กาลครั้งหนึ่ง…ความรัก
เขียนโดย WhenSasukefollowers
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 18.30 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 18.32 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) งกาลครั้งหนึ่ง…ความรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ปลายปากกาของชายชราจรดลงบนหน้ากระดาษของไดอารี่เล่มหนา ภายใต้ความสว่างของแสงไฟที่สะรั่วๆในห้องนอนของบ้านหลังใหญ่
พร้อมกับกลิ่นไอของสายฝนที่กำลังโปรยปลายลงมาปรอยๆ มันทำให้เขาหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวในอดีต ชายชราเล่าผ่านปลายปากกาของเขาว่า...
เรื่องราวมันได้เริ่มต้นขึ้น ที่ ป้ายรถเมย์โทรมๆแห่งหนึ่ง ในยามราตรีที่เงียบเหงา มีเพียงเสียง ก๊อกแก๊ก ของลม ที่พัดให้ข้าวของกระทบกัน
และเสียงรถยนตร์ ที่วิ่งผ่านไปมาเพียงไม่กี่คันเท่านั้น มันดูเหมือนจะเป็นวันที่แสนสุดจะโชคร้ายของโต้งเด็กหนุ่มซื่อบื้อไปเสียแล้วที่รถเมย์คันสุดท้าย
เพิ่งจะออกไปเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะมาถึงโดยที่เขาเองยังไม่รู้ตัวเลย แต่ก็คงเป็นเพราะแว่นสายตาที่มันล่วงล่นลงพื้นในวินาทีนั้น
ที่ทำให้วันที่เกือบจะโชคร้ายกลับกลายเป็นวันที่วิเศษสุด โดยที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน....ในขณะที่โต้งนั่งคลำหาแว่นตาที่ร่วงหล่นอยู่นั้น
หญิงสาวที่เพิ่งเดินผ่านมาก็ก้มลงเก็บแว่นตาขึ้นมาให้
"หานี้อยู่ใช่ไหม ?" เธอพูดพร้อมกลับยื่นแว่นที่โต้งกำลังคลำหาอยู่มาให้
"อ๋อ ใช่ๆ ขอบคุณนะครับ"
โต้งตอบกลับพร้อมกับรับแว่นจากมือเธอโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคนที่หยิบแว่นมาให้เป็นใคร เพราะความพล่ามัวของสายตาที่มันทำให้เขามองได้ไม่ถนัดนัก
แต่ทันทีที่โต้งสวมใส่มัน ทำให้เขามองเห็นเธอชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คือเจน เขาไม่อาจจะละสายตาไปจากเธอได้เลย
เธอช่างงดงามและมีเสน่ห์เกินกว่าผู้หญิงคนไหนๆที่โต้งเคยเห็น เขามองแต่เพียงใบหน้าของเธอตาไม่กระพริบ จนไม่ทันได้สังเกตมือของเจนที่ยื่นส่งมาให้
เพื่อหวังจะช่วยพะยุ่งให้โต้งลุกขึ้น
"นาย นาย นินาย!! ลุกขึ้นซิ" เจนต้องร้องเรียก เพื่อให้สติของโต้งกลับคืนมา
"อ่อ!!" โต้งสะดุ้งกับเสียงเรียกของเจน
โต้งยื่นมือไปให้เจนแล้วลุกขึ้นตามความหวังดี ทั้งสองคนลุกขึ้นมาพร้อมกัน เจน มองหน้าโต้งแล้วยิ้มให้กับท่าทีของโต้งที่กำลังเขินอายเธออยู่จนสังเกตได้
"สายตาสั้นเท่าไหร่หรอ" เจนหันไปถามอย่างยิ้มแย้ม ในขณะที่โต้งได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบ
"450 ครับ"
สิ้นสุดคำตอบนั้นก็ทำให้ป้ายรถเมย์โทรมๆ แห่งนี้ เงียบลงไปครู่ใหญ่ มีแต่เพียงเสียงของหัวใจโต้งเท่านั้น ที่เต้นดังไม่เป็นจังหวะ
ก่อนที่โต้งจะตัดสินใจหันไปถามเจนเพื่อกลบเกลือนความเงียบสงัดนั้น
"รอรถเมย์ อยู่หรอ"
"ป่าวซะหน่อย ดึกป่านนี้แล้วไม่มีรถเมย์ให้รอแล้วล่ะ"เจนหันมาตอบ
เมื่อโต้งได้ยินคำตอบก็ทำหน้าฉงนกับคำตอบ ที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก
"ก็หมายความว่า รถหมดแล้วไง" เจนอธิบาย
"รถหมด!"
โต้งตกใจกับคำตอบของเจน ทำให้เขาลืมตัวเงยหน้าขึ้นไปมองเจน โดยลืมความเขินอายเมื่อครู่ไปจนสนิทใจ
"ใช่ซิ รถหมดแล้ว ไม่เห็นจะต้องตกใจเลย"
"ก็ถ้ารถหมด แล้วเราจะกลับบ้านยังไงล่ะ" โต้งถามด้วยท่าทีรนราน
"ก็เดินกลับไง"
เจนตอบพร้อมกับเดินออกไปจากป้ายรถเมย์ ในขณะที่โต้งยังคงยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่
"นิ รออะไรล่ะ มานี่ซิ" เจนพูดพร้อมเดินกลับไปจูงมือโต้งให้เดินมาด้วยกัน
.......................................................................
ทั้งสองคนเดินไปด้วยกันภายใต้แสงสีส้มนวลๆของไฟบนสะพานสูงที่กำลังส่องแสงสะท้อนลงไปในแม่น้ำจนเป็นแสงระยิบระยับราวกับดาวบนท้องฟ้า
มันทำให้ถนนในยามค่ำคืนสายนี้ดูสวยและผิดแปลกไปจากยามกลางวันราวกับคนละสถานที่ เจน เดินนำหน้าโต้งมาด้วยท่าทีที่ร่าเริง ประดุจว่าที่แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ไม่ต่างอะไรจากโต้งที่กำลังเดินตามหลังมา โต้งมองดูและชื่นชมกับความงามยามค่ำคืน ณ ที่แห่งนี้จนลืมเรื่องราวอันแสนเลวร้ายในตลอดวันที่ผ่านมา
"สวยใช่ไหมล่ะ?" เสียงของเจนที่หันกลับมาถามโต้งอย่างร่าเริง
"ใช่ สวย สวยมากเลยล่ะ อันที่จริงเราก็กลับทางนี้ทุกวันนะ แต่ไม่เคยเห็นวันไหนไม่สวยเท่าวันนี้เลย"
โต้งทำท่าจะพร่ำต่อ แต่เจนที่เดินนำหน้าไป หันกลับมา จู่ๆ ใส่
"เงียบก่อน แล้วมาฟังอะไรนี่"
เจนพูดจบแล้วรีบวิ่งไปที่ขอบสะพาน เธอสูดลมหายใจเหือกใหญ่ แล้วหลับตาพริ้ม เธอกำลังเคลิบเคลิ้มไปกลับบรรยากาศของแม่น้ำในยามค่ำคืน ก่อนที่โต้งจะมาขัดจังหวะแห่งความสุขนั้น
"ฟังอะไรหรอ ไม่เห็นจะได้ยินเสียงอะไรเลย" เจนถอนหายใจแล้วตอบคำถามของโต้ง
"ไม่ใช่เสียงแบบนั้น นายลองหลับตาสิ "
โต้งทำหน้างุนงง เจนจึงเอามือไปปิดตาให้โต้งแล้วถามว่า
"ได้ยินไหม" โต้งลืมตาขึ้น แล้วตอบ
"ได้ยินซิ ปิดตานะไม่ได้ปิดหู จะไม่ได้ยินได้ยังไงล่ะ" โต้งตอบแบบซื่อๆ
"ไม่ใช่! หมายถึงว่า ได้ยินเสียงของความสุขไหม ในใจเธอน่ะ..." โต้งยังคงงงกับคำพูดของเจน
เจนจึงอธิบายต่อ
"ก็เวลาที่เราปิดหู ปิดปาก ปิดตา แล้ว…เปิดใจออกให้กว้างๆน่ะ" เจนพูดพร้อมกับจับไปที่หัวใจของโต้งแล้วพูดต่อ
"เราก็จะได้ยินเสียงของข้างในเนี้ย ลองฟังเสียงของหัวใจนายดูสิ ว่ามันบอกนายว่า มีความสุขไหม"
โต้งหลับตาลงอีกครั้งแล้วตอบ
"สุข…สุขมากเลยล่ะ"
.......................................................................
สิ้นสุดกาลเวลาของดวงจันทร์ เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ณ โรงเรียนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้คน เอ็กซ์นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างของห้องเรียน โดยมีโต้งนั่งอยู่บนเก้าอี้
“จากที่กูฟังมึงเล่านะไอ้โต้ง กูสันนิฐานว่าที่มึงเจอเมื่อคืนเนี้ย ไม่เป็นผีก็คนบ้าแล้วล่ะ มึงลองคิดดูดิ คนดีๆที่ไหนจะออกมาเดินกับคนแปลกหน้าตอนดึกๆดื่นๆ ใครที่ไหนเขาทำกัน”
เอ็กซ์พูดแสดงความคิดเห็นหลังจากได้ฟังเรื่องที่เกิดกับโต้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่โต้งจะแย้ง “ก็ถ้าเป็นเป็นผีอย่างที่มึงว่า เธอก็คงเป็นผีที่น่ารักที่สุดแล้วล่ะ” โต้งพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
“อืม หน้าหม้อนะมึงเนี้ย ว่าแต่…เธอคนนั้นของมึง เขาชื่ออะไรว่ะ” เอ็กซ์ถามพร้อมกับกระโดดจากขอบหน้าต่างมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆโต้ง เพื่อหวังจะฟังคำตอบแบบชัดๆ
“เออ…คือ…กูก็ยังไม่รู้เลยว่ะ แต่! กูอยากเจอเขาอีกครั้ง มึงช่วยกูหน่อยนะ” “เออๆๆๆ มีทางเดียวอ่ะ มึงต้องกลับไปในที่ ที่มึงเจอเขา แต่ก็ไม่แน่นะ เขาอาจจะไม่มาแล้วก็ได้”
โต้งทำหน้าผิดหวังเมื่อได้ยินคำพูดของเอ็กซ์ “เห้ย! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะไม่เจอนี่หว่า มึงเคยได้ยินไหม do you believe in destiny ? มึงต้องเชื่อมั่น เรื่องของพรหมลิขิตน่ะ”
เอ็กซ์พูดพร้อมกับตบที่บ่าโต้งเพื่อนรักเบาๆ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ