ข้างหลังภาพ

6.0

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17.24 น.

  10 ตอน
  36 วิจารณ์
  36.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2562 19.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) ส้มตำป้าพริ้ง1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

http://www.keedkean.com

 

 

ตอน ส้มตำป้าพริ้ง1

 

“นี่เธอดูส้มตำร้านนี้สิ หน้าตาดูน่ากินจัง ฉันว่าเราลองแวะร้านนี้กันดีมั๊ย”

 

หนึ่งในนักศึกษาสาวที่เดินมาพูดขึ้น ขณะเดินผ่านร้านส้มตำป้าพริ้งหน้ามหาวิทยาลัย

 

“ฉันว่าไม่ล่ะ ไปกินข้าวมันไก่ร้านโน้นดีกว่านะ บรรยากาศดูหรูหรากว่านี้เยอะ”

 

“แต่ฉันว่าส้มตำร้านนี้ มันก็น่ากินอย่างที่ยัยน้ำว่า เราน่าจะลองสักหน่อยนะฟ้า”

 

ส้ม นักศึกษาสาวอีกคนพูดขึ้นบ้างหลังจากเงียบอยู่นาน

 

“เอ๊ะ! ฉันบอกว่าไม่ทานก็ไม่ทานสิ พวกเธอนี่ยังงัยกันนะ อยู่ๆก็มาเปลี่ยนรสนิยมกันน่ะ ปกติก็เห็นชอบทานร้านหรูๆกันนี่นา ไม่ล่ะฉันไม่เอาด้วยหรอก เชิญพวกเธอทั้งสองลิ้มรสร้านข้างทางกันไปตามสะดวกเถอะย่ะ”

 

ฟ้าพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเพื่อนสาวทั้งสองเป็นอย่างมาก ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีไปยังร้านข้าวมันไก่หรูที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

 

“เอ! วันนี้ยัยฟ้าดูแปลกๆนะส้ม ไม่เห็นจะต้องโมโหขนาดนั้นเลยนี่ พวกเราก็แค่เห็นว่าร้านส้มตำร้านนี้เค้าทำน่าทานก็เท่านั้นเองน่ะ”

 

น้ำพูดขึ้นด้วยความสงสัยในตัวเพื่อนอีกคน แต่ส้มกลับตอบเรียบๆว่า

 

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปทานข้าวมันไก่กับยัยฟ้าเถอะน้ำ ฉันไม่อยากให้ยัยฟ้าต้องมาโกรธพวกเราเพราะเรื่องแค่นี้”

 

น้ำพยักหน้ากับส้มเป็นเชิงตกลง ถึงแม้อีกใจหนึ่งจะอดเหลียวหลังไปมองส้มตำที่อยู่ในจานที่ถูกยกไปเสิร์ฟด้วยความเสียดายไม่ได้

 

ภายในร้านส้มตำ ป้าพริ้งกำลังตำส้มตำตามที่ลูกค้าในร้านสั่ง แต่สายตากลับเหลือบมองมายังนักศึกษาสาวทั้งสามคนที่เดินผ่านหน้าร้านเมื่อสักครู่ด้วยแววตาเศร้าๆ

 

“ป้าพริ้งๆ เป็นอะไรไปน่ะ เห็นยืนมองนักศึกษากลุ่มนั้นตาละห้อยเชียว รู้จักพวกเค้าด้วยเหรอป้า ”

 

เสียงจอยเด็กในร้านที่มาช่วยเสิร์ฟและล้างจานถามขึ้นอย่างสงสัย

 

“ปะ…เปล่านี่ ข้าจะไปรู้จักพวกเค้าได้ยังไง เอ็งก็อย่ามัวแต่ซักไซ้ข้าให้มันมากนัก เอ้าเอาไปเสิร์ฟโต๊ะ 5 ไป ลูกค้ารอแล้วนั่น”

 

ป้าพริ้งตอบคำถามเด็กผู้ช่วยในร้านแบบเลี่ยงๆ ก่อนจะไล่ให้ไปเสิร์ฟส้มตำให้ลูกค้า ส่วนตัวแกเองมีสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ 2-3ที

 

---------------------------------------------

 

 

เช้าวันใหม่ บรรดานิสิตนักศึกษาต่างก็เดินทางมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างคับคั่งเหมือนเช่นทุกวัน

 

นักศึกษาบางคนที่มีอันจะกินหน่อยก็จะมาโดยรถยนต์ส่วนตัว บ้างก็มาโดยรถจักรยานยนต์ และรถประจำทาง

 

ส่วนที่มีน้อยจนเรียกว่าเกือบจะไม่มีเลย คือ มาเรียนโดยใช้การเดินด้วยเท้า เพราะอย่างน้อยๆก็ยังมีรถจักรยานที่มักถูกปั่นมาโดยเด็กใหม่ชั้นปีที่ 1 ที่ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง

 

วันนี้กระต่ายเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยแต่เช้า เธอเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยโดยได้รับทุนเรียนดีของนักเรียนจากชนบท

 

ปัจจุบันเธอกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะบัญชีเช่นเดียวกับฟ้า ส้ม และน้ำ แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกัน เนื่องจากความแตกต่างทางด้านรสนิยมและฐานะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมากมาย

 

กระต่ายพักอยู่ที่หอพักใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยที่เธอเรียน ดังนั้นการเดินทางที่เธอใช้เป็นประจำก็คือการเดิน

 

วันนี้เธอเดินผ่านหน้าร้านส้มตำป้าพริ้งที่เธอชอบมาทานมื้อเที่ยงที่นี่เป็นประจำเหมือนเช่นเคย

 

กระต่ายอดไม่ได้ที่จะชำเลืองเข้าไปในร้านขายส้มตำเจ้าประจำของเธอ เพื่อที่จะทักทายเจ้าของร้านเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้ร้านดูเงียบเชียบผิดปกติกว่าทุกวัน

 

 

“เอ วันนี้ป้าพริ้งยังไม่เปิดร้านอีกเหรอเนี่ย ปกติก็เห็นป้าแกเปิดร้านตั้งแต่เช้าทุกวันนี่นา วันนี้ป้าพริ้งเป็นอะไรรึป่าวน๊า”

 

กระต่ายคิดในใจ ก่อนที่จะสาวเท้าเข้าไปในร้านขายส้มตำริมทางเล็กๆทันที

 

“ป้าคะๆ ป้าอยู่รึป่าวคะ วันนี้ไม่เปิดร้านเหรอคะป้า”

 

กระต่ายรออยู่ครู่หนึ่ง หญิงชราวัยกลางคนก็เดินออกมาด้วยท่าทางอิดโรย ก่อนจะยิ้มแห้งๆให้ลูกค้าขาประจำของเธอและพูดขึ้นว่า

 

“อ้อ หนูต่ายนะเอง ป้านึกว่าใครซะอีก วันนี้ป้าจะย้ายไปขายที่อื่นนะจ๊ะหนู นี่ก็กำลังช่วยกันกับนังจอยขนย้ายข้าวของกันอยู่เลย”

 

“อ้าว ทำไมถึงย้ายล่ะคะป้า หนูว่าป้าขายที่นี่ก็ออกจะมีลูกค้าแน่นร้านทุกวันเลยนี่คะป้า”

 

กระต่ายถามด้วยความสงสัย

 

“เอ่อ! มีคนขอร้องให้ป้าไปขายที่อื่นจ้ะ แต่ป้าบอกอะไรมากไม่ได้มันเป็นเหตุผลส่วนตัวน่ะจ้ะหนู เดี๋ยวป้าไปช่วยนังจอยมันขนของก่อนนะ”

 

หลังพูดจบป้าพริ้งก็รีบเดินเข้าไปในร้านทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ซึ่งนั่นก็สร้างความสงสัยให้กับกระต่ายไม่น้อย

 

เพราะปกติป้าพริ้งจะเป็นแม่ค้าที่ใจดี ยิ้มแย้ม และมักพูดคุยสัพเพเหระกับลูกค้าอย่างเป็นกันเองเสมอ

 

กระต่ายได้แต่เก็บความงุนงงสงสัยนั้นไว้ในใจ เธอช่วยป้าพริ้งเก็บของเงียบๆสักครู่ ก่อนจะขอตัวไปเรียนเมื่อถึงชั่วโมงเรียนของเธอ

 

เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน วันนี้ฟ้าก็เดินออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัยพร้อมกับเพื่อนสนิททั้งสองเหมือนเช่นเคย

 

แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือ มีชายหนุ่มนักศึกษาหน้าตาดี ท่าทางมีฐานะคนหนึ่งเดินจับมือฟ้าออกมาด้วย

 

ทั้งหมดเดินผ่านร้านส้มตำป้าพริ้ง ขณะที่ป้าพริ้งและจอยเด็กในร้านกำลังจะขนของขึ้นรถสามล้อเครื่องที่มาจอดรออยู่หน้าร้านพอดี

 

ป้าพริ้งซึ่งกำลังเดินถือถุงบรรจุส่วนประกอบของส้มตำ อาทิ เช่น พริก มะนาว มะเขือเทศ มะเขือ ถั่วฟักยาว เดินผ่านและบังเอิญเงยหน้าขึ้นมาเห็นกลุ่มของฟ้าที่กำลังเดินผ่านมาพอดี

 

ป้าพริ้งมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด แกเผลอทำถุงบรรจุส่วนประกอบของส้มตำหล่นลงที่พื้นโดยไม่รู้ตัว กระต่ายที่เดินมาด้านหลังกลุ่มของฟ้ารีบเข้ามาช่วยเก็บส่วนประกอบต่างๆนั้นใส่ถุง

 

ส่วนกลุ่มของฟ้าที่กำลังจะเดินผ่านไปต้องหยุดชะงักด้วยความตกใจ เมื่อลูกมะเขือเทศและมะนาวจำนวนหนึ่งกลิ้งเต็มพื้นและกระดอนมาถูกพื้นถนนที่ทุกคนกำลังเดินอยู่

 

ฟ้า ส้ม น้ำ และชายหนุ่มอีกคน หันหน้ามามองยังต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาแทบสะดุดล้มกลิ้งไป เพราะเกือบเหยียบเจ้ามะเขือเทศและมะนาวที่กระดอนไปตามพื้นทางเดินพอดี

 

ชายหนุ่มท่าทางไม่พอใจ เขาเดินย่างสามขุมไปหาป้าพริ้งทันที ก่อนตวาดด้วยเสียงอันดังว่า

 

“นี่ป้า ทำอะไรของป้านี่ รู้รึป่าวว่าป้าเกือบทำให้พวกผมเกิดอุบัติเหตุ หกล้มแข้งขาหักไปจะว่ายังไง ฟ้าคุณไม่เป็นไรใช่มั๊ย”

 

ประโยคสุดท้ายเขาหันไปถามฟ้าที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้วยสายตาบ่งบอกความห่วงใย

 

ฟ้าตอบด้วยเสียงตะกุกตะกักว่า

 

“ฟ้า…ฟ้าไม่เป็นไรค่ะเชนทร์ ช่างเถอะค่ะ เรารีบไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ”

 

Undecidedโปรดติดตาม "ส้มตำป้าพริ้ง2" จ้าSmile

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา