สิ่งที่เหลือ
2) 1 จุดนัดพบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันที่เขาและเธออยู่ในห้องกิจกรรมเพียงลำพังสองคน ห้องที่มีเพียงแสงไฟสลัวความตึงเครียดจากงานและเป็นเธอที่เหลือบไปเห็นถุงพลาสติกและห่อกระดาษมัดทับกันหลายชั้นจากในซอกตู้เอกสาร เมื่อแกะออกก็พบว่าเป็นกระถางไว้จุดไฟและขวดน้ำมันขวดเล็กหนึ่งขวด เธอจึงจัดการจุดมันขึ้นมาแล้วเอาวางไว้ด้านหนึ่งของมุมห้อง
เวลาเพียงไม่นานกลิ่นหอมหวานของยาปลุกกำหนัดที่พวกรุ่นพี่ลักลอบเอามาซ่อนไว้เพื่อขายกับนักศึกษาบางจำพวก ก็ส่งผลร้ายต่อระบบประสาทของคนทั้งคู่ ความหอมหวานของมันนำพาเอาตันหากามอารมณ์ของคนทั้งสองให้แสดงออกมา
วันนั้นจึงเป็นวันแห่งความสุขสมหวังของเธอที่ได้เขามาครอบครอง แต่สำหรับอิศรินทร์มันเป็นวันเริ่มต้นของขุมนรก เขาทะเลาะกับคนที่เขารักจนกระทั่งเธอต้องไปเจอกับโศกนาฏกรรมที่นำพาให้เด็กสาวและเขาต้องจากกัน ความโชคดีจึงมาตกที่เธอ ...หญิงสาวลอบยิ้มในความโชคดีนั้น
.......................................................................................................
เมื่อไฟแดงกระพริบขึ้นที่สัญญาไฟจราจร คนทั้งสองจึงเดินเคียงคู่กันข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้ามมุ่งตรงไปตามถนนในซอยซึ่งเป็นแหล่งชุมชน ผ่านอาคารพาณิชที่กำลังก่อสร้าง ไม่นานทั้งสองก็เดินลอดผ่านคุ้มประตูหน้าลานวัด
ลานเบื้องหน้าเต็มไปด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จอดเรียงกันนิ่งหลายคัน ถัดไปเป็นศาลาสวดศพ พวงหรีดมากมายถูกวางไว้เป็นทางยาว ผู้มาร่วมงานต่างนั่งบนเก้าอี้จนเต็ม เสียงแตรวงปี่พาถ์บรรเลงเพลงธรณีกรรแสงโหยหวน นำพาให้อิศรินทร์เศร้าสะเทือนใจยิ่งขึ้น
ทั้งคู่เดินมาหยุดตรงบานกรอบรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่ประดับไปด้วยดอกไม้หลากชนิด ภาพเด็กสาวเผยแววตาสุขสดใสพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจไร้เดียงสาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของวัยสาว ซึ่งบัดนี้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณนอนนิ่งอยู่ในโรงไม้สลักลวดลายวิจิตร ความอัดอั้นเสียใจพุ่งขึ้นมาจุกอก น้ำเลี้ยงนัยน์ตาของชายหนุ่มไหลลื้อออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ชายหนุ่มหลับตาก้มหน้า เรือนกายสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นที่พยายามห้ามไว้ จนเธอผู้อยู่เคียงข้างเขานิ่งมองด้วยความรู้สึกสงสารชายคนรัก ตอนที่ได้รู้ข่าวการตายของเด็กสาว เธอรู้สึกเหยียดหยันความสิ้นคิดที่เด็กสาวตัดสินใจฆ่าตัวตายแทนที่จะลุกขึ้นต่อสู้
“นายมาทำไม!!”
เสียงเครียดแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งตวาดลั่น พร้อมกับกระชากชายหนุ่มให้หันไปหา หญิงสาวร่างบางตัวเล็กที่เขาเคยเห็นแต่ความขี้เล่นยิ้มง่ายบัดนี้กลับมองชายหนุ่มอย่างเครียดแค้นชิงชัง เธอคือ อิงชิชา พี่สาวของอิ๊บ
“พี่อิง ผมมากราบศพอิ๊บครับ”
“นายจะมาทำไม นายไม่เกี่ยวอะไรกับยัยอิ๊บแล้ว” อิงตวาดกลับอย่างมีอารมณ์ นัยน์ตาหญิงสาวแดงก่ำถุงใต้ตาบวมซ้ำ
“ผมอยากมาลาอิ๊บเป็นครั้งสุดท้าย”
“ลาหรือ หื้อ ฉันอยากจะหัวเราะ นายจะทำให้ยัยอิ๊บนอนตายตาไม่หลับเสียมากกว่า ที่พาแฟนใหม่มา ...นายใจร้ายมากอิศรินทร์”
อิงโก่งคอตะคอกตัวสั่น น้ำตาไหลพรากอย่างเจ็บปวดแทนผู้จากไป เสียใจเหลือเกินที่เคยคิดว่าชายตรงหน้าคือคนที่จะมาเป็นเสาหลัก ประคับประครองดูแลน้องสาวสุดที่รักได้
แต่เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เธอบินไปติดต่องานที่ต่างประเทศ เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า อิ๊บ พยายามฆ่าตัวตาย เมื่อกลับมาจึงได้รู้ว่า ชายหนุ่มไปมีคนรักใหม่และกำลังจะหมั้นหมายกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เธอต้องใจสลายเมื่อกลับมาเห็นสภาพน้องสาวกรีดร้องอย่างคุ้นคลั่งที่ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล ทั่วร่างมีผ้าพันแผลพันไว้ ร้องไห้คร่ำครวญเรียกหาชายหนุ่มสลับด่าทอหญิงที่แย่งคนรัก อิงทั้งปลอบทั้งขู่ให้อิ๊บตัดใจ...แต่ ไม่เป็นผล
ค่ำคืนของอีกวันเป็นวันที่อิ๊บลาจากโลกนี้ เด็กสาวพุ่งตัวลงสู่เบื้องล่างด้วยความสูง 16 ชั้น ต่อหน้าพี่สาวที่พยายามวิ่งเข้ามาฉุดรั้งเธอ แล้วแทบจะดิ่งตามเธอลงมาด้วยถ้าไม่มี ร.ป.ภ.เข้ามาจับห้ามไว้
อิงชิชาจ้องหน้าแพรวาอย่างเกลียดชัง
“ไม่ ฉันไม่ยอมให้พวกนายได้รับการอภัยจากยัยอิ๊บ”
“ทำไมต้องมาแค้นกันด้วยล่ะค่ะ คนก็ตายไปแล้ว”
แพรวายืนเงียบดูอยู่นานกล่าวน้ำเสียงไม่พอใจ สายตาของอิงชิชาตวัดกริ้วเป็นประกายไปยังเธอทันที
“ก็ไม่เพราะเธอกับผู้ชายหลายใจคนนี้หรอกหรือที่ทำให้น้องสาวของฉันต้องตาย”
“ที่เขาต้องตายเพราะเขาทำตัวเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะใครเลย มันเพราะใจที่อ่อนแอของเธอเองต่างหากที่ฆ่าตัวเธอเอง”
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ