ท้องฟ้าสีเลือดเปื้อนกลีบซากุระ
-
เขียนโดย ชมพูพันธ์ทิพย์
วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.49 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
7,770 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 10.52 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) บทสรุปของความรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ......50ปีผ่านไป.....
ตึง....ตึง...ตึง....
เสียงของรถไฟดังก้องอยู่ในหัวของผม หลังจากวันนั้นนี่ก็ห้าสิบปีผ่านมาแล้ว... ตัวผมได้ดูคนมากมายที่เกิดใหม่ขึ้นมา หากดูภายนอกเหมือนผมโตขึ้นแค่สิบปีเพราะผมเลยเวลาที่จะเป็นอมตะไปแล้ว ต่อไปชีวิตผมก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป
ผมยังคงใช้ชีวิตไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบอะไร ผมเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย คงเพราะงานของผมมันไม่ใช่งานที่ยุ่งจนไม่มีเวลาหายใจ ผมจึงสามารถเดินมาเที่ยวเตร่ที่สถานีรถไฟได้ทุกวัน ตัวผมเองก็ยังคิดถึงญี่ปุ่นอยู่เสมอ...คิดถึงทั้งท้องฟ้า และดอกซากุระ ที่ผมยังเฝ้ารอวันที่มันจะกลับมาบานอีกครั้ง
“ผับ...ผับ...ผับ...”เสียงของกระดาษปลิวว่อนไปทั่วทั้งสถานี แล้วก็ผู้หญิงอายุประมาณผมวิ่งเก็บกระดาษที่ปลิวว่อนอยู่ทั่วบริเวณชาญชราที่ว่างเปล่า ก่อนจะมีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวมาตกข้างหน้าผม
ก่อนที่ผมจะก้มลงเก็บกระดาษนั้นมือบางของเธอก็จับกระดาษขึ้นนึ้วเรียวยาวที่ขาวนวลไม่ทำให้ผมสนใจเท่าแหวนสลักรูปตัวSที่นิ้วนางของเธอ
“ขอบคุณนะคะ”เธอยิ้มให้ผม โครงหน้ารูปปากอีกทั้งรอยยิ้มนั่นที่ผมจำได้ดี...
“โซระ”
“เอ๋~ ขอโทษนะคะ ฉันชื่อฟ้าค่ะเป็นคนไทย”
เธอตอบผมกลับมาด้วยรอยยิ้มเขินๆ ในที่สุดท้องฟ้าสีแดงของผมก็กลับมาเป็นสีฟ้าดังเดิมอีกครั้ง... คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยให้เธอจากไปอีกแน่
“ยัยเต้าหู้เหม็น”
ตึง....ตึง...ตึง....
เสียงของรถไฟดังก้องอยู่ในหัวของผม หลังจากวันนั้นนี่ก็ห้าสิบปีผ่านมาแล้ว... ตัวผมได้ดูคนมากมายที่เกิดใหม่ขึ้นมา หากดูภายนอกเหมือนผมโตขึ้นแค่สิบปีเพราะผมเลยเวลาที่จะเป็นอมตะไปแล้ว ต่อไปชีวิตผมก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป
ผมยังคงใช้ชีวิตไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบอะไร ผมเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย คงเพราะงานของผมมันไม่ใช่งานที่ยุ่งจนไม่มีเวลาหายใจ ผมจึงสามารถเดินมาเที่ยวเตร่ที่สถานีรถไฟได้ทุกวัน ตัวผมเองก็ยังคิดถึงญี่ปุ่นอยู่เสมอ...คิดถึงทั้งท้องฟ้า และดอกซากุระ ที่ผมยังเฝ้ารอวันที่มันจะกลับมาบานอีกครั้ง
“ผับ...ผับ...ผับ...”เสียงของกระดาษปลิวว่อนไปทั่วทั้งสถานี แล้วก็ผู้หญิงอายุประมาณผมวิ่งเก็บกระดาษที่ปลิวว่อนอยู่ทั่วบริเวณชาญชราที่ว่างเปล่า ก่อนจะมีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวมาตกข้างหน้าผม
ก่อนที่ผมจะก้มลงเก็บกระดาษนั้นมือบางของเธอก็จับกระดาษขึ้นนึ้วเรียวยาวที่ขาวนวลไม่ทำให้ผมสนใจเท่าแหวนสลักรูปตัวSที่นิ้วนางของเธอ
“ขอบคุณนะคะ”เธอยิ้มให้ผม โครงหน้ารูปปากอีกทั้งรอยยิ้มนั่นที่ผมจำได้ดี...
“โซระ”
“เอ๋~ ขอโทษนะคะ ฉันชื่อฟ้าค่ะเป็นคนไทย”
เธอตอบผมกลับมาด้วยรอยยิ้มเขินๆ ในที่สุดท้องฟ้าสีแดงของผมก็กลับมาเป็นสีฟ้าดังเดิมอีกครั้ง... คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยให้เธอจากไปอีกแน่
“ยัยเต้าหู้เหม็น”
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ