ต้อยติ่งซินโดรม

8.1

เขียนโดย jundee

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.43 น.

  13 ตอน
  68 วิจารณ์
  24.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 15.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ตอนที่1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       ที่บ้านนี้มี  "เรื่อง" เสมอ  ตัวต้นเหตุไม่ใช่คนอื่นคนไกล  หากแต่เป็นหลานชายสุดที่รักของหม่ามี๊เราเอง    จริงๆแล้วเรากับน้องชายก็รัก  "มัน"นะ แต่เป็นประเภทรักไม่ลงหลงไม่นานน่ะ  555 เพราะบทบาทของน้องต้อยคนนี้  มีมาเกือบทู้กกกกกวัน....  บ้านนี้เลยยกให้เขาเป็นความบันเทิงที่มีชีวิต"จริง"และลามปามไปสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนบ้านระแวกนี้โดยที่ไม่ตั้งใจ  ต้อยติ่ง(ซินโดรม )เป็นอาการใหม่ที่วงการแพทย์ไม่มีการระบุสาเหตุของโรคได้อย่างชัดเจน  และไม่รับรองอะไร  นอกเสียจากต้อยฯจะเป็นผู้แสดงอาการเอง  ได้ทำท่าทะลุยอด  ออกแนวฮา เลยปากซอยที่เดียวเชียวล่ะ  ขนาดขั้นที่ว่า หากจะหาคนๆนี้แค่พูดง่ายๆว่า

        "พี่ๆ  บ้านต้อยคนที่ล่ามรถไว้กับไว้กับกุหลาบกระถางเล็กๆอยู่ไหน ?"Laughing

       ชาวมอ...  (ไซต์) ปากซอยแทบจะอุ้มคุณมาส่งถึงหน้าบ้านเชียวล่ะ    แล้วหากเจ้าตัวอยู่ก็จะมีการทักทายเป็นแบบ  ชาวหนองคูณซิตี้(ชื่อหมู่บ้านเค้า)ว่า  "มาๆๆ..ป้าด..มาเฮ็ดหยังนี่...!.."  น้านล่ะ  คำทักทายของ "ไอ้ติ่ง"ของน้องเรา  และ"ไอ้ต๊อยยย"ของเรา  และ"บักต้อย"ของหม่ามี๊กับอีกหลายครอบครัวที่รู้จัก  "ต้อยติ่ง" (ซินโดรม)ของเรา  เป็นอย่างดี..แล...ลึกซึ้ง.....

      ....    อันที่จริงต้อยเองก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรเลย  ออกเป็นคนดีด้วยซ้ำ  มีน้ำใจและซื่อสัตย์มากๆชนิดที่ว่าคุณนึกไม่ออกแน่ๆ  ว่า  มีคนแบบนี้อยู่ในโลกแห่งความจริงด้วยเหรอ   ต้อยเขามีทุกอย่างที่คนอื่นๆมี   เพียงแต่เค้าเป็นคนที่มีอะไรหลากหลายมากไปหน่อยในตัวเอง  อเมซิ่งสามพันโบกอายม้วนต้วนไปเลย ..(ว่างั้น นะต้อย...น้องรัก.)

            ...ไหนนะคะ...   อ๋อๆ....อยากรู้เรื่องล่ามรถจักรยานกับกระถางกุหลาบเหรอคะ?   55...ได๋ค๊ะ..จัดให้ณ.บัดนาว

         คือต้อยเขาทำงานไม่ไกลบ้านมากนัก  ด้วยความที่ต้อยรักษ์โลก .. "ทิ้ง".. เอิธร์ อะไรประมาณนั้น  แต่นั่นก็ไม่เท่าจำนวนเงินที่เหลือในกระเป๋าแต่ละเดือน ของต้อย   ทำให้ต้อยตัดใจจากรถแพงๆ  มาเป็นซื้อ"ผ่อน"จักรยานที่มีชาติตระกูลมาคันหนึ่ง  แหมเกือบหมื่นนะคะ  ว่าไป   เค้ารักของเค้ามาก  ทุกเย็นหลังเลิกงานเขาจะล้างโน่นเช็คนี่ของเขาทุกวันหน้าบ้าน  คือบ้านที่อยู่เป็นตึกแถวสองชั้น  แบบมีสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน   มีถนนตรงกลางใช้เป็นที่สัญจรไปมาของชาวซอยนี้ค่ะ   แล้วต้อยก็จะล๊อครถเขาที่ประตูเหล็กพับทุกวัน   เพราะมันไม่มีที่ล๊อคได้ดีและปลอดภัยไปมากกว่านี้แล้ว  หลังจากที่  ขัดหาเลข...อุ้ย  ไม่ใช่ๆ  ขัดเงา"รถ"  คือเขาชอบเรียกสั้นๆว่า"รถ"ค่ะ  ฟังดูมันก้ำกึ่งดีสำหรับผู้ที่ไม่เห็นภาพ  "รถ" ของต้อย  โก้ดีว่ากันงั้น555..

        ต้อยจะขัด  เช็ดถู รถจักรยาน อยู่หน้าบ้านทุกวัน ... ขัดไป .. แอบมองสาวๆที่เดินผ่านไปมา   มันเป็นความสุขทางใจของต้อยอีกอย่าง   ผ่านไปหลายเดือน  ความผูกพันของต้อยกับรถเริ่มเหนียวแน่นฝังใจขนาดว่านอนเฝ้ากันเลยก็ว่าได้  (ในวันที่ต้อยหลับให้ทีวีดู)   ที่ซอยนี้ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินต่ำกว่ามาตรฐานในโลกที่สามสี่ห้ารวมกันทั้งหมด  ต้อยเองก็รู้ดีถึงข้อนี้  ต้อยลงทุนควักกระเป๋าจ่ายค่าโซ่เส้นโต ลูกกุณแจขนาดใหญ่  และไม่เคยลืมล๊อครถ และล่ามโซ่รถตัวสักครั้ง  ที่หน้าบ้านเราก็จะเหมือนชาวเมืองกรุงทั่วไป  ด้วยพื้นที่จำกัดแต่เราชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้และสารพัดต้นกระบองเพชรจิ๋วของต้อย (อิ  อิ  อีกแล้วนึกเรื่องนี้ชนมาเฉยเลย..เอาไว้จะเล่าให้อ่าน  ตอนนี้อ่านเรื่องนี้ก่อน)  ได้วางเบียดกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน  แล้ววันที่ต้อยเสียใจสุดซึ้งก็มาถึง 

           ต้อยเลิกงานมาถึงบ้านตอนเกือบห้าโมงเย็น  และคงร้อนมาก  หรืออาจปวดท้องห้องน้ำสุดจะเดาได้   จอดรถปุ๊ป! ล๊อครถปั๊บ! วิ่งตึงๆๆเข้าในตัวบ้านไป3นาทีกับ2วิ.  เราเดินมาหยิบกุ้งที่บ้านเพราะกุ้งใส่ผัดไทยหมด  เลยต้องมาเอาเพิ่มในตู้เย็นที่บ้าน  (ร้านที่ขายกับบ้านอยู่ใกล้กันค่ะ  เดิน1-2นาทีก็ถึง)  สังเกตุเห็นโซ่รถต้อยมันหย่อนๆแปลกๆเลยไล่สายตาตาม  ความสะเพร่าของต้อยปรากฎแก่สายตา  คือปกติจะลามไว้ติดกับประตูเหล็กค่ะ  แต่วันนี้  เค้าล่ามรถไว้กับกระถางกุหลาบหม่ามี๊เรากระถางเล็กๆที่แม่ซื้อเมื่อวานตอนที่มีคนเข็นมาขาย  กระถางพลาสติกดำๆนั่นละค่ะ  แต่เจ้าของอาบน้ำโครมๆในห้องน้ำ  เราเลยไม่อยากเรียกให้เสียเวลา  รีบไปขายอาหารต่อ  ลูกค้ากำลังหิวด้วยสิ  เดี๋ยวคนขายโดนลูกค้าว่าสวยแล้วยังช้าอีกนะแม่คู๊ณ..!!..55..

           สักพักก็ได้ยินเสียงต้อยวิ่งหน้าตื่นมาที่ร้าน  พูดเสียงดังว่า

         "พี่ๆ มีคนขโมยรถพ้ม"

          " อ้าวแล้วแกไม่ล๊อคไว้เหรอ? ไอ้ต้อย"  แม่เราถามไป  ตอนนี้ลูกค้าเริ่มให้ความสนใจมากกับรถต้อย 1. ไม่รู้ว่ารถอะไรแต่คงแพงนะ  หน้าซีดขนาดนี้  2.  เพราะการสูญเสียของผู้อื่นคือความบันเทิงของพวกเรา(ฮา)

           "ล๊อคซีป้า!"  เจ้าต้อยเริ่มเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้   ผู้คนเริ่มเข้ามารุมซักถามต้อย  ไม่สนใจยืนกอดอกรุมกะทะผัดไทยเราเหมือนเมื่อกี้เล้ย  ทำให้มีโอกาสประดิษฐ์ประดอยเยอะขึ้น    "   หายที่ไหน... ?"  " ...รถอะไร  ? "..โจรมันเยอะนะ.."  เฮ้อ!  น่าสงสารแท้ๆ...แหม  มีลงท้ายด้วยความเห็นใจซ้าด้วย     แม่เราเดินไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง  พอเห็นกระถางกุหลาบแดงที่ติดดอกเล็กๆ2-3ดอกของแก  ล้มกลิ้งออกมากลางถนนที่เดิน   ก็บ่นออกมาดังๆว่า  "ดูสิ!  ขโมยมันคงรีบมาก  เตะกระถางแม่ล้มหมดเลย"     ...ต้อยที่ตอนนี้  น้ำตาแห่งความเสียใจคั่งค้างอยู่บนแก้มเดินตามหลังแม่เรามาที่ร้านด้วยต้อยๆ  เอ่ยออกมาว่า  "ป้า  ผมล่ามรถไว้กะกระถางน่ะ  ขโมยมันไม่ได้เตะหรอก."

               และแล้วเสียง..ฮา....ก้อดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงทั่วร้านผัดไทป้าใหญ่  แห่งซอยภูมิจิตร.

 

 

 

              ปล.  เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นช่วงเวลา4-5ที่ผ่านมาค่ะ  แล้วผู้เขียนจะนำมาเล่าใหอ่านอีกในตอนต่อๆไปนะคะ   แต่ตอนนี้  ร้านผัดไทป้าใหญ่ได้ปิดกิจการลงแล้ว.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา