ครั้งหนึ่งสายลมเคยพัดผ่าน...
เขียนโดย ชมพูพันธ์ทิพย์
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 20.37 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) การต่อสู้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบางครั้งจังหละชีวิตของมนุษย์นั้นก็มีทั้งสั้นและยาวปะปนกัน มีทั้งรอยยิ้มและมีทั้งคราบน้ำตา เหมือนกับตัวผมในตอนนี้และหญิงสาวตรงหน้า.
เด็กสาวที่เป็นทุกสิ่งของผม...แต่ตอนนี้พวกเรา
ต้องมาฆ่ากันเอง.
เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!
เสียงโลหะกระทบกันเป็นจังหวะดังสนั่นในความมืด รางบางสีฟ้าลอยล่องไปบนท้องนภา ก่อนใช้อาวุธสีน้ำเงินในมือทิ่มแทงศัตรู...
แต่อาวุธนั่นก็ชะงักเมื่อถูกกันด้วยโล่สายลมที่เปรียบเสมือนปราการเหล็กกล้าปกป้องนายของมัน แต่หญิงสาวไม่มีทางยอมแค่นั้นเมื่อหยดน้ำนับพันกลายเป็นหอกสีเลือดพุ่งเข้ามาทิ่มแทงร่างแกร่งที่ใช้โล่ป้องกันกรงเล็บอยู่...
เด็กสาวยิ้มอย่างมีชัย
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ได้ชื่นชมนานนัก ร่างที่โชกไปด้วยเลือดชูมือขึ้นก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อัปสรเริงร่า” แม้จะชื่ออัปสรเริงร่าแต่ทั้งผู้ใช้และอีกฝ่ายมิได้มีสีหน้าเริงร่าด้วยเลย เมื่อพายุหมุนขนาดใหญ่พัดเข้ามากลางศึกแห่งสายเลือดนี้ ก่อนสายลมจะกลายเป็นคมมีด ฉีกร่างบางให้กลายเป็นชิ้นๆ
ร่างบางที่โชกไปด้วยเลือดไม่ต่างจากร่างแกร่งนัก ยังคงใช้ศาสตราวุธในมืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่ให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้พักนานนัก ดวงตาสีบลูไดมอนเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆตามอารมณ์ที่ผันแปรของหญิงสาว ก่อนจะกลายเป็นสีแดงโลหิต
“คทาวารี” ร่างบางเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก ก่อนทั่วทั้งบริเวณจะกลายเป็นน้ำแข็งราวกับขั้วโลกเสียอย่างนั้น ร่างบางยิ้มอย่างสะใจก่อนจะชโลมหิมะนั้นด้วยโลหิตสีแดงสดที่ไหลมาจากตัวของเธอเอง หยดน้ำนับพันกลายเป็นไม้เท้าสีดำ ถ้ามองโดยทั่วไปมันไม่ได้แตกต่างจากไม้ที่ถูกเผาไฟเลยสักนิด แต่กลับทำให้อีกฝ่ายเป็นกังวลและรู้ชะตากรรมของตนเอง
“พี่เคยบอกฉันใช่ไหม ว่าสายน้ำเป็นพลังที่อ่อนโยนและเข้มแข็งในขณะเดียวกัน แม้จะอ่อนโยนไม่เท่าสายลม และเข้มแข็งไม่เท่าเปลวไฟ แต่เมื่อได้รวมกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะมีพลังมหาศาล” หญิงสาวพูดพร้อมกับกำไม้เท้าในมือแน่น ก่อนจะปรากฏเกร็ดน้ำแข็งจำนวนมหาศาลร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน
ถึงแม้จะอยู่กับเธอมานานแต่ชายหนุ่มยังไม่เคยเห็นเธอใช้พลังแบบนี้มาก่อน ส่วนใหญ่เธอจะเป็นพวกลุยแหลกแบบไม่สนใจใครแม้จะมีบางครั้งที่อ่อนโยนจนหน้าประหลาดใจ จนคนรอบข้างนั้นพากันหนีเธอไปหมดเพราะคิดว่าเธอเสแสร้งและไม่เคยจริงจังกับใคร แต่ครั้งนี้พลังนั้นเหมือนกำลังจะบอกบางสิ่งบางอย่างกับเค้า...
“เจ็บปวด ทรมาน สับสน ทุกสิ่งที่พรั่งพรูในตอนนี้คือความรู้สึกของฉัน สายน้ำเธอคือสหายคนแรกและเป็นคนเดียวที่เข้าใจฉัน”เด็กสาวพูดพร้อมกับยิ้มให้ตัวเองและเกร็ดน้ำแข็งราวกับเป็นเพื่อนกันมาช้านาน ก่อนร่างบางจะหยดเลือดของตัวเองบนไม้เท้าสีดำ
เพียงแค่หยดเดียว...แค่หยดเดียวเท่านั้นไม้เท้าสีดำก็กลายเป็นคทาที่ใสราวกับเกร็ดน้ำแข็งที่มีอัญมณีสีแดงอยู่บนยอดสุด หน้าแปลกที่ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน...ราวกับการรอคอยที่ผ่านมาหลายร้อยปีได้สิ้นสุดลง แม้นี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเธอกับเขาแต่การได้เห็นคนที่เรารักพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นมันก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
...แต่หมดเวลาเล่นกันแล้วล่ะ ถึงเวลาเอาจริงสักที ถ้าเธอไม่ตาย เขาก็ต้องตาย
“สายลมจงรวมตัวกันเป็นศาสตราวุธเพื่อฟาดฟันศัตรู ด้วยใจที่อยากปกป้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างอ่อนโยน”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับสายลมที่พัดโหมกระหน่ำ ถ้าเธอคิดจะชนะเขาแน่นอนล่ะว่าเธอต้องใช้พลังทำลายร้าง เพราะฉะนั้น เขาจะโอบกอดเธอด้วยสายลมนี้
ไม่นานพายุที่โหมกระหน่ำก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นดาบสีเขียวอ่อน ราวกับใบไม้แรกเริ่มของต้นไม้ทิพย์ ไม่รอช้าชายหนุ่มฟาดฟันดาบในมือใส่หญิงสาว ที่ยิ้มราวกับปีศาจร้าย ก่อนจะใช้อาวุธของตนกันดาบตรงหน้าส่วนมืออีกข้างก็เตรียมที่จะฟันชายหนุ่มจากทางด้านหลัง...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ