แท็กซี่ผี

7.6

เขียนโดย sospyTk

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17.22 น.

  4 session
  6 วิจารณ์
  9,467 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
           ราวครึ่งชั่วโมงแท็กซี่ก็ไปถึงลาดพร้าวและส่งอุ้มลงที่บ้าน  ต๋องเห็นอุ้มลงจากรถไปโดยไม่หันกลับมามองที่เขาอีกเลย  และเขาก็ไม่รู้สึกโกรธ เพราะอยากให้อุ้ม เข้าบ้านไปเร็วๆ มากกว่า  บางทีถ้าเธอคิดมากหรือหวาดกลัวอะไรไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรศัพท์คุยกันก็ได้
           เมื่อไม่มีอุ้มในรถแล้ว...ต๋องเริ่มหันไปคุยกับโชเฟอร์รถแท็กซี่เพื่อทำลายความเงียบ  และบางทีเขาอาจจะถามเรื่องบางอย่างที่ยังคงคาใจอยู่
           "พี่ๆ ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมแฟนผลนั่งแท็กซี่คันนี้ แล้วหวาดๆ กลัวๆ พิลึก" ต๋ิองเปิดฉาก
           คนขับบอกว่า เขาเริ่มเห็นเป็นหนุ่มสาวหน้าตาเศร้าๆ นั่งคนละด้านของรถ โดยมีต๋องกับแฟน (ซึ่งก็คืออุ้ม) นั่งอยู่ตรงกลางเบียดกันแน่น ขณะที่หนุ่มหน้าเศร้านั้นนั่งอยู่ริมด้านที่ต๋องนั่งอยู่ และสาวหน้าอมทุกข์อีกคนนั่งอยู่ทางด้านที่อุ้มแฟนสาวของต๋อง
           แค่นี้ก็ทำให้ต๋องหันซ้ายหันขวา แล้วบอกคนขับแท็กซี่ว่า "พี่ๆ ผมก็กลัวเหมือนกัน พี่พูดอะไรน่ะ"
           โชเฟอร์ยืนยันว่าเขาเห็นอย่างที่เขาพุดจริงๆ พร้อมกับห่อไหล่สะบัดหน้าด้วยความกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  
           "คุณครับ  ผมไม่ไหวแล้ว  กลัวเหลือเกิน เดี๋ยวขอแวะปั๊มน้ำมันข้างทางนี่ก่อน ขอหยุดทำใจแป๊ปหนึ่ง" ยังพูดไม่ทันขาดคำ โชเฟอร์ปอดแหกก็วกหัวรถเข้าปั๊มน้ำมันข้างทางเข้าไปจอดในจุดว่างๆ แล้วกระโจนลงจากรถแท็กซี่ แล้วไปยืนสูบบุหรี่อีกมุมแล้ว
           "อยู่ไม่ได้เหมือนกันโว้ย" ต๋องพูดกับตัวเองได้แค่นั้นก็กระโจนออกจากเบาะหลังรถไปยืนสูบบุหรี่ข้างๆ คนขับแท็กซี่ที่ยืนหอบซี่โครงบานเพราะทั้งเหนื่อยและทั้งกลัวกับสิ่งที่เพิ่งมองเห็น
            โชเฟอร์แท็กซี่บอกกับต๋องว่า  เขาไม่รู้จะเอาไงต่อไปดี  เพราะต้องขับรถแบบหวาดๆ ทั้งคืนแน่ๆ แถมสารภาพว่าส่งต๋องถึงที่หมายแล้วเขาคงยิ่งเหงาและยิ่งหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นแน่ๆ เพราะตอนนั้นคงไม่มีเพื่อนคุยแบบ ต๋องอีกแล้ว
            ทั้งสองคนคุยกันเบาๆ เหมือนกลัวใครที่อยู่ในเบาะหลังแท็กซี่สีเหลืองจะได้ยิน
            ระหว่างนั้นคนขับแท็กซี่ยืนยันว่า  รถคันที่เขาขับนั้นไม่มีประวัติชนหนัก  หรือคว่ำ  หรือมีคนตายในรถแต่อย่างใด  เพราะมันเป็นรถใหม่เอี่ยมแกะกล่อง  แต่ถ้าจะมีวิญญาณหรือผีอะไรสักอย่างมาอยู่ที่รถได้ก็คงเป็นเพราะมันออกมาจากนรกขุมไหนสักแห่งแล้วมาขึ้นรถเขาก่อนที่จะผลุบๆ โผล่ๆ มาให้เห็นตอนที่มีผู้โดยสารอย่างต๋องกับแฟนสาวนี่เอง
            เมื่อบุหรี่หมดมวน...ความกล้าเริ่มมากขึ้น  ทั้งผู้โดยสารหนุ่ม และโชเฟอร์วัยกลางคนก็ตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน  ยังไงก็ต้องไปส่งผู้โดยสารก่อน  จากนั้นก็ว่ากันต่อที่หลัง
            ว่าแล้ว  หนุ่มต่างวัยทั้งคู่ก็กลับไปที่รถ  สตาร์ทมันแล้วก็พุ่งออกไปตามถนนท่ามกลางรถจำนวนมาก   ในช่วงใกล้ๆ ตีสองที่ฝนยังคงตกพรำๆ เหมือนช่วยเร่งให้บรรยากาศของความสยดสยองเพิ่มดีกรีความสะท้านเยือกมากยิ่งขึ้นไปอีก
            ต๋องกับโชเฟอร์แท็กซี่คุยกันเพลิน  และทำให้ความกลัวหล่นหายไปตามทางได้เยอะแยะ  ก่อนที่จะพบว่าโชเฟอร์แท็กซี่ขับรถหลงไปที่ย่านไหนสักแห่งที่ต๋องเองก็ไม่รู้จัก และไม่แน่ใจว่าจะเรียกมันว่าอะไร
            "พี่ๆ นี่ใช่เส้นทางไปพระโขนงหรือเปล่า ?" ต๋องถามเพราะกลัวว่าจะหลงทาง
            "เออ จริงซิ เผลอคุยเพลิน เลยไปถึงไหนแล้วเนี่ยเรา" คนขับก็งงๆ เหมือนกัน
            "สงสัยไปผิดทางมั้งพี่" ต๋องบอก
            "งั้นเดี๋ยวขอผมจอดตั้งสติก่อนนะครับ"  คนขับบอกอย่างใจเย็น
            "ดีเหมือนกัน" ต๋องคิดแบบนั้นเพราะขืนขับต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่หลงทางก็จะยิ่งเข้ารกเข้าพงกันใหญ่
 
 
อิอิ  เดี๋ยวมาต่อนะคร๊ะ  ใกล้จบแล้วแหละ  
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา