Summer Sundae
9.0
8) no tear but unhappiness
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ผมก็ไม่มีน้ำตาอีกแล้ว แต่ฃีวิตของผมกลับหาความสุขไม่ ผมยังคงสาหัสกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ ดูสิ น้ำหนักที่เคยพุ่งกระฉูด กลับลดลงอย่างน่าใจหาย ผมแทบจะเหลือแต่กระดูก เจอใครๆก็ทักว่า ผมผอมไปเยอะมาก อย่างเช่นวันนี้ คุณเดดซี เจ้าประจำของผม ก็ทักเช่นกัน
"อ้าว กระปรี้กระเปร่าหน่อยสิ ยิ้มหน่อย" ผมได้แต่ยิ้มจืดๆ และพอเมื่อเสิร์ฟไอศกรีมเสร็จ ผมก็กลับไปในห้องไอศกรีมเหมือนเดิม ผมจึงคิดสูตรหนึ่ง ที่มาจากใจผมเอง ผมไม่หวังว่าให้คุณเชฟฮาร์ตมากินไอศกรีมรสนี้หรอกนะ แต่ผมหวังว่า หากใครสักคนได้กินไปแล้ว จะจำอดีตที่หอมหวานได้ เหมือนกับผม
ลูกอมลูกกวาดหลากสีคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่โยเกิร์ตลงไป ต้องเป็นโยเกิร์ตธรรมชาติ ผมก็นำส่วนผสมไปปั่นรวมกัน จากนั้นก็วิปครีม ผลไม้ต่างๆ อย่างสตอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ส้ม กีวี แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ขาดไม่ได้เลยคือ กล้วยหอม จากนั้นก็ปั่นรวมกันอีก และพอได้ที่แล้วก็ลองชิมดู มันอร่อย และมันทำให้ผมรู้สึกยิ้มบางๆ จากนั้นตกแต่งด้วยวิปครีม อมยิ้ม และลูกเชอร์รี่เชื่อมน้ำตาล โรยซอสสตอเบอร์รี่ และท็อปปิ้งสีรุ้ง นี่ครับ Memories Sundae
ลูกค้าพอเห็นสูตรนี้ก็สั่งกันกระหน่ำจนผมปั่นไอศกรีมแทบไม่ทัน ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยและชวนให้นึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กตอนที่กินไอศกรีมครั้งแรก ผมเองก็คิดแบบนั้น แต่ผมคิดมากกว่านั้น นอกจากผมจะนึกถึงตอนเด็กของผมแล้ว คุณก็รู้นี่ครับ จุดประสงค์ของไอศกรีมถ้วยนี้ ผมหมายถึงใคร
วันหนึ่ง ผมได้รับจดหมายจากใครสักคน ให้มาที่ห้างสรรพสินค้านิวแอค แทนติค เพื่อมาดูงานแสดงไอศกรีม ผมก็อยากรู้สูตรเด็ดของไอศกรีมแต่ละเจ้าอยู่แล้ว ผมจึงตัดสินใจไป
เมื่อมาถึงงาน ผมรู้สึกว่า มันดูยิ่งกว่าคนธรรมดาอย่างผมจะเข้าไปได้ ผมเดินเข้าไปในตัวงานก็พบคนมากมายหลากตา แต่งตัวซะคนละระดับกับผมเลย นี่มันร้านไอศกรีมระดับแนวหน้าของโลกเพียบอื้อ ผมจึงไม่แปลกใจที่ร้านเล็กๆของผม ไม่สามารถเข้ามาในงานแบบนี้ได้เลย
เมื่องานเริ่ม ตลอดจนงานเลิก ก็ไม่ยักกะมีราชินีไอศกรีมมาปรากฎโฉมเลย ผมคิดว่าก็ดีแล้วล่ะ อย่ามาให้เจอกันเลย ผมอาจจะยัง...ทำใจไม่ได้
แต่ระหว่างที่ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน แสงแฟลชประโคมจากแถวไหนไม่รู้กระหน่ำมาทางนู้น ผมไม่อยากไปยุ่งกับเขาหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่ธุระของผม เขาเล่ากันว่าเชฟฮาร์ตจะแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่นามว่าแบร์รี่ ลุชชี่ ผมก็ไม่สนใจ ทั้งๆที่ใจมันเจ็บแปลบๆ
กลับมาบ้าน ผมนอนไม่หลับ เพราะผมคิดถึงเรื่องที่เชฟฮาร์ตแต่งงานกับคนอื่น ผมคิดว่าก็ดีแล้วล่ะ ที่เค้ามีคนรู้ใจ แต่ทำไม เชฟฮาร์ตมาหลอกผมได้ เอ.. รึว่าเราคิดกับเขาข้างเดียว
วันรุ่งขึ้น ผมเปิดร้านไอศกรีมเหมือนอย่างเคย จู่ๆ แบร์รี่ ลุชชี่ ก็มาหาผมถึงร้าน
"ใช่คุณวอเตอร์เรย์รึเปล่า"
"ครับ" เขาจึงเชิญชวนให้ผมมาที่ร้านอาหารส่วนตัวของเขา
ผมไปที่ร้านอาหารส่วนตัวของเขา เขาให้ผมสั่งอาหารแพงๆ ผมกินไม่ลงอ่ะ และเขายิ้ม พูดว่า
"กินไม่ลงเหรอครับ"
"เอ่อ ครับ" ผมก็ยิ้มแบบคนซื่อๆไป
"ร้านอาหารที่นี่ เกรดเอนะครับ คนประเภทพวกคุณเนี่ย คงจะกระอักกระอ่วนใจ ถึงกับกินไม่ลงนะครับ ก็เงี้ยะแหละครับ คนจน" ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วล่ะ เริ่มรู้สึกกลิ่นมันทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้ และลุชชี่เริ่มพูดต่อไปอีก "นี่ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงนะ ผมคงพาเข้าโรงแรม นอนกันเสร็จก็จ่ายเงิน" โชคดีรึเปล่าวะ ที่เป็นผู้ชาย
"คุณทำแบบนี้ เพื่ออะไร" ลุชชี่ตอบแบบผู้ดีว่า
"ก็ ผมเห็นว่าคุณ ทำตัวเป็นพวกเด็ดดอกฟ้า ทั้งที่ไม่ได้เจียมกะลาหัวว่าคุณเป็นใคร เขาเป็นใคร ผมล่ะสมเพชความรักแบบนี้จริงๆ" ผมเดือดมาก ตบโต๊ะเสียงดัง
"พวกหน้าเงินอย่างคุณ ไม่เข้าใจความรักบริสุทธิ์ของคนจนๆอย่างผมหรอก อำนาจเงินบังตา ก็มีแต่ความรักที่หลอกลวง ผมเสียใจนะครับ ที่เชฟฮาร์ตเลือกคนผิด" เขาแสยะยิ้มและพูดว่า
"ประโยคนี้ เหมือนผมได้ยินจากปากของเชฟฮาร์ตนะครับ เธอไม่ชอบผู้ชายรวย แต่สุดท้าย เธอก็ยอมแต่งงานกับผม เพราะเธอขาดเงิน" เขาหัวเราะสะใจอย่างมาดผู้ดี "เชฟฮาร์ตอย่างเก่งก็ผู้หญิงจอมปอกลอกนะครับ คนอ้วนอย่างคุณ ก็แค่ทางผ่าน" ผมทุบโต๊ะอีกครั้ง
"คุณอย่าว่าคุณเชฟฮาร์ตของผมนะ" ลุชชี่ยิ้มลึกๆ
"เป็นชู้รักกันตอนไหนเหรอครับ มีอะไรกันแล้วเหรอ" ผมตะลึง ไม่นึกเลย ว่าผู้ชายที่ทำงานธุรกิจ คงจะเป็นแบบนี้ล่ะสินะ เชฟฮาร์ตคงลำบากใจไม่น้อย ที่เจอคู่ครองแย่ๆ และลุชชี่พูดต่อไปอีกว่า "อีกไม่นาน เชฟฮาร์ตก็จะแต่งงาน ผมขอเชิญคุณมาสั่งเสียกับเชฟฮาร์ตเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ก่อนที่คุณ จะไม่ได้ครองตัวเธอ ไปตลอดกาล" ประโยคหลังเจ็บสุดยอด นี่คือตัวตนที่แท้จริงของลุชชี่
To Be Continue
"อ้าว กระปรี้กระเปร่าหน่อยสิ ยิ้มหน่อย" ผมได้แต่ยิ้มจืดๆ และพอเมื่อเสิร์ฟไอศกรีมเสร็จ ผมก็กลับไปในห้องไอศกรีมเหมือนเดิม ผมจึงคิดสูตรหนึ่ง ที่มาจากใจผมเอง ผมไม่หวังว่าให้คุณเชฟฮาร์ตมากินไอศกรีมรสนี้หรอกนะ แต่ผมหวังว่า หากใครสักคนได้กินไปแล้ว จะจำอดีตที่หอมหวานได้ เหมือนกับผม
ลูกอมลูกกวาดหลากสีคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่โยเกิร์ตลงไป ต้องเป็นโยเกิร์ตธรรมชาติ ผมก็นำส่วนผสมไปปั่นรวมกัน จากนั้นก็วิปครีม ผลไม้ต่างๆ อย่างสตอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ส้ม กีวี แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ขาดไม่ได้เลยคือ กล้วยหอม จากนั้นก็ปั่นรวมกันอีก และพอได้ที่แล้วก็ลองชิมดู มันอร่อย และมันทำให้ผมรู้สึกยิ้มบางๆ จากนั้นตกแต่งด้วยวิปครีม อมยิ้ม และลูกเชอร์รี่เชื่อมน้ำตาล โรยซอสสตอเบอร์รี่ และท็อปปิ้งสีรุ้ง นี่ครับ Memories Sundae
ลูกค้าพอเห็นสูตรนี้ก็สั่งกันกระหน่ำจนผมปั่นไอศกรีมแทบไม่ทัน ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยและชวนให้นึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กตอนที่กินไอศกรีมครั้งแรก ผมเองก็คิดแบบนั้น แต่ผมคิดมากกว่านั้น นอกจากผมจะนึกถึงตอนเด็กของผมแล้ว คุณก็รู้นี่ครับ จุดประสงค์ของไอศกรีมถ้วยนี้ ผมหมายถึงใคร
วันหนึ่ง ผมได้รับจดหมายจากใครสักคน ให้มาที่ห้างสรรพสินค้านิวแอค แทนติค เพื่อมาดูงานแสดงไอศกรีม ผมก็อยากรู้สูตรเด็ดของไอศกรีมแต่ละเจ้าอยู่แล้ว ผมจึงตัดสินใจไป
เมื่อมาถึงงาน ผมรู้สึกว่า มันดูยิ่งกว่าคนธรรมดาอย่างผมจะเข้าไปได้ ผมเดินเข้าไปในตัวงานก็พบคนมากมายหลากตา แต่งตัวซะคนละระดับกับผมเลย นี่มันร้านไอศกรีมระดับแนวหน้าของโลกเพียบอื้อ ผมจึงไม่แปลกใจที่ร้านเล็กๆของผม ไม่สามารถเข้ามาในงานแบบนี้ได้เลย
เมื่องานเริ่ม ตลอดจนงานเลิก ก็ไม่ยักกะมีราชินีไอศกรีมมาปรากฎโฉมเลย ผมคิดว่าก็ดีแล้วล่ะ อย่ามาให้เจอกันเลย ผมอาจจะยัง...ทำใจไม่ได้
แต่ระหว่างที่ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน แสงแฟลชประโคมจากแถวไหนไม่รู้กระหน่ำมาทางนู้น ผมไม่อยากไปยุ่งกับเขาหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่ธุระของผม เขาเล่ากันว่าเชฟฮาร์ตจะแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่นามว่าแบร์รี่ ลุชชี่ ผมก็ไม่สนใจ ทั้งๆที่ใจมันเจ็บแปลบๆ
กลับมาบ้าน ผมนอนไม่หลับ เพราะผมคิดถึงเรื่องที่เชฟฮาร์ตแต่งงานกับคนอื่น ผมคิดว่าก็ดีแล้วล่ะ ที่เค้ามีคนรู้ใจ แต่ทำไม เชฟฮาร์ตมาหลอกผมได้ เอ.. รึว่าเราคิดกับเขาข้างเดียว
วันรุ่งขึ้น ผมเปิดร้านไอศกรีมเหมือนอย่างเคย จู่ๆ แบร์รี่ ลุชชี่ ก็มาหาผมถึงร้าน
"ใช่คุณวอเตอร์เรย์รึเปล่า"
"ครับ" เขาจึงเชิญชวนให้ผมมาที่ร้านอาหารส่วนตัวของเขา
ผมไปที่ร้านอาหารส่วนตัวของเขา เขาให้ผมสั่งอาหารแพงๆ ผมกินไม่ลงอ่ะ และเขายิ้ม พูดว่า
"กินไม่ลงเหรอครับ"
"เอ่อ ครับ" ผมก็ยิ้มแบบคนซื่อๆไป
"ร้านอาหารที่นี่ เกรดเอนะครับ คนประเภทพวกคุณเนี่ย คงจะกระอักกระอ่วนใจ ถึงกับกินไม่ลงนะครับ ก็เงี้ยะแหละครับ คนจน" ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วล่ะ เริ่มรู้สึกกลิ่นมันทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้ และลุชชี่เริ่มพูดต่อไปอีก "นี่ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงนะ ผมคงพาเข้าโรงแรม นอนกันเสร็จก็จ่ายเงิน" โชคดีรึเปล่าวะ ที่เป็นผู้ชาย
"คุณทำแบบนี้ เพื่ออะไร" ลุชชี่ตอบแบบผู้ดีว่า
"ก็ ผมเห็นว่าคุณ ทำตัวเป็นพวกเด็ดดอกฟ้า ทั้งที่ไม่ได้เจียมกะลาหัวว่าคุณเป็นใคร เขาเป็นใคร ผมล่ะสมเพชความรักแบบนี้จริงๆ" ผมเดือดมาก ตบโต๊ะเสียงดัง
"พวกหน้าเงินอย่างคุณ ไม่เข้าใจความรักบริสุทธิ์ของคนจนๆอย่างผมหรอก อำนาจเงินบังตา ก็มีแต่ความรักที่หลอกลวง ผมเสียใจนะครับ ที่เชฟฮาร์ตเลือกคนผิด" เขาแสยะยิ้มและพูดว่า
"ประโยคนี้ เหมือนผมได้ยินจากปากของเชฟฮาร์ตนะครับ เธอไม่ชอบผู้ชายรวย แต่สุดท้าย เธอก็ยอมแต่งงานกับผม เพราะเธอขาดเงิน" เขาหัวเราะสะใจอย่างมาดผู้ดี "เชฟฮาร์ตอย่างเก่งก็ผู้หญิงจอมปอกลอกนะครับ คนอ้วนอย่างคุณ ก็แค่ทางผ่าน" ผมทุบโต๊ะอีกครั้ง
"คุณอย่าว่าคุณเชฟฮาร์ตของผมนะ" ลุชชี่ยิ้มลึกๆ
"เป็นชู้รักกันตอนไหนเหรอครับ มีอะไรกันแล้วเหรอ" ผมตะลึง ไม่นึกเลย ว่าผู้ชายที่ทำงานธุรกิจ คงจะเป็นแบบนี้ล่ะสินะ เชฟฮาร์ตคงลำบากใจไม่น้อย ที่เจอคู่ครองแย่ๆ และลุชชี่พูดต่อไปอีกว่า "อีกไม่นาน เชฟฮาร์ตก็จะแต่งงาน ผมขอเชิญคุณมาสั่งเสียกับเชฟฮาร์ตเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ก่อนที่คุณ จะไม่ได้ครองตัวเธอ ไปตลอดกาล" ประโยคหลังเจ็บสุดยอด นี่คือตัวตนที่แท้จริงของลุชชี่
To Be Continue
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ