อะไร...ตรูไม่ผิด!
-
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เราจะออกไปยังไงดีหว่า??? นี่คือความคิดของเฒ่าจอด
ที่ดันจับผลัดจับผลู โดนซิวมาร่วมห้องขัง ที่ตะแกไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยสักนิด
ตอนหัวค่ำแกเดินไปร้านเหล้าเจ้าประจำของหมู่บ้าน
"เฮ้ย ไอ้เจี๊ยบ ช้างกาทืบตับซ้ากสองเป้กโว้ย!.." แกส่งเสียงสั่งอย่างคุ้นเคย "...โห...ลุง อย่างลุงต้องแบนสิ.." เสียงเจ้าเจี๊ยบเด็กรุ่นหลานตอบมา พร้อมกับเดินมาตวงเหล้าดองยาที่มีอยู่4-5โหลที่ต่างมีสรรพคุณต่างๆกัน แต่มีแบบเดียวที่เหมือนกันคือ เวลาเมาต่างก็เดินสะเงาะสะแงะแบบก้าวหน้าสองถอยหลังสามเหมือนกันทุกโหล เจี๊ยบ กะๆเหล้าใส่จอกเล็กๆ ยื่นส่งให้ ไปตามคำขอสองจอก "เออ...เด่วตรูชักดาบสิ แกจะเดือดร้อน...55.." ลุงจอดพูดพลางยกจอก"ยาสมุนไพร" ที่แกมักบอกกับผู้อื่นแบบนี้เสมอ จดปากซดโฮก..รวดเดียวหมดทั้งสองจอกที่วางตรงหน้า แล้วหยิบมะขามป้อมส่งเข้าปากเคี้ยวกร๊วบๆ ทำหน้าเหยเก ก่อนเตรียมนับเงินเหรียญส่งให้เจี๊ยบเด็กรุ่นหลานผู้ได้รับกิจการร้านเหล้ายาดองพร้อมของชำเล็กๆน้อยๆต่อจากยายเมี้ยนผู้เป็นแม่ ที่แกได้ขยายสาขาไปขายให้เทวดาแล้วเมื่อสองปีก่อน
ลุงจอด นึกเสียดายนิดๆ ที่ยายเมี้ยนไม่อยู่ เพราะอย่างน้อย แกก็เป็นเพื่อนเล่นร่วมรุ่นกันมาแต่เก่าก่อน ในเมื่อยายเมี้ยนไม่อยู่แล้ว แกก็พลอยเหงาและหดหู่ใจไปด้วย ไม่รู้ว่าวันใหนจะถึงคิวแกบ้าง ถึงก้อดีโว้ย...! ..พ่อจะเล่าเรื่องสัปดน..ให้ยมบาลปล่อยตัวไปเป็นลูกค้ายายเมี้ยนบนสวรรค์.... แกเคยพูดเอาไว้อย่างนี้.. ตอนที่ครบองค์ของสมาชิกวงเหล้ายาดองร้านเก่าแก่ และมีเพียงร้านเดียวในหมู่บ้านเล็กๆนี้
ลุงจอดเป็นมรรคทายกวัด และมีจ๊อบพิเศษคือผู้สื่อข่าวประจำหมู่บ้าน ด้วยเกิด โต และแก่ที่นี่ ทำให้แกเป็นผู้กว้างขวาง
หากบ้านใหนมีงานมีการ แกจำต้องถีบจักรยานคู่ชีพที่แก่พอๆกันกับแก ตะเวนบอกไปเรื่อย ทั้งๆที่บางงานเจ้าภาพยังไม่ได้บอกกล่าวด้วยซ้ำ นี่คือข้อดีของแกและเป็นข้อที่ทำให้แกต้องมาติดตะรางในคืนนี้ด้วย......
หลังจากที่เดินจูงจักรยานคู่ชีพมาจากร้านดองยาคาเฟ่ของหมู่บ้านมาตามทางที่มืดมิด แกได้ยินเสียงเหมือนมีคนวิ่ง และวิ่งหลายๆคนด้วยสิ มาทางแก ด้วยความที่เป็นผู้มีสัมพันธ์ดี แกเลยหยุดการเดินรถสายตาจับจ้องไปในเสียงที่มา
แสงไฟไม่มีเหมือนในเมือง แต่เงาที่วูบวาบเคลื่อนไหวข้างหน้า ทำให้แกรู้เองด้วยสัญชาติญาณว่า มีการวิ่งของคนหลายๆคนมุ่งหน้ามาทางแกแน่นอน
จักรยานคันเก่าถูกกลุ่มคนไม่ต่ำกว่า7-8คนวิ่งชนอย่างจัง
ลุงจอดถึงขนาดเซแซ่ดๆไปชนกับประตูโค้งทางเข้าหมู่บ้านที่มีคำว่า "ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านโคก" แล้วแสงไฟหลายกำลังขับจากไฟฉายก็ปาดหน้าปาดหลังส่งให้เห็นภาพ คนเกือบสิบนอนล้มกลิ้งบ้างกำลังตะกายลุกจะวิ่งต่อบ้าง วุ่นวายมั่วไปหมด....
ณ.สภ.ย่อยของตำบล เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ต้องหาคดีเล่นการพนัน
ที่เพิ่งจับมาได้ไม่เกินชั่วโมงเศษยี่สิบกว่าชีวิต ทุกอย่างบนสภ.สาขาย่อยเล็กๆของตำบลเนื่องแน่นไปด้วยญาติผู้ต้องหาและถูกจับ ร้อยเวรรัวนิ้วบรรทึกคำให้การจนเมื่อยนิ้ว พลางเหงื่อตก อากาศเย็นๆกลายเป็นกลิ่นไอตัวที่ไม่ได้อาบน้ำระเหยอวลอบ มีบางที ที่เจ้าหน้าที่บอกว่า "มาทีละคนคร้าบ ทีละคน " แต่ไม่ส่งเกิดผลอันใดเลย เพราะทุกคนต่างอยากออกไปไวๆ ยิ่งดึก เสียงเด็กน้อยยิ่งร้องกระจองอแง ถึงไม่ได้ติดตารางกับพ่อ แต่แม่ต้องหอบมาด้วย เพราะจะปล่อยให้หมาเลี้ยงเหมือนเมาคลีไม่ได้ เพราะแม้แต่ชาวนาทุกวันนี้ก็เลี้ยง"ร๊อดไวเลอร์กลายพันธุ์"ได้เกือบทุกครัวเรือน
ตีสามแล้ว ลุงจอด นั่งพิงลูกกรงเหล็กอย่างเหนื่อยหน่าย
ชีวิตแกไม่มีใคร เมื่อก่อนโน้น...แกเคยมีเมียและลูก แต่จากความไม่เอาถ่านของแก ทำให้เมียแกทนไม่ไหว หอบลูกหนีไปตั้งแต่แบเบาะ
แกได้แต่นั่งมองคนอื่นๆ ที่ทะยอยๆออกไปตามเสียงเรียกชื่อ ที่มีเมีย มีลูก มีญาติมีเพื่อนมาประกันวางเงินพาออกไป
แล้วตรูจะออกไปไงดีหว่า ..แกคิด...
จนจ่าคนบ้านเดียวกันเอากาแฟร้อนมาในถ้วยพลาสติคมาส่งให้ แกก็คิดออก
"......เบิ้มๆๆ...ข้านะ ไม่ได้เล่นนะ แต่ข้าน่ะ โดนใช้ไปซื้อเหล้า
เลยโดนรวบมา แล้วไอ้เปรตสาก้อใช้ข้าไปซื้อเหล้าอีกฯฯฯ..."แกพยายามพูดๆ.. และแต่งเรื่องให้ดูน่าเชื่อถือไว้ แม้แกจะไม่เล่นจริงๆก็ตาม แต่รูปการณ์แบบนี้ แกต้องสร้างความสมจริงสมจังให้มากที่สุด ..แกหวังให้จ่ารุ่นน้องเข้าใจ เห็นใจแก เพราะแกไม่ได้เล่นจริงๆ.....
จ่ารุ่นน้องฟังแกพูดจบไม่ว่าอะไร เดินหน้านิ่งๆ ไปกระซิบๆคุยกับร้อยเวร แล้วสองคนก็พยักหน้ากัน แล้วเดินหนีหายไป จากสภ.สาขาย่อยนั้น
รุ่งเช้า นายตำรวจเริ่มมาประจำหน้าที่ รวมถึงน้องจ่าบ้านเดียวกันด้วย แกส่งเสียงเรียกด้วยความหวัง ทั้งหิวน้ำ ทั้งง่วงนอนแต่เสียงก็ยังดังพอให้ได้ยินทั่ว
"ไอ้เบิ้ม ลุงไม่ได้เล่นนะโว้ย..ช่วยเอาลุงออกไปที.."
ว่าเสร็จแกก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง นายตำรวจที่ได้ยินและเห็นเหตุการณ์ ต่างกรูเข้า "ประตูที่ไม่ได้ล้อค" เข้าห้องขังเพื่อพยุงลุงจอด ออกมา....
ที่เหลือให้ผู้อ่านคิดเองค่ะ....อิอิ....
ที่ดันจับผลัดจับผลู โดนซิวมาร่วมห้องขัง ที่ตะแกไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยสักนิด
ตอนหัวค่ำแกเดินไปร้านเหล้าเจ้าประจำของหมู่บ้าน
"เฮ้ย ไอ้เจี๊ยบ ช้างกาทืบตับซ้ากสองเป้กโว้ย!.." แกส่งเสียงสั่งอย่างคุ้นเคย "...โห...ลุง อย่างลุงต้องแบนสิ.." เสียงเจ้าเจี๊ยบเด็กรุ่นหลานตอบมา พร้อมกับเดินมาตวงเหล้าดองยาที่มีอยู่4-5โหลที่ต่างมีสรรพคุณต่างๆกัน แต่มีแบบเดียวที่เหมือนกันคือ เวลาเมาต่างก็เดินสะเงาะสะแงะแบบก้าวหน้าสองถอยหลังสามเหมือนกันทุกโหล เจี๊ยบ กะๆเหล้าใส่จอกเล็กๆ ยื่นส่งให้ ไปตามคำขอสองจอก "เออ...เด่วตรูชักดาบสิ แกจะเดือดร้อน...55.." ลุงจอดพูดพลางยกจอก"ยาสมุนไพร" ที่แกมักบอกกับผู้อื่นแบบนี้เสมอ จดปากซดโฮก..รวดเดียวหมดทั้งสองจอกที่วางตรงหน้า แล้วหยิบมะขามป้อมส่งเข้าปากเคี้ยวกร๊วบๆ ทำหน้าเหยเก ก่อนเตรียมนับเงินเหรียญส่งให้เจี๊ยบเด็กรุ่นหลานผู้ได้รับกิจการร้านเหล้ายาดองพร้อมของชำเล็กๆน้อยๆต่อจากยายเมี้ยนผู้เป็นแม่ ที่แกได้ขยายสาขาไปขายให้เทวดาแล้วเมื่อสองปีก่อน
ลุงจอด นึกเสียดายนิดๆ ที่ยายเมี้ยนไม่อยู่ เพราะอย่างน้อย แกก็เป็นเพื่อนเล่นร่วมรุ่นกันมาแต่เก่าก่อน ในเมื่อยายเมี้ยนไม่อยู่แล้ว แกก็พลอยเหงาและหดหู่ใจไปด้วย ไม่รู้ว่าวันใหนจะถึงคิวแกบ้าง ถึงก้อดีโว้ย...! ..พ่อจะเล่าเรื่องสัปดน..ให้ยมบาลปล่อยตัวไปเป็นลูกค้ายายเมี้ยนบนสวรรค์.... แกเคยพูดเอาไว้อย่างนี้.. ตอนที่ครบองค์ของสมาชิกวงเหล้ายาดองร้านเก่าแก่ และมีเพียงร้านเดียวในหมู่บ้านเล็กๆนี้
ลุงจอดเป็นมรรคทายกวัด และมีจ๊อบพิเศษคือผู้สื่อข่าวประจำหมู่บ้าน ด้วยเกิด โต และแก่ที่นี่ ทำให้แกเป็นผู้กว้างขวาง
หากบ้านใหนมีงานมีการ แกจำต้องถีบจักรยานคู่ชีพที่แก่พอๆกันกับแก ตะเวนบอกไปเรื่อย ทั้งๆที่บางงานเจ้าภาพยังไม่ได้บอกกล่าวด้วยซ้ำ นี่คือข้อดีของแกและเป็นข้อที่ทำให้แกต้องมาติดตะรางในคืนนี้ด้วย......
หลังจากที่เดินจูงจักรยานคู่ชีพมาจากร้านดองยาคาเฟ่ของหมู่บ้านมาตามทางที่มืดมิด แกได้ยินเสียงเหมือนมีคนวิ่ง และวิ่งหลายๆคนด้วยสิ มาทางแก ด้วยความที่เป็นผู้มีสัมพันธ์ดี แกเลยหยุดการเดินรถสายตาจับจ้องไปในเสียงที่มา
แสงไฟไม่มีเหมือนในเมือง แต่เงาที่วูบวาบเคลื่อนไหวข้างหน้า ทำให้แกรู้เองด้วยสัญชาติญาณว่า มีการวิ่งของคนหลายๆคนมุ่งหน้ามาทางแกแน่นอน
จักรยานคันเก่าถูกกลุ่มคนไม่ต่ำกว่า7-8คนวิ่งชนอย่างจัง
ลุงจอดถึงขนาดเซแซ่ดๆไปชนกับประตูโค้งทางเข้าหมู่บ้านที่มีคำว่า "ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านโคก" แล้วแสงไฟหลายกำลังขับจากไฟฉายก็ปาดหน้าปาดหลังส่งให้เห็นภาพ คนเกือบสิบนอนล้มกลิ้งบ้างกำลังตะกายลุกจะวิ่งต่อบ้าง วุ่นวายมั่วไปหมด....
ณ.สภ.ย่อยของตำบล เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ต้องหาคดีเล่นการพนัน
ที่เพิ่งจับมาได้ไม่เกินชั่วโมงเศษยี่สิบกว่าชีวิต ทุกอย่างบนสภ.สาขาย่อยเล็กๆของตำบลเนื่องแน่นไปด้วยญาติผู้ต้องหาและถูกจับ ร้อยเวรรัวนิ้วบรรทึกคำให้การจนเมื่อยนิ้ว พลางเหงื่อตก อากาศเย็นๆกลายเป็นกลิ่นไอตัวที่ไม่ได้อาบน้ำระเหยอวลอบ มีบางที ที่เจ้าหน้าที่บอกว่า "มาทีละคนคร้าบ ทีละคน " แต่ไม่ส่งเกิดผลอันใดเลย เพราะทุกคนต่างอยากออกไปไวๆ ยิ่งดึก เสียงเด็กน้อยยิ่งร้องกระจองอแง ถึงไม่ได้ติดตารางกับพ่อ แต่แม่ต้องหอบมาด้วย เพราะจะปล่อยให้หมาเลี้ยงเหมือนเมาคลีไม่ได้ เพราะแม้แต่ชาวนาทุกวันนี้ก็เลี้ยง"ร๊อดไวเลอร์กลายพันธุ์"ได้เกือบทุกครัวเรือน
ตีสามแล้ว ลุงจอด นั่งพิงลูกกรงเหล็กอย่างเหนื่อยหน่าย
ชีวิตแกไม่มีใคร เมื่อก่อนโน้น...แกเคยมีเมียและลูก แต่จากความไม่เอาถ่านของแก ทำให้เมียแกทนไม่ไหว หอบลูกหนีไปตั้งแต่แบเบาะ
แกได้แต่นั่งมองคนอื่นๆ ที่ทะยอยๆออกไปตามเสียงเรียกชื่อ ที่มีเมีย มีลูก มีญาติมีเพื่อนมาประกันวางเงินพาออกไป
แล้วตรูจะออกไปไงดีหว่า ..แกคิด...
จนจ่าคนบ้านเดียวกันเอากาแฟร้อนมาในถ้วยพลาสติคมาส่งให้ แกก็คิดออก
"......เบิ้มๆๆ...ข้านะ ไม่ได้เล่นนะ แต่ข้าน่ะ โดนใช้ไปซื้อเหล้า
เลยโดนรวบมา แล้วไอ้เปรตสาก้อใช้ข้าไปซื้อเหล้าอีกฯฯฯ..."แกพยายามพูดๆ.. และแต่งเรื่องให้ดูน่าเชื่อถือไว้ แม้แกจะไม่เล่นจริงๆก็ตาม แต่รูปการณ์แบบนี้ แกต้องสร้างความสมจริงสมจังให้มากที่สุด ..แกหวังให้จ่ารุ่นน้องเข้าใจ เห็นใจแก เพราะแกไม่ได้เล่นจริงๆ.....
จ่ารุ่นน้องฟังแกพูดจบไม่ว่าอะไร เดินหน้านิ่งๆ ไปกระซิบๆคุยกับร้อยเวร แล้วสองคนก็พยักหน้ากัน แล้วเดินหนีหายไป จากสภ.สาขาย่อยนั้น
รุ่งเช้า นายตำรวจเริ่มมาประจำหน้าที่ รวมถึงน้องจ่าบ้านเดียวกันด้วย แกส่งเสียงเรียกด้วยความหวัง ทั้งหิวน้ำ ทั้งง่วงนอนแต่เสียงก็ยังดังพอให้ได้ยินทั่ว
"ไอ้เบิ้ม ลุงไม่ได้เล่นนะโว้ย..ช่วยเอาลุงออกไปที.."
ว่าเสร็จแกก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง นายตำรวจที่ได้ยินและเห็นเหตุการณ์ ต่างกรูเข้า "ประตูที่ไม่ได้ล้อค" เข้าห้องขังเพื่อพยุงลุงจอด ออกมา....
ที่เหลือให้ผู้อ่านคิดเองค่ะ....อิอิ....
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ