แผนล่ม

-

เขียนโดย jundee

วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 20.52 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  5 วิจารณ์
  6,553 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            งานของสมศักดิ์ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่รับฝาก ถอน ที่เคาร์เตอร์ธนาคารเล็กๆสาขาย่อยนี้  มันดูน่าเบื่อหน่ายก็จริงอยู่  แต่ก็เป็นงานที่เขาต้องทำในทุกวันและทำหน้าที่เดิมๆมาไม่ต่ำกว่าสิบปีรึอาจสิบเอ็ดปีด้วยซ้ำ  ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่และอำเภอนี้ก็แสนเล็กเท่าแมวดิ้นตาย  ทำให้เขาเป็นที่เจนหน้าเจนตาของทุกคนในพื้นที่        ข่าวมีโจรปล้นเงินธนาคารมีให้เห็นไม่เว้นในแต่ละวัน  ทำให้เขานึกอยากให้มีโจรมาปล้นธนาคารที่เขาทำงานบ้าง  เพื่อความตื่นเต้นเหรอ?...ใช่..เพื่อความตื่นเต้น...และเพื่ออาชีพหน้าที่การงานของเขา  และ  อะไรอีกบางอย่าง   ที่เขาหมายมั่นปั้นมือเสียเหลือเกิน  ทุกวันเขาเฝ้าดูข่าวโจรปล้นธนาคารในทีวีและภาวนาให้มันเป็นที่ธนาคารแห่งนี้สักทีแต่ดูเหมือนคำพร่ำขอของเขาไม่เคยประสพผลสำเร็จเลย

      ถึงอย่างนั้นสมศักดิ์ก็ไม่เคยตัดใจไปเสียทีเดียว   เขาตั้งใจรออย่างจดจ่อทุกวันๆ  และกระทำการต่างๆเหมือนที่ตั้งใจเสมอมาเป็นนิจ จนเมื่อวานนี้   สิ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้นก็ได้ปรากฎร่างชัดเจน   ช่วงบ่ายของวันจันทร์  เป็นวันที่ทางธนาคารยุ่งมากที่สุด  เพราะนอกจากช่วงเช้าที่มีผู้คนต่างนำเงินสดมาฝากมากมายแล้ว  ยังมีเช็คเคลียร์ริ่งต่างๆที่กำหนดให้ได้ก่อนสิบโมงเช้าอีก  งานที่มีผู้คนมากมายตั้งแต่ตอนเช้าได้ยืดเวลากินยาวไปนานกว่าบ่ายสอง  ก็ยังดูเหมือนไม่เสร็จสิ้นเสียที

        ในขณะนั้นเอง ที่มีผู้คนจอแจอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเบียดเสียดยัดเหยียดเหมือนช่วงเช้า  ได้มีบุรุษคนหนึ่งเดินตรงแหน่วมาที่เคาร์เตอร์ช่องที่สมศักดิ์ประจำอยู่   และยื่นกระดาษเล็กๆส่งให้เขาอ่าน

      "นี่คือการปล้น...อย่าส่อหรือส่งพิรุจใดๆให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาด...ไม่งั้นแกโดนยิงทะลุอกแน่.." สมศักดิ์แอบลอบมองที่กระเป๋าเสื้อคลุมเหมือนพวกแมสเส็จเจอร์ทั่วๆไปสวมใส่  มันมีวัตถุบางอย่างชี้ตรงมาที่เขาและเดาได้ว่าเป็นปากกระบอกปืนแน่นอนอย่างไม่มีปัญหาให้สงสัย  แถมไอ้โจรนั่นก็จ้องตรงมาที่เขา   เหมือนเป็นการย้ำเตือนในความตั้งใจจริงของมัน จนเขารู้สึกได้ถึงความตายที่ใกล้ราวหายใจรดที่ต้นคอ  อะไรบ้างนะที่คำแนะนำของวิทยากรในการอบรมหนก่อนได้ว่าไว้  สมศักดิ์คิด...... 

         สมศักดิ์สงบสติอารมณ์ตามแบบฉบับที่ได้รับการอบรมมา  ซึ่งเป็นนโยบายของทางธนาคาร  ที่พนักงานทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับโจรพวกนี้อย่างสุขุมและมีสติที่สุดเพื่อรักษาชีวิตของลูกค้า  เพื่อนร่วมงาน  และชีวิตของตัวเอง  เขาพยายามจดจำรายละเอียดทุกอย่างของโจรร้ายนี้ให้ได้มากที่สุด  เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย        "ครับ"  สมศักดิ์รับคำโจร   โจรได้ยื่นแบบฟรอม์การเบิกเงินมาตรงหน้าเขา  แต่ในแบบฟรอม์นั้นกลับมีลายมือขยุกขยิกเขียนว่า "เอาแต่เงินสดไม่เรียงตัวเลข เร็วๆด้วย "   สมศักดิ์นึกกระหยิ่มในใจ  เพราะว่าเขาเป็นคนรอบครอบ  ทำให้ทุกเช้าก่อนที่เข้าประจำคอกทำงาน  เขาจะแบ่งเงินออกไว้เป็นสองส่วนทุกวัน และแต่ละส่วนจะแบ่งเป็นเงินสดรับมาจากการฝากในแต่ละวันมาก็แยกไว้อีกกองในช่องเก็บ และอีกกองในช่องเดียวกันจะเป็นการเตรียมเผื่อแลก  เพราะลูกค้ามักชอบนำเงินเก่ามาแลกเป็นใบใหม่  หรือแลกเพื่อเป็นธนบัตรย่อยในกรณีพ่อค้าแม่ขายหากไม่มีเหตุการณ์อะไรพอเลิกงานเขาก็จะนำเงินทั้งสองกองนั้นรวมกันเข้าเก็บและจำนวณตรวจนับก็ครบเสมอ  จากการที่เขาเตรียมการณ์ไว้เป็นอย่างดีทุกวันนี้เอง  ทำให้เขามีเวลาพอที่จะหย่อนธนบัตรปึกหนาที่ไม่มีตัวเลขเรียงลงถุงเล็กๆใต้เคาร์เตอร์ได้แบบไม่มีใครสงสัยหรือสังเกตุได้

             ก่อนจะส่งซองสีน้ำตาลแบบที่ธนาคารใช้ทั่วไปใส่เงินที่เบิกเป็นจำนวณมากๆให้กับ"ไอ้คุณโจร"นั่นไป  สมศักดิ์ได้เอ่ยกับโจรเบาๆพอได้ยินกันสองคนผ่านหน้าเคาร์เตอร์ว่า  .."คุณครับ  ผมว่าอย่าเดินออกทางประตูหน้าเลยนะครับ  เดินออกทางด้านหลังดีกว่า"  โจรมองหน้าสมศักดิ์ตรงๆ  แล้วส่งเสียงกรรโชกผ่านรอดไรฟันว่า  "แกคิดว่าลูกไม้ตื้นๆของแกจะใช้ได้กะข้าเหรอ   แกจะส่งสัญญาณให้พวกแกรู้สิวะ?ว่าข้ามาปล้นแก"   ว่าแล้วเจ้าโจรก็เดินออกไปทางประตูหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น    พอโจรพ้นประตูออกไป  สมศักดิ์ได้กดสัญญาณขึ้น   แต่กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ไอ้โจรนั่นก็เผ่นแน่บขึ้นมอเตอร์ไซต์หนีไปแล้ว   งานนี้ตำรวจต่างสะกัดโจรไม่ได้แม้แต่เฉียด...

           ...     มีผู้คนหลายหลากอาชีพวนเวียนมาสอบถามสมศักดิ์ในบ่ายวันนั้นทั้งเจ้านายระดับสูงของทางธนาคาร  ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ทั้งเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของธนาคาร  นี่ยังไม่รวมถึงเพื่อนๆร่วมงานกว่าสิบชีวิต  ที่ต่างถูกนำตัวเข้าสอบถามแบบ"ปิดห้อง"ทีละคนทุกคน  และแต่ละคนต่างก็รู้สึกตกอกตกใจไปกันหมด   กว่าจะโดนปล่อยตัวกลับบ้านได้ก็เกือบสามทุ่มเศษๆ

               สมศักดิ์นอนเอามือจับซองเงินจำนวณเกือบล้านไว้  ตามองเพดานห้องนอน  คราวนี้ล่ะที่เขาจะไม่เบื่อ  เงินจำนวณนี้ควรเป็นของเขา  เพราะเขานับมันทุกวัน  คนที่นับเงินแบบนี้คือเจ้าเงินสิ  เขาคิดอย่างกระหยิ่มใจ  เราเองก็เก่งนะ  ทำงานแค่สิบกว่าปีมีเงินเก็บเกือบล้าน......ถือว่าเป็นของขวัญละกัน

           ชีวิตที่อยู่กับแม่เพียงลำพังในบ้านหลังขนาดย่อมๆทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน  แต่มีเงินนอนถุงไว้ใช้ตั้งเกือบล้าน  ....ความสุขส่งอายหอมระบายไปทั่งห้องนอนเล็กๆที่เขาอยู่คนเดียวมานาน  เห็นทีเขาต้องหาใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว  สมศักดิ์คิด  พลางนึกถึงหน้าน้องบางคนในที่ทำงานที่เขาแอบพึงพอใจเธอเงียบๆมาแรมปี  แต่ไม่เคยกล้าจะทักทายเพียงแค่คำง่ายๆ

              เช้าถัดมาอีกวัน    สมศักดิ์มาทำงานตามปกติเพราะทางธนาคารไม่ได้ปิด  เรื่องต่างๆเคลียร์ไปทำงานไปตามแบบฉบับของรูปแบบงานที่มีมาตรฐาน   พอเวลาเก้าโมงครึ่ง  สมศักดิ์ถูกเรียกตัวเข้าไปพบผู้จัดการสาขาด่วน   เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก  แต่ก็คิดว่า  คงไม่เป็นไร  เพราะไม่มีหลักฐานอะไรที่จะเอาผิดเขาได้

          .."คุณสมศักดิ์.."   ผู้จัดการเอ่ยเสียงเรียบ

            "ครับ"              สมศักดิ์เอ่ยรับคำ  ยืนตรงนิ่งไม่มีอาการอะไร   ผู้จัดการเพ่งมองสมศักดิ์อย่างพึ่งพอใจ  แย้มยิ้มน้อยๆ  ก่อนเอ่ยปากบอกว่า

            "คุณเป็นคนทำงานที่ทางเรามุ่งหวังจริงๆ  คุณแก้ปัญหาได้ดี  แถมมีสติรอบครอบ  สมแล้วที่คุณจะได้รับตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม  ให้สมกับที่ทำงานมานาน ผลงานของคุณเมื่อวาน กำลังตอบแทนคุณแล้ว  ผมเสนอให้คุณเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ คุณจะว่าอย่างไร  คุณสมศักดิ์"

             สิ่งที่ผู้จัดการพูดทำเอาหัวของเขาหมุนติ้ว....อะไรนะ  เขากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการเชียวนะ  ไม่ใช่ตำแหน่งกระจอกๆหน้าเคาร์เตอร์อีกแล้ว  มีห้องทำงานส่วนตัว  เงินเดือนเพิ่มขึ้น  มีรถยนต์ประจำตำแหน่ง เขาแทบอดแสดงสีหน้าปลาบปลื้มออกมาไม่ได้

              ขณะนั้นเอง  ประตูห้องถูกเปิดออก  พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายและบรุษแปลกหน้าเดินก้าวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ  แต่ไม่สิผู้ชายคนนี้หน้าเหมือน ...  เหมือนโจรคนเมื่อวานมาก  จนสมศักดิ์หน้าซีดเผือด!   ก่อนที่สมศักดิ์จะหน้ามืดและวูบไปเพราะอาการกลัวความผิดอย่างสุดขีด   หนึ่งในสามก็กล่าวว่า

              "ผมคงต้องเรียนให้คุณทราบว่า...แผนการซ้อมปล้นเมื่อวานได้ผลดีครับ"   ผู้ชายคนนั้นกล่าวกับผู้จัดการสีหน้าเรียบเฉย   

              "อ้าว..ที่เกิดการปล้นเมื่อวานเป็นการซ้อมหรอกหรือครับ"  ผู้จัดการธนาคารเอ่ยถาม     "ครับถูกต้องครับ   แต่มีเงินจำนวนหนึ่งหายไป...คุณคงต้องตรวจสอบเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกครั้ง."   นายตำรวจมียศร้อยเอกกล่าวกับผู้จัดการธนาคาร  พลางเลือบตามองสมศักดิ์ดังค้นหาคำตอบ.   แล้วสมศักดิ์ก็เป็นลมหมดสติไป.   

            

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา