ต้อยติ่งซินโดรม

8.1

เขียนโดย jundee

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.43 น.

  13 ตอน
  68 วิจารณ์
  24.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 15.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) ที่นี่ก็มีหิมะ..นะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            หากอ่านมาตั้งแต่แรกๆจะรู้ว่านอกจากเรากับแม่แล้ว  ยังมีต้อยอีกคนที่ชอบต้นไม้ใบหญ้า(อื้ม  กินอร่อยดีเน้าะ ..  ?/...ฮื้มจ้า...!!  อ้าว..เผลอไปๆ)  ด้วยเหตุนี้ทำให้พื้นที่อันน้อยนิดหน้าบ้านเราออกแนวป่าเบญจพรรณ  ต้นวาสนาของแม่3-4ต้น  หญ้าที่ขึ้นมาเองไม่ได้มีใครปลูก  แล้วก็ไม่มีใครยอมถอนทิ้งเหมือนกัน  ต้นกระเพรา  โหระพา  พริก(ที่ไม่เคยออกเม็ด)ของเรา  ดอกกุหลาบนั่นแม่ก็ชอบ  ต่อให้ไม่มีดอกเหมือนตอนที่พ่อค้าเข็ญมาขายก็ตาม   แต่หากเจอเมื่อไหร่แม่ก็อดที่จะซื้อไม่ได้สักที   แล้วก็ไม้แคระจิ๋วที่ต้อยชื่นชมนักหนามันคือ  ตะบองเพชรแคระ(จิ๋ว)ค่ะ  แรกๆก็แค่4-5กระป๋อง  กระป๋องจริงๆนะคะกระป๋องเล็กๆที่แล้วแต่พ่อค้าจะใส่อะไรมาขายให้  ต้อยเป็นเลือกอย่างประดิษฐิ์ประดอย  แล้วมาวางแหมะ !!.. อย่างไร้ค่า!!  ..ที่หน้าบ้านเสมอ 

             จากที่ต้อยไปรู้จักมักคุ้นกับพ่อค้าตะบองเพชร   ทำให้ต้อยมีBig Projectขึ้นในสมอง  โดยมีตะบองเพชรเป็นProductที่ต้อยหมายมั่นปั้นมือว่า  งานนี้ต้อยสามารถมีรายได้เพิ่มเป็นกอบเป็นกำแน่ๆจากการตัดต่อตะบองเพชรจิ๋วขาย   หลังจากที่เทียวไล้เทียวขื่อนานหลายสัปดาห์ติดๆกัน  พ่อค้าได้บอกและสอนต้อยเรื่องตะบองเพชรหลายอย่างทั้งเทคนิคการเลี้ยง  ดูแล  ต่อ ติดตาหรือตัดแต่งผสมข้ามสายพันธุ์  ต้องยอมรับว่าต้อยมีพรสวรรค์เรื่องต้นไม้ค่ะ   ที่คนโบราณจะพูดว่า " เป็นคนมือเย็น "  ปลูกอะไรก็งามดีทุกอย่าง  ตะบองเพชรต้อยมีมากมายหลายแบบ   หลากหลายสายพันธุ์มากขึ้น จากแค่พื้นที่หน้าบ้าน  ได้ลามขึ้นไปถึงบนระเบียงชั้นสองตรงหัวนอนห้องเราพอดิบพอดี   เราเองก็ชอบมองเวลาที่ต้อยติดข้ามพันธุ์  มันดูเหมือนง่ายๆ  แต่ตัวเราเองกลับไม่เคยทำได้เลย  แม่เองก็คงสังเกตุเห็นความเป็นคนมือเย็นนี้ของต้อย  เลยขอให้ต้อยช่วยดูแลดอกกุหลาบให้แม่ด้วย  ต้อยก็รับคำและไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆค่ะ  ดอกกุหลาบของแม่ออกดอกสวย  อย่างที่พ่อค้าโฆษณาว่ามีหลายสีในต้นเดียว  แต่เรากับแม่ไม่เคยเห็นเลยตลอดเวลาที่ปลูก..   มันมาอวดดอกสวยๆตอนที่ต้อยดูแลให้นี่เองค่ะ  ดูว่าแม่จะปลื้มมากกับต้อยในเรื่องนี้  ชมหลานชายไม่ขาดปากตอนแกนั่งมองดอกไม้ที่แสนชอบหน้าบ้านเวลาจิบกาแฟในยามเช้ากับโจ 

          ในเย็นเลิกงานวันหนึ่ง  เราเห็นต้อยมีถุงสีดำเหมือนถุงขยะผูกติดท้ายจักรยานกลับมาด้วย  แต่ไม่ได้ถามหรือสงสัยอะไร  เขา"มีอะไรๆ"ของเขาอยู่เสมอ  เหมือนที่เคยๆเล่าให้ฟัง(อ่าน)นั่นล่ะค่ะ

        ตอนหกโมงเย็นกว่าๆ  เรามีเพื่อนที่เป็น  "สาวนะยะ"มาหาที่ร้าน  "วันนี้ชั้นเบื่อล่ะเธอ...เลยแวะมาเม้าท์แตกกะเธอดีกว่า.."  เรามักจะมีเพื่อนๆแวะมาหาเสมอๆค่ะ  ยิ่งหากเป็นเพื่อนคนที่รู้ว่าสามารถมานั่งจิบๆไป  ดูเราทำงานไป  แล้วปากก็ชวนเราคุยไป  โดยที่ไม่เคยคิดจะลุกมาช่วยล่ะก็  ยิ่งมีเยอะ (555  ล้อเล่นๆ  เราห้ามเองไม่ให้ช่วยหรอก  กลัว"งานเข้า"มากกว่าเดิม)  จากหกโมงกว่าๆ  ยาวไปถึงสามทุ่มเกือบสี่ทุ่ม  ในตอนนั้นเราเก็บร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว   นั่งคุยกับมิสทิฟฟี่ เอ๊ย!! ทิฟฟานี่ อยู่..กำลังสบายๆ  อาซิ้มบ้านเยื้องๆกันก้อเดินมาหาที่ร้านแล้วบอกว่า  "  อาจัน...ไปดูที่บ้านลื้อซิ  มีอะไรตายหว่า  เหม็นซิ.......หายเลย."  ว่าเสร็จแกก็เดินกลับไป  เราไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้านเพราะใหนๆก็เป็นลูกครึ่ง(ลาวปนล้าวลาว..หุ  หุ)ครอบครัวแรกที่สะเออะมาอยู่กะอาหม่าอาซิ้มแถวนี้ได้แล้วต้องทำตัวดีๆน่ารักๆหน่อย  เดินตามตูดอาซิ้มแกไปติดๆ ปากกำลังจะ..อ้า ..ถาม  เราก็แทบสำลักกับกลิ่นที่เหม็นเน่าโชยเข้าปากเต็มๆ  มองหน้าอาซิ้ม  อาซิ้มมองหน้าเรา????  .."ซิ้ม..ซิ้มว่ามันเป็นอะไรคะ?.."เราถามไป เพราะมันจนปัญญากับกลิ่นที่แสนแปลกประหลาดนี้มาก    เหม็นเหมือนมีตัวอะไรที่ตายมาหลายวันแล้ว  และไอ้ตัวที่ตายนั่นก้อกินไอ้ตัวที่ตายเน่ามาหลายวันแล้วเหมือนกัน..  "อั๊ว  ไม่รุ  แต่ลื้อต้องจัดการเลยนะ..เหม็นทั้งซอยแล้ว.."  จริงค่ะ  มันเหม็นจริงๆ  แค่เดินออกมาจากร้านสามก้าวก็ได้กลิ่นเลย   เราเข้าไปในบ้าน  ในบ้านยิ่งนรกมากกว่าทางเดินหน้าบ้านอีก  แม่อุดจมูก โจนั่งนิ่งๆไม่ยอมอ้าปากอะไร  คงกลัวอาวุธชีวภาพเข้าไปในร่างกาย  มีแต่ต้อยเท่านั้นที่นอนราบกับพื้นบ้านขาไกว่ห้างกระดิก"ทีน"ดูทีวีอย่างสบายอารมณ์เพียงคนเดียว! 

    เรา       ต้อย  เอาอะไรมาน่ะ?

    ต้อย     รัยพี่  ไม่นี่..

    เรา       ไม่อะไร  เหม็นจะตาย

    ต้อย      ปุ๋ยพี่จัน  ปุ๋ยสูตรใหม่  คนขายตะบองเพรชให้มา  เค้าว่าใส่อะไรก็ได้

     เรา       เอาไปทิ้งเลยเดี๋ยวนี้ด้วย  โดนด่าแล้วนะ  อาซิ้มแกเหม็นเดินไปบอกที่ร้าน

      ต้อย    ดึกแล้วพี่  พรุ่งนี้เถอะ../ว่าแล้วก็ดูทีวีต่อ  เหมือนกับว่ามันมีท่อกรองอากาศพิเศษติดตัว  ไม่ได้กลิ่นอันตรายนั่น

        เรา    งั้นช่วยทำไงก็ได้ให้มันลดกลิ่นลงหน่อย  เกรงใจเค้า..

     ว่าแล้วเราก็เดินไปที่ร้านนั่งคุยกับเพื่อนต่อ  จนเกือบห้าทุ่ม  เพื่อนจะกลับ  เดินมาไหว้ลาแม่  มีอาซิ้ม(เจ้าเก่า)กับอาหม่าและแม่เรายืนคุยอะไรกันอยู่ที่หน้าบ้าน   อาหม่ามองมาเห็นเรากับเพื่อนก็พูดดังเรียกเราว่า   "อ่าจั่น..ลื้อมาดูนี่เลวๆ  ต้นไม้บ้านลื้อมีอะไรก้อม่ายลุ  เต็มไปหมดเลย.."

           ที่หน้าบ้านเรา  มีสีขาวโปรยปรายเต็มพื้นที่กินบริเวณกว้าง  ใบไม้ดอกไม้ก้อสีขาว  สวยมากเลยค่ะ  ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ๆยิ่งสวยมากๆ  ในตอนนั้นเองที่พวกเรากำลังสนใจกับผงสีขาวแปลกๆ  สายตาเพื่อนเราก็สังเกตุเห็นผงสีขาวนั่นกำลังลอยฟุ้งทิ้งตัวอ้อยอิ่งลงมาจากระเบียงชั้นบน  ทุกคนแหงนหน้ามองขึ้นไปพร้อมกัน    "ต้อยกำลังขมักเขม่นเทแป้งฝุ่นจอนห์สันแอนด์จอนห์สันลงบนต้นไม้ตรงระเบียงอย่างปราณีต!"..........

           เพื่อนเรา   ชี้มือลงไปที่ต้นกุหลาบของแม่พร้อมทั้งพูดว่า

        "  เนี๊ยะ  นะเท้อ..ที่เชียงใหม่เค้าเรียกแม่คนิ้งล่ะ.!"

         ไอ้เจ้าโจตัวดีที่นอกจากไม่ห้ามต้อยแล้วยังสังเกตุอาการของทุกคนไม่วางตา  ปล่อย  ก๊าก!  นำหน้า ...แล้วพวกเราทุกคนก็ปล่อยกำลังขับไม่รู้ว่ากี่เดซิเบล   แต่ที่แน่ๆ ตอนห้าทุ่มวันนั้นคนทุกคนที่อยู่บ้าน4-5คูหาก็มารวมตัวแหงนหน้าบ้าง  ก้มหน้าดูบ้าง    "ผลงาน"  ของต้อย    ได้ผลเกินคาด!  เป็นจุดน่าสนใจที่สุดที่เกิดขึ้นในซอยจริงๆ.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา