เส้นขอบฟ้าแห่งกาลเวลา

8.1

เขียนโดย moohin

วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.41 น.

  3 ตอน
  10 วิจารณ์
  16.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    โลกใบนี้มีทั้งโศกเศร้า ดีใจ ผิดหวัง สมหวัง รัก เกลียด หลายๆอย่างที่เมื่อมีด้านดีและก็มีด้านเสียคู่กัน

 

 

ไป หากเราอยู่ด้านที่ดีก็คงจะดีไป หากเราอยู่ด้านที่เสียใจมันคงไม่ดีหรอก อย่างเรื่องราวในเรื่องสั้นเรื่องนี้...

 

เรื่อง เส้นขอบฟ้าแห่งการเวลา

         

      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วยังมีเกาะอันอ้างว้างและเปล่าเปลี่ยวเกาะหนึ่ง นามว่าเกาะอันเป็นนิรันดร์ เกาะ

 

 

 

แห่งนี้ประกอบไปด้วยท้องฟ้าสีมืดครึ้ม ท้องทะเลสีหม่น เป็นเกาะที่ไม่มีเสียงร้องของธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นหอม

 

 

 

ของดอกไม้ ไม่มีเสียงหัวเราะใดใดของสิ่งมีชีวิต และไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ…. แมวสีดำตัวหนึ่งมันนั่งเหงา

 

 

 

เปล่าเปลี่ยวอยู่บนโขดหิน สายตาของมันทอดไปในท้องทะเลอันมืดมิด ทอดออกไปไกล…แสนไกล… ไร้ซึ้งจุด

 

 

 

หมาย นับเป็นเวลานานมากแล้วที่มันอาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้โดยไม่ออกไปพบกับใครเลย มันมีความหลังที่น่าจด

 

 

 

จำ ความหลังที่ขมขื่น ไร้ซึ่งคำอธิบาย มันต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆในเกาะแห่งนี้ อยู่ไปเรื่อยๆให้นานที่สุด

 

 

 

โดยไม่มีวันจบสิ้น หลายชีวิตขานนามของมันว่าแมวอมตะ ….

 

 

 

      ในเกาะอันใกล้เคียงกันนั่นเอง ยังมีเกาะอีกเกาะหนึ่ง นามว่าเกาะแห่งความเบิกบาน เกาะแห่งนี้เต็มไป

 

 

 

ด้วยสีสันอันงดงาม  ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ปุยเมฆสีขาวใส ท้องทะเลสีครามระยิบระยับประดุจดังผืนน้ำที่ถูกโปรย

 

 

 

ไปด้วยเพชรเม็ดเล็กอันล้ำค่า เป็นเกาะที่มีเสียงร้องของธรรมชาติขับกล่อมทั้งยามกลางวันและกลางคืน มีกลิ่น

 

 

 

หอมของดอกไม่นานาชนิด มีเสียงหัวเราะของสิ่งมีชีวิตระงมไปทั่วผืนป่า และมีลมหายใจอยู่ทุกชั่วยาม ใน

 

 

 

เกาะแห่งนี้ยังมีแมวสีขาวตัวหนึ่งถึงแม้ว่าทั้งชีวิตของมันจะไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่ได้ยินเสียงขับกล่อมของ

 

 

 

ธรรมชาติ มันไม่เคยโดดเดี่ยวและอ้างว้าง มันมีเพื่อนมีครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่ในใจของแมวน้อยยังคง

 

 

 

สงสัยเสมอว่าภายหลังเส้นขอบฟ้าที่มองแล้วสวยงามแต่กลับซ่อนเร้นไปด้วยความลับนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ทุกเย็น

 

 

 

มันจะมานั่งดูเส้นขอบฟ้าที่นี่รอคอยให้เส้นขอบฟ้านั้นเปิดออก มันหวังใจว่าสักวันหนึ่งสิ่งที่มันต้องการคำตอบนั้น

 

 

 

จะถูกเปิดออก เกาะแห่งนี้อยู่ใกล้กับเกาะอันเป็นนิรันดร์เพียงฟ้ากั้น ทุกๆ 100 ปีเส้นขอบฟ้าจะนำพาเกาะทั้ง

 

 

 

สองมาพบกัน และจะสามรถพบกันได้เพียง 7 วันเท่านั้น …จึงเป็นสาเหตุให้แมวสีขาวเฝ้ารอทุกเช้าเย็นเฝ้ารอ

 

 

 

ในสิ่งที่มันไม่อาจรับรู้ว่ามันกำลังรออะไร และเพื่ออะไร….

 

 

 

         วันหนึ่งขณะที่แมวสีดำนั่งเหมอมองท้องฟ้าที่ไม่มีวันจะมีสีอันสวยงาม มันเห็นบางอย่างปลิวละล่องมากับ

 

 

 

สายลมอันเหงาหงอย!!! มันเป็นกลีบกุหลาบสีชมพูอันหอมหวาน นานมากแล้วที่แมวสีดำไม่เคยได้เห็นดอกไม้

 

 

 

ถึงแม้มันไม่อาจรับรู้ว่ากลิ่นของดอกไม้ดอกนี้เป็นเช่นไร แต่มันก็พอจะจินตนาการได้ว่าคงหอมหวานละมุนละไม

 

 

 

เหมือนสีของมัน มันแปลกใจและสงสัยมาก หลายสิ่งกลายอย่างวนเวียนในหัวของมัน ดอกไม้นี้มาจากไหน

 

 

 

กันนะ? พลันใดนั้นสายลมที่พัดพากลีบกุหลาบมาก็ได้กลับมาอีกครั้ง เหมือนกับว่ารู้ใจของเจ้าแมวว่ากำลังต้อง

 

 

 

การสิ่งใด… แมวสีดำไม่รอช้ามันวิ่งตามสายลมนั้นไปอย่างรวดเร็วด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมว่าจะได้พบกับคำ

 

 

 

ตอบ และแล้วจู่ๆ สายลมนั้นก็กลับโหมกระหน่ำหนักหน่วงขึ้น!! สายลมได้หอบเอาเจ้าแมวสีดำไป ภายในสาย

 

 

 

ลมนั้น มันหมุนติ้วๆ ชวนให้เจ้าแมวอ้วกเสียเหลือเกิน ก่อนที่สายลมนั้นจะหยุดเจ้าแมวก็รู้สึกว่ามันเริ่มมองไม่

 

 

 

เห็น ภาพต่างๆรอบตัวมันเริ่มมืดลงๆ จนในที่สุดก็หายไป….

 

 

 

      ในขณะเดียวกันที่เกาะแห่งความเบิกบานแมวสีขาวก็นั่งเหม่อลอยที่เดิม สายตาของมันยังจับจ้องไปที่เส้น

 

 

 

ขอบฟ้าด้วยความหวังเหมือนเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา แต่วันนี้มันรู้สึกตื่นเต้นกว่าทุกวัน เพราะอะไรน่ะหรือ?

 

 

 

เพราะวันนี้เป็นวันครบ 100 ปี เส้นขอบฟ้าอันน่าสงสัยจะถูกเปิดออก เจ้าแมวมันนั่งรอด้วยความตื่นเต้น…. จู่ๆ

 

 

 

มันก็เห็นพายุลูกใหญ่หอบอะไรบางอย่างมาลมพัดแรงมาก เส้นขอบฟ้าที่สวยงามกลับหายไป เหลือไว้เพียงแค่

 

 

 

ท้องฟ้าสีหม่นๆ  ลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงมากขึ้นๆ และเครื่อนตัวเข้ามาไกล้ทุกทีๆ เจ้าแมวสีขาวทั้งกลัวทั้ง

 

 

 

อยากรู้อยากเห็น ด้วยความที่อยากเห็นมากจนเกินไปหรือเพราะเจ้าแมวรอคอยโอกาสนี้มานานมันไม่สนใจ

 

 

 

อันตรายใดใดทั้งนั้นมันรีบวิ่งตรงไปยังพายุลมลูกนั้นทันที !!

 

 

 

       และแล้วเจ้าแมวทั้งสองก็ได้เจอกัน ตัวหนึ่งมาจากโลกที่มืดมนไร้ซึ่งความรักและความรู้สึก อีกตัวหนึ่งมา

 

 

 

จากโลกที่สดใสเต็มไปด้วยชีวิตและจิตใจ ครั้งแรกที่พวกมันทั้งสองเจอกัน สายตาทั้งสองได้จ้องมองกัน  ความ

 

 

 

รู้สึกแปลกๆก็ได้เกิดขึ้นความรู้สึกที่เจ้าแมวทั้งสองไม่เคยได้รู้สึก  เป็นความรู้สึกที่ทั้งสองตามหามาตลอด…

 

 

 

เมื่อเจ้าแมวทั้งสองตั้งสติได้ก็เล่าถึงสิ่งที่มันทั้งสองเคยพบมาเล่าถึงความเป็นอยู่  เจ้าแมวสีดำบอกว่า

 

 

 

“ นี่น่ะหรือ เกาะแห่งความเบิกบาน นี่น่ะหรือที่มาของกลีบดอกไม้ดอกนี้ นาน…นานเหลือ

 

 

 

เกิน ที่ข้าไม่ได้พบบรรยากาศเหล่านี้ เสียงร้องธรรมชาติ กลิ่นอายของดอกไม้ และ..เสียง

 

 

 

หัวใจเต้น….”

 

 

 

เจ้าแมวสีขาว งุนงง กับคำพูดของเจ้าแมวสีดำเหลือเกิน ชีวิตของมันตั้งแต่เกิดไม่เคยรู้สึกเลยว่าเวลาไม่มีเสียง

 

 

 

หัวใจเต้นนั้นเป็นเช่นไร

 

 

 

“เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ มีด้วยหรือยามที่ไม่มีเสียงหัวใจเต้น?”

 

 

 

“มีสิ แต่อย่ารับรู้เลย การที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นนั้นมันทรมานนัก ข้าอิจฉาเจ้าเสียเหลือ

 

 

 

เกินที่มีหัวใจ..”

 

 

 

เจ้าแมวสีขาวไม่เข้าใจในสิ่งที่แมวสีดำพูด แต่สิ่งที่มันสงสัยคือสถานที่ที่เจ้าแมวสีดำจากมานั้นเป็นเช่นไร

 

 

 

“แล้วสถานที่ที่เจ้าจากมามันไม่มีเสียงเหล่านี้หรอกหรือ ?”

 

 

 

“สถานที่ที่ข้าจากมา เป็นดินแดนที่สุดแสนจะอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ไร้ซึ่งเสียงของธรรมชาติ

 

 

 

ไร้ซึ่งเสียงของหัวใจ”

 

 

 

เจ้าแมวสีดำทอดสายตาอันว่างเปล่าไปที่เส้นขอบฟ้าก่อนที่จะแปลเปลี่ยนมาเป็นสายตาเฉยชาดังเดิม

 

 

 

“ข้าไม่อาจนึกภาพตามในสิ่งที่เจ้าพูด แต่ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด

 

 

 

กัน มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยให้เจ้าสมความปรารถนาหรือไม่?”

 

 

 

เจ้าแมวสีขาวพูดอย่างเต็มใจ ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสาร

 

 

 

“ข้าเพียงต้องการมาหาสิ่งที่ขาดหายไป”

 

 

 

“แล้วสิ่งใดเล่าที่มันขาดหายไปจากเจ้า...”

 

 

 

แมวสีดำเงียบ มันไม่เอ่ยปากพูดอะไร นอกจากส่งสายตาอันว่างเปล่านั้นออกมา ก่อนจะตอบด้วยเสียงอันแสน

 

 

 

เศร้า

 

 

 

“ข้ามีชีวิตอมตะมาเกือบร้อยปีแล้ว ชีวิตของข้านับร้อยปีนี้ ข้าสุดแสนจะอ้างว้างเปลี่ยว

 

 

 

เหงา ชีวิตอมตะของข้าไม่มีแม้แต่สักเสี้ยววินาทีที่จะรับรู้ว่ายามที่หัวใจเต้นนั้นเป็นเช่นไร

 

 

 

ข้าไม่อาจรับรู้ๆ ข้าไม่อาจรับรู้เลยจริงๆ…...”

 

 

 

เจ้าแมวสีขาวสงสารจับหัวใจ ทำไมหนอ โลกใบนี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก ทั้งชีวิตของมันไม่เคยรับรู้เลยว่าในยาม

 

 

 

ที่หัวใจไม่เต้นนั้นเป็นเช่นไร มันจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะมอบหัวใจของมันให้กับเจ้าแมวสีดำ

 

 

 

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เจ้าก็จงเอาหัวใจของข้าไปเถิด ข้าสงสารเจ้าเหลือเกิน…”

 

 

 

เจ้าแมวสีดำได้แต่ยิ้มจางๆ มันไม่ตอบตกลง กลับถามถึงดอกกุหลาบสีสวยนั่นจากเจ้าแมวสีขาว

 

 

 

“ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าเจ้ากลีบดอกไม้สีชมพูนั่นมันมาจากแห่งใดกัน…”

 

 

 

เจ้าแมวสีขาวไม่ตอบแต่เดินนำหน้าเจ้าแมวสีดำไปสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ซึ่งเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้อีก

 

 

 

นานาชนิด 

 

 

 

“สวย…. สวยเหลือเกินนับเป็นเวลานานเหลือเกินที่ข้าไม่เคยเห็นสิ่งที่งดงามขนาดนี้มาก่อน

 

 

 

แต่น่าเสียดายนัก ที่ข้าไม่อาจรับรู้ได้เลยว่ากลิ่นของมันนั้นจะหอมหวานขนาดไหนกัน….”

 

 

 

แววตาที่เคยเศร้าหมอง ตอนนี้กลับเปล่งประกายไปด้วยความสุข แมวสีขามภูมิใจมากที่ทำให้เจ้าแมวสีดำนั้นมี

 

 

 

ความสุข มันพยายามนึกคำตอบที่จะบอกเจ้าแมวสีดำถึงกลิ่นของดอกไม้

 

 

 

“กลิ่นของมันเป็นกลิ่นแห่งความสุข ละมุนละไม หอมหวาน ดังเช่นกับสีของมัน”

 

 

 

“ความสุขอย่างนั้นรึ?? เหอะๆ ข้าไม่เคยรับรู้เลยว่าความสุขนั้นเป็นเช่นไร แต่อย่างไรก็ขอ

 

 

 

ขอบใจเจ้ามากที่พยายามบอกถึงกลิ่นที่ข้าไม่อาจรับรู้ได้ในชีวิตนี้… ขอบใจมาก  ขอบใจ

 

 

 

จริงๆ”

 

 

 

    เจ้าแมวสีขาวยิ้มตอบก่อนจะเดินนำแมวสีดำไปในสถานที่อื่นๆ ที่งดงามยิ่งกว่า ไปฟังเสียงจากธรรมชาติ

 

 

 

ไปดูรอยยิ้มต่างๆของแมวตัวอื่นๆ ในเกาะ พาไปชิมรสชาติอาหารอันน่าพิสมัย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าแมวสี

 

 

 

ขาว พยายามสรรหามานั้น  เจ้าแมวสีดำไม่อาจรับรู้ได้เลยแม้แต่น้อย….

 

 

 

       7 วันผ่านไป…. เจ้าแมวทั้งสองก็ได้เที่ยวเวียนกลับมาที่จุดเดิมที่ที่พวกมันเจอกันครั้งแรก เจ้าแมวทั้งสอง

 

 

 

ทอดสายตาออกไปในทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทะเลอันสวยงาม มีเส้นขอบฟ้าสดใสแต่เต็มไปด้วย

 

 

 

ความหม่นหมองที่อยู่ภายใน…

 

 

 

“สิ่งที่เจ้าทำให้ข้าทั้งหมดนั้นเพื่อสิ่งใดกัน??”

 

 

 

เจ้าแมวสีดำถาม ดวงตาอันนิ่งเฉยยังคงนิ่งต่อไป….

 

 

 

“ถ้าข้าจะบอกเจ้าว่า สิ่งที่ข้าทำนั้นมันคือ รัก  เจ้าจะเข้าใจหรือไม?”

 

 

 

“รัก? มันคือสิ่งใดกัน” ดวงตาที่นิ่งเฉยกลับฉายแววความสงสัยขึ้นมาทันใด

 

 

 

 “เจ้าไม่มีหัวใจเจ้าไม่มีวันรู้สึกถึงความรู้สึกนี้หรอก มันเป็นเหมือนได้ดอมดมกลิ่นดอกไม้ที่

 

 

 

หอมหวานที่สุด เท่าที่ข้าเคยพบมา ทุกครั้งที่เจ้าหัวเราะ ยิ้ม มันเปรียบเสมือน เสียงอัน

 

 

 

ไพเราะที่ไม่อาจหาฟังที่ไหนได้อีก ”

 

 

 

“สิ่งที่เจ้าพูดนั้นข้าไม่อาจเข้าใจได้เลย เพราะ… ข้าไม่มีหัวใจ”

 

 

 

แววตาที่เคยสงสัยกลับสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกำลังจะร้องไห้แต่ไม่อาจร้องได้… ยิ่งทำให้เจ้าแมวสีขาว

 

 

 

สงสารจับใจมากขึ้น

 

 

 

“งั้นเจ้า… เอาหัวใจของข้าไปเถิด ข้าอยากให้เจ้ารับรู้ถึงความรักที่ข้าได้รู้สึก ว่าเป็นเช่น

 

 

 

ไร”

 

 

 

เป็นครั้งที่สองที่เจ้าแมวสีขาวยื่นข้อเสนอขึ้นแต่ปฏิกิริยาสายตาของเจ้าแมวสีดำยังคงเป็นเช่นเดิม เฉยชาและอ้าง

 

 

 

ว้างก่อนจะตอบว่า

 

 

 

“ไม่หรอก… ถึงแม้ข้าจะต้องการหัวใจเพียงใด ข้าก็ไม่อาจแย่งชิงหัวใจจากเจ้ามา ข้ารู้ ว่า

 

 

 

การไม่มีหัวใจนั้นมันเป็นเช่นไร มันทรมานแสนสาหัส ไม่อาจรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ได้เลย

 

 

 

หากข้าเอาหัวใจของเจ้ามาเจ้าก็จะรู้สึกถึงความทรมานอย่างที่ข้าเป็น ข้าไม่อาจทำร้ายคน

 

 

 

ที่…. รักข้าได้หรอก ถึงแม้ข้าไม่อาจรับรู้ว่าความรู้สึกรักนั้นเป็นเช่นไร แต่ข้าคิดว่ามันต้อง

 

 

 

เป็นความรู้สึกที่ดีเป็นแน่ อย่าเลยนะ ข้าไม่อยากให้เจ้ารับรู้ถึงความทรมานที่ข้าเป็น…”

 

 

 

    สิ้นเสียงแมวสีดำพูดน้ำตาที่เจ้าแมวสีขาวกลั้นไว้นานแสนนาน ได้หลั่งไหลออกมา อย่างไร้ซึ่งความอาย

 

 

 

ในความรู้สึกมันอยากจะตะโกนถามโลกใบนี้ว่า เหตุใดถึงทำร้ายเจ้าแมวสีดำได้รุนแรงขนาดนี้… เจ้าแมวสีดำ

 

 

 

ตกใจมาก มันไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะและมันก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตา มันปรารถนาที่จะสัมผัสกับน้ำตาสีใสนั้น

 

 

 

มันเอื้อมมือมาด้วยความปรารถนาดี แต่แล้วกลับถูกฟ้าดินลงโทษ มันถูกลมพายุอันใหญ่หลวงหอบเอาร่างของ

 

 

 

มันกลับไปยังโลกของมันดังเดิม สายตาของมันยังไม่ละจากใบหน้าของเจ้าแมวสีขาวมันไม่อาจรับรู้แม้กระทั่ง

 

 

 

สัมผัสแห่งน้ำตา…. มันตะโกนก้องในหัวใจแต่กลับดังสนั่นจนเจ้าแมวสีขาวได้ยิน

 

 

 

“ขอบใจเจ้ามากที่มอบความรัก ความรู้สึกที่ชีวิตของข้าไม่อาจรับรู้ได้ ขอบใจเจ้ามากจริงๆ

 

 

 

ข้าหวังใจว่าสักวันเราจะได้พบกันอีก ลาก่อนนะ ….”

 

 

 

    เจ้าแมวสีขาวได้ยินดังนั้นก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมมันเสียใจมากความรู้สึกเสียใจที่มันไม่เคยรู้สึกได้มากขนาด

 

 

 

นี้  สายตาของมันมองตามร่างของเจ้าแมวสีดำไปจนสุดสายตา  ต่อแต่นี้ไปมันทั้งสองจะได้พบกันหรือไม่ ต่อแต่นี้

 

 

 

ไปเจ้าแมวสีดำคงจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกอันมืดมนนั้นต่อไปนานเท่าใดไม่อาจรับรู้ได้…..

 

 

 

      หลังจากวันนั้นเจ้าแมวทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีก เจ้าแมวสีขาวมันมักจะมานั่งเหม่อมองออกไปที่เส้นขอบฟ้า

 

 

 

ทุกวันๆ โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สิ่งที่มันรอคอยนั้นจะกลับมาอีก

 

 

 

     ส่วนเจ้าแมวสีดำมันก็มานั่งเหม่อมองออกไปในท้องทะเลอันมืดมิดต่อไปโดยไม่อาจรับรู้ได้ว่าสิ่งที่มันรอคอย

 

 

 

นั้นจะหวนกลับมาเมื่อไหร่ ไม่อาจรับรู้รู้ถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ ไม่อาจรับรู้ถึงสัมผัสแห่งน้ำตา ไม่อาจรับรู้ถึง

 

 

 

ลมหายใจ และไม่อาจรับรู้ถึงเสียงหัวใจเต้นไปตลอดกาล….

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา