลได้บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ผิดคำพูดหรอกน่า” อัสลี่ยืนยัน
“ โกหก ” ฟาร์ซาสตะโกนก่อนจะลุกขึ้นยืน “ เธอแค่หลอกฉันเล่น แต่ยังไงซะอัญมณีนี่ก็ต้องเป็นของฉัน” เขาประกาศก่อนที่จะรีบหนีไปพร้อมกับอัญมณีนั่น อัสลี่ได้แต่มองด้วยความตกตะลึง เธอเรียกเจฟฟินให้รีบตามฟาร์ซาสไป แต่ก็สายเสียแล้ว และแน่นอนจุดจบของผู้ที่ขโมยอัญมณีแห่งคำสาปนั่นไป โดยไม่ได้รับมอบจากเจ้าของอย่างถูกต้อง จุดจบของคนคนนั้นย่อมมี “ ความตาย ” รออยู่เบื้องหน้า ถ้าเพียงแต่ฟาร์ซาสรออีกสักหน่อย ให้เธอได้มอบอัญมณีให้กับเขาอย่างถูกต้องก็คงดี อัสลี่ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับฟาร์ซาส
“ ฝีมือเจ้าซาตานนั่นสินะ ” อัสลี่พึมพำ “ ออกมาเดี๋ยวนี้นะคีช ” อัสลี่ตะโกนด้วยความเกรี้ยวโกรธ
“ แหม ทำไมตะโกนเสียงดังแบบนั้นล่ะ มันเสียภาพลักษณ์กุลสตรีจากตระกูลผู้สูงศักดิ์ไม่ใช่รึ ใครนะช่างบังอาจทำให้นายหญิงแห่งคฤหาสน์ฟินเทอร์โมโหโกรธาแบบนี้ได้ ” คีชปรากฎตัวออกมาพร้อมรอยยิ้มยั่วที่ทำให้อัสลี่โกรธมากขึ้น
“ ฝีมือเธอใช่มั้ย ที่ทำให้ฟาร์ซาสเป็นแบบนั้น ” อัสลี่พยายามระงับความโกรธ
“ แบบนั้น แบบไหนล่ะ ” อีกฝ่ายยังยั่วโมโหไม่เลิก
“ ข้าเพียงพูดเปรยๆถึงข้อเสนอที่ดีกว่า และบังเอิญคนโลภแบบเขาก็เห็นดีด้วย เขาก็เลยทำไปตามธรรมชาติ เอ่อ ข้าหมายถึงนิสัยที่มีอยู่ดั้งเดิมน่ะ ” อัสลี่แทบอยากจะกรีดร้องใส่หน้าซาตานวายร้ายตนนี้
“ ก็แล้วถ้าไม่ถูกคำยั่วยุจากเธอ ไอ้นิสัยดังเดิมที่ว่ามันจะโผล่มามั้ยล่ะ ” อัสลี่ถามเสียงแค่น พยายามระงับความโกรธที่มีจนจะถึงขีดสุดอยู่รอมร่อ
“ แหม แหม นายหญิงก็พูดเกินไป ข้ามิได้เก่งกาจถึงเพียงนั้น ” คีชแสร้งทำเป็นนอบน้อมและเดินไปนั่งกอดอกบนเก้าอี้เฝ้ามองอัสลี่ที่กำลังโกรธด้วยความสนุกสนาน
“ ไม่ต้องมาปากดี เอาเถอะครั้งนี้ฉันประมาทไปหน่อย ” อัสลี่พูดอย่างหมดความอดทน “ เลิกทำท่ากวนประสาทนั่น แล้วไปให้พ้น ครั้งต่อไปถ้ากล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้อีกเราจะได้เห็นดีกัน ” อัสลี่ประกาศก่อนที่ออกจากห้องนั้นไป โดยที่ทั้งโกรธและแค้นจนแทบอยากจะจับเจ้าซาตานวายร้ายนั่นมาสับเป็นชิ้นๆ ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าฉันจะต้องชนะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ