กาลครั้งหนึ่ง…ความรัก

9.3

เขียนโดย WhenSasukefollowers

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 18.30 น.

  1 ตอน
  2 วิจารณ์
  4,567 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 18.32 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) งกาลครั้งหนึ่ง…ความรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ปลายปากกาของชายชราจรดลงบนหน้ากระดาษของไดอารี่เล่มหนา ภายใต้ความสว่างของแสงไฟที่สะรั่วๆในห้องนอนของบ้านหลังใหญ่ 
พร้อมกับกลิ่นไอของสายฝนที่กำลังโปรยปลายลงมาปรอยๆ มันทำให้เขาหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวในอดีต ชายชราเล่าผ่านปลายปากกาของเขาว่า...
   
         เรื่องราวมันได้เริ่มต้นขึ้น ที่ ป้ายรถเมย์โทรมๆแห่งหนึ่ง ในยามราตรีที่เงียบเหงา มีเพียงเสียง ก๊อกแก๊ก ของลม ที่พัดให้ข้าวของกระทบกัน 
และเสียงรถยนตร์ ที่วิ่งผ่านไปมาเพียงไม่กี่คันเท่านั้น มันดูเหมือนจะเป็นวันที่แสนสุดจะโชคร้ายของโต้งเด็กหนุ่มซื่อบื้อไปเสียแล้วที่รถเมย์คันสุดท้าย
เพิ่งจะออกไปเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะมาถึงโดยที่เขาเองยังไม่รู้ตัวเลย แต่ก็คงเป็นเพราะแว่นสายตาที่มันล่วงล่นลงพื้นในวินาทีนั้น 
ที่ทำให้วันที่เกือบจะโชคร้ายกลับกลายเป็นวันที่วิเศษสุด โดยที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน....ในขณะที่โต้งนั่งคลำหาแว่นตาที่ร่วงหล่นอยู่นั้น 
หญิงสาวที่เพิ่งเดินผ่านมาก็ก้มลงเก็บแว่นตาขึ้นมาให้

 "หานี้อยู่ใช่ไหม ?"  เธอพูดพร้อมกลับยื่นแว่นที่โต้งกำลังคลำหาอยู่มาให้
"อ๋อ ใช่ๆ ขอบคุณนะครับ" 

โต้งตอบกลับพร้อมกับรับแว่นจากมือเธอโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคนที่หยิบแว่นมาให้เป็นใคร เพราะความพล่ามัวของสายตาที่มันทำให้เขามองได้ไม่ถนัดนัก 
แต่ทันทีที่โต้งสวมใส่มัน ทำให้เขามองเห็นเธอชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คือเจน เขาไม่อาจจะละสายตาไปจากเธอได้เลย 
เธอช่างงดงามและมีเสน่ห์เกินกว่าผู้หญิงคนไหนๆที่โต้งเคยเห็น เขามองแต่เพียงใบหน้าของเธอตาไม่กระพริบ จนไม่ทันได้สังเกตมือของเจนที่ยื่นส่งมาให้ 
เพื่อหวังจะช่วยพะยุ่งให้โต้งลุกขึ้น

"นาย นาย นินาย!! ลุกขึ้นซิ" เจนต้องร้องเรียก เพื่อให้สติของโต้งกลับคืนมา 
"อ่อ!!" โต้งสะดุ้งกับเสียงเรียกของเจน 

โต้งยื่นมือไปให้เจนแล้วลุกขึ้นตามความหวังดี ทั้งสองคนลุกขึ้นมาพร้อมกัน เจน มองหน้าโต้งแล้วยิ้มให้กับท่าทีของโต้งที่กำลังเขินอายเธออยู่จนสังเกตได้

 "สายตาสั้นเท่าไหร่หรอ" เจนหันไปถามอย่างยิ้มแย้ม ในขณะที่โต้งได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบ 
"450 ครับ"

สิ้นสุดคำตอบนั้นก็ทำให้ป้ายรถเมย์โทรมๆ แห่งนี้ เงียบลงไปครู่ใหญ่ มีแต่เพียงเสียงของหัวใจโต้งเท่านั้น ที่เต้นดังไม่เป็นจังหวะ 
ก่อนที่โต้งจะตัดสินใจหันไปถามเจนเพื่อกลบเกลือนความเงียบสงัดนั้น 

"รอรถเมย์ อยู่หรอ" 
"ป่าวซะหน่อย ดึกป่านนี้แล้วไม่มีรถเมย์ให้รอแล้วล่ะ"เจนหันมาตอบ 
เมื่อโต้งได้ยินคำตอบก็ทำหน้าฉงนกับคำตอบ ที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก 
"ก็หมายความว่า รถหมดแล้วไง" เจนอธิบาย
"รถหมด!" 

โต้งตกใจกับคำตอบของเจน ทำให้เขาลืมตัวเงยหน้าขึ้นไปมองเจน โดยลืมความเขินอายเมื่อครู่ไปจนสนิทใจ 

"ใช่ซิ รถหมดแล้ว ไม่เห็นจะต้องตกใจเลย" 
"ก็ถ้ารถหมด แล้วเราจะกลับบ้านยังไงล่ะ" โต้งถามด้วยท่าทีรนราน 
"ก็เดินกลับไง" 

เจนตอบพร้อมกับเดินออกไปจากป้ายรถเมย์ ในขณะที่โต้งยังคงยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ 

"นิ รออะไรล่ะ มานี่ซิ"  เจนพูดพร้อมเดินกลับไปจูงมือโต้งให้เดินมาด้วยกัน 

.......................................................................

           ทั้งสองคนเดินไปด้วยกันภายใต้แสงสีส้มนวลๆของไฟบนสะพานสูงที่กำลังส่องแสงสะท้อนลงไปในแม่น้ำจนเป็นแสงระยิบระยับราวกับดาวบนท้องฟ้า
มันทำให้ถนนในยามค่ำคืนสายนี้ดูสวยและผิดแปลกไปจากยามกลางวันราวกับคนละสถานที่ เจน เดินนำหน้าโต้งมาด้วยท่าทีที่ร่าเริง ประดุจว่าที่แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
 ไม่ต่างอะไรจากโต้งที่กำลังเดินตามหลังมา โต้งมองดูและชื่นชมกับความงามยามค่ำคืน ณ ที่แห่งนี้จนลืมเรื่องราวอันแสนเลวร้ายในตลอดวันที่ผ่านมา 

"สวยใช่ไหมล่ะ?" เสียงของเจนที่หันกลับมาถามโต้งอย่างร่าเริง 
"ใช่ สวย สวยมากเลยล่ะ อันที่จริงเราก็กลับทางนี้ทุกวันนะ แต่ไม่เคยเห็นวันไหนไม่สวยเท่าวันนี้เลย" 

โต้งทำท่าจะพร่ำต่อ แต่เจนที่เดินนำหน้าไป หันกลับมา จู่ๆ ใส่ 
"เงียบก่อน แล้วมาฟังอะไรนี่"

เจนพูดจบแล้วรีบวิ่งไปที่ขอบสะพาน เธอสูดลมหายใจเหือกใหญ่ แล้วหลับตาพริ้ม เธอกำลังเคลิบเคลิ้มไปกลับบรรยากาศของแม่น้ำในยามค่ำคืน ก่อนที่โต้งจะมาขัดจังหวะแห่งความสุขนั้น 

"ฟังอะไรหรอ ไม่เห็นจะได้ยินเสียงอะไรเลย" เจนถอนหายใจแล้วตอบคำถามของโต้ง 
"ไม่ใช่เสียงแบบนั้น นายลองหลับตาสิ " 

โต้งทำหน้างุนงง เจนจึงเอามือไปปิดตาให้โต้งแล้วถามว่า 

"ได้ยินไหม" โต้งลืมตาขึ้น แล้วตอบ 
"ได้ยินซิ ปิดตานะไม่ได้ปิดหู จะไม่ได้ยินได้ยังไงล่ะ" โต้งตอบแบบซื่อๆ
"ไม่ใช่! หมายถึงว่า ได้ยินเสียงของความสุขไหม ในใจเธอน่ะ..." โต้งยังคงงงกับคำพูดของเจน 
เจนจึงอธิบายต่อ 
"ก็เวลาที่เราปิดหู ปิดปาก ปิดตา แล้ว…เปิดใจออกให้กว้างๆน่ะ" เจนพูดพร้อมกับจับไปที่หัวใจของโต้งแล้วพูดต่อ
"เราก็จะได้ยินเสียงของข้างในเนี้ย ลองฟังเสียงของหัวใจนายดูสิ ว่ามันบอกนายว่า มีความสุขไหม" 
โต้งหลับตาลงอีกครั้งแล้วตอบ
 "สุข…สุขมากเลยล่ะ" 

.......................................................................

            สิ้นสุดกาลเวลาของดวงจันทร์ เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ณ โรงเรียนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้คน เอ็กซ์นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างของห้องเรียน โดยมีโต้งนั่งอยู่บนเก้าอี้
“จากที่กูฟังมึงเล่านะไอ้โต้ง กูสันนิฐานว่าที่มึงเจอเมื่อคืนเนี้ย ไม่เป็นผีก็คนบ้าแล้วล่ะ มึงลองคิดดูดิ คนดีๆที่ไหนจะออกมาเดินกับคนแปลกหน้าตอนดึกๆดื่นๆ ใครที่ไหนเขาทำกัน”
 เอ็กซ์พูดแสดงความคิดเห็นหลังจากได้ฟังเรื่องที่เกิดกับโต้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่โต้งจะแย้ง “ก็ถ้าเป็นเป็นผีอย่างที่มึงว่า เธอก็คงเป็นผีที่น่ารักที่สุดแล้วล่ะ” โต้งพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
 “อืม หน้าหม้อนะมึงเนี้ย ว่าแต่…เธอคนนั้นของมึง เขาชื่ออะไรว่ะ” เอ็กซ์ถามพร้อมกับกระโดดจากขอบหน้าต่างมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆโต้ง เพื่อหวังจะฟังคำตอบแบบชัดๆ 
“เออ…คือ…กูก็ยังไม่รู้เลยว่ะ แต่! กูอยากเจอเขาอีกครั้ง มึงช่วยกูหน่อยนะ” “เออๆๆๆ  มีทางเดียวอ่ะ มึงต้องกลับไปในที่ ที่มึงเจอเขา แต่ก็ไม่แน่นะ เขาอาจจะไม่มาแล้วก็ได้” 
โต้งทำหน้าผิดหวังเมื่อได้ยินคำพูดของเอ็กซ์ “เห้ย! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะไม่เจอนี่หว่า มึงเคยได้ยินไหม do  you believe in destiny ? มึงต้องเชื่อมั่น เรื่องของพรหมลิขิตน่ะ”
 เอ็กซ์พูดพร้อมกับตบที่บ่าโต้งเพื่อนรักเบาๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา