เมโสหน้าใส ตัวช่วยฟื้นฟูผิว แบบเร่งด่วน ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบใดได้บ้าง ?
เขียนโดย GUEST1676279945
วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 15.10 น.
แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 15.14 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) เมโสหน้าใส ตัวช่วยฟื้นฟูผิว แบบเร่งด่วน ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบใดได้บ้าง ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เบื่อไหม ? ใช้เซรั่มผิวใสเป็นประจำ แต่ยังไม่ได้ผลที่พอใจสักที ขอแนะนำให้รู้จักกับเมโสหน้าใสค่ะ เป็นหัตถการกลุ่มงานฉีด ที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวโดยตรง เห็นผลเร็วกว่าการทาครีมเป็นที่สุด
เมโสหน้าใส คืออะไร ? ช่วยอะไรบ้าง ? ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? เมโสหน้าใสแบบทาเห็นผลจริงไหม ? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบค่ะ
เมโสหน้าใส คืออะไร ? ชื่อนี้มีที่มาจากไหน ?
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) เป็นการฉีดวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรงค่ะ ไม่ต้องรอให้ซึมผ่านชั้นผิวเหมือนกับการทาสกินแคร์ ช่วยขับสารพิษตกค้าง และควบคุมการทำงานของเม็ดสี ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง สีผิวกระจ่างใส และสุขภาพผิวดีขึ้น เห็นผลใน 3 วัน และเต็มที่ใน 7-14 วัน
คำว่า “Meso” แปลว่า “ตรงกลาง” ค่ะ การฉีดเมโสหน้าใสจะฉีดตัวยาลงในผิวชั้นกลาง หรือชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิว ที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง มีความยืดหยุ่น การฉีดเมโสหน้าใสจึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแข็งแรง อย่างตรงจุด และเห็นผลเร็ว
ภาพแสดงโครงสร้างของชั้นผิว
เมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?
เมโสหน้าใสมีด้วยกันหลายยี่ห้อ หลายสูตรค่ะ แต่ภาพรวมประโยชน์ที่ได้จากการฉีดเมโสหน้าใส มีดังนี้
- ฟื้นฟูผิวแห้งและคล้ำเสียจากรังสี UV ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความกระจ่างใส
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ปรับผิวให้อิ่มฟู ยืดหยุ่น
- ขับสารพิษตกค้าง ลดการอักเสบของผิว ลดสิว ผดผื่น
- กระชับรูขุมขน ลดความมันส่วนเกิน ลดโอกาสเกิดสิว
- ฟื้นฟูเซลล์ผิว และชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในโครงสร้างผิว
เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส มีกี่แบบ ?
ใครที่เคยไปส่องคลิปฉีดเมโสหน้าใส อาจจะสงสัยว่า ทำไมแต่ละคลินิกฉีดไม่เหมือนกันเลย จริง ๆ แล้วต้องฉีดยังไงกันแน่ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก
การฉีดเมโสหน้าใส จะมีด้วยกัน 2 เทคนิคค่ะ คือ แบบสะกิด และแบบ 16 จุด ซึ่งแตกต่างกัน ดังนี้
- แบบสะกิด การใช้เข็มสะกิดทั่วใบหน้า อันนี้เป็นเทคนิคการฉีดแบบเก่าค่ะ ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมแล้ว เพราะมีผื่นแดงจากรอยเข็มและรอยช้ำหลายจุด ถ้าขั้นตอนไม่สะอาดพอ จะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อตามมา
- แบบ 16 จุด การใช้เข็มฉีดตัวยาตามทิศทางการไหลเวียนของน้ำเหลือง กระจายเพียง 16 จุดทั่วใบหน้า คล้ายกับการเอาตัวยาไปฝังไว้ต้นน้ำ ช่วยให้ออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนานขึ้น แต่เกิดแผลน้อยกว่าแบบสะกิด ปัจจุบันจึงนิยมใช้เทคนิคนี้มากกว่า
เปรียบเทียบการฉีดเมโสหน้าใส แบบสะกิด vs แบบฉีด 16 จุด
เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ดีที่สุดไม่มีอยู่จริงค่ะ แต่ละยี่ห้อล้วนมีจุดเด่นต่างกัน ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ปัง ๆ เห็นผลชัด ๆ จนคนรอบตัวทัก ควรประเมินสภาพผิวกับคุณหมอก่อน เพื่อเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่สุด โดยจุดเด่นของเมโสหน้าใส แต่ละยี่ห้อ มีดังนี้
- Made Collagen ขับสารพิษตกค้าง ฟื้นฟูเซลล์ผิว ชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน ลดสิว แก้ปัญหาผิวอักเสบ แพ้ง่าย
- Filorga / Revs เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ปรับให้ผิวขาวใส
- Tensonez แก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวแห้งจากแสงแดด ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระจ่างใส
- Alpha Arbutin ช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว
ตัวอย่างยี่ห้อเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสแบบทา ได้ผลจริงไหม ?
หลาย ๆ คนที่กลัวเจ็บ อาจจะเคยเห็นโฆษณาเมโสหน้าใสแบบทาตามอินเทอร์เน็ต จริง ๆ แล้วเป็นเพียงชื่อทางการตลาดของครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวให้หน้าใสเฉย ๆ ค่ะ ให้ผลลัพธ์เหมือนการทาสกินแคร์ จำเป็นต้องใช้สม่ำเสมอ กว่าจะเห็นผลอาจใช้เวลาเป็นหลักเดือน
หากใจร้อน อยากบูสผิวแบบเร่งด่วน เห็นผลไว ๆ แบบฉีดจะตอบโจทย์กว่าค่ะ ในเรื่องของความเจ็บ จริง ๆ แล้ว การฉีดเมโสหน้าใสไม่เจ็บค่ะ แค่รู้สึกแสบนิด ๆ ตอนเดินยา ทางคลินิกจะแปะยาชาให้ทั่วหน้าก่อนทำอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลนะคะ
สรุป
เมโสหน้าใส เป็นทางลัดในการฟื้นฟูและบำรุงผิวค่ะ มีด้วยกันหลายสูตร หลายยี่ห้อตามปัญหาผิวที่แต่ละคนกังวลใจ ก่อนฉีดแนะนำให้เลือกหมอประสบการณ์สูง ที่จะช่วยให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด มีเทคนิคการฉีดที่ดี ลดอาการบวมช้ำ รวมถึงเลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ และตรวจเช็กตัวยาเมโสหน้าใสว่าเป็นของแท้ทุกครั้ง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ