เอาล่ะนะ
8.0
เขียนโดย jundee
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 11.51 น.
3 chapter1
9 วิจารณ์
9,407 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 15.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อ5ปีก่อนในคืนหนึ่งที่ฉันอกหักรักคุดเพราะหนุ่มที่คบกันมานานเขามองไม่เห็นภาพอนาคตร่วมกันกับฉันบอกเลิก ฉันเสียใจสุดซึ้ง
ร้องไห้มาตั้งแต่บ่าย จนเลิกงานก็ไม่หาย โทรฯตามหาเพื่อนๆทุกคนและเที่ยวกันอย่างสนุกสนานตามที่ต่างๆ ยกเว้นฉันเพียงคนเดียวที่เที่ยวแบบเหมือนจะตายให้ได้ เหมือนหมาที่เจ้าของเอาไปปล่อยทิ้งให้เดินสะเปสะปะและเจ็บช้ำใจ ดึกมากจนทุกคนขอตัวกลับกันหมด ฉันยังนั่งซบกับอกอวบและยิ่งใหญ่ด้วยน้ำหนักกว่า125กิโลกรัมของหนุ่ย เพื่อนเพียงคนเดียวที่นั่งเฝ้าดูฉันเมาหัวราน้ำในผับชื่อ that it แถวซอยศาลาแดง
"เอาน่าจัน..พอได้แล้วจากินให้มันได้อะไรเนี้ย จะหมดขวดแล้วนะ" หนุ่ยเตือนฉัน ที่สภาพในตอนนั้นคงเหมือนอีบ้าคนหนึ่ง ตาบวมปูด เพราะร้องไห้มาไม่ต่ำกว่า8ชั่วโมง หนุ่ยเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย เป็นคนที่จัดว่าไอคิวเลิศมากๆ แต่อีคิวตก คุณพ่อคุณแม่ของหนุ่ยท่านเป็นอาจารย์ทั้งคู่ ท่านแทบจะอุ้มฉันเข้าบ้านในตอนที่หนุ่ยพาฉันไปถามหาหนังสือที่ต้องการกับคุณแม่ของเขา
"อุ้ยหนูเป็นเพื่อนหนุ่ยเหรอจ๊ะ ดีจัง แม่เป็นห่วงเรื่องเพื่อนๆกับเขามาก ต่อให้คบเด็กแว้นหรือขี้ยาแม่ก็ไม่ว่าจ่ะ( เฮ้อ! คุณแม่ขา หนูไม่เลวขนาดนั้นหรอกค่ะ ..) เพราะแม่อยากให้เขามีเพื่อนบ้างฯลฯ" สาระพัดที่แม่หนุ่ยจะบอก หนุ่ยไม่เคยคบเพื่อนเลย อยู่แต่กับหนังสือมาเกือบตลอดเวลา และหนุ่ยก็เป็นแหล่งข้อมูลในการเรียนของฉันไปตั้งแต่นั้นมา.....
"ยุ่งโว้ย หมดก็เปิดใหม่สิ ชั๊นกำลังอกหักนะ แค่นี้แกจะเลี้ยงชั๊นไม่ได้เหรอ?" น้าน...ตัวเองอกหัก ยังไม่วายงกได้อีกฉัน ขนาดเมาแล้วยังไม่ลืมวางหมากให้เพื่อนจ่ายอีก ทั้งๆที่เขาไม่ได้กินด้วยเลย แถมตอนมีความสุขก็แทบจะไม่เคยเรียกหา ..หนุ่ยได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ปล่อยให้ฉันตะกายมือกอดมันอย่างรำคาญ ตัวหนุ่ยใหญ่และอ้วนมาก ทำให้ฉันรู้สึกดี อบอุ่นและปลอดภัย เหมือนนั่งเก้าอี้วีไอพีในโรงหนังบัตรราคาเกินครึ่งพันอย่างไรอย่างนั้น ในช่วงนั้นเพลงก็เล่นsome body love. ฉันเกิดบ้านึกครึ้มใจ นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่เคยดู จูเลีย โรเบิรต์เล่น และบ้ามากๆที่เอ่ยพูดคำๆหนึ่งออกไป
"หนุ่ย นับจากวันนี้ไป5ปี หากเราสองคนไม่มีใคร เรามาแต่งงานกันนะ" โอ้ยผีเจาะปากมาพูด!
ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะพูดออกไปอย่างนั้น
หนุ่ยแกะมือฉันออกจากคอ (เพราะมันเป็นเพียงที่เดียวที่ฉันกอดได้รอบ) จ้องมองหน้าฉันแทบไม่เชื่อสายตา ที่เห็นฉันจ้องมองตรงๆเหมือนย้ำคำว่า "ตรูตั้งใจจริงๆ" ...ก่อนถอนหายใจ "แล้วพูดว่า "จัน จันเมามากนะ แต่หนุ่ยจะจำคำๆนี้เอาไว้ แล้วจะถามจันอีกครั้งใน5ปีข้างหน้า" ฉันจับมือกับหนุ่ย เป็นการตกลง ก่อนเริ่มดื่ม และร้องไห้ต่อไปอย่างสิ้นหวังในชีวิต.....
ร้องไห้มาตั้งแต่บ่าย จนเลิกงานก็ไม่หาย โทรฯตามหาเพื่อนๆทุกคนและเที่ยวกันอย่างสนุกสนานตามที่ต่างๆ ยกเว้นฉันเพียงคนเดียวที่เที่ยวแบบเหมือนจะตายให้ได้ เหมือนหมาที่เจ้าของเอาไปปล่อยทิ้งให้เดินสะเปสะปะและเจ็บช้ำใจ ดึกมากจนทุกคนขอตัวกลับกันหมด ฉันยังนั่งซบกับอกอวบและยิ่งใหญ่ด้วยน้ำหนักกว่า125กิโลกรัมของหนุ่ย เพื่อนเพียงคนเดียวที่นั่งเฝ้าดูฉันเมาหัวราน้ำในผับชื่อ that it แถวซอยศาลาแดง
"เอาน่าจัน..พอได้แล้วจากินให้มันได้อะไรเนี้ย จะหมดขวดแล้วนะ" หนุ่ยเตือนฉัน ที่สภาพในตอนนั้นคงเหมือนอีบ้าคนหนึ่ง ตาบวมปูด เพราะร้องไห้มาไม่ต่ำกว่า8ชั่วโมง หนุ่ยเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย เป็นคนที่จัดว่าไอคิวเลิศมากๆ แต่อีคิวตก คุณพ่อคุณแม่ของหนุ่ยท่านเป็นอาจารย์ทั้งคู่ ท่านแทบจะอุ้มฉันเข้าบ้านในตอนที่หนุ่ยพาฉันไปถามหาหนังสือที่ต้องการกับคุณแม่ของเขา
"อุ้ยหนูเป็นเพื่อนหนุ่ยเหรอจ๊ะ ดีจัง แม่เป็นห่วงเรื่องเพื่อนๆกับเขามาก ต่อให้คบเด็กแว้นหรือขี้ยาแม่ก็ไม่ว่าจ่ะ( เฮ้อ! คุณแม่ขา หนูไม่เลวขนาดนั้นหรอกค่ะ ..) เพราะแม่อยากให้เขามีเพื่อนบ้างฯลฯ" สาระพัดที่แม่หนุ่ยจะบอก หนุ่ยไม่เคยคบเพื่อนเลย อยู่แต่กับหนังสือมาเกือบตลอดเวลา และหนุ่ยก็เป็นแหล่งข้อมูลในการเรียนของฉันไปตั้งแต่นั้นมา.....
"ยุ่งโว้ย หมดก็เปิดใหม่สิ ชั๊นกำลังอกหักนะ แค่นี้แกจะเลี้ยงชั๊นไม่ได้เหรอ?" น้าน...ตัวเองอกหัก ยังไม่วายงกได้อีกฉัน ขนาดเมาแล้วยังไม่ลืมวางหมากให้เพื่อนจ่ายอีก ทั้งๆที่เขาไม่ได้กินด้วยเลย แถมตอนมีความสุขก็แทบจะไม่เคยเรียกหา ..หนุ่ยได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ปล่อยให้ฉันตะกายมือกอดมันอย่างรำคาญ ตัวหนุ่ยใหญ่และอ้วนมาก ทำให้ฉันรู้สึกดี อบอุ่นและปลอดภัย เหมือนนั่งเก้าอี้วีไอพีในโรงหนังบัตรราคาเกินครึ่งพันอย่างไรอย่างนั้น ในช่วงนั้นเพลงก็เล่นsome body love. ฉันเกิดบ้านึกครึ้มใจ นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่เคยดู จูเลีย โรเบิรต์เล่น และบ้ามากๆที่เอ่ยพูดคำๆหนึ่งออกไป
"หนุ่ย นับจากวันนี้ไป5ปี หากเราสองคนไม่มีใคร เรามาแต่งงานกันนะ" โอ้ยผีเจาะปากมาพูด!
ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะพูดออกไปอย่างนั้น
หนุ่ยแกะมือฉันออกจากคอ (เพราะมันเป็นเพียงที่เดียวที่ฉันกอดได้รอบ) จ้องมองหน้าฉันแทบไม่เชื่อสายตา ที่เห็นฉันจ้องมองตรงๆเหมือนย้ำคำว่า "ตรูตั้งใจจริงๆ" ...ก่อนถอนหายใจ "แล้วพูดว่า "จัน จันเมามากนะ แต่หนุ่ยจะจำคำๆนี้เอาไว้ แล้วจะถามจันอีกครั้งใน5ปีข้างหน้า" ฉันจับมือกับหนุ่ย เป็นการตกลง ก่อนเริ่มดื่ม และร้องไห้ต่อไปอย่างสิ้นหวังในชีวิต.....
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ