เส้นขอบฟ้าแห่งกาลเวลา

8.1

เขียนโดย moohin

วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.41 น.

  3 ตอน
  10 วิจารณ์
  15.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) หัวใจที่หายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
         จากเรื่องสั้นชุด เส้นขอบฟ้าที่หายไป ยังมีความลับบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ยังไม่มี
 
ใครรู้ว่าแมวสีดำมันมาจากที่ไหน และเพราะเหตุใดมันจึงเป็นอมตะ หัวใจที่หายไปคือคำตอบ
 
ความเสียสละที่ไม่หวังผลตอบแทนใดใด การรอคอยบางอย่างโดยไม่อาจรู้ว่าสิ่งที่รอนั้นจะมา
 
เมื่อไหร่คือรสชาตของเรื่องสั้นเรื่องนี้.....
 
หัวใจที่หายไป
ท่ามกลางอาศที่ร้อยฉ่า ผืนดินแตกระแหงไปทั่วทุกหนแห่ง ท้องน้ำที่เคยอุดมสมบูรณ์หายไป ต้นไม้สีเขียว
 
กลับกลายเป็นเพียงตอไม้แก่ๆ ที่รอวันตาย ท้องฟ้าสีขาวสดใส เวลานี้กลับเป็นสีแดงดุจเลือดนก ยามกลางวัน
 
ก็ร้อนแทบจะละลายไปเป็นผุยผง ยามกลางคืนกลับกลายเป็นบรรยากาศหนาวเหน็บแทบขาดใจ มีแต่เสียงร้อง
 
ระงมด้วยความเจ็บปวดกึกก้องไปทุกหนแห่ง หลายชีวิตทนความทรมานไม่ได้ต้องล้มตายลงไป… หากนึกย้อน
 
ไปเมื่อหลายปีก่อนดินแดนแห่งนี้แทบไม่เหลือเค้าเดิมเสียเลย มันเคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ทุก
 
สิ่งทุกอย่างดูสวยงามจะเชื่อหรือไม่ว่ามันเคยเป็นเกาะแห่งความเบิกบาน…
 
          แมวทุกๆตัวคาดหวังว่าสักครั้งต้องมาเยือนดินแดนแห่งนี้ให้จงได้ แต่บัดนี้แมวเหล่านั้นกลับเปลี่ยนความ
 
คิดใหม่ พวกมันต่างอพยพไปในดินแดนแห่งอื่นๆ  จะเหลือก็เพียงแต่แมวบางตัวที่มันไม่มีที่ไป เหมือนอย่าง
 
เช่นแมวสีดำตัวนี้ มันเป็นลูกแมวที่แข็งแกร่ง อดทน ความมีน้ำใจของมันทำให้แมวรอบข้างมีความสุขตามไป
 
ด้วย แต่ตอนนี้ใบหน้าของมันไม่มีรอยยิ้มเหลือแล้ว เหตุผลน่ะหรือ?? คงไม่ใช่เพราะความแห้งแล้งหรอกเป็น
 
เพราะญาติๆ ของมันเริ่มตายลงที่ละตัว มันกระทบจิตใจของเจ้าแมวน้อยยิ่งนัก และตอนนี้พ่อของมันกำลัง
 
ป่วยหนัก ไร้ซึ่งยาที่จะรักษา น้ำสักหยดจะให้พ่อกินยังไม่มี ส่วนแม่ของมันนั้นก็เหมือนกัน น้องสาวตัวน้อย
 
ของมันก็ร้องงอแงขอกินนมจากแม่ แม่ของมันได้แต่นั่งน้ำตาคลอ น้ำเพียงหยดเดียวที่จะได้ดื่มกินยังไม่มี
 
แล้วจะเอาน้ำนมที่ไหนให้ลูกน้อยกินเล่า….. เจ้าแมวสีดำนั่งมองความทรหดของครอบครัวมันต่อไป โดยไม่
 
สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลย…
 
 
“ลูกรักของข้า มาหาข้าที….” เสียงแหบพล่าของแมวแก่เรียกร้องให้เจ้าแมวสีดำเข้าไปหา
 
 
“พ่อข้า ท่านต้องการสิ่งใดรึ??” เสียงเจ้าแมวดำเอ่ยขึ้นทั้งที่รู้ว่า ไม่ว่าพ่อของมันจะต้องการสิ่งใดมันก็
 
ไม่สามารถหาให้ได้….
 
 
“หึหึ เจ้าถามเหมือนว่าเจ้าจะหาสิ่งที่ข้าต้องการมาให้ข้าได้ทั้งหมดอย่างนั้นหรือ…”
 
 
เจ้าแมวหน้าสลดลงก่อนจะพูดต่อ “บอกมาเถิดท่านพ่อ ท่านต้องการสิ่งใดเล่า”
 
 
“ลูกข้า เจ้าก็รู้แก่ใจนะว่าข้าเป็นหัวหน้าของเกาะแห่งนี้ ข้าปกครองทุกๆชีวิตในเกาะแห่งนี้
 
แต่ตอนนี้ข้าไม่อาจดูแลทุกชีวิตได้อีกแล้ว ข้าเป็นเพียงแมวแก่ที่กำลังจะตายเท่านั้น… ข้า
 
กำลังจะตาย…”
 
 
“โถ่ท่านพ่อ อย่าเอ่ยเช่นนั้นเลยหากท่านเป็นอะไรไปข้า ท่านแม่ น้องเล็กคงเสียใจไม่
 
น้อย…” เจ้าแมวสีหน้าเป็นกังวลมันไม่ชอบให้พ่อของมันพูดแบบนี้เลย
 
 
“มันเป็นธรรมดาลูกรัก มีเกิด มีแก่ แล้วก็ต้องมีตาย ทุกชีวิตย่อมหนีความตายไม่พ้นจริง
 
ไหม? หึหึ ข้าล่ะอยากขำสมยานามที่ว่าแมวเก้าชีวิตเหลือเกิน…” เจ้าแมวแก่พูดจบก็ทอดสายตา
 
ออกไปไกลแสนไกล… บนผืนดินที่แห้งกร้าน ลมร้อนประทะเข้าหน้าของมันเป็นระยะๆ
 
 
“ท่านพ่อต้องการบอกสิ่งใดกับข้าเล่า จงบอกมาเถิด” สายตาของเจ้าแมวดำยังคงมีความกังวลปะปน
 
อยู่มากมาย
 
 
“หากข้าสิ้นใจไป เจ้าจงดูแลคนในเกาะแห่งนี้ต่อไป รับปากข้าได้หรือไม่?”
 
 
“ข้าขอรับปากว่าจะดูแลทุกชีวิตบนเกาะแห่งนี้ แต่ข้าไม่อาจรับปากท่านได้ว่าจะดูแลให้ทุก
 
ชีวิตนั้นรอดตายได้หรือไม่ ท่านพ่อได้โปรดอย่าจากข้าไป ข้ารักท่าน ถึงแม้ข้าอาจจะดูแล
 
เกาะแห่งนี้ได้ แต่ข้าไม่อาจอยู่ได้หากไม่มีท่าน …”
 
 
เจ้าแมวแก่เหมือนไม่สนใจในสิ่งที่ลูกของมันพูด สายตาของมันยังจ้องมองไปที่เดิม ก่อนจะพูดอย่างมีความหวัง
 
ว่า
 
 
 “เมื่อตอนข้ายังเด็ก ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของปีศาจตนหนึ่ง มันเป็นปีศาจที่ไร้หัวใจ ไร้
 
ความรู้สึก มันมีเพียงความริษยา ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ”
 
 
 สายตาของเจ้าแมวแก่เริ่มกลายเป็นความรู้สึกที่ชิงชัง และเคียดแค้น ก่อนจะพูดต่อว่า..
 
 
“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกาะของเราเป็นเพราะปีศาจตัวนี้หรือไม่ ข้าเคยพยายาม มุ่ง
 
หน้าไปดินแดนของมันแต่ก็ไม่อาจไปได้ เหมือนมีบางสิ่งที่ข้าไม่พร้อม หากวันหนึ่งข้าสิ้น
 
ใจแล้วเจ้าจงพยายามไปที่ดินแดนของมันให้จงได สัญญาใจกับพ่อได้หรือไม่ลูกรัก…”
 
 
เจ้าแมวสีดำ นิ่งเงียบ ก่อนตัดสินใจออกปากรับคำพ่อผู้แก่ชราของมัน…
 
 
“ข้าขอสัญญาใจ ด้วยศักดิ์ศรีของข้า ข้าจะต้องบุกดินแดนของมันให้ได้ แต่ท่านอยู่รอพบ
 
กับความสำเร็จของข้าก่อนได้หรือไม่…”
 
 
เจ้าแมวแก่ไม่ตอบ… แต่มันจ้องหน้าลูกชายของมันอยู่นานแสนนาน แล้วยิ้มที่มุมปากด้วยความอ่อนแรง ก่อนจะ
 
ค่อยๆหายใจเบาลงๆ จวนจะสิ้นใจ มันก็รวมแรงเฮือกสุดท้าย กล่าวกลอนๆนึงออกมาเบาๆ
 
 
“ดินแดนแห่งนี้ที่ว่างเปล่า ดินแดนแห่งนี้ที่เงียบเหงา ดอกไม้เริ่มเฉาตาย หลายชีวาวาย
 
ตายลงทีละหน่อย แต่เรายังรอคอย ความหวัง...”
 
 
สิ้นเสียงเจ้าแมวแก่ สายลมร้อนก็พัดมาหวิวไหว เหมือนพัดมาเพื่ออำลาชีวิตที่ร่วงโรยอย่างอนาท ในกำมือ
 
ของเจ้าแมวแก่ยังคงกำดอกไม้เหี่ยวเฉาดอกเล็กๆไว้ในมือ เจ้าแมวสีดำกล้ำกลืนน้ำตาให้ลึกที่สุด กลดกลั้นมัน
 
เอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา มันได้แต่นั่งมองน้องสาวตัวเล็กกับแม่ของมันที่นั่งร้องให้ฟูมฟายเหมือนจะขาดใจ
 
ตามพ่อไปอยู่รอนร่อ
 
 
“ท่านแม่ ไม่ต้องห่วงนะข้าจะเอาชีวิตเจ้าปีศาจนั่นมาให้ได้ พรุ่งนี้เช้าข้าจะเดินทางบุกดิน
 
แดนของมัน!!”
 
 
สายตาของเจ้าแมวมุ่งมั่นและตั้งใจ แต่ในส่วนลึกของหัวใจแล้วกลับหวาดหวั่นถึงหนทางข้างหน้า มันเป็นเพียง
 
แมวดำตัวเล็กตัวหนึ่ง จะสู้อะไรกับปีศาจนั่นได้…. สายตาของมันมองไปยังเหล่าเพื่อนแมวตัวอื่นๆ ช่างดูอิดโรย
 
ยิ่งนัก น่าเศร้าใจเหลือเกิน…. มันจึงตัดสินใจที่จะเดินทางในรุ่งเช้า…
 
 
รุ่งอรุณยามเช้า แสงแดดแผดเผาทุกหนแห่ง แดดสีเลือดสาดส่องมายังผืนดินที่แตกระแหงไร้ซึ่งความปรานี
 
เจ้าแมวสีดำค่อยๆเดินออกมา ด้วยสายตาอันมุ่งมันกับจิตใจที่กึ่งกลัวกึ่งกล้า เท้าน้อยๆของมันก้าวออกมาเชื่อง
 
ช้า มีเสียงหนึ่งเรียกให้มันหยุด เสียงแม่ของมันนั่นเอง
 
 
“ลูกข้าหยุดก่อน เจ้าจะไปจริงๆน่ะหรือเจ้าก็รู้ดินแดนแห่งนั้นไม่มีใครไปถึง และถึงแม้จะ
 
ผ่านไปได้ก็ไม่มีใครที่จะสามรถรอดชีวิตกลับมาได้” เป็นคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
 
 
“ท่านแม่ข้าต้องไป อีกหลายชีวิตที่นี่ยังต้องการความหวัง” เจ้าแมวน้อยยังคงหนักแน่นดังเดิม
 
 
“หากเจ้าจะไปจริงๆ รับห่อข้าวนี้ไว้เถิดมันอาจทำให้เจ้าอิ่มได้เพียงไม่กี่มื้อ หากครั้งใดที่
 
เจ้าเจอกับปัญหาเจ้ามองมาที่บ้านของเรา แม่จะคอยเป็นกำลังใจให้เจ้าเสมอ…” สายตาของ
 
นางเต็มไปด้วยความรักความผูกพัน มันห่วงลูกของมันมาก แต่มันก็ต้องทำใจเพราะคือความหวังสุดท้าย
 
 
“หากข้าไม่กลับมาท่านจงพาทุกชีวิตที่นี่อพยพไปที่อื่น ที่ที่มันดีกว่านี้เสียเถิด”
 
 
“อย่าพูดเช่นนั้น แม่เชื่อว่าเจ้าต้องกลับมา สัญญาใจกับแม่สิว่าเจ้าต้องกลับมา” นางอ้อนวอน
 
คำสัญญาจากปากลูกชายนางอย่างสิ้นหวัง
 
 
“ข้า….สัญญา ข้าสัญญาว่าจะกลับมา” มันพูดพร้อมกับรอยยิ้มเจือนๆ มันก็รู้ดี ว่าโอกาสที่จะกลับมา
 
นั้นมีเหลือเพียงน้อยนิด…
 
 
เจ้าแมวสีดำมันเดินออกมาจากอ้อมกอดแม่และน้องสาว  มีเพื่อนแมวหลายตัวเดินมาส่งมันแบบหงอยๆ ทุกตัวรู้ดี
 
ว่ามีอีกหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าแมวสีดำ หรือไม่ มันอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย….
 
เจ้าแมวสีดำหันมาโบกมือลากับทุกๆคน มันเห็นแม่ของมันยืนปาดน้ำตาอย่างสิ้นหวัง มันสัญญาในใจของมัน
 
เบาๆว่า แล้วข้าจะกลับมา….
 
 
            มันมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือดินแดนของเจ้าปีศาจร้าย มันเดินทาง 3 วัน 3 คืนพบอุปสรรคมากมาย
 
แต่มันก็มิได้ย่อท้อ เท้าของมันก้าวไปอย่างเชื่องช้า แต่มุ่งมั่นและมั่นคง มีบางครั้งที่มันรู้สึกเหนื่อยแต่อย่างไร
 
มันก็ต้องทำให้ได้เพื่อทุกชีวิตที่รออยู่
 
 
5 วันผ่านไปแล้ว มันยังไม่เห็นดินแดนแห่งนั้นเลย มันเริ่มขาดอาหาร มันเหนื่อยเหลือเกิน และมันกำลังจะ
 
ตาย…. พลันใดนั้นมันวูบหลับไป…..มันได้ยินเสียงกลอนที่พ่อของมันท่องก่อนสิ้นใจแต่ต่างตรงที่เป็นเสียงแมวตัว
 
เมียร้อง มันชั่งไพเราะเหลือเกิน เหมือนความฝันแต่อาจจะไม่ใช่ความฝัน มันฝันเห็นแมวสาวตัวหนึ่งนั่งยิ้มให้
 
มัน ท่ากลางหมอกสีขาวอันเย็นเยียบ กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา เป็นกลิ่นหอมของดอกเหมย เจ้าแมวสาวยิ้มและ
 
พูดออกมาอย่าแผ่วเบาแต่เสียงนั่นกลับก้องกังวานปลุกให้เจ้าแมวสีดำตื่นจากภวังค์
 
 
“เหตุใดเจ้าถึงเดินทางมาดินแดนแห่งนี้??”
 
 
“ข้ามาตามหาสายลม แสงแดด ท้องน้ำ ที่หายไป”
 
 
“เหตุใดมันจึงหายไปเล่า..” รอยยิ้มเย็นเยือกนั่น ช่างอ่อนหวานเสียจริง..
 
 
“มันถูกปีศาจร้ายขโมยไป ได้โปรดบอกทางดินแดนแห่งปีศาจแก่ข้าด้วย” เจ้าแมวอ้อนวอนกับ
 
เจ้าแมวสาวอย่างเหนื่อยล้า…..
 
 
“ดินแดนแห่งปีศาจรึ? ไม่มีใครเคยกลับออกมาได้” สายตาเย็นเยียบอีกครั้ง แต่กลับดูอบอุ่นอย่างไม่
 
มีเหตุผล
 
 
“ข้าจะต้องไปให้ได้ยังมีอีกหลายชีวิตที่รอข้าอยู่ ได้โปรดเถิด….”
 
 
“แล้วหากการเดินทางครั้งนี้ไม่สามารถตามหาในสิ่งที่เจ้าต้องการล่ะ เจ้าไม่เสียใจหรอก
 
หรือ…”
 
 
“ขอเพียงแค่ได้ทำ ขอเพียงแค่ได้เสียสละ ขอเพียงแค่ได้ทำตามสัญญา…” เจ้าแมวเริ่มหลับตา
 
ลงอีกครั้งมันพูดเพียงไม่กี่คำ แต่เหตุใดจึงเหนื่อยได้ขนาดนี้…. คงเป็นเพราะมันกำลังจะตาย
 
 
“หึๆ เจ้าช่างกล้าหาญเสียเหลือเกิน เอาล่ะ เจ้าจงตามสายลมแห่งดอกเหมยไป แล้วเจ้าจะ
 
ได้พบกับสิ่งที่เจ้าต้องการ” เพียงเท่านี้แมวสาวก็เดินจากไป….
 
 
เจ้าแมวสีดำตื่นขึ้นมาพบกับความอ้างว้างเช่นเคย ไม่มีสายลมอย่าที่แมวสาวตอบ มันคงแค่ฝันไป….
 
 
แต่ทันใดนั้น!!!! ก็มีสายลมกันเย็นเยียบพัดผ่าน มีกลิ่นหอมของดอกเหมยจริงๆ หรือว่ามันไม่ได้ฝันไป! เจ้า
 
แมวสีดำ วิ่งกระหืดกระหอบด้วยแรงเฮือกสุดท้าย ในที่สุด สองข้างทางที่มันเดินผ่านมา เริ่มมีต้นไม้ใบหญ้า
 
เสียงธรรมชาติ สายลม แสงแดดอุ่น และสายน้ำอันเย็นฉ่ำ นานเหลือเกินที่มันไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้….
 
 
มันแวะดื่มน้ำใสที่ริมครอง พลันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งตะโกนก้องไปทั้งป่า…..
 
 
“เหตุใดเจ้าจึงบังอาจมาบุกรุกดินแดนของข้า ….”
 
 
เสียงนั่นน่ากลัวยิ่งนัก เจ้าแมวพยายามมองตามต้นเสียงที่ได้ยิน แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลย
 
 
“นั่นเสียงใคร ออกมานะ อย่าทำตัวมุดอยู่แต่ในที่ของเจ้า ออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
 
 
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าแมวไม่เจียมตัว”
 
 
สิ้นเสียงก็มีบางสิ่งล่องลอยขึ้นมาจากน้ำ เป็นควันดำทะมึน กลิ่นสาบปีศาจคละคลุ้ง ควันนั่นเริ่มปรากฏเป็นรูป
 
ร่างเด่นชัด ปรากฏเป็นปีศาจร่างยักษ์ ดำทะมึนน่าเกลียดน่ากลัว มันมีตาเพียงข้างเดียว เจ้าแมวสีดำตกใจ
 
มาก แต่มันพยายามคุมสติ ไม่แสดงออกถึงอาการกลัว มันเข้มแข็งและฉายแววตาจากกลัวเป็นแววตาที่ดุดัน
 
เพื่อสู้กับปีศาจร่างยักษ์นั่น
 
 
“ข้าคือปีศาจอมตะ นี่ที่ของข้า เจ้าบังอาจนัก ตอบข้ามา เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใดกัน เจ้าแมว
 
น้อย”
 
 
“ข้ามาเอาของๆข้ากลับคืน” เจ้าแมวยังไม่ลดละสายตาที่ดุดัน
 
 
“ของๆเจ้า สิ่งใดกันเล่า?”
 
 
“สายลม แสงแดด และผืนน้ำอันกว้างใหญ่ทั้งหมดนี่” เจ้าแมวตอบแต่ไม่หลบสายตาของเจ้าปีศาจ
 
ถึงตอนนี้มันไม่มีความกลัวเหลืออยู่ ยังคงเหลือแต่ความเคียดค้น..
 
 
“งั้นตอบคำถามที่ข้าต้องการ และจงแลกเปลี่ยนบางสิ่ง แล้วข้าจะคืนสิ่งเหล่านี้ให้กับเจ้า”
 
 
สายตาของปีศาจร้ายฉายแววความชั่วช้า
 
 
“ได้ ขอเพียงแค่เจ้าคืนทุกสิ่งให้กับเกาะของข้า”
 
 
“ทำไมเจ้าถึงมุ่งมั่นตั้งใจมาดินแดนแห่งปีศาจทั้งที่ก็รู้ว่าไม่อาจรอดชีวิตกลับไปได้??”
 
 
“เพราะข้า มีความเสียสละ เพราะข้าเป็นความหวังของอีกหลายชีวิต เพราะข้าต้องทำตาม
 
สัญญา” เจ้าแมวตอบ
 
 
“หากเป็นเช่นนั้นจงตอบมาว่าความเสียสละคือสิ่งใด?” เจ้าปีศาจงุน งง กับคำตอบเพราะชีวิตของ
 
มัน ไม่เคยเสียสละให้ใคร
 
 
“เหอะๆ ความเสียสละคือการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ไม่ได้ทำให้ตัวเอง ถึงอย่างไรเจ้าก็คงไม่เข้า
 
ใจหรอกเพราะเจ้าเป็นเพียงปีศาจชีวิตของเจ้าคงไม่เคยเสียสละให้ใคร”
 
 
เจ้าปีศาจหน้าตาสลดลง มันไม่รู้จริงๆว่าการเสียสละเป็นยังไง มันไม่รู้จริงๆ
 
 
“แล้วเจ้าไม่เหนื่อยหรือ ทำในสิ่งที่ไม่มีสิ่งตอบแทน”
 
 
“ถ้าข้าเหนื่อย สิ่งที่ข้าทำคงไม่ได้เรียกว่าการเสียสละหรอก” เจ้าแมวตอบมันรู้ดีว่ายังไงปีศาจก็ไม่
 
อาจเข้าใจ
 
 
“แล้ว เจ้าตอบข้าได้หรือไม่ว่าอะไรเป็นต้นเหตุให้รู้อยากจะเสียสละ”
 
 
เจ้าแมวนิ่งไปครู่หนึ่ง มันกำลังหาคำตอบ คำตอบให้กันปีสาจที่ไม่อาจเข้าใจได้
 
 
“ไม่รู้สิ อาจจะเกี่ยวกับ…หัวใจมั้ง”
 
 
“หัวใจ? หัวใจหรือ ข้าต้องการหัวใจ เจ้าจะมีแบ่งให้ข้าหรือไม่?” มันถามขึ้น พร้อมกับสายตาอัน
 
เต็มไปด้วยความหวัง
 
 
“มันขอกันไม่ได้หรอก หัวใจคือหัวใจ มีได้แค่ดวงเดียวเท่านั้น”
 
 
“เอาล่ะ ข้าจะขอมอบทุกอย่างที่เจ้าต้องการให้ ขอเพียงเจ้าต้องเอาหัวใจของเจ้ามาให้ข้า
 
แล้วจงรับความเป็นอมตะ ไปชั่วนิรันดร์กาล….”
 
 
“นี่หรือข้อแลกเปลี่ยนของเจ้า เหตุใดจึงโหดร้ายกับข้าเช่นนี้”  เจ้าแมวสีดำเสียใจมากมันรู้ดีหาก
 
มันเป็นอมตะ มันจะไม่สามารถกลับไปอยู่เกาะของมันได้อีก มันจะต้องถูกสายลมแห่งความเดียวดายพัดพาไป
 
ยังเกาะอันเป็นนิรันดร์ ต้องโดดเดี่ยว ไม่รู้สึกถึงพลังธรรมชาติ ไม่รู้สึกถึงความเสียสละ และความรักไป
 
ตลอดกาล….
 
 
“ได้โปรดเถิด ข้าต้องการที่จะรู้ถึงความเสียสละเพียงสักหนก็ยังดี แลกกับความอมตะของ
 
ข้าเพื่อความเป็นนิรันดร์ของเจ้า ได้โปรดเถิด หรือว่าเจ้าจะผิดสัญญา?”
 
 
“ได้ ข้าจะมอบหัวใจของเจ้าแต่เจ้าต้องคือธรรมชาติให้กับเกาะของข้า จงปกป้องเกาะแห่ง
 
นั้นแทนข้า และจงปกป้องครอบครัวของข้าด้วย และจงจำไว้ ว่าควรเสียสละ ให้กับทุกชีวิต
 
ที่เกาะนั่น สัญญาได้หรือไม่” เจ้าแมวสีดำตอบตกลง แต่ใจของมันยังกังวลถึงแม่ของมัน…
 
 
“ได้ๆๆๆ ข้าสัญญา ความเป็นอมตะไม่ได้โหดร้ายเสมอไปหรอกนะ ข้าจะสาบให้เกาะอันเป็น
 
นิรันดร์นั้น จะถูกปิดตายด้วยเส้นขอบฟ้าแห่งกาลเวลา แต่จะถูกเปิดออกทุกๆ 100 ปี ”
 
ไม่มีคำตอบใดใดออกจากปากของเจ้าแมวสีดำ สายตาของมันมองไปยังเกาะแห่งความเบิกบาน ที่นั่นจะเป็น
 
อย่างไรบ้าง แม่จะรู้สึกอย่างไรที่มันไม่สามารถกลับไปได้ตามสัญญา สายตาของมันยังเหม่อมองไปที่เกาะของ
 
มันก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆว่า
 
 
“ฝากบอกแม่ของข้าด้วยว่าข้าเสียใจที่ไม่อาจกลับไปได้ตามสัญญา”
 
 
“อื้มๆ เอาล่ะเรามาแลกหัวใจและความเป็นอมตะ หลับตาซะ เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง”
 
 
เจ้าแมวสีดำมันหลับตาลง ภาพพ่อกับแม่ปรากฏเด่นชัด สายลมที่พัดผ่านมันนั้น ได้ยินแว่วๆ คือเสียงกลอน
 
ของพ่อก่อนที่พ่อจะสิ้นใจ ในท่อนสุดท้าย แต่เรายังคอยความหวัง จริงสินะ เพื่อคนที่รอความหวัง
 
…… นี่คือความรู้สึกเสียสละและความรู้สึกรักเฮือกสุดท้ายของเจ้าแมวสีดำ ก่อนที่มันจะไม่รู้สึกอะไรอีกและชีวิต
 
มันก็ดับวูบลงจากโลกแห่งความมีชีวิตชีวา
 
 
เจ้าปีศาจมันก็ถูกลมหอบหมุนละลิ่วไปถึงยังเกาะแห่งความเบิกบาน มันได้รู้สึกถึงกลิ่นธรรมชาติที่เต็มปอด รู้สึก
 
ความรักและการเสียสละ รู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นใบหน้าของแมวทุกตัวในเกาะยิ้มแย้มสดใส และมันก็รู้สึกเศร้า
 
เมื่อเห็นแม่ของเจ้าแมวสีดำที่มีใบหน้าอันโศกเศร้า
 
 
มันได้แต่ยืนสงสารอยู่ห่างๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกาะแห่งความเบิกบานก็เต็มไปด้วยธรรมชาติอีกครั้ง และไม่
 
นานนักแมวทุกก็ลืมเรื่องราวความเสียสละของเจ้าแมวสีดำ คงมีแต่แม่กับน้องของมันที่ยังรอคอยการกลับมา
 
สายตาของเจ้าแมวแก่เต็มไปด้วยความรอคอย มันมานั่งรอลูกของมันกลับมา ก่อนที่มันจะสิ้นใจมันก็ได้บอกลูก
 
น้อยของมันว่า
 
 
“เจ้าจงรอพี่ชายของเจ้ากลับมา แม่มั่นใจยิ่งนักว่าพี่ของเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ และหากวันนึง
 
เจ้าสิ้นชีวิต เจ้าก็จงบอกลูกหลานของเจ้าให้รอคอยการกลับมาของพี่เจ้าต่อๆไป สัญญา
 
กับแม่นะ”
 
“ได้ ท่านแม่ ข้าจะรอการกลับมาของพี่ข้า”
 
 
“จงตระหนักไว้เสีย พี่ชายเจ้าคือวีรบุรุษผู้เสียสละ”
 
 
นางพูดจบก็สิ้นใจไป หลังจากนั้นแมวทุกตัวในเกาะก็จะเห็นแมวสาวบ้างแมวหนุ่มบ้างมานั่งรออะไรบางอย่างที่
 
ทะเล สายตาของแมวเหล่านั้นก็จะจับจ้องไปยังเส้นขอบฟ้าแห่งกาลเวลา มีแมวหลายตัวเข้าไปถามว่าเจ้ากำลัง
 
รอสิ่งใดหรือ ทุกครั้งพวกแมวเหล่านั้นตอบว่า
 
 
 “รอบางอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นสิ่งใด ยามใดที่เส้นขอบฟ้าเปิดยามนั้นจะมีคำตอบ…”
 
 
แมวรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็มานั่งตรงจุดนี้เพื่อรอคอยเจ้าแมวสีดำ ตราบนานเท่านาน  แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าแมวสีดำไป
 
ชั่วนิรันดร์
 
 
ฝ่ายเจ้าแมวสีดำ มันรู้สึกตัวอีกทีบนพื้นดินเย็นชืด ท้องฟ้าสีหม่น ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ ไม่มีเสียงของธรรมชาติ
 
และไม่มีเสียงของหัวใจ มันรู้ทันทีว่าตอนนี้มันเป็นอมตะแล้ว มันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้สึกถึงความรักและความ
 
เสียสละถึงแม้มันจะพยายามเท่าใดก็ตามความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ไม่อาจรู้สึกได้ แต่กลับยิ่งลืมความรู้สึกเหล่านั้น
 
ไปทุกทีๆ จนในที่สุดมันก็ลืมความรู้สึกเหล่านั้น มันลืมทุกอย่างลืมแม้กระทั่งลมหายใจ แต่มันยังรู้สึกได้ว่ามี
 
บางสิ่งรอมันอยู่ภายหลังท้องฟ้าสีหม่นนั่น มันเฝ้านั่งรอทุกเช้าเย็นรอให้ครบ 100 ปี มันจะเริ่มร้องกลอนๆนี้
 
ทุกครั้ง ทุกวัน โดยที่มันลืมไปแล้วเพลงนี้เป็นของใคร และร้องทำไม ร้องเพื่อสิ่งใด แต่มันก็คงร้องต่อไปทุก
 
วัน
 
 
“ดินแดนแห่งนี้ที่ว่างเปล่า ดินแดนแห่งนี้ที่เงียบเหงา ดอกไม้เริ่มเฉาตาย หลายชีวาวาย
 
ตายลงทีละหน่อย แต่เรายังรอคอย ความหวัง...” 
 
 การรอคอย แต่มันช่างนานแสนนานเหลือเกิน มันยังคงโดดเดี่ยวและอ้างว้างท่ามกลางเกาะอันเป็นนิรันดร์ที่ไม่
 
มีกลางวัน ไม่มีสิ่งมีชีวิต ไม่มีเสียงหัวใจเต้น ไม่มีความรัก ความเสียสละ และไม่มีซึ่งความรู้สึกใดใด ไป
 
ชั่วนิรันดร์….
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา