คนขายข่าว

8.5

เขียนโดย pakawee

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 12.50 น.

  5 ตอน
  5 วิจารณ์
  9,394 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 22.28 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) คนขายข่าว ๒/๑

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
   หญิงสูงวัยเหม่อมองศพของสามีอย่างซึมเศร้า ที่ข้าง ๆ มีเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนประคองเธอไว้ด้วยความห่วงใย เด้กคนนั้นมีแววตาที่เศร้าสร้อยไม่ต่างไปจากผู้ที่สูญเสียสักเท่าไหร่ ร่างท้วม ๆ ของผู้ที่ถูกประคองค่อย ๆ ขยับมายืนที่ปลายเตียงด้วยท่าทีที่อ่อนล้า เธอใช้สายตาที่วิงวอนมองไปยังชายที่ตนรัก และปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
 
    แกรก...
 
    ประตูห้องเก็บศพถูกเปิดออกโดยบุรุษพยาบาล
    ผู้กองราวินกับดาบยิ้มมาถึงแล้ว พวกเขาสัมผัสความเศร้าโศกของป้าสมศรีผ่านทางใบหน้าที่อมทุกข์ของเธอ นายตำรวจทั้งสองสงสารเธอจับจิตแต่ก็ไม่อาจทำอย่างไรได้
 
    "สวัสดีครับคุณป้า" ราวินกับดาบยิ้มพนมมือไหว้พร้อม ๆ กัน
    
    หญิงที่สูงวัยรับไหว้ด้วยอากัปกิริยาที่เนือย ๆ ในขณะเดียวกันสาวน้อยผุ้น่ารักคนนั้นก็เอ่ยปากทักทายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทั้งสองอย่างสุภาพ
 
    "สวัสดีค่ะผู้กองราวิน สวัสดีค่ะดาบยิ้ม" เธอเพียงเอ่ยปาก มิได้ยกมือขึ้นไหว้ นั่นเป็นเพราะเด็กสาวยังคงประคองป้าสมศรีอยู่นั่นเอง
    ผู้กองราวินรับไหว้ เขาวางหน้าเรียบเฉย ส่วนดาบยิ้มนั้นปากไวนึกสงสัยจึงถามออกไปแบบไม่ได้คิดว่า
 
    "อ้าวยัยแก้ว มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
 
    สาวน้อยคนนี้ชื่อว่าแก้ว จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับป้าสมศรีหรอก ไม่ผิดที่ดาบแกจะสงสัยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เพราะบ้านก็ไม่ได้อยู่ติดกัน
    แก้วยิ้มให้กับผู้ถามอย่างสุภาพ และไขข้อข้องใจให้กับเขาในทันที
 
    "เมื่อเช้านี้แก้วเอากับข้าวมาส่งให้คุณยายจ้ะ พอดีทางโรงพยาบาลโทรเข้ามาแจ้งข่าว แก้วก็เลยช่วยขับรถพาคุณยายมา" พูดจบก็ทำหน้าเจื่อน ๆ มองไปทางผู้กองหนุ่มแล้วพูดว่า "ก็เลยไม่ได้ไปส่งปิ่นโตให้กับผู้กองเลย"
 
    สาวน้อยวัย 18 ผู้นี้เป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยครอบครัวทำงานอย่างไม่ย่อท้อ และไม่เหน็ดเหนื่อย จะว่าไปแล้วชีวิตของเธอก็น่าสงสาร บิดาของเธอเป็นตำรวจยศนายจ่า แต่โชคร้ายเมื่อประมาณปลายปีที่แล้วประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อาการสาหัส เคราะห์ดีที่ยังไม่ตาย แต่ก็หลับใหลไม่ได้สติมาจนถึงทุกวันนี้
    เมื่อเสาหลักไม่ได้เป็นเสาหลักอีกต่อไป สมาชิกในครอบครัวจึงต้องช่วยกันแบ่งเบาภาระ แต่ดูเหมือนว่าบทหนักจะตกมาอยู่ที่แก้วเพียงคนเดียว นั่นก็เพราะพี่ชายที่เรียนระดับอุดมศึกษาที่กรุงเทพฯ หายตัวไปในระหว่างการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย สถานะตอนนี้ก็คือคนสาปสูญ ส่วนแม่ของเธอก็เป็นโรคหัวใจทำงานหนักไม่ได้
    แก้วเป้นคนที่มีฝีมือในการทำอาหาร เธอจึงเปิดบริการรับทำ และส่งปิ่นโตกับข้าว ซึ่งก็มีคนใช้บริการของเธอมากมาย ใช่ว่าคนในหมู่บ้านนี้จะทำกับข้าวกันไม่เป็น หรือว่าไม่มีเวลาพอที่จะทำ เหตุผลที่เลือกใช้บริการก็เพราะฝีมือของเธอล้วน ๆ ผู้กองราวินก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอ
 
    "เอ้อ...ไม่เป็นไร" ราวินตอบแบบลน ๆ เขาเผลอไปมองดวงตาที่เรียวงาม และจมูกที่จิ้มลิ้มของแก้ว สิ่งนั้นมันทำให้จิตใจรู้สึกวาบหวาม แต่ก็ต้องรีบสลัดความรู้สึกนั้นออกไปโดยเร็ว เพราะช่วงห่างระหว่างวัยมันมากกันจนเกินไป เมื่อเรียกจิตใจที่ว้าวุ่นกลับมาได้ ผู้กองหนุ่มก็ทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในทันที
 
    "คุณป้าครับ ผมเสียใจด้วยครับเรื่องลุงผู้ใหญ่ แต่โปรดวางใจเถอะครับ ผมจะรีบจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด"
 
    "ขอบใจมากนะพ่อวิน คนร้ายมันช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ทำกับพี่ผู้ใหญ่ได้" ป้าสมศรีสนทนากับนายตำรวจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พูดจบเธอก็เอื้อมมือไปบีบที่แขนของเขาเบา ๆ แบบฝากความหวัง

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา