สิ่งที่เหลือ
-
1) 1 จุดนัดพบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสิ่งที่เหลือ
ตอนที่ 1 จุดนัดพบ
ที่มุมหนึ่งของร้านเบอร์เกอรี่&เลสเตอร์รองซ์ หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งกำลังกวาดตามองไปรอบตัวอย่างเชื่องช้าบนเก้าอี้บุหนังอย่างดี เธอนั่งเหม่อมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ไปมาอยู่ด้านนอกกระจกเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นบริเวณด้านข้างร้านคอฟฟี่ใกล้สถานที่รถไฟกลางกรุง
บริเวณโดยรอบเป็นตึกแถวสมัยใหม่มีดีไซย์และไม่เบียดเสียดจนอึดอัด บรรยากาศร่มรื่นน่าผ่อนคลายด้วยร่มไม้ใหญ่หลายต้นที่ถูกปรุงแต่งและสรรสร้างอย่างที่ธรรมชาติพึ่งมีและมนุษย์ผู้ออกแบบจัดการ สายลมเย็นพัดผ่านเรื่อยเฉื่อยชวนเธอง่วงหาวเป็นพักๆ
ใบหน้าเธอแสดงอารมณ์เบื่อหน่ายกับการรอคอยและยกนาฬิกาเรือนเก๋ขึ้นดู ณ .ขณะนี้เป็นเวลาบ่าย 4 โมง 20 นาทีเธอเลิกคิ้วขยับตัวเตรียมลุก
แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งท่ามกลางฝูงชนเบื้องหน้าที่เดินกันขวักไขว่ ทั้งสองเดินเคียงคู่กันผ่านหน้าเธอไป หญิงสาวตกตะลึงปากคอสั่นทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง ความรู้สึกน้อยใจตีคู่ขึ้นมาพร้อมก้อนสะอื้นที่เธอพยายามกั้นมันสุดแรงจนตัวสั่นสะท้าน
ความสะเทือนใจแล่นลิ่วขึ้นมา ริมฝีปากบางกัดเม้มลงอย่างสุดระงับเมื่อหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดนั้นรินอาบแก้มทั้งสองข้าง ความรู้สึกชิงชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาวรุ่นดรุณี แววตาเธอทอแสงกล้าขณะปาดน้ำตาทิ้งและย่างกายออกจากร้าน
.........................................................................................................
อิศรินทร์ ชายหนุ่มวัย 20 รูปร่างสูงบางในชุดสูทสีดำดูองอาจและภูมิฐานในสายตาของผู้คนรอบข้างที่มองชายหนุ่มก้าวผ่าน เขามองตรงไปเบื้องหน้าสายตาไม่ได้มองจุดใดเป็นเป้าหมายมันมีแต่ความว่างเปล่าในนั้น
ชายหนุ่มเดินไปหยุดที่ริมทางข้ามม้าลาย เขาเหม่อมองเบื้องหน้าและคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาของเขากับแฟนสาวผู้เยาว์วัย แล้วหวนระลึกไกลถึงเหตุการณ์ตั้งแต่เธอกับเขาเจอกันจนกระทั่งได้รู้จักและคบหา
ความที่ว่าเธออ่อนวัยกว่าทำให้ไม่มีความสมดุลกันด้านความคิดและการกระทำ ความที่เป็นเด็กมักทำให้เขาระอากับเธอหลายครั้งแต่เขาก็มีความสุข...ความสุขที่บางครั้งเธอเป็นผู้ให้...ให้ทุกอย่างทั้งความกล้า ทั้งกำลังใจ ที่ผู้ใหญ่บางคนทำไม่ได้อย่างใจคิด
การบีบคั้นทางสังคมหนักหนานักกับการที่จะก้าวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นตัวของตัวเองไปด้วย บ่อยครั้งเขาแทบถอดใจสลายฝัน แต่ทุกครั้งที่เขาจนหนทางกลับได้ยินเสียงใสๆและใบหน้าอ่อนวัยช่วยดึงสติ
“อิศรินทร์ คุณน่ะเป็นผู้ชายที่แย่มาก แย่ตรงที่คุณนึกถึงแต่กำแพงที่ล้อมคุณไว้หนาเป็นตัน”
เด็กสาวเว้นคำและเผยอยิ้มอย่างสดใส
“ฟังนะ เมื่อถึงเวลาที่กำแพงปิดล้อมคุณเมื่อไหร่ อิ๊บจะเป็นคนต่อยกำแพงพวกนั้นช่วยคุณเอง”
เสียงหัวเราะกังวานใสและจริงใจทุกคำพูด
“ยัยบ๊อง”
อิศรินทร์พึมพำขึ้นเหมือนละเมอใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม...แล้วจืดจางลง ความสะท้านใจเกิดขึ้นฉับพลันเมื่อความจริงที่เคยเกิดบัดนี้กลับเป็นเพียงแค่อดีตที่ผ่านเลย
เขารู้สึกเจ็บปวดใจนัยน์ตาร้อนผ่าวอย่างสุดระงับ ชายหนุ่มรีบกระพริบตาไล่มันกลับแล้วเชิดหน้าเครียดขรึมขึ้นมองตรงไปเบื้องหน้า
.......................................................................................................
เสียงรถแล่นฉิวพัดพาเอาสายลมยามเย็นเข้าปะทะใบหน้าเรียวงาม เรือนร่างสันทัดของหญิงสาว ยืนเคียงข้างชายหนุ่มพรางลอบมอง...ผู้เป็นที่รัก ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นที่หลงรักเขาข้างเดียว ...ถ้าไม่เกิดเรื่องวันนั้นขึ้น
ตอนที่ 1 จุดนัดพบ
ที่มุมหนึ่งของร้านเบอร์เกอรี่&เลสเตอร์รองซ์ หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งกำลังกวาดตามองไปรอบตัวอย่างเชื่องช้าบนเก้าอี้บุหนังอย่างดี เธอนั่งเหม่อมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ไปมาอยู่ด้านนอกกระจกเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นบริเวณด้านข้างร้านคอฟฟี่ใกล้สถานที่รถไฟกลางกรุง
บริเวณโดยรอบเป็นตึกแถวสมัยใหม่มีดีไซย์และไม่เบียดเสียดจนอึดอัด บรรยากาศร่มรื่นน่าผ่อนคลายด้วยร่มไม้ใหญ่หลายต้นที่ถูกปรุงแต่งและสรรสร้างอย่างที่ธรรมชาติพึ่งมีและมนุษย์ผู้ออกแบบจัดการ สายลมเย็นพัดผ่านเรื่อยเฉื่อยชวนเธอง่วงหาวเป็นพักๆ
ใบหน้าเธอแสดงอารมณ์เบื่อหน่ายกับการรอคอยและยกนาฬิกาเรือนเก๋ขึ้นดู ณ .ขณะนี้เป็นเวลาบ่าย 4 โมง 20 นาทีเธอเลิกคิ้วขยับตัวเตรียมลุก
แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งท่ามกลางฝูงชนเบื้องหน้าที่เดินกันขวักไขว่ ทั้งสองเดินเคียงคู่กันผ่านหน้าเธอไป หญิงสาวตกตะลึงปากคอสั่นทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง ความรู้สึกน้อยใจตีคู่ขึ้นมาพร้อมก้อนสะอื้นที่เธอพยายามกั้นมันสุดแรงจนตัวสั่นสะท้าน
ความสะเทือนใจแล่นลิ่วขึ้นมา ริมฝีปากบางกัดเม้มลงอย่างสุดระงับเมื่อหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดนั้นรินอาบแก้มทั้งสองข้าง ความรู้สึกชิงชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาวรุ่นดรุณี แววตาเธอทอแสงกล้าขณะปาดน้ำตาทิ้งและย่างกายออกจากร้าน
.........................................................................................................
อิศรินทร์ ชายหนุ่มวัย 20 รูปร่างสูงบางในชุดสูทสีดำดูองอาจและภูมิฐานในสายตาของผู้คนรอบข้างที่มองชายหนุ่มก้าวผ่าน เขามองตรงไปเบื้องหน้าสายตาไม่ได้มองจุดใดเป็นเป้าหมายมันมีแต่ความว่างเปล่าในนั้น
ชายหนุ่มเดินไปหยุดที่ริมทางข้ามม้าลาย เขาเหม่อมองเบื้องหน้าและคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาของเขากับแฟนสาวผู้เยาว์วัย แล้วหวนระลึกไกลถึงเหตุการณ์ตั้งแต่เธอกับเขาเจอกันจนกระทั่งได้รู้จักและคบหา
ความที่ว่าเธออ่อนวัยกว่าทำให้ไม่มีความสมดุลกันด้านความคิดและการกระทำ ความที่เป็นเด็กมักทำให้เขาระอากับเธอหลายครั้งแต่เขาก็มีความสุข...ความสุขที่บางครั้งเธอเป็นผู้ให้...ให้ทุกอย่างทั้งความกล้า ทั้งกำลังใจ ที่ผู้ใหญ่บางคนทำไม่ได้อย่างใจคิด
การบีบคั้นทางสังคมหนักหนานักกับการที่จะก้าวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นตัวของตัวเองไปด้วย บ่อยครั้งเขาแทบถอดใจสลายฝัน แต่ทุกครั้งที่เขาจนหนทางกลับได้ยินเสียงใสๆและใบหน้าอ่อนวัยช่วยดึงสติ
“อิศรินทร์ คุณน่ะเป็นผู้ชายที่แย่มาก แย่ตรงที่คุณนึกถึงแต่กำแพงที่ล้อมคุณไว้หนาเป็นตัน”
เด็กสาวเว้นคำและเผยอยิ้มอย่างสดใส
“ฟังนะ เมื่อถึงเวลาที่กำแพงปิดล้อมคุณเมื่อไหร่ อิ๊บจะเป็นคนต่อยกำแพงพวกนั้นช่วยคุณเอง”
เสียงหัวเราะกังวานใสและจริงใจทุกคำพูด
“ยัยบ๊อง”
อิศรินทร์พึมพำขึ้นเหมือนละเมอใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม...แล้วจืดจางลง ความสะท้านใจเกิดขึ้นฉับพลันเมื่อความจริงที่เคยเกิดบัดนี้กลับเป็นเพียงแค่อดีตที่ผ่านเลย
เขารู้สึกเจ็บปวดใจนัยน์ตาร้อนผ่าวอย่างสุดระงับ ชายหนุ่มรีบกระพริบตาไล่มันกลับแล้วเชิดหน้าเครียดขรึมขึ้นมองตรงไปเบื้องหน้า
.......................................................................................................
เสียงรถแล่นฉิวพัดพาเอาสายลมยามเย็นเข้าปะทะใบหน้าเรียวงาม เรือนร่างสันทัดของหญิงสาว ยืนเคียงข้างชายหนุ่มพรางลอบมอง...ผู้เป็นที่รัก ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นที่หลงรักเขาข้างเดียว ...ถ้าไม่เกิดเรื่องวันนั้นขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ