ต้อยติ่งซินโดรม

8.1

เขียนโดย jundee

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.43 น.

  13 ตอน
  68 วิจารณ์
  24.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 15.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

8) (พวก) เราผิดเอง...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เรามีเพื่อนผู้ชายชาวญี่ปุ่นที่สนิทกันมากอยู่คนหนึ่ง   ตอนแรกๆเขาก็อยู่กับแฟนที่เป็นคนไทยดีๆ  แต่มาเลิกกันด้วยเหตุผลบางอย่างที่เราไม่(อยากเขียน)  พูดถึงก็ได้เน้อะ....  แฮะๆ  แค่นี้ก็เข้าข่าย  ยายเมี้ยนปากปลาร้าแล้วอ่ะ   ที่นี้เพื่อนคนนี้อยากมาอยู่ใกล้กับเรา  คงเพราะภาษาไทยไม่เป็นภาษาอังกฤษก็Snakeๆ freshๆ(ทะลึ่งมา...ไม่อยากแปลให้เป็นปลาอ่ะนะ)เลยอยากมาอยู่ใกล้เราที่เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีเหลือในตอนนั้น   แบบว่าโพ้มเป็นอารั่ย  จันจัง*ก้อโชยได่.....555   เราเลยหาบ้านเช่าในที่ใกล้ๆให้  ก้อเป็นตึกแถวฝั่งเดียวกันกับเรานี่ล่ะค่ะ  ถัดไปสามห้อง   หาเก่งค่ะ  หาได้ดีด้วยสิ  ทาโร่ซัง*  ( ขอเรียกว่าทาโร่ซังแล้วกัน  เพราะเธอชอบกินทาโร่มาก  กินแกล้มbeerวันละขวดสองขวด)   ชอบมากย้ายของเข้ามาอยู่เลยในวันนั้น  และเราก็เป็นผู้จัดการแบบไม่มีเงินเดือนแต่ทำทุกอย่างให้เพื่อนชนิดที่  เกือบเป็นแม่เค้าได้เลยล่ะค่ะ  ทั้งเจรจาต่อรองค่าเช่า  เน้นย้ำการทำความสะอาดโดยลงมือปัดกวาดเช็ดถูให้เอง   ทำราวตากผ้าให้ใหม่  ขัดห้องน้ำ  รวมถึงขนาดปูที่นอน(แต่คนนอนด้วยให้ทาโร่ไปหาเอาเอง...555)   ตอนที่ทาโร่ย้ายของรุงรังนั้น  น้องชายเรากับต้อยได้โดนเกณฑ์มาช่วยด้วย   แต่เราผู้รุ้ดีแก่ใจว่าหากให้ต้อยย้ายของงานมันจะเยอะกว่าเดิม  เลยให้ต้อยทำอะไรที่"อยู่กับที่"  ดีกว่า

    เรา     ต้อยๆ  ต้อยมาถอดมุ้งลวดไปล้างดีกว่า

    ต้อย    คับพี่      ( เดินขึ้นชั้นบนไป)..........

    จากการวุ่นวายในการช่วยเพื่อนครั้งนี้    กว่าจะเรียบร้อย  และเข้าที่  เข้าทาง   กินเวลาตั้งแต่สิบโมงถึงบ่ายสาม   ทาโร่กับน้องชายเรากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมไปทันทีสำหรับสาวโลตัสสาขาอ่อนนุช    จะไม่ ได้ไงล่ะคะ  ก็เล่นซื้อเครื่องใช้ใหม่หมดทุกอย่างที่เขามีขายและตัวเอง(ทาโร่)ต้องใช้   คือแฟนเขาให้มาแต่เสื้อผ้ากับหนังสือค่ะ   เรียกว่า มาแต่ตัวและหัวใจจริงๆ    ตู้เย็นที่ดีที่สุดแพงที่สุด  ทีวีที่ดีที่สุด  คอมฯที่เจ๋งที่สุด  สาวโลตัสที่....สุด  อะนี๊...เรื่องนี้มีต่อค่ะ ( คอยอ่านในตอนต่อๆไปค่ะ)  ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้เวอร์นะคะ   อารมณ์นี้ของทาโร่ซังเขาจริงๆ   แบบสะใจเข้าว่า   "ไล่ชั๊นเร้อ!  ได๊จะอยู่ให้เป็นเทวดาเลย"   อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ     มีการจบลงด้วยการเลี้ยงฉลองต้อนรับสมาชิคใหม่ชาวซอยน้อยๆที่ร้านเรา    ทั้งสุกี้ลาว(จิ้มจุ่ม) ทั้งหมูกะทะ  ทั้งเบียร์  ที่เป็นของโปรดทุกคน   ที่ไม่ได้ออกตังค์ซื้อเอง   กลุ่มผู้ร่วมต้อนรับเลยใหญ่กว่าตอนที่   รับรองเข้าบ้านประมาณว่าครึ่งต่อครึ่ง  คือแรกๆมี4คนที่ช่วยขนของ   แต่ตอนเลี้ยงมี8-9คน  เกือบทุ่ม  หม่ามี๊เราเกิดรู้สึกแปลกๆเป็นคนแรก  

    "ไอ้ต้อยไปใหน?"  หม่ามี๊เราถามขึ้นดังๆ  ตะเกียบทคีบหมูย่างที่กำลังจะเข้าปากเราชงัก...

  ..เอ...นั่นสิ   ต้อยไปใหนหว่า?  เราคิด  น้องเราก็คงคิด  เพราะดูจากสีหน้าแล้ว  โจเองก็ออกอาการเป็นห่วงต้อยอยู่เหมือนกัน   

      " ตอนไปโลตัส  ต้อยไปด้วยหรือเปล่า?  "   เราถามน้อง    

       "ไม่รุสิ  จำไม่ได้  ...???"    โจบอก

       "ทาโร่ซัง.  เห็นต้อยจังมั๊ย???"   เราถาม

       "บ่!   ...เอ๊ย!!...วาคาราไน้เน่ะ!*  "   ทาโร่บอก

   อ้าวเฮ้ย! ( เสียงจากเฮียปี้ )... ไอ้ต้อยหายโว้ย!

   หม่ามี๊เราเริ่มทำท่าจะล้มวง   "..ไป๊ๆๆ  พากันไปหามันเดี๋ยวนี๊.."   ทุกคนได้ยินประกาศิตมังกรหยกขนาดนี้..  มีเร้อจะมึน!   นั่งเฉยได้  เริ่มทยอยๆก้นขยับไปมาแต่ก็ไม่ได้ลุกออกจากที่  แบบทันทีทันใด

    เฮียปี้(ที่เสียงดังมาก)..    ตะโกนพร้อมถือแก้วเบียร์ติดมือไปด้วย   "ต้อย!...  ไอ้ต้อยโว้ย!  ป้าแกเรียกแล้ว...มะ  มะมะๆ  มุๆๆๆ   จิ๊ๆๆๆๆ.."  เรียกเหมือนเรียกหมาเลยเน้าะ   เราคิดในใจ   อันที่จริงเฮียปี้มาบอกที่หลังว่า  รู้อยู่ว่าต้อยติดอยู่ในบ้านทาโร่ซัง  แกเองก็กะว่าจะบอกอยู่  แต่แกเพลินเบียร์ฟรีอยู่  เลยลืมค่ะ

        "คร้าบ..บ..บ..เฮียปี้...บอกพี่จันเปิดประตูเหล็กหน้อย..ย..  พ้มออกไม่ได้..!"   เรารีบเอากุณแจไปไขปล่อยต้อยออกมาสู่โลกภายนอก

     "มัวทำอะไรอยู่? "  เราถามตอนที่ต้อยมาล้างมือและเริ่มกินๆๆๆๆ   ไปได้สักครึ่งกระเพาะ   " ก็พี่ให้ผมถอนมุ้งลวดไปล้าง  ผมก็ถอดไปล้างในห้องน้ำ  แล้วก้อเอาไปตากให้มันสะเด็ดน้ำที่ระเบียง  ผมก้อนอนดูรูปการ์ตูนในหนังสือทาโรแล้วหลับคับ."  อื้มอันนี้เข้าใจค่ะ  เพราะต้อยอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกแน่นอน   แต่การ์ตูนของทาโร่ซัง  เราไม่อาจบอกได้นะคะ   ว่าเป็นการ์ตูนแบบใหน?.....

          งานเลี้ยงเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา.....เราจบงานกันเกือบตีหนึ่ง

     เช้าวันรุ่งขึ้น  ทาโร่ซังมายืนยิ้มอยู่หน้าประตูบ้านเราแต่เช้า   ที่รู้เพราะหม่ามี๊เราเปิดประตูปุ๊ปก็เห็นทาโร่ซังยืนอยู่ก่อนแล้ว   แม่มาเรียกเราที่กำลังอยู่ในห้องน้ำ

         "จัน!   โคโดโมะมาหา.."   แม่แกไม่ติดปากเรียกชื่อค่ะ  เลยโมเมเอาว่า  ทาโรซัง  ซื่อ  โคโดโมะ    หลังจากเราทำระส่วนตัวแล้ว  ก็มานั่งดูเขาทั้งสาม(แม่ โจ ทาโร่ซัง )จิบกาแฟ  แล้วถามว่า  มาทำไมแต่เช้า  ทาโรเปิดเสื้อให้ดูที่หลัง  ซึ่งมีตุ่มแดงๆขึ้นเต็มหลังเลยค่ะ  ยิ่งขาวๆยิ่งเห็นชัดเจนมาก  น่ากลัวเลยล่ะค่ะ  แล้วบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลเป็นไทยว่า  "ยุงเยอะมาก...ใหนว่ามีมุ้งลวดงัย  ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?"   เราเดินนำหน้าไปที่บ้าน(เช่า)  ทาโรซังทันที  ชั้นบนที่มีห้องนอนสองห้อง  แล้วมีทางเดินไปเปิดประตูระเบียงที่กรุมุ้งลวดทั้งหมด  ไม่มีมุ้งลวดอยู่เลยซักแห่ง!    มุ้งลวดหาย!  ??!!....   เราเปิดประตูระเบียงออกไป  พบว่า  มุ้งลวดทุกชิ้น ทุกอัน  ถูกทำความสะอาดเอี่ยมอ่อง  และแห้งสนิทมาก!!!......

 

 

       คำว่า "ซัง"  ในภาษาญี่ปุ่น  คือ   คุณ

       คำว่า"จัง"    ในภาษาญี่ปุ่น  คือ   ใช้เรียกคนที่อายุน้อยกว่า  แต่สนิทกัน

        คำว่า     วาคาราไน้    คือ    ไม่รู้  ไม่ทราบ   

 

  

   

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา