ค่าของบาท
7.7
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมนั่งนับเศษตังค์ที่เกลื่อนกระจายอยู่บนตักโดยมีเสื้อยืดของผมเป็นเครื่องรองรับน้ำหนักได้อย่างดี แขนทั้งสองเปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลหยดร่วงลงมาสู่กางเกงวอร์มสีดำ เสียงรถเคลื่อนตัวผ่านไปมาคันแล้วคันเล่าโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซื้อพวงมาลัยที่แขวนอยู่บนราวท่อแป๊บน้ำสีฟ้า พรุ่งนี้ผมจะต้องส่งเงินค่าแผงให้กับตำรวจที่คุมพื้นที่แห่งนี้ ท้องผมร้องโอดครวญด้วยความหิว เงินทั้งหมดที่มียังไม่พอประทังความอยากได้เลยแม้แต่น้อย ผมจะทำอย่างไรดี ผมนั่งร้อยพวงมาลัยด้วยมือที่ชุ่มน้ำเหงื่อประกอบกับเลียริมฝีปากไม่ได้แห้งจากการกระหายน้ำจนเกินไป " กับข้าวมาแล้วจ้ากับข้าว " เสียงรถกับข้าวร้องเรียกผู้คนให้มาซื้อของที่แขวนอยู่ภายในรถโดยมี ปลาทู ปลาเค็ม ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักชี และอื่นๆอีกมากมายที่ไว้สำหรับทำอาหารกินกันเองที่บ้าน ผมนั่งมองถุงปลาทูตัวโตที่แขวนอยู่บนตะขอเหล็กพลางจินตนาการถึงตอนที่ปลาทูทอดอยู่บนกระทะส่งกลิ่นหอมโชยฟุ้งแตะจมูก กินกับข้าวสุกสีขาวร้อนๆคงอร่อยน่าดูเชียว ผมได้แต่กลืนน้ำลายร่วงลงคอดังเอื๊อกพลันก้มหน้างุดดูเงินบนฝ่ามือ ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่กำเงินในมือแล้วเตรียมตัวเก็บแผงพวงมาลัยกลับบ้าน พระอาทิตย์ตอนนี้กำลังอัสดง แสงสีส้มโรยตัวแผ่ปกคลุมแผงพวงมาลัยที่ตอนนี้มันว่างเปล่า " ยังขาดอีกสองร้อย " ผมพึมพำในขณะที่เดินเลียบฟุตปาธ มือขวากุมท้องแบนๆ มือซ้ายประคองท่อน้ำพลาสติกสีฟ้าที่มีพวงมาลัยสอดอยู่สิบห้าพวง ผมเดินพารองเท้าแตะหูหนีบซอมซ่อผ่านสี่แยกประจำที่คุ้นเคย ตลอดข้างทางมีตึกราบ้านช่องเรียงกันเป็นตับแทนต้นไม้สีเขียวที่แต่ก่อนเราเคยร่วมทุกข์ยากด้วยกันบนถนนสายนี้ ปี๊นนนนนน ปี๊นนนนนน เสียงแตรรถลากเสียงยาวจนแสบแก้วหู ผมหันกลับไปมองด้านหลังทางต้นเสียง ภาพที่เห็นเป็นรถตำรวจกำลังบีบแตรเร่งรถยนต์คันสีขาวให้รีบเคลื่อนตัวออกไปโดยเร็ว ในขณะที่ไฟจราจรนั้นเพิ่งเป็นสีเขียวได้ไม่กี่นาที ความรีบเร่งหายไปสู่เบื้องหลัง ผมก้มหน้ามองจังหวะการเดินของตัวเอง มันเป็นการเก้า ซ้าย-ขวา ไปมาอยู่แบบเดิม ผมเลยลองเปลี่ยนเป็นขวา-ซ้าย แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ สายลมพัดกรูกราวประทะกับร่างอันเปราะบางของผม ความเย็นสบายช่วยคลายความร้อนและความเหนื่อยล้าให้หายมลายไป ผมทรุดตัวลงนั่งบนริมฟุตปาธลงมือทำหน้าที่แบบเดิมที่เคยกระทำก่อนถึงบ้าน ไฟแดงขึ้นแผดสีชัดเจน รถหยุดเคลื่อนล้อต่อเป็นกระบวนแถวยาว ผมก้าวเท้าเดินไล่เรียงขายพวงมาลัยจากคันแรกสู่คันที่สองและไล่ลงไปเรื่อยๆ บ้างหันมาเหลียวดู บ้างหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านทำเป็นไม่สนใจ ผมสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเพราะเกรงว่าไม่ทันรถจะวิ่งชนเอาเสียก่อน นั่นไง คนนั้นเลื่อนบานกระจกลงมาชูสองนิ้ว ผมรุดเดินไปอย่างรวดเร็ว แกะพวงมาลัยที่ติดพันกันให้หลุดออก ยื่นให้เขาสองพวง เขายื่นมือมารับแล้วส่งให้คนที่นั่งถัดไปจากเขาพลางสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงหมายหาเงินจ่ายค่าพวงมาลัย เขาควักแบงค์ร้อยยื่นกลับมาให้ ผมมองดูมันและส่ายหัวบอกเขาว่าไม่มีตังค์ทอน เขามุ่นคิ้วขณะมือถือแบงค์ค้างบนอากาศพลันทำท่าทีลังเล แสงไฟสีเขียวรางๆปรากฎอยู่แถวหางตา ผมเหลือบไปมอง รถกำลังเคลื่อนล้อตามกันออกไป เขาเก็บแบงค์ร้อย ปิดกระจกแล้วขับออกไปอย่างปกติ " เหลือสิบสามพวง ยังขาดอีกสองร้อย " ผมพึมพำกับตัวเองด้วยแววตาอันเศร้าหมอง ขาล้าเหลือเกิน หิวข้าวด้วย อยากกินข้าวกับน้ำพริกปลาทู ตัวโตๆเลยน่ะทอดให้เหลืองกรอบขดข้าวในหม้อร้อนๆตักใส่จานกระเบื้อง ใช้มือแกะปลาทูแล้วหยิบข้าวใส่เข้าปากอ้ำ ผมทำปากตามจินตนาการ น้ำตาไหลพรากพรั่งพรูออกมาเป็นสาย ผมทำได้แค่นี้เองหรือแค่เรียกร้องภายในใจ ผมเหนื่อยและหิวเหลือเกิน สายตาผมเหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินถือปีกไก่ย่างแทะกินอย่างเอร็ดอร่อยจนเหลือแต่ซากกระดูก เธอโยนมันทิ้งลงกับพื้น หมาจรจัดวิ่งเหยาะๆเข้ามาคาบเอาไป พลางชายตากลับมามองดูผม มันวิ่งหายลับไปกับเวลา ผมยกแขนขึ้นใส่เสื้อเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าที่เปรอะเปื้อน พร้อมกับสืดน้ำมูกกลับเข้าไปดังเก่า " อ้าไฟแดงแล้ว" ผมปลี่เดินกุลีกุจอเข้าไปบนถนน แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่ต้องการพวงมาลัยสวยๆ ไฟสีเขียวส่องแสงสาดกระทบที่หางตา ผมจึงเดินขึ้นบนฟุตปาธตามเดิมมุ่งหน้ากลับบ้าน ประตูไม้ที่แทบจะไม่เป็นประตูถูกเปิดออก มันเป็นกระต๊อบเสียกว่าเรียกว่าบ้าน หลังคาก็เป็นรูรั่วมีช่องโหว่ทำให้เห็นดวงดาวยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม ผมทอดตัวลงนอนใช้ตีนเขี่ยๆผ้าผืนบางที่เก่าคร่ำคร่ามาปกคลุมกายพลางคิดถึงเรื่องค่าเช่าแผงพวงมาลัยที่จ่าจะมาเก็บในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ หัวสมองผมหนักอึ้งและปวดตุ๊บๆที่ขมับข้างซ้ายเสมือนมีหัวใจมาเต้นข้างในหัวไม่หยุด ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ผมเอามือกุมหัวอย่างทุรนทุรายพลันข่มตาหลับโดยไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร แสงส่องกระทบเข้าที่เปลือกตา ผมรู้สึกว่าภายในตาเป็นสีส้มๆและรู้สึกอุ่นเล็กน้อยผมลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ เดินไปล้างหน้า แปรงฟัน เสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปยังแผงพวงมาลัยแถวสี่แยก ตั้งแผงเสร็จสรรพก็นั่งร้อยพวงมาลัย ผู้หญิงสองคนเดินมาซื้อพวงมาลัยไปสองพวง ผมเก็บเงินใส่ถุงพลาสติกพลางนั่งเหม่อไปที่ถนน เด็กกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งกรูกันเข้ามาทางผมแล้วใช้ตีนถีบแผงพวงมาลัยจนพังยับเยินคว้าถุงเงินที่ตกอยู่ข้างๆซากปรักหักพังติดมือไปด้วย ภาพพวกมันค่อยๆหายลับตาไปเหลือทิ้งไว้แต่เพียงเศษมาลัยที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น มันดูเละเทะไปหมด พวกมันเหยียบย่ำจนดำเปรอะเปรื้อน อันไม่เป็นรูปทรงตามเดิม ผมหยิบมาลัยที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมากอดแนบอก น้ำตาไหลรดรินลงสู่เศษดอกมะลิที่แหลกละเอียด ผมหมดหนทางที่จะต่อสู้ ทำไมกัน ทำไมผู้คนถึงตกต้องเป็นทาสของเงิน ทำไมถึงมีจิตสำนึกที่ทำร้ายผู้อื่น เพราะเงิน เงิน เงิน ที่ทุกคนต่างต้องการมันโดยไม่ได้คำนึงคิดว่าจะต้องแลกกับอะไรมาบ้าง จ่าเดิมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แอบเก็บค่าเช่าแผงเพื่อนำเงินไปก่อตั้งวงเหล้าดื่มกินกันหลังเลิกงาน ไอคนที่ทำงานสุจริตต้องมาทนทุกข์ทรมานเพราะคนที่ตกเป็นเหยื่อของเงินเข้าครอบงำด้านมืดทางจิตใจ บ้างใช้เงินฟาดหัว บ้างใช้เงินเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ผมนั่งมองแผงพวงมาลัยที่ตอนนี้มันเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าอยู่ท่ามกลางผู้คนและถนนหนทางที่มีรถราเคลื่อนตัววิ่งไปมาไม่หยุด บนตักผมไม่มีเศษเงินบาทเหมือนเคย เสียงรถจ่าเดิมหยุดลงเบื้องหน้าผมพร้อมกับเดินตรงมายังแผงพวงมาลัย...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ