สุขสันต์วัเกิด
9.0
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แมรี่นั่งอยู่ที่เดิมอย่างเลื่อนลอย มือถักผ้าพันคอให้ตัวเองมาตั้งแต่ปีที่แล้วกก็ไม่เสร็จสักที ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีหัวทางนี้ ...แต่เธออยากมีอะไรทำง่วนอยู่ตะหากเวลาที่พอลกลับมาบ้าน
20ปีกับชีวิตแต่งงานที่ย่ำแย่ของแมรี่ ทั้งๆที่ตอนงานเลี้ยงทุกคนต่างลงความเห็นว่าเธอช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้พอลเป็นสามี คนหนุ่มอนาคตไกลในบริษัทิเงินทุนขนาดใหญ่ ลองมาอยู่กับพอลสิ แล้วจะรู้ซึ้ง แมรี่คิดอย่างนี้เสมอ เวลามีคนชื่นชมสามีของเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเธอเริ่มมีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ภาพที่พอลตระกรุมตระกรามกินอาหารอย่างบ้าคลั่งต่อหน้าเธอเรื่องเดียวก็ทำเอาเธออยากหนีไปให้พ้นแล้ว ใบหน้าที่บูดบึ้งนั่นอีก จนแมรี่สงสัยว่าในชีวิตนี้พอลเคยยิ้มบ้างหรือเปล่ารูปแต่งงานก็ไม่ปรากฎว่ามีภาพที่พอลยิ้มเลยสักภาพเดียว เสียงที่พูดกระโชกเวลาไม่ได้ดั่งใจ รึ! แม้แต่ความใส่ใจเธอบ้างสักนิดที่สามีควรมีต่อภรรยาพอลไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำไป
วันนี้ วันเกิดเธอ ต่อให้เป็นวันตายของเธอ พอลก็คงไม่มีทางแสดงอะไรแน่นอน
พอลจอดรถที่ลานจอดหน้าบ้านเช่นเคยทุกวัน นิ้งติ้งที่แมรี่ถัก ยังกองแหมะบนตัก พอลนึกขวางตาอย่างช่วยไม่ได้ "ไม่รู้จะถักไปหาสวรรค์อะไรซีน่า" พอลคิดอย่างหัวเสีย เธอน่าจะเอาเวลามาตัดหญ้าที่สนามมากกว่ากับไอ้ผ้าซังกะบ๋วยนั่น ... พอลเปลี่ยนชุดทำงานกุกกักชั้นบนของบ้าน ก่อนลงมานั่งเอกเขนกบนเก้าอี้ตัวโปรดที่เขาอุสาห์ยอมจ่ายในราคาที่แสนแพงอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้ง500ดอลล่าร์เชียวนะ เขารู้สึกพึงพอใจกับมันมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่นั่งก้มหน้าก้มตาถักอะไรยุกหยิกอยู่ตรงหน้าด้วยซ้ำ "นี่ หาอะไรมาให้ชั้นดื่มหน่อยสิเธอ "
พอลพูดพร้อมกับก้มอ่านหนังสือพิมพ์ที่ซื้อติดมือมา ทุกวันเขาจะต้องอ่านหนังสือพิมพ์ตรงนี้เวลานี้ทุกที มันเป็นสิ่งที่เขาทำไปแบบตั้งเวลาอัตโนมัติของชีวิตไปแล้ว พอลชอบดื่มก่อนอาหารเย็นทุกวัน เขาจะมีการจิบวิสกี้วันละสองแก้วเสมอ ในขณะที่แมรี่ไปเตรียมอาหารเย็น แมรี่ส่งแก้วเหล้าให้พอลแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว เปิดประตูห้องเย็นที่ตุนอาหารไว้ พอลเป็นคนคิดออกแบบห้องสะสมอาหารนี่เอง เพราะเขาไม่อยากไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตบ่อยๆ แค่เดือนละครั้งมันมากเกินไปสำหรับการซื้ออาหารสำหรับคนเพียงสองคน เขาจึงทำห้องเก็บอาหารที่สามารถเก็บเนื้อสัตว์ได้นานถึงหกเดือนนี้ขึ้น แมรี่เลือกขาแกะขนาดใหญ่พิเศษที่แข็งโป๊กออกมาจากช่องเก็บขาแกะ วันนี้วันเกิดเธอ มันต้องมีอะไรที่พิเศษหน่อยสิ
เสียงพอลร้องขอเหล้าอีกแก้ว แมรี่เดินไปหยิบแก้วมาเติมให้ พอลก้มหน้าอ่านหนังสือของเขาไปเหมือนเดิมทุกครั้ง เขาไม่เคยเงยหน้ามองเธอหรือใครเลย... ถั่วกระป๋องบ้านเธอหมดพอดี แล้วอีกตั้งอาทิตย์พอลถึงจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต คงต้องไปขอยืมถั่วที่บ้านมิสซิสแจสสิกาก่อน บ้านนี้รั้วติดกับบ้านเธอ ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงร้องหรือพูดดังๆได้ แมรี่เอาขาแกะเข้าเตาอบเธอตั้งไฟด้วยอุหภูมิที่สูงกว่าปกติแต่ไม่ให้ถึงกับไหม้มากหากขาแกะสุก เธอเดินเลยที่สามีนั่งอยู่ ไปเปิดประตูกระจกเลื่อนทิ้งเอาไว้ แล้วเธอก็ร้องบอกสามีดังๆว่า "ที่รัก ชั้นฝากคุณดูขาแกะในเตาอบด้วยนะคะ"
จากนั้นแมรี่ก็เดินออกมาเกาะขอบรั้วบ้านมิสซิสแจสสิกา บ้านนี้ก็เหมือนกัน ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆซากๆ มิสซิสแจสสิกาชอบออกมายุ่งกับแปลงกุหลาบของเธอเวลานี้เสมอ "เฮ้..คุณมีถั่วเหลือมั๊ยคะ" แมรี่ร้องถามพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม
" มีสิคะ ดูท่าของคุณคงต้องซื้อเพิ่มมากขึ้นนะคะ นี่คงอีกอาทิตย์มั๊ง"
ยายตัวแสบ ..แมรี่คิดในใจ รู้เรื่องของชาวระแวกนี้ไปหมด เธอยังจำสายตาที่ มิสซิสแจสสิกาชะเง้อมองตอนที่บ้านเธอทำห้องเก็บอาหารได้ ช่างเป็นสายตาที่สอดรู้ไปซะหมดทีเดียวล่ะ "ใช่ค่ะ อีกอาทิตย์พอลถึงจะไปซื้อของ แต่พอดีวันนี้วันเกิดชั้นค่ะ ชั้นอาจเชิญเพื่อนสนิทมาทานมื้อค่ำด้วย คุณกับสามีมาด้วยสิคะ เรามีขาแกะอบกับสลัดแล้วก็พุดดิ้ง"
"อุ้ยค่ะ ดีจังนะคะ ที่รู้ว่าคุณเกิดวันนี้ ค่ะชั้นไปแน่ค่ะ" นี่ถือว่าเป็นโอกาสดีมากๆที่เธอจะได้เข้าไปดูบ้านของครอบครัวนี้อย่างเต็มๆตานี่คือสิ่งที่มิสชิสแจสสิกาคิด
แมรี่ทำท่าจะเดินจากมา แต่ก็หันกลับไปใหม่ "คุณว่าเราควรมีไวน์หรือแชมเปนอะไรสักหน่อยดีมั๊ยคะ" แมรี่ถามไป
"ค่ะ ต้องมีสิคะ เดี๋ยวชั๊นกับสามีจะถือไปเองค่ะ " มิสซิสแจสสิกาตอบ
"ค่ะ หากคุณต้องการอย่างนั้น แต่ฉันว่าจะลองไปดูที่ร้านขายใกล้ๆนี้ก่อน เผื่อไว้น่ะค่ะ"
ว่าแล้ว แมรี่ก็เดินออกทางประตูใหญ่หน้าบ้านไป ทิ้งให้มิสซิสแจสสิกาอดค่อนคอดในใจว่าเธอช่างขี้เหนียวนัก แค่ไวน์ขวดเดียวยังต้องพูดทางอ้อมให้เธอถือไป
ที่ร้านค้ามีเครื่องดื่มมากมายให้เลือก แมรี่ใช้เวลาเลือกอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วเธอก็ได้ไวน์แดงขวดหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังโอ้เอ้ดูขวดแชมเปนต่างๆอีกราว20นาที จนเจ้าของร้านถามให้ความช่วยเหลือ "ค่ะ ชั้นไม่ค่อยดื่มค่ะ แต่ชั้นอยากได้อะไรที่กินคู่กับแกะอบได้" แมรี่ตอบ เจ้าของร้านยิ้มแย้มดูใจดี ช่วยเธอเลือกไวน์อยู่นาน ดูเหมือนเขากับเธอจะคุยกันถูกคอเหลือเกิน ก่อนออกจากร้าน เขายังอุสาห์อวยพรให้เธอ"สุขสันต์วันเกิดนะคร้าบ"
แมรี่เดินออกมาอย่างยิ้มแย้ม นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้ยิ้มแบบนี้ ต่อไปนี้เธอคงยิ้มแบบนี้ทุกวันแมรี่คิดอย่างกระหยิ่มใจ แล้วเสียงโทรฯมือถือที่เธอเอาติดตัวมาก่อนออกจากบ้านก็ดังขึ้น ลีน่าพี่สาวของเธอโทรฯมา ลีน่าคงมาถึงแล้วล่ะแมรีคิดในใจ เธอตั้งใจชวนพี่สาวทานมื้อค่ำวันนี้ด้วยพร้อมกับสามีของเธอ แมรี่กรอกเสียงทักทายไปอย่างสดใส แต่สิ่งที่เธอได้ยินกลับกลายเป็นสิ่งที่เธอถึงกับขนลุกซู่...
...นักสืบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเดินเข้าออกบ้านเธอวุ่นวาย มีนักสืบมาขอซักถามเธอ ประวัติสามีของเธอ พี่สาวกับสามีเธอเป็นคนเห็นศพพอลเป็นคนแรก
ศพพอลนอนฟุบอยู่กับเก้าอี้ตัวโปรด มีเลือดไหลนองพื้น แก้วเหล้าหกเลอะที่พรม หนังสือพิมพ์ช่วยกองเลือดไม่ให้เลอะเก้าอี้ได้บางส่วน แต่ก็ทำให้เลือดกองรวมกันอย่างน่าสยดสยอง แมรี่เปือนหน้าหนีภาพนั้น "คุณว่าคุณไปใหนมานะครับ?" นักสืบสมิทถามแมรี่เป็นครั้งที่สาม "ฉันไปร้านขายเหล้าค่ะ...แต่ฉันไปยืมถั่วบ้านข้างๆนี่ก่อน" นักสืบอีกคนที่ไปสอบถามมิสซิสแจสสิกาพยักหน้าเป็นเชิงว่า เธอบอกตรงกันกับมิสซิสแจสสิกาพูด และมิสสิชแจสสิกาบอกต่อด้วยอารมณ์เมามันในการร่วมเป็นผู้ได้ยินว่า "ดิฉันได้ยินเธอร้องบอกพอลดูเตาอบด้วยค่ะ แหม น่าสงสารม้ากมากค่ะ บ้านนี้เป็นครอบครัวสงบสุจจริงๆเลยของระแวกนี้ ฉันไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันเลยนะคะคุณนักสืบ"
ลีนากับสามีบอกว่าพวกเขาถูกเชิญให้มาทานมื้อค่ำที่บ้านนี้ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของแมรีซึ่งเป็นน้องสาวเธอ แต่พอมาถึงก็พบว่าพอลถูกฆ่าตายแล้ว แถมประตูกระจกห้องที่พอลนั่งก็ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ แมรี่บอกว่าเธอเป็นคนเปิดเอง "พอลบอกให้เปิดค่ะ เขาอยากได้อากาศเย็นๆสบายๆค่ะ เวลาพอลดื่มเขาชอบแบบนี้ค่ะ" แมรี่บอกนักสืบ เจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าพอลถูกทุบด้วยของแข็งมากที่ศรีษะจนกระโหลกร้าวและเสียชีวิตเกือบทันที กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นเวลาก็ล่วงเข้าเกือบห้าทุ่ม เจ้าหน้าที่ดูอ่อนเพลียและง่วงนอนกัน แมรี่นั่งซึมนึกถึงเรื่องที่ต้องทำต่อไป เธอจะไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ลืมที่นี่ให้หมดสมบัติเงินทองที่พอลสะสมไว้มันมากพอที่เธอจะเลือกไปอยู่ที่ใหนก็ได้ตามใจเธอต้องการ
"คุณนายครับ มีกาแฟมั๊ยครับพวกผมขอกาแฟสักถ้วยเถอะ" เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยปากบอกพลางขอแมรี่ แมรี่เช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองอย่างลวกๆก่อนบอกว่า "ค่ะ ในครัวค่ะ เชิญพวกคุณตามสบายเถอะค่ะ และหากหิวมีแกะอบอยู่ในเตาอบค่ะ ช่วยทานกันทีเถอะค่ะ ชั้นไม่อยากทานอะไรเลย"
ในครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างช่วยกันเฉือนเนื้อแกะอบกินแบบหิวๆ "ถึงจะไหม้ไปนิด อย่างน้อยก็ยังมีอะไรลงท้องนะพวกเรา น่าสงสารมิสซิสซิมสันนะ มาเสียสามีในวันเกิดตัวเองซะด้วยสิ" อีกคนพูดว่า "ได้ข่าวว่าเขาไม่สนใจใครด้วยนะ คงมีศัตรูเยอะน่าดู พวกทำงานบริษัทเงินทุนก้องี้ล่ะ ไม่งั้นไม่โดนฆ่าแบบนี้หรอก ฆ่าอย่างเดียวไม่เอาอะไรไปเลย"
แมรี่เช็ดน้ำตาด้วยผ้าถักที่ไม่เสร็จของเธอ ต่อไปนี้ชั้นไม่จำเป็นต้องแกล้งนั่งถักแกอีกต่อไปแล้ว แมรี่แอบยิ้มมุมปากนึกถึงคำอวยพรของเจ้าของร้านขายเหล้าที่ป่านนี้นักสืบคงสอบถามอะไรเขาอยู่
หากรู้ว่าง่ายแบบนี้เธอน่าจะลงมือตั้งนานแล้ว นึกขอบใจพวกตำรวจที่ช่วยกันกินหลักฐานชิ้นสำคัญอย่างเอร็ดอร่อยในครัวนั่นจริงๆ
"สุขสันต์วันเกิดจริงๆ".
20ปีกับชีวิตแต่งงานที่ย่ำแย่ของแมรี่ ทั้งๆที่ตอนงานเลี้ยงทุกคนต่างลงความเห็นว่าเธอช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้พอลเป็นสามี คนหนุ่มอนาคตไกลในบริษัทิเงินทุนขนาดใหญ่ ลองมาอยู่กับพอลสิ แล้วจะรู้ซึ้ง แมรี่คิดอย่างนี้เสมอ เวลามีคนชื่นชมสามีของเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเธอเริ่มมีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ภาพที่พอลตระกรุมตระกรามกินอาหารอย่างบ้าคลั่งต่อหน้าเธอเรื่องเดียวก็ทำเอาเธออยากหนีไปให้พ้นแล้ว ใบหน้าที่บูดบึ้งนั่นอีก จนแมรี่สงสัยว่าในชีวิตนี้พอลเคยยิ้มบ้างหรือเปล่ารูปแต่งงานก็ไม่ปรากฎว่ามีภาพที่พอลยิ้มเลยสักภาพเดียว เสียงที่พูดกระโชกเวลาไม่ได้ดั่งใจ รึ! แม้แต่ความใส่ใจเธอบ้างสักนิดที่สามีควรมีต่อภรรยาพอลไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำไป
วันนี้ วันเกิดเธอ ต่อให้เป็นวันตายของเธอ พอลก็คงไม่มีทางแสดงอะไรแน่นอน
พอลจอดรถที่ลานจอดหน้าบ้านเช่นเคยทุกวัน นิ้งติ้งที่แมรี่ถัก ยังกองแหมะบนตัก พอลนึกขวางตาอย่างช่วยไม่ได้ "ไม่รู้จะถักไปหาสวรรค์อะไรซีน่า" พอลคิดอย่างหัวเสีย เธอน่าจะเอาเวลามาตัดหญ้าที่สนามมากกว่ากับไอ้ผ้าซังกะบ๋วยนั่น ... พอลเปลี่ยนชุดทำงานกุกกักชั้นบนของบ้าน ก่อนลงมานั่งเอกเขนกบนเก้าอี้ตัวโปรดที่เขาอุสาห์ยอมจ่ายในราคาที่แสนแพงอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้ง500ดอลล่าร์เชียวนะ เขารู้สึกพึงพอใจกับมันมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่นั่งก้มหน้าก้มตาถักอะไรยุกหยิกอยู่ตรงหน้าด้วยซ้ำ "นี่ หาอะไรมาให้ชั้นดื่มหน่อยสิเธอ "
พอลพูดพร้อมกับก้มอ่านหนังสือพิมพ์ที่ซื้อติดมือมา ทุกวันเขาจะต้องอ่านหนังสือพิมพ์ตรงนี้เวลานี้ทุกที มันเป็นสิ่งที่เขาทำไปแบบตั้งเวลาอัตโนมัติของชีวิตไปแล้ว พอลชอบดื่มก่อนอาหารเย็นทุกวัน เขาจะมีการจิบวิสกี้วันละสองแก้วเสมอ ในขณะที่แมรี่ไปเตรียมอาหารเย็น แมรี่ส่งแก้วเหล้าให้พอลแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว เปิดประตูห้องเย็นที่ตุนอาหารไว้ พอลเป็นคนคิดออกแบบห้องสะสมอาหารนี่เอง เพราะเขาไม่อยากไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตบ่อยๆ แค่เดือนละครั้งมันมากเกินไปสำหรับการซื้ออาหารสำหรับคนเพียงสองคน เขาจึงทำห้องเก็บอาหารที่สามารถเก็บเนื้อสัตว์ได้นานถึงหกเดือนนี้ขึ้น แมรี่เลือกขาแกะขนาดใหญ่พิเศษที่แข็งโป๊กออกมาจากช่องเก็บขาแกะ วันนี้วันเกิดเธอ มันต้องมีอะไรที่พิเศษหน่อยสิ
เสียงพอลร้องขอเหล้าอีกแก้ว แมรี่เดินไปหยิบแก้วมาเติมให้ พอลก้มหน้าอ่านหนังสือของเขาไปเหมือนเดิมทุกครั้ง เขาไม่เคยเงยหน้ามองเธอหรือใครเลย... ถั่วกระป๋องบ้านเธอหมดพอดี แล้วอีกตั้งอาทิตย์พอลถึงจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต คงต้องไปขอยืมถั่วที่บ้านมิสซิสแจสสิกาก่อน บ้านนี้รั้วติดกับบ้านเธอ ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงร้องหรือพูดดังๆได้ แมรี่เอาขาแกะเข้าเตาอบเธอตั้งไฟด้วยอุหภูมิที่สูงกว่าปกติแต่ไม่ให้ถึงกับไหม้มากหากขาแกะสุก เธอเดินเลยที่สามีนั่งอยู่ ไปเปิดประตูกระจกเลื่อนทิ้งเอาไว้ แล้วเธอก็ร้องบอกสามีดังๆว่า "ที่รัก ชั้นฝากคุณดูขาแกะในเตาอบด้วยนะคะ"
จากนั้นแมรี่ก็เดินออกมาเกาะขอบรั้วบ้านมิสซิสแจสสิกา บ้านนี้ก็เหมือนกัน ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆซากๆ มิสซิสแจสสิกาชอบออกมายุ่งกับแปลงกุหลาบของเธอเวลานี้เสมอ "เฮ้..คุณมีถั่วเหลือมั๊ยคะ" แมรี่ร้องถามพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม
" มีสิคะ ดูท่าของคุณคงต้องซื้อเพิ่มมากขึ้นนะคะ นี่คงอีกอาทิตย์มั๊ง"
ยายตัวแสบ ..แมรี่คิดในใจ รู้เรื่องของชาวระแวกนี้ไปหมด เธอยังจำสายตาที่ มิสซิสแจสสิกาชะเง้อมองตอนที่บ้านเธอทำห้องเก็บอาหารได้ ช่างเป็นสายตาที่สอดรู้ไปซะหมดทีเดียวล่ะ "ใช่ค่ะ อีกอาทิตย์พอลถึงจะไปซื้อของ แต่พอดีวันนี้วันเกิดชั้นค่ะ ชั้นอาจเชิญเพื่อนสนิทมาทานมื้อค่ำด้วย คุณกับสามีมาด้วยสิคะ เรามีขาแกะอบกับสลัดแล้วก็พุดดิ้ง"
"อุ้ยค่ะ ดีจังนะคะ ที่รู้ว่าคุณเกิดวันนี้ ค่ะชั้นไปแน่ค่ะ" นี่ถือว่าเป็นโอกาสดีมากๆที่เธอจะได้เข้าไปดูบ้านของครอบครัวนี้อย่างเต็มๆตานี่คือสิ่งที่มิสชิสแจสสิกาคิด
แมรี่ทำท่าจะเดินจากมา แต่ก็หันกลับไปใหม่ "คุณว่าเราควรมีไวน์หรือแชมเปนอะไรสักหน่อยดีมั๊ยคะ" แมรี่ถามไป
"ค่ะ ต้องมีสิคะ เดี๋ยวชั๊นกับสามีจะถือไปเองค่ะ " มิสซิสแจสสิกาตอบ
"ค่ะ หากคุณต้องการอย่างนั้น แต่ฉันว่าจะลองไปดูที่ร้านขายใกล้ๆนี้ก่อน เผื่อไว้น่ะค่ะ"
ว่าแล้ว แมรี่ก็เดินออกทางประตูใหญ่หน้าบ้านไป ทิ้งให้มิสซิสแจสสิกาอดค่อนคอดในใจว่าเธอช่างขี้เหนียวนัก แค่ไวน์ขวดเดียวยังต้องพูดทางอ้อมให้เธอถือไป
ที่ร้านค้ามีเครื่องดื่มมากมายให้เลือก แมรี่ใช้เวลาเลือกอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วเธอก็ได้ไวน์แดงขวดหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังโอ้เอ้ดูขวดแชมเปนต่างๆอีกราว20นาที จนเจ้าของร้านถามให้ความช่วยเหลือ "ค่ะ ชั้นไม่ค่อยดื่มค่ะ แต่ชั้นอยากได้อะไรที่กินคู่กับแกะอบได้" แมรี่ตอบ เจ้าของร้านยิ้มแย้มดูใจดี ช่วยเธอเลือกไวน์อยู่นาน ดูเหมือนเขากับเธอจะคุยกันถูกคอเหลือเกิน ก่อนออกจากร้าน เขายังอุสาห์อวยพรให้เธอ"สุขสันต์วันเกิดนะคร้าบ"
แมรี่เดินออกมาอย่างยิ้มแย้ม นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้ยิ้มแบบนี้ ต่อไปนี้เธอคงยิ้มแบบนี้ทุกวันแมรี่คิดอย่างกระหยิ่มใจ แล้วเสียงโทรฯมือถือที่เธอเอาติดตัวมาก่อนออกจากบ้านก็ดังขึ้น ลีน่าพี่สาวของเธอโทรฯมา ลีน่าคงมาถึงแล้วล่ะแมรีคิดในใจ เธอตั้งใจชวนพี่สาวทานมื้อค่ำวันนี้ด้วยพร้อมกับสามีของเธอ แมรี่กรอกเสียงทักทายไปอย่างสดใส แต่สิ่งที่เธอได้ยินกลับกลายเป็นสิ่งที่เธอถึงกับขนลุกซู่...
...นักสืบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเดินเข้าออกบ้านเธอวุ่นวาย มีนักสืบมาขอซักถามเธอ ประวัติสามีของเธอ พี่สาวกับสามีเธอเป็นคนเห็นศพพอลเป็นคนแรก
ศพพอลนอนฟุบอยู่กับเก้าอี้ตัวโปรด มีเลือดไหลนองพื้น แก้วเหล้าหกเลอะที่พรม หนังสือพิมพ์ช่วยกองเลือดไม่ให้เลอะเก้าอี้ได้บางส่วน แต่ก็ทำให้เลือดกองรวมกันอย่างน่าสยดสยอง แมรี่เปือนหน้าหนีภาพนั้น "คุณว่าคุณไปใหนมานะครับ?" นักสืบสมิทถามแมรี่เป็นครั้งที่สาม "ฉันไปร้านขายเหล้าค่ะ...แต่ฉันไปยืมถั่วบ้านข้างๆนี่ก่อน" นักสืบอีกคนที่ไปสอบถามมิสซิสแจสสิกาพยักหน้าเป็นเชิงว่า เธอบอกตรงกันกับมิสซิสแจสสิกาพูด และมิสสิชแจสสิกาบอกต่อด้วยอารมณ์เมามันในการร่วมเป็นผู้ได้ยินว่า "ดิฉันได้ยินเธอร้องบอกพอลดูเตาอบด้วยค่ะ แหม น่าสงสารม้ากมากค่ะ บ้านนี้เป็นครอบครัวสงบสุจจริงๆเลยของระแวกนี้ ฉันไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันเลยนะคะคุณนักสืบ"
ลีนากับสามีบอกว่าพวกเขาถูกเชิญให้มาทานมื้อค่ำที่บ้านนี้ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของแมรีซึ่งเป็นน้องสาวเธอ แต่พอมาถึงก็พบว่าพอลถูกฆ่าตายแล้ว แถมประตูกระจกห้องที่พอลนั่งก็ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ แมรี่บอกว่าเธอเป็นคนเปิดเอง "พอลบอกให้เปิดค่ะ เขาอยากได้อากาศเย็นๆสบายๆค่ะ เวลาพอลดื่มเขาชอบแบบนี้ค่ะ" แมรี่บอกนักสืบ เจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าพอลถูกทุบด้วยของแข็งมากที่ศรีษะจนกระโหลกร้าวและเสียชีวิตเกือบทันที กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นเวลาก็ล่วงเข้าเกือบห้าทุ่ม เจ้าหน้าที่ดูอ่อนเพลียและง่วงนอนกัน แมรี่นั่งซึมนึกถึงเรื่องที่ต้องทำต่อไป เธอจะไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ลืมที่นี่ให้หมดสมบัติเงินทองที่พอลสะสมไว้มันมากพอที่เธอจะเลือกไปอยู่ที่ใหนก็ได้ตามใจเธอต้องการ
"คุณนายครับ มีกาแฟมั๊ยครับพวกผมขอกาแฟสักถ้วยเถอะ" เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยปากบอกพลางขอแมรี่ แมรี่เช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองอย่างลวกๆก่อนบอกว่า "ค่ะ ในครัวค่ะ เชิญพวกคุณตามสบายเถอะค่ะ และหากหิวมีแกะอบอยู่ในเตาอบค่ะ ช่วยทานกันทีเถอะค่ะ ชั้นไม่อยากทานอะไรเลย"
ในครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างช่วยกันเฉือนเนื้อแกะอบกินแบบหิวๆ "ถึงจะไหม้ไปนิด อย่างน้อยก็ยังมีอะไรลงท้องนะพวกเรา น่าสงสารมิสซิสซิมสันนะ มาเสียสามีในวันเกิดตัวเองซะด้วยสิ" อีกคนพูดว่า "ได้ข่าวว่าเขาไม่สนใจใครด้วยนะ คงมีศัตรูเยอะน่าดู พวกทำงานบริษัทเงินทุนก้องี้ล่ะ ไม่งั้นไม่โดนฆ่าแบบนี้หรอก ฆ่าอย่างเดียวไม่เอาอะไรไปเลย"
แมรี่เช็ดน้ำตาด้วยผ้าถักที่ไม่เสร็จของเธอ ต่อไปนี้ชั้นไม่จำเป็นต้องแกล้งนั่งถักแกอีกต่อไปแล้ว แมรี่แอบยิ้มมุมปากนึกถึงคำอวยพรของเจ้าของร้านขายเหล้าที่ป่านนี้นักสืบคงสอบถามอะไรเขาอยู่
หากรู้ว่าง่ายแบบนี้เธอน่าจะลงมือตั้งนานแล้ว นึกขอบใจพวกตำรวจที่ช่วยกันกินหลักฐานชิ้นสำคัญอย่างเอร็ดอร่อยในครัวนั่นจริงๆ
"สุขสันต์วันเกิดจริงๆ".
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ