Love Wayo รักสุดใจเจ้าชายสายลม
เขียนโดย Killolat
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.24 น.
แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) <อีฟ>
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ขอเสียงปรบมือไล่อีฟ…และเชิญอดัมสุดหล่อลงเวทีด้วยค่ะ ^_^” ฉันกับยัยพิธีกรจ้องตากันชิ้งๆ! -^-+++
คอยดูเถอะ…ฉันจะจำยัยนี่ไว้แล้วเอาไปจดลงในบัญชีหนังหมา
ยังไงก็ตาม สุดท้ายฉันก็เดินลงเวทีมาอย่างงดงามและยังครบ 32อยู่ ดีที่ไม่มีใครปาไข่เน่ากับระเบิดตดใส่ฉัน เพราะฉันเดินลงมากับอดัมที่จับมือเล็กๆของฉันไว้แน่น -///-
“แหม…ปีนี้ฉันก็แห้วแฮะ -o-” ซันไลท์บ่นอุบอิบ
“ทำไม นายอยากควงอีฟสวยๆรึไง!? -^-” สโนวแขวะเข้าให้
“จะเอาอีฟสวยๆไปทำไม… ในเมื่อโคตรอีฟของฉันอยู่นี่ทั้งคน…^_^” พูดพร้อมยีหัวสโนว
“บ้า! -///-^” ฮะๆเชื่อเค้าเลยแฮะคู่นี้ ^.^a
ฉันกระตุกมือนายเย็นชา…
“มีอีฟแล้วมันมีดีอะไรเหรอ?(‘o’?)”
“ก็ได้คู่กับอดัม -_-” เรื่องนั้นฉันรู้แล้วเฟ้ย! =^=
“ต้องทำตัวเป็นคู่รักกันตลอด จนกว่าจะถึงปีหน้าของเทศกาลนี้”<<ซันไลท์
“O[]O หา? งั้นฉันก็ไม่ใช่อีฟคนแรกน่ะสิ”ฉันหันไปถามซันไลท์ที่เป็นคนเปิดประเด็น
“ใช่ ก็เพราะมีการเลือกอีฟกับอดัมทุกปี อดัมกับอีฟเลยเปลี่ยนไปตามผลการโหวต ถ้าปีหน้าอยากคู่กันอีกก็ต้องรักษาผลโหวตไว้ ^o^” สโนวเป็นคนตอบแทนซันไลท์
“แต่ฉันได้ยินมาว่า หมอนี่ได้ตำแหน่งอดัมมาตั้ง 4สมัยแน่ะ! T[]T” ฉันหันไปมองไอ้หน้าหล่อข้างๆ
“ก็แหงล่ะ…มันหล่อจนน่าหมันไส้อ่ะ! ขนาดมันไม่พูดกับใครจนจบปีการศึกษามันยังได้ตำแหน่งอดัมไปครองอยู่ดี =’’=”
“แล้วอีฟทั้ง 4ปีล่ะ มีใครบ้าง T^T” ฉันถามแบบเริ่มหึง
“อีฟมีคนเดียว…” ชายที่ยืนจับมือฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่กลับฟังดูเศร้า ดวงตาสีชาวูบลงอย่างเห็นได้ชัด
“นายหมายถึง ‘อีฟ’สินะ? T_T” ซันไลท์พูด แล้วแววตาของทุกคนก็ดูวูบลงด้วย
“อีฟ?” ฉันทำหน้าฉงน
“เธอเป็นคนที่สวยมากๆเลย แถมยังเข้มแข็ง อ่อนโยน แล้วก็นิสัยดี เพอร์เฟ็กจนได้รับตำแหน่งอีฟมา 4สมัยติดต่อกัน ^^;” สโนวพยายามยิ้มออกมา เหมือนจะบอกว่า ‘ทุกคนอย่าทำหน้าเศร้าสิ’
“…แล้วอีฟไปไหนล่ะ? ToT” ฉันถามเสียงแผ่ว ด้วยความไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ควรพูดในตอนนี้
“อีฟตายแล้ว…” ‘เจ้าชายสายลม’ ผู้มีแววตาเย็นชากลับดูหมองหม่น ฉันจึงรีบอุดปากทันที…ฉันไม่น่าพูดเรื่องนี้เลย
“ขอโทษนะ…(. .)”
“ไม่เป็นไร ^_^” ซันไลท์ยิ้มเหมือนปกติ
“เธอควรรู้ ^o^” สโนวยิ้มร่า
“…จะได้ไม่ถามอีก ” แต่คนที่ฉันแคร์มากที่สุดกลับทำหน้าเมินใส่…ระหว่างนายกับอีฟต้องมีอะไรแน่ๆ T____T
((เอาล่ะคร้าบ~~โย่ๆแซ่บแหนม~ นี่คือการเปิดฟลอร์ครั้งสุดท้าย ใครไม่อยากขึ้นคาน…หาคู่เร็วววว!!!!)) สิ้นคำประกาศจากดีเจเสียงหล่อ รอบๆตัวก็ชุลมุนไปหมด ดีนะที่หมอนั่นโอบไหล่ฉันไว้ไม่งั้นฉันต้องหลงไม่ก็ล้มแน่ๆ
แต่ตอนนี้ฉันก็หลงนะ…หลงนายไง อิๆๆ ^v^/// (อ้วกได้นะ)
ไม่ช้าเพลงจังหวะโรแมนติกก็ถูกเปิดขึ้น ‘อดัม’และ ‘อีฟ’เป็นผู้เต้นเปิดฟลอร์ แต่…ฉันไม่เคยเต้นแบบนี้มาก่อน เลยเหยียบเท้าไอ้บ้าเย็นชาไปตั้งหลายที
“โอ๊ย! ครั้งที่ 6แล้ว - -^” เค้าบ่นเบาๆ
“ช่วยไม่ได้นี่ ฉันเคยเต้นซะที่ไหน?!”
“งั้น…มองตาฉันนะ” เค้ากระซิบเบาๆ
“…”
ฉันจ้องตาสีชาสวยที่ทั้งกลมโตและเรียวยาวคมกริบ แผงขนตาก็ทำให้เค้าดูดีมีเสน่ห์ท่ามกลางแสงที่ส่องกระทบนัยน์ตาของเค้าที่สะท้อนภาพของฉันชัดเจนบนดวงตา…ฉันปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ตามจังหวะที่เค้าชักจูง จนฉันเต้นดีขึ้นแล้วไม่เหยียบเท้าอดัมอีก
“ไม่โง่อย่างที่คิด” เค้าพูดเหน็บแนมฉัน
“มันแหงอยู่แล้ว ^_^” ฉันยิ้มเยาะอย่างภูมิใจและ…
“โอ๊ย! โง่เง่าสิ้นดี -_-*” คำชมลอยหายไปกับสายลม
ฉันเผลอไปเหยียบเท้าเจ้าชายในจังหวะสุดท้ายเข้า จนเค้าถึงกับร้องซี๊ด~เมื่อเพลงจบ
แปะๆๆๆๆๆ!!! พนันได้เลยว่าตบไล่ฉันให้ไปไกลๆลูกหูลูกตา
“ไปกันเถอะ” มือใหญ่กุมมือฉันเดินนำออกไป
“เรากำลังจะไปไหนเหรอ?”
เค้าหันมาตอบด้วยแววตาเป็นประกาย “ที่ลับของอีฟ”
ฉันยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ของโรงเรียน ที่นั่นมีตึกระฆังที่เอาไว้สั่นเคาะตีบอกเวลา สมัยที่ๆนี่ยังไม่มีกริ่ง นายนั่นจูงมือฉันขึ้นไปบนยอดสุดของหอระฆังซึ่งไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่ว่าจะมีกระถางดอกไม้และม้านั่งอยู่ข้างบนด้วย
“นี่น่ะเหรอ? ที่ลับของอีฟ OoO~” ฉันหมุนตัวมองไปรอบๆอย่างตกตะลึง ว๊ากกก! สูงเป็นบ้าเลยวุ้ย! =[]=~^
“ที่นี่อายุ 150ปีแล้ว มันถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ฉันยังไม่เกิดด้วยซ้ำ…” ฉันแปลกใจที่เค้าพูดเป็นประโยคได้ยาวขนาดนี้แต่
ฉันก็มานั่งพิงไหล่เค้าที่เก้าอี้ม้านั่งเงียบๆ…เหมือนเด็กที่ต้องการจะฟังนิทานต่อ
“ที่นี่ถูกลือว่ามีอาถรรพ์ ใครขึ้นมาบนนี้ จะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต…” แว้ก!!=[]= แล้วนายพาฉันขึ้นมาหาทุกข์รึไง!?
“ทีแรกฉันก็เชื่อเรื่องนี้นะ เพราะตอนเด็กๆฉันกลัวไม่มีความสุข ก็เลยไม่กล้าขึ้นมาเลยซักครั้ง” รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของชายยิ้มยาก “แต่…ตั้งแต่เจออีฟ โลกของฉันก็เปลี่ยนไป”
“ยัยนั่นพาฉันขึ้นมาที่นี่ แล้วบอกว่า ‘การได้เห็นสิ่งสวยๆบนนี้ นายเรียกว่าทุกข์รึไง?’”
ฉันมองไปรอบๆตัว ด้านล่างเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับเป็นจุดๆดูสวยงาม แถมยังเห็นไปถึงนอกกำแพงโรงเรียนที่มีสีสันของไฟฉลองเทศกาลคริสต์มาสไม่แพ้ในโรงเรียน ท้องฟ้าเองก็ประดับไปด้วยดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า
เป็นภาพที่งดงามจนสามารถตราตรึงใจฉันไปได้จนวันตายเลยนะ…ถ้าฉันไม่ได้ขึ้นมาคงไม่มีวันได้เห็นอะไรดีๆแบบนี้แน่….
“เธอคงเป็นคนที่น่าชื่นชมมากเลยนะ ^_^” ฉันยิ้มแบบรู้สึกปลื้มไปด้วย
“เธอทั้งเข้มแข็ง อ่อนโยนแบบที่สโนวบอกนั่นแหละ เธอเก่งและกล้า ฉันเองยังชื่นชมเลย…”
“นายคงรักเค้ามากสินะ” ฉันแถมและเก็บซ่อนแววตาที่แอบเศร้าเล็กน้อยเอาไว้ด้วยการก้มหน้าลง
“เธอคือรักแรกของฉัน แต่ว่าฉันรักเค้าข้างเดียว…”แววตาคู่นั้นเหม่อมองฟ้าอย่างเจ็บปวด ลมเย็นๆโชยมาตอกย้ำความรู้สึกในใจของคนๆหนึ่ง…
“อีฟบอกว่าเค้ารักฉันแบบนั้นไม่ได้…ฉันไม่เคยจูบผู้หญิงหรอกนะ เพราะคนที่ฉันรักไม่ยอมให้ฉันจูบ…ถึงเธอจะปฏิเสธฉัน ฉันก็ยังชอบเธอ ชอบมาตลอด…4 ปี ” เค้าเงียบไปซักพักสูดหายใจลึกๆแล้วพูดต่อ
“วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน…แล้วก็เป็นวันเกิดของอีฟด้วย”
“สมกับเป็น ‘อดัม’กับ‘อีฟ’ที่เกิดวันเดียวกันเลยเนอะ” ฉันยิ้มจางๆ แต่เค้ากลับหลุบตาลงแล้วกุมมือฉันแน่น
“มันไม่น่าดีใจหรอกนะ เพราะวันนี้…ของปีที่แล้ว…อีฟได้จากฉันไป…ที่นี่” ฉันมองดูรอบๆกายที่มืดสนิทแล้วรู้สึกขนลุกนิดๆ
“…” เค้ากุมมือฉันแน่นกว่าเก่าจนเหงื่อแทบชุ่มมือ
“เมื่อ 3 ปีก่อน อีฟบอกฉันว่าเธอเป็นโรคหัวใจระยะสุดท้าย เธอคงอยู่ได้อีกไม่นาน ฉันตกลงมอบหัวใจให้อีฟแต่เธอปฏิเสธ เธอไม่รับแม้แต่หัวใจของฉันด้วยซ้ำ ‘หัวใจของฉัน ก็ต้องเป็นของฉันตลอดไปสิ’อีฟพูดแบบนั้น…อีฟอดทนมาโดยตลอดจนถึงวันงานคริสต์มาส อีฟขอร้องให้ฉันอย่าบอกใครเรื่องนี้ พอเรารับตำแหน่งเสร็จเธอให้ฉันพามาที่แห่งนี้เค้าบอกว่า ‘จะพิสูจน์ให้ดูว่า คนที่มาที่นี่ก็มีความสุขจนวินาทีสุดท้ายได้’ฉันกับอีฟนั่งอยู่ด้วยกันทั้งคืนตรงม้านั่งตัวนี้…พอเช้าวันรุ่งขึ้น …อีฟก็ตาย…” แววตาเศร้าสร้อยนั่นสั่นระริก ในตอนนี้ถ้ามันมีหยดน้ำตาไหลออกมาก็คงไม่แปลกอะไร…
“ฉันพอรู้แล้ว…ว่าทำไมนายถึงเกลียดวันเกิด”
“นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่ฉันเกลียด…” เค้าพูดต่อ…
“แล้วทำไม…”
“ฉันกับอีฟเป็นพี่น้องกัน”
“หา!!!”
“ใช่…ฉันหลงรักอีฟซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดของตัวเอง”
“…”
“พ่อกับแม่ฉันแยกทางกัน แม่เลี้ยงฉันส่วนพ่อก็เลี้ยงอีฟ ฉันพึ่งรู้เรื่องนี้ตอนอีฟตาย นั่น..เป็นเหตุผล…ที่อีฟ ‘รักฉันแบบนั้นไม่ได้’ ฉันก็แค่…เจ็บใจ ที่ไม่รู้อะไรเลย ทรมานนะ…แม้แต่อีฟก็ไม่ใช่คนที่ฉันควรรัก…”
“…”
“ที่เราเกิดวันเดียวกันมันไม่ใช่พรหมลิขิต มันก็แค่การกลั่นแกล้งของโชคชะตา…” เสียงของเค้าเริ่มแผ่วเบาลง
น้ำตาของเค้าไม่ได้ไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว…แต่ทำไม ฉันถึงรู้สึกว่าเค้ากำลังร้องไห้อยู่กันนะ…หรือเพราะความรู้สึกนี้ มันมากเกินกว่าที่น้ำตาจะระบายออกมาได้งั้นเหรอ…
…
ฉันเอาหัวพิงไหล่กว้างของเค้าเบาๆ…
“Happy Birth Day to you... Happy Birth Day to you… Happy Birth Day, Happy Birth Day… Happy Birth Day…..to… you” ฉันร้องเพลงให้เค้าตามที่เคยสัญญาแล้วกอดแขนของเค้าเอาไว้…น้ำตามากมายไหลออกมาไม่รู้ตัว “ฉันยังอยู่ตรงนี้กับนายเสมอ…อีฟก็ด้วย เธอยังอยู่ในใจของนายไม่ว่าจะเป็นในฐานะอะไร อีฟก็คืออีฟ…”
“ไม่ว่าปีหน้าหรือปีไหนๆ ฉันก็จะมาร้องเพลงวันเกิดให้นายกับอีฟที่นี่อีกให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…นายเองก็ต้องมาร้องเพลงวันเกิดให้ฉันอีกนะ”
“ฉันสัญญา…” เค้าพูดแล้วกอดฉันไว้
“ถ้าเธออยู่เป็นอีฟให้ฉันตลอดไป…ฉันก็จะอยู่เป็นอดัมให้เธอตลอดไปเหมือนกัน…” แล้วน้ำเสียงของเค้าก็แผ่วเบาลงในประโยคต่อมา… “ฉันรักเธอได้ใช่ไหม…?”
ฉันแทบนึกว่าฝันไป…!!! นี่คือการสารภาพรักงั้นเหรอ!?!? O///O
มือของเค้าประครองใบหน้าของฉันไว้
“ถ...ถ้านายบอกว่า‘รัก’ฉัน นายจะได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ >_<//”
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างอย่างอ่อนโยน
“ฉันรักเธอ…อยู่กับฉันไปตลอดได้ไหม?..(/// --)”
“ตามแต่ประสงค์ค่ะ…เจ้าชาย ^///^”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ