Black Diamond อัญมณีแห่งคำสาป
เขียนโดย แม่มดไร้สังกัด
วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.22 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 10.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) อัญมณีที่สาบสูญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่อัญมณีถูกนำไปจากคฤหาสน์ ชะตากรรมของฟาร์ซาสก็เป็นไปตามที่อัสลี่คาดไว้ ความตายโดยมิได้คาดฝันกำลังรอเขาอยู่เบื้องหน้า เมื่อโจรกลุ่มหนึ่งได้วางแผนปล้นและเฝ้าตามสะกดรอยฟาร์ซาสมานาน วันนี้พวกมันได้โอกาส เลยมาดักซุ่มรอฟาร์สอยู่อย่างเงียบเชียบ ในระหว่างเส้นทางที่เขากลับไปที่ร้านนั่นเอง แววตาหลายคู่ที่ซุ่มมองมานั้นเต็มไปด้วยความโลภและกระหายในทรัพย์สิน
ในที่สุดเมื่อฟาร์ซาสขี่รถม้ามาจนถึงจุดที่โจรกลุ่มนั้นซ่อนตัวอยู่ เขาต้องตกใจสุดขีดเมื่อถูกพวกมันขวางทางไว้ กลุ่มโจรที่โหดเหี้ยมไร้ความปรานี มิได้สนใจต่อเสียงร้องขอชีวิตนั้นแม้แต่น้อย ร่างของฟาร์ซาสชุ่มโชกไปด้วยเลือด แววตาหวาดกลัวคู่นั้นพยายามมองไปรอบทิศ เพื่อหาทางหนีเอาชีวิตรอด แต่คงถึงคราวเคราะห์ของพ่อค้าอัญมณีผู้นี้ ซึ่งได้ขโมยอัญมณีแห่งคำสาปไป เขาจึงไม่อาจหนีรอดจากคมดาบของโจรกลุ่มนั้นได้ พวกมันจากไปพร้อมกับทรัพย์สินทั้งหมดของฟาร์ซาส แน่นอนว่ารวมถึงอัญมณีที่ล่อตาล่อใจโจรกลุ่มนั้นด้วย ซึ่งพวกมันไม่ทราบถึงชะตากรรมที่จะต้องเจอในเวลาอันใกล้นี้เลยแม้แต่น้อย
“ นายหญิง เกิดเรื่องแล้วครับ ” เจฟฟินพ่อบ้านประจำคฤหาสน์รีบมารายงานด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“ มีอะไรรึ ” อัสลี่เอ่ยถามโดยไม่ได้ละสายตาไปจากหนังสือที่กำลังอ่าน
“ ตอนที่ไปซื้อของเพื่อมาทำอาหารสำหรับเย็นนี้ ” เจฟฟินเล่าด้วยน้ำเสียงที่ยังคงตื่นตระหนกเล็กน้อย “ ผมได้ยินเขาลือกันทั่วว่าฟาร์ซาสพ่อค้าอัญมณีคนนั้นเสียชีวิตแล้วครับ”
“ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงได้เสียชีวิตล่ะ ” อัสลี่ถามด้วยใบหน้าซีดเผือด ขณะวางหนังสือที่อ่านค้างไว้บนโต๊ะ
“ หลังออกไปจากที่นี่ ระหว่างทางเขาถูกโจรกลุ่มหนึ่งปล้นเอาทรัพย์สินไปหมดเลยครับ ” พ่อบ้านรายงาน
“ คนที่ตลาดพูดกันว่าร่างของเขาถูกฟันจนเละ แทบจะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ” พ่อบ้านเจฟฟินทำสีหน้าสยดสยองเมื่อนึกถึงภาพตามที่ได้ยินมา
“ เฮ้อ ฟาร์ซาส ไม่น่าต้องมาตายแบบนี้เลย เพราะความโลภแท้ ” อัสลี่ถอนหายใจด้วยความเศร้า ก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“ แล้วอัญมณีนั่นล่ะ มีใครเจอบ้างรึเปล่า ” อัสลี่ถาม ถ้ามีใครเอามันไป จุดจบของคนคนนั้นก็คงจะไม่ต่างกับฟาร์ซาส ซึ่งอัสลี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย
“ เรื่องอัญมณีนั่น ผมได้ยินเขาพูดกันว่า โจรกลุ่มนั้นได้เอามันไปแล้ว ” พ่อบ้านเจฟฟินบอก เขาได้แต่ถอนหายใจ เมื่อนึกถึงชะตากรรมที่คนคนนั้นจะต้องเจอในไม่ช้า หลังจากรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้อัสลี่ทราบ เจฟฟินก็นำชาสำหรับตอนบ่ายมาเสริฟ และแยกตัวออกไปเพื่อทำอาหารสำหรับเย็นนี้
อัสลี่ยกถ้วยชาขึ้นดื่มช้าๆ และถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น จะมีอีกกี่คนที่ต้องมาตายเพราะความโลภ หรือการที่เธอพยายามหาผู้สืบทอด มันเป็นสิ่งต้องห้าม เธอไม่ควรส่งต่อมันให้กับใคร บางทีสิ่งที่ควรทำก็คือ เก็บคำสาปนั้นไว้กับเธอตลอดไปก็เป็นได้
“ กำลังคิดเสียใจเรื่องอัญมณีถูกขโมยไปอยู่ล่ะสิ ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง “ อย่าเศร้าไปเลยเพราะอีกไม่นานมันก็จะกลับมาเอง” ถึงไม่หันไปดู อัสลี่ก็ทราบว่าเจ้าของเสียงยั่วโมโหนั่นเป็นใคร
“ ใครเสียใจไม่ทราบ ฉันกำลังดีใจต่างหากที่ไม่ต้องเห็นมันอีก ” อัสลี่บอกและพยายามไม่สนใจเจ้าของเสียงที่อยู่ด้านหลัง เมื่อคีชเห็นว่าไม่สามารถยั่วโมโหเธอได้อีก เขาจึงเป็นฝ่ายเดินมาหาและนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม เมื่อเห็นอัสลี่ไม่สนใจ เขาจึงยกถ้วยชาของเธอขึ้นมาดื่มอย่างหน้าตาเฉย
“ นั่นมันชาของฉันนะ ” อัสลี่บอก
“ งั้นรึ แล้วยังไง ” อีกฝ่ายแสร้งทำเฉย
“ ยังมีหน้ามาถามอีก ” อัสลี่ต่อว่า “ คราวนี้มีอะไรอีกล่ะ ถึงได้โผล่มา ”
“ เปล่านี่ ข้าแค่มาบอกว่าอีกไม่นานอัญมณีนั่นก็จะกลับมาเอง ”
“ แล้วไง ” อีกฝ่ายถามอย่างไม่สนใจ
“ อืม ข้าก็แค่คิดว่าระหว่างรอ เรามาเล่นหมากรุกกันดีมั้ย ” คีชเสนอ แต่แววตาที่มองมานั้นประกาศท้าทายอย่างชัดเจนว่าถ้าแน่จริงก็เอาชนะข้าให้ได้สิ
“ นั่นคือคำท้าจากซาตานเจ้าเล่ห์งั้นรึ ” อัสลี่เอ่ยถาม ขณะจ้องมองคีชราวกับจะให้ทะลุถึงจิตใจ
“ หึ หึ จะคิดอย่างนั้นก็ได้ แล้วตกลงจะรับคำท้ารึเปล่าล่ะ ” ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่มีใครยอมหลบสายตา
“ ฉันไม่เคยกลัวซาตาน ” อัสลี่ประกาศเป็นเชิงบอกว่ายินดีรับคำท้า หลังจากนั้นเธอก็ให้เจฟฟินไปเอากระดานหมากรุกมา ทั้งคู่เล่นหมากรุกกันอย่างสูสี ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ
“ เจ้าเชื่อเรื่องพระเจ้ารึเปล่า ” คีชเอ่ยถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยขณะที่อัสลี่กำลังจะวางหมากตัวหนึ่งลงบนกระดาน
“ คิก คิก ” เสียงหัวเราะดังขึ้นราวกับว่าคำถามเมื่อครู่คือมุกตลก
“ เจ้าขำอะไร ” คีชขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
“ เปล่า ฉันแค่ไม่คิดว่าจะได้ยินซาตานพูดถึงพระเจ้า ” อัสลี่บอก
“ แล้วคำตอบล่ะ ” อีกฝ่ายยังอยากรู้
“ ฉันเชื่อ...” อัสลี่หยุดชะงักไปเมื่อมองกระดานหมากรุก ซึ่งรูปแบบการวางหมากเปลี่ยนไปจากเดิม
“ นี่คีช ถ้าจะโกงกันล่ะก็ ให้มันเนียนกว่านี้จะดีกว่ามั้ย ” อัสลี่เอ่ยอย่างรู้ทัน ก่อนที่จะใช้ตัวหมากรุกในมือเขี่ยหมากตัวหนึ่งในกระดานออกไป
“ รุกฆาต !” อัสลี่วางหมากตัวนั้นลงไปและประกาศชัยชนะ
“ ว้า น่าเสียดาย อีกนิดเดียวแท้ๆ ” คีชยิ้มด้วยความเจ้าเลห์ ก่อนจะลุกขึ้นยืน อัสลี่เห็นเขาหยุดชะงักและมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะหายไปพายในพริบตา ฮึ พอถูกจับได้ว่าโกงก็รีบหนีไปเลยนะ อัสลี่คิดด้วยความหมั่นไส้
“ นายหญิงคุณอลิเซียมาขอพบครับ ” เจฟฟินรายงานขณะที่เดินนำผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา
“ มิน่าล่ะ เจ้าซาตานนั่นถึงได้รีบหนีไป ” อัสลี่พึมพำ นอกจากเธอแล้วคีชก็ไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็น อัสลี่ยิ้มให้อลิเซีย เป็นเชิงต้อนรับ
“ ฉันได้ข่าวเรื่องที่เธอถูกขโมยอัญมณีแล้วล่ะ เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ” อลิเซียเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เธอเป็นเพื่อนที่ไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทน เนื่องจากครอบครัวของเธอได้รับการช่วยเหลือจากตระกลูฟินเทอร์หลายต่อหลายครั้ง
“ เฮ้อ ก็ตามที่เธอได้ข่าวมานั่นแหละ ” อีกฝ่ายตอบและถอนใจ “ ฟาร์ซาสไม่รักษาสัญญา ความโลภทำให้เขาอยากได้จนกระทั่งยอมที่จะแย่งมันไป ” อัสลี่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ ถ้าอย่างนั้นที่เขาลือกันว่าพ่อค้าอัญมณีนั่น ถูกโจรปล้นและฆ่าตายแล้วก็เป็นความจริงน่ะสิ ” อลิเซียมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ดีถึงชะตากรรมของผู้ที่กล้าขโมยอัญมณีแห่งคำสาปไป สิ่งที่รอคอยคนคนนั้นอยู่ก็คือ ความตาย
“ ใช่ และตอนนี้อัญมณีนั่นก็อยู่กับโจรกลุ่มนั้นด้วย ยังไม่รู้เลยว่าพวกมันหนีไปที่ไหน ” อันที่จริงอัสลี่ก็ไม่ได้อยากได้มันคืนเท่าไหร่ แต่เธอไม่อยากทำให้ใครต้องมาตายเพราะมันอีก
“ ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง บอกมาได้เลย ” อลิเซียเสนอ
“ ขอบใจ ” อัสลี่ยิ้มเล็กน้อย “ ไม่เป็นไรหรอก เพราะอีกเดี๋ยวอัญมณีนั่นก็จะปรากฏออกมาเอง ” อัลลี่บอก เธอหมายถึงมันจะปรากฏออกมาพร้อมๆกับความตายของโจรกลุ่มนั้นนั่นเอง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ