คนขายข่าว
8.5
เขียนโดย pakawee
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 12.50 น.
5 ตอน
5 วิจารณ์
9,385 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 22.28 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) คนขายข่าว ๑/๑
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คนขายข่าว
หยาดฝนที่เทกระหน่ำลงมาทั้งคืนเพิ่งจะขาดเม็ดไปเมื่อสักครู่ ร่องรอยที่เหลืออยู่ก็คือหยดน้ำบนกิ่งไม้และใบหญ้า มันทอแสงระยิบระยับต้อนรับดวงตะวันในยามเช้า นี่คือสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่มีอยู่หนึ่งชีวิตที่ไม่อาจเริ่มต้นได้อีกต่อไปแล้ว...
ที่ถนนเรียบทางชลประทาน มีศพชายคนหนึ่งนอนอยู่ร่างกายเริ่มจะแข็งตัวเนื่องจากตายมาหลายชั่วโมงแล้ว ที่ปลายเท้ามีจักรยานเก่าๆ คันหนึ่ง ล้มอยู่ สภาพของมันก็ไม่ต่างจากผู้เป็นนายสักเท่าไร...เก่าคลำคร่า
ศพที่เป็นเจ้าของจักรยานนั้นเป็นชายวัยใกล้เกษียร ใส่เสื้อลายสก๊อตเคียนผ้าขาวม้า เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน ที่หน้าผากมีบาดแผลอยู่จุดหนึ่ง บาดแผลซึ่งพรากชีวิตของเขาไปเมื่อคืน มันเกิดจากกระสุนปืนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นปืนชนิดใด เพราะยังไม่พบปลอกกระสุนบริเวณที่เกิดเหตุ
"ไหนลองเล่ามาซิว่าพบศพผู้ใหญ่แรมได้อย่างไร"
เสียงเข้มๆออกจากปากของนายตำรวจนอกเครื่องแบบ เขากำลังสอบถามผู้ที่โทรมาแจ้งความ คิ้วที่ดูหนาบวกกับสายตาที่จริงจัง ทำให้ผู้ที่จะตอบอึกอักเล็กน้อย
ในระหว่างที่รอการบอกเล่านายตำรวจผู้นั้นก็ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดและสูบมันจนควันโขมง สายตามองไปที่ศพของผู้ตาย ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกำลังเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร และแจ้งญาติเป็นลำดับต่อไป
ผู้ใหญ่แรมหรือศพที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายไปนั้น เป็นบุคคลที่นายตำรวจผู้นี้รักและเคารพเป็นที่สุด ยังจำได้ตอนที่ย้ายมาประจำการท้องที่นี้ใหม่ๆ ก็ได้ผู้ใหญ่แรมนี่แหละคอยดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก หรืออาหารการกิน ก็อย่างว่าพื้นที่ไกลปืนเที่ยงอย่างนี้ จะหาความสะดวกสบายอะไรได้ บ้านพักของตำรวจหน่ะหรือไม่มีหรอก เหตุผลง่ายๆ ก็คือ งบประมาณไม่เพียงพอ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...มันไม่สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือ หาตัวฆาตรกรให้ได้ มันเป็นใครกันนะ?
แคกๆๆ
เสียงไอเนื่องจากสำรักควันบุหรี่ของผู้ที่ไปแจ้งความดึงนายตำรวจให้หวนหลับมาจากห้วงแห่งความคิด แล้วก็ได้ยินชายที่พบศพเล่าว่า
"ผู้กองครับ ก็ตอนเช้าที่ผมจะออกไปตรวจไร่ข้าวโพดตามปกตินั่นแหละครับ เห็นผู้ใหญ่แกนอนอยู่ข้างทาง ตอนแรกก็นึกว่าแกเมา พอเข้าไปดูก็ถึงรู้ว่าแกตายแล้ว"
เมื่อคืนฝนตกหนัก ลุงแรมแกออกมาทำอะไรกันนะ...
ผู้กองวัยสามสิบกลางๆ กำลังใช้ความคิด เขาทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นแล้วขยี้มันเพื่อระบายความขุ่นข้องใจ จะถามอะไรต่อก็ไม่ได้ เพราะชายคนนี้เป้นเพียงคนพบศพ ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ สิ่งที่บอกได้ในตอนนี้ก็คือ...ผู้ใหญ่แรมถูกยิง เท่านั้นจริงๆ
ตู๊ดดดดดดดดด....ตู๊ดดดดดดดดดด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ผู้กองหนุ่มโบกมือให้นายตำรวจอีกคนหนึ่งมาทำหน้าที่แทน จากนั้นเขาจึงรับสายโทรศัพท์
"ว่ายังไงคุณขวัญใจ แม่นักข่าวใหญ่ มีอะไรให้รับใช้ รีบว่ามากำลังยุ่ง"
เสียงจากปลายสายพูดอะไรบางอย่าง ทำให้แววตาของผู้กองหนุ่มทอแววยินดีขึ้นมาในทันที
"อ้อ เจอไอ้สมชายแล้วรึ ยินดีด้วย" แต่แล้วหัวคิ้วก็ต้องขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก "อะไรนะ!! คุณป้าอยากให้กลับบ้านปลายปีนี้ พี่ยังไม่ให้คำตอบหรอกนะ ช่วงนี้งานยุ่ง"เขาตอบเสียงเข้ม
ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร น้ำเสียงของนายตำรวจดูผ่อนลงเหมือนยอมจำนน
"เออๆๆ ได้ๆๆ ไม่ต้องมาขู่ กลับก็ได้สิ้นปีเจอกัน แค่นี้นะ"
วางหูไปแล้วสายของลูกพี่ลูกน้องที่กรุงเทพฯ อยากให้กลับบ้านไปฉลองปีใหม่ด้วยกัน ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้าก็ไม่ได้ไปสักที ไม่รู้ว่าติดธุระอะไร ชีวิตมันดูวุ่นวายไปเสียหมด ที่รับปากไปก็ไม่รู้ว่าจะรักษาสัญญาได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าใกล้ๆ ปีใหม่ค่อยว่ากัน
ศพถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็ต้องกลับเช่นกัน เขาจะต้องไปรายงานเรื่องนี้ต่อสารวัตร เพราะว่าผู้ตายเป็นคนที่หลายฝ่ายให้ความเคารพ เป็นผู้ใหญ่บ้านเล็กๆ แต่เกียรติคุณยิ่งใหญ่ ผลงานที่ยอดเยี่ยมในการปฎิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านก็คือ หมู่บ้านเข้มแข็งห่างไกลยาเสพติด ลุงแรมแกทำได้ร้อยเปอร์เซนต์ ได้รับรางวัลจากกระทรวงมหาดไทยไปก็หลายรางวัล ด้วยเหตุนี้ลุงผู้ใหญ่แกจึงสนิทสนมกับท่านนายอำเภอเป็นอย่างดี เพราะเจอกันบ่อย และแน่นอนที่สุดถ้าท่านข้าราชการใหญ่ทราบข่าวนี้ ท่านต้องไม่อยู่เฉยแน่
หยาดฝนที่เทกระหน่ำลงมาทั้งคืนเพิ่งจะขาดเม็ดไปเมื่อสักครู่ ร่องรอยที่เหลืออยู่ก็คือหยดน้ำบนกิ่งไม้และใบหญ้า มันทอแสงระยิบระยับต้อนรับดวงตะวันในยามเช้า นี่คือสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่มีอยู่หนึ่งชีวิตที่ไม่อาจเริ่มต้นได้อีกต่อไปแล้ว...
ที่ถนนเรียบทางชลประทาน มีศพชายคนหนึ่งนอนอยู่ร่างกายเริ่มจะแข็งตัวเนื่องจากตายมาหลายชั่วโมงแล้ว ที่ปลายเท้ามีจักรยานเก่าๆ คันหนึ่ง ล้มอยู่ สภาพของมันก็ไม่ต่างจากผู้เป็นนายสักเท่าไร...เก่าคลำคร่า
ศพที่เป็นเจ้าของจักรยานนั้นเป็นชายวัยใกล้เกษียร ใส่เสื้อลายสก๊อตเคียนผ้าขาวม้า เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน ที่หน้าผากมีบาดแผลอยู่จุดหนึ่ง บาดแผลซึ่งพรากชีวิตของเขาไปเมื่อคืน มันเกิดจากกระสุนปืนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นปืนชนิดใด เพราะยังไม่พบปลอกกระสุนบริเวณที่เกิดเหตุ
"ไหนลองเล่ามาซิว่าพบศพผู้ใหญ่แรมได้อย่างไร"
เสียงเข้มๆออกจากปากของนายตำรวจนอกเครื่องแบบ เขากำลังสอบถามผู้ที่โทรมาแจ้งความ คิ้วที่ดูหนาบวกกับสายตาที่จริงจัง ทำให้ผู้ที่จะตอบอึกอักเล็กน้อย
ในระหว่างที่รอการบอกเล่านายตำรวจผู้นั้นก็ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดและสูบมันจนควันโขมง สายตามองไปที่ศพของผู้ตาย ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกำลังเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร และแจ้งญาติเป็นลำดับต่อไป
ผู้ใหญ่แรมหรือศพที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายไปนั้น เป็นบุคคลที่นายตำรวจผู้นี้รักและเคารพเป็นที่สุด ยังจำได้ตอนที่ย้ายมาประจำการท้องที่นี้ใหม่ๆ ก็ได้ผู้ใหญ่แรมนี่แหละคอยดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก หรืออาหารการกิน ก็อย่างว่าพื้นที่ไกลปืนเที่ยงอย่างนี้ จะหาความสะดวกสบายอะไรได้ บ้านพักของตำรวจหน่ะหรือไม่มีหรอก เหตุผลง่ายๆ ก็คือ งบประมาณไม่เพียงพอ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...มันไม่สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือ หาตัวฆาตรกรให้ได้ มันเป็นใครกันนะ?
แคกๆๆ
เสียงไอเนื่องจากสำรักควันบุหรี่ของผู้ที่ไปแจ้งความดึงนายตำรวจให้หวนหลับมาจากห้วงแห่งความคิด แล้วก็ได้ยินชายที่พบศพเล่าว่า
"ผู้กองครับ ก็ตอนเช้าที่ผมจะออกไปตรวจไร่ข้าวโพดตามปกตินั่นแหละครับ เห็นผู้ใหญ่แกนอนอยู่ข้างทาง ตอนแรกก็นึกว่าแกเมา พอเข้าไปดูก็ถึงรู้ว่าแกตายแล้ว"
เมื่อคืนฝนตกหนัก ลุงแรมแกออกมาทำอะไรกันนะ...
ผู้กองวัยสามสิบกลางๆ กำลังใช้ความคิด เขาทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นแล้วขยี้มันเพื่อระบายความขุ่นข้องใจ จะถามอะไรต่อก็ไม่ได้ เพราะชายคนนี้เป้นเพียงคนพบศพ ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ สิ่งที่บอกได้ในตอนนี้ก็คือ...ผู้ใหญ่แรมถูกยิง เท่านั้นจริงๆ
ตู๊ดดดดดดดดด....ตู๊ดดดดดดดดดด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ผู้กองหนุ่มโบกมือให้นายตำรวจอีกคนหนึ่งมาทำหน้าที่แทน จากนั้นเขาจึงรับสายโทรศัพท์
"ว่ายังไงคุณขวัญใจ แม่นักข่าวใหญ่ มีอะไรให้รับใช้ รีบว่ามากำลังยุ่ง"
เสียงจากปลายสายพูดอะไรบางอย่าง ทำให้แววตาของผู้กองหนุ่มทอแววยินดีขึ้นมาในทันที
"อ้อ เจอไอ้สมชายแล้วรึ ยินดีด้วย" แต่แล้วหัวคิ้วก็ต้องขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก "อะไรนะ!! คุณป้าอยากให้กลับบ้านปลายปีนี้ พี่ยังไม่ให้คำตอบหรอกนะ ช่วงนี้งานยุ่ง"เขาตอบเสียงเข้ม
ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร น้ำเสียงของนายตำรวจดูผ่อนลงเหมือนยอมจำนน
"เออๆๆ ได้ๆๆ ไม่ต้องมาขู่ กลับก็ได้สิ้นปีเจอกัน แค่นี้นะ"
วางหูไปแล้วสายของลูกพี่ลูกน้องที่กรุงเทพฯ อยากให้กลับบ้านไปฉลองปีใหม่ด้วยกัน ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้าก็ไม่ได้ไปสักที ไม่รู้ว่าติดธุระอะไร ชีวิตมันดูวุ่นวายไปเสียหมด ที่รับปากไปก็ไม่รู้ว่าจะรักษาสัญญาได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าใกล้ๆ ปีใหม่ค่อยว่ากัน
ศพถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็ต้องกลับเช่นกัน เขาจะต้องไปรายงานเรื่องนี้ต่อสารวัตร เพราะว่าผู้ตายเป็นคนที่หลายฝ่ายให้ความเคารพ เป็นผู้ใหญ่บ้านเล็กๆ แต่เกียรติคุณยิ่งใหญ่ ผลงานที่ยอดเยี่ยมในการปฎิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านก็คือ หมู่บ้านเข้มแข็งห่างไกลยาเสพติด ลุงแรมแกทำได้ร้อยเปอร์เซนต์ ได้รับรางวัลจากกระทรวงมหาดไทยไปก็หลายรางวัล ด้วยเหตุนี้ลุงผู้ใหญ่แกจึงสนิทสนมกับท่านนายอำเภอเป็นอย่างดี เพราะเจอกันบ่อย และแน่นอนที่สุดถ้าท่านข้าราชการใหญ่ทราบข่าวนี้ ท่านต้องไม่อยู่เฉยแน่
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ