คนขายข่าว
เขียนโดย pakawee
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 12.50 น.
แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 22.28 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) คนขายข่าว ๑/๒
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คนขายข่าว
เมื่อมาถึงที่ทำงาน ก้นยังไม่ทันที่จะถึงเก้าอี้ ท่านสารวัตรก็เรียกพบเป็นการด่วน เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี ทั้งๆ ที่ผู้มียศสูงกว่าก็รู้ว่าเพิ่งพบศพเมื่อเช้านี้ แล้วจะเอาความคืบหน้ามาจากไหน
"คุณราวิน คุณจะต้องปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด ลากคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ท่านนายอำเภอเร่งรัดมาแล้ว แถมคดีนี้เบื้องบนก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ" ขณะที่พูดผู้เป็นนายก็เปิดดูแฟ้มสำนวน เพื่อตรวจสอบ
ปึ้ง!!
แฟ้มคดีถูกวางแบบกระแทกบนโต๊ะทำงานอย่างแรง จนกระดาษที่วางอยู่ข้างๆกระเพื่อมสั่นไหว
"อะไรกัน!! พวกคุณยกกันไปเป็นโขยงได้ข้อมูลมาแค่นี้หน่ะหรือ"
ผู้กองราวินก้มหน้าไม่ต่อกร ก็หลักฐานในที่เกิดเหตุมันมีแค่นี้จริงๆ แล้วนิ้วชี้ของผู้บังคับบัญชาก็ชี้มาที่หน้าของลูกน้องด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
"ผมให้เวลาคุณครึ่งเดือน จะทำยังไงก็ได้ ลากตัวมือปืนออกมา!!"พูดจบก็โยนสำนวนคดีไปให้ผู้รับคำสั่งอย่างไม่สบอารมณ์
ราวินรับแฟ้มคดีได้อย่างแม่นยำ เขาใช้สายตาที่คมกล้าสวนกลับไปที่ผู้มียศสูงกว่าในทันที จนคนที่ขว้างแฟ้มเมื่อสักครู่ไม่กล้าสบตาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แล้วเสียงเข้มๆก็หลุดออกจากปากผู้กองหนุ่ม
"ลุงผู้ใหญ่ คือผู้ที่ผมเคารพรัก วางใจเถอะครับคนทำผิดมันอยู่ไม่เป็นสุขแน่"พูดจบแล้วตะเบ๊ะอย่างเข้มแข็ง ก่อนจะก้าวเท้าออกไปอย่างทระนง
ผู้บังคับบัญชาเห็นท่าทีของลูกน้องแล้วก็ฉุนเฉียวไม่สบอารมณ์ มันไม่เคยเห็นศรีษะหัวหน้าของมันเลย ไอ้ตำรวจบ้านนอกเอ้ย!! ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง นี่ถ้ามันไม่มีผลงานปิดคดีสำคัญๆ ได้หลายคดีหล่ะก็ ป่านนี้โดนเฉดหัวไปนานแล้ว
ในขณะที่ผู้กองหนุ่มเปิดประตูออกไปนั้น ก็พบว่ามีชายอายุประมาณห้าสิบเศษๆ ยืนรออยู่ที่หน้าประตู ตัวเขาท้วมๆ สั้นๆ ใบหน้ากลมเหมือนแป๊ะยิ้ม แต่ชายสูงวัยคนนี้ไม่ยิ้ม ดวงตาของเขาแดงกล่ำและเศร้าโศก ถ้าราวินจำไม่ผิดเขาก็คือ กำนันเฉิด เพื่อนสนิทของผู้ใหญ่แรม ได้ข่าวว่าเลือกตั้งนายก อบต. สมัยนี้กำนันเฉิดก็ลงสมัครด้วย ที่มาพบสารวัตรก็คงจะมาเรื่องผู้ใหญ่แรมถูกยิงแน่ๆ และถ้าเดาไม่ผิดก็ต้องมาเร่งรัดให้เอาคนผิดมาลงโทษ ผู้กองหนุ่มสายหน้าอย่างอ่อนใจ เขารีบหลีกทางให้ ส่วนกำนันเฉิดก็เดินสวนเข้าไปในทันที ได้ยินเสียงของสารวัตรเอ่ยปากต้อนรับอย่างพินอบพิเทา ฟังแล้วรู้สึกน่าขยะแขยงเป็นที่สุด
กลับมาที่โต๊ะทำงาน ผู้กองราวินเอาหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนล้า ดวงตาเพ่งพิศไปที่แฟ้มสำนวนบนโต๊ะ เขาจ้องมองมันอยู่อย่างนั้น เหมือนกับต้องการให้มันมีปากวิเศษบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คิดไปคิดมาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
ในระหว่างนั้นลูกน้องคนหนึ่งของนายตำรวจก็เดินเข้ามา เขาเป็นคนตัวสูงและก็ผอม ใบหน้าตอบๆ รอยยิ้มแหยๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา ท่าทีก็เหมือนจะมีอะไรสอบถามผู้เป็นนาย แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ แล้วผู้กองหนุ่มก็เหลือบไปเห็น
"ดาบยิ้ม มีอะไรว่ามา"คนพูดทำหน้าเครียดใส่
เห็นคนถามหน้าเครียดๆ นายดาบร่างสูงก็เกิดอาการลน พูดติดๆ ขัดๆ
"เอ้อ ผู้กองครับ เรา เรา ไม่ไปเยี่ยมคุณพี่สมศรีกันหน่อยหรือครับ แกคง คงจะเสียใจหน้าดู"
จริงสินะเราลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ป้าสมศรีจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าลุงแรมแกตายแล้ว ก็จะไม่ให้เสียใจได้อย่างไรทั้งป้าสมศรีและลุงผู้ใหญ่นั้น ชาวบ้านทั่วทั้งตำบลยกให้ทั้งสองเป็นคู่รักตัวอย่าง ร่วมชีวิตกันมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่ไม่เห้นว่าพวกท่านจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไร
"ดาบยิ้ม ไปโรงพยาบาลกัน"
"ไปทำไมกันหรือครับ ผลชันสูตรยังไม่ออกสักหน่อย"
ผู้กองราวินมองหน้าดาบยิ้มเหมือนจะหาเรื่อง ผู้มียศน้อยกว่ารู้ในทันทีเลยว่า หากถามมากความ สิ่งที่ได้กลับมาอาจจะไม่ใช่คำชื่นชม เขาจึงสงบปากสงบคำไว้ วิ่งตามผู้กองอารมณ์ร้อนไปแบบกระชั้นชิด
ก็ป้าสมศรีแกอยู่ที่โรงพยาบาลยังไงหล่ะ...แล้วผู้กองหนุ่มรู้ได้อย่างไร
มันเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาอยู่แล้ว หากมีใครสักคนแจ้งคุณว่า สามีของคุณเสียชีวิต ตอนนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาล ขอถามระหว่างโรงพยาบาลกับวัด คุณจะไปที่ไหนก่อน...
ต้องสอบถามถึงกิจวัตรประจำวันของลุงผู้ใหญ่ในวันก่อนตาย และประเด็นสำคัญผู้ตายมีศัตรูที่ไหนหรือไม่ ทั้งหมดนี้ป้าสมศรีน่าจะให้คำตอบได้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ