Love Wayo รักสุดใจเจ้าชายสายลม

-

เขียนโดย Killolat

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.24 น.

  26 บทที่
  0 วิจารณ์
  2,606 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.41 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) <ความ รัก>

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

WAYO(talk)

((ท่านที่จะไปเที่ยวบิน k309 กรุณารอเช็คตั๋ว แล้วขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ))

ตึ่ง ตึ้ง ตึง ตึ๊ง…!

“ไปกันเถอะ ^_^”

“อือ”

หลังจบคำประกาศผมก็เดินตามเบอร์รี่ไป ร่างระหงที่ดูจะดี๊ด๊าผิดจากผมวิ่งเข้าไปต่อคิวเช็คตั๋วก่อน

ติ๊ก…ติ๊ก…ติ๊ก…ติ๊ก

ผมก้มดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง…เวลาที่ผมจะอยู่ที่นี่ลดลงเรื่อยๆ…

สุดท้าย ผมก็ไม่ได้บอกความรู้สึกจริงๆกับยัยนั่น ไม่กล้าบอกจริงๆจังๆ ผมมันเป็นคนที่แย่จริงๆ เหมือนจะด้านชาไปทั้งหมด แต่กลับกลัวแค่การบอกลา ผมกลัวว่า…ถ้าบอกความจริงกับเธอ ผมก็อาจจะตัดใจไม่ได้และเป็นฝ่ายที่เจ็บเสียเอง…ขอโทษนะเอวา…ที่ฉันมันขี้ขลาด

((เวลาประมาณ 21.50น.ได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนเด็กสาวที่หาดxxxขึ้น))

“…”จู่ๆตาขวาของผมก็กระตุก รู้สึกใจหายวูบโดยไร้สาเหตุเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

“โยรีบไปเถอะ”

((สภาพสาหัสมีกระดูกหักหลายซี่ปางตาย ตรวจสอบจากการสันนิษฐานพบว่า น่าจะเป็นเด็กสาวอายุ 17-18 ปี))
ภาพตรงจอทีวีใหญ่เริ่มจับภาพไปที่รถบรรทุกและภาพของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกหามขึ้นแปล

((เด็กสาวผมสีน้ำตาล ในมือถือของบางอย่างอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปสีดำเทาขนาดจิ๋ว…))

“นี่?โยมัวทำอะไรอยู่…”

“เอวา…” ผมพูดด้วยเสียงที่เบามาก…ผมรู้ทันทีว่าเป็นยัยนั่น ผมจำผมสีน้ำตาลและร่างบางนั่นได้ แล้วก็กล้องถ่ายรูปนั่น…

โธ่เว้ยยยย!!!...ทำไมต้องเป็นยัยนั่นด้วย…!

ผมวิ่งออกไปด้วยความเร่งรีบเหมือนคนขาดสติ ผมรีบโบกรถไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดของหาดนั่นด้วยหัวใจที่ร้อนรนจนแทบบ้า…!

พอมาถึงโรงพยาบาลก็เห็นพวกครูกับเพื่อนๆรวมทั้งลุงโทนัสและพ่อแม่ของยัยนั่นยืนๆนั่งๆอยู่หน้าห้อง ICU
ผมหอบถี่แล้วถามถึงเธอแต่ทุกคนกลับเงียบ…ขอร้องล่ะ ตอบทีสิว่ายัยนั่นไม่เป็นอะไร! เธอแค่สลบไปเท่านั้น!

“ทำไมถึงไม่ตอบอะไรกันเลยล่ะ!!!” ผมตะโกนไปด้วยความร้อนใจ การกระทำของผมทำให้หลายคนในที่นี้สะอื้นออกมาหนักกว่าเก่า

“…”

มือของผมกำแน่นและสั่นระริก พระเจ้า…อย่าพรากคนที่ผมรักไปอีกเลย ผมยังไม่พร้อมจะเสียเธอไป…จะแลกอะไรผมก็ยอม

ผมเห็นพ่อแม่ของยัยนั่นร้องไห้ ทุกคนทำหน้าซึมน้ำตาคลอพอกัน ผมทรุดตัวนั่งลงพิงกำแพงเพราะรู้ว่าไม่ควรทำอะไรเอิกเกริก ทั้งที่ไม่ได้มีแต่ผมที่เศร้าคนเดียว

“คุณน้าครับ…”ผมพูดกับพ่อแม่ของเอวาที่สะอึกสะอื้นอยู่

“ผมขอโทษ…ที่ไม่ดูแลเธอให้ดี ถ้าผมไม่ทิ้งเธอไว้ล่ะก็…” ผมพยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นเครือแต่คงทำได้แค่นี้ ความรู้สึกในใจมันเจ็บไปหมด มันทั้งกังวล ทั้งกลัว จนหยุดสติให้สงบไม่ได้

“ไม่เป็นไร…ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก…”

“…”

“น้าเชื่อว่าเอวาต้องไม่เป็นไร” แม่ของเธอพูดขึ้นเศร้าๆแล้วทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

“คนไข้ได้ถูกรถชนได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นแท่งเหล็กที่เป็นชิ้นส่วนของรถได้แทงทะลุเข้ากลางหัวใจ…หมอเกรงว่าจะต้องทำใจ” คุณหมอชุดขาวออกมาพูดกับพ่อแม่ของเอวา ทุกคนเองก็ได้ยินเหมือนกัน แม่ของเอวาหลังฟังจบก็ถึงกับลมจับ

“ไม่มีวิธีช่วยเหรอครับหมอ!” ผมเผลอตะคอกไปโดยไม่รู้ตัว

“ใจเย็นสิครับ…ที่สำคัญตอนนี้เราต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอย่างด่วน ไม่เช่นนั้นคนไข้อาจจะไม่รอด…”

“…”

“ตอนนี้ไม่มีผู้บริจาคหัวใจ หมอจึงอยากถามว่าจะมีใครยินยอมยกหัวใจให้ผู้ป่วยบ้าง…?”

ทุกอย่างนิ่งเงียบเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด

“งั้นก็เอาหัวใจผมไปสิ! เอาหัวใจผมไปเลย!”

“…”

“ถ้ามันช่วยเอวาได้…ผมก็ยอม…”

ผมรู้ว่าไม่มีใครอยากตายเพราะคนแค่คนเดียว…

ผมรู้ว่าถึงจะรักอะไรซักอย่างมากแค่ไหน แต่คนเราก็รักตัวเองยิ่งกว่าอะไร…

แต่ผมคงไม่ใช่คนล่ะมั้ง…เพราะผมรักเธอมากกว่าหัวใจของผมเองซะอีก…

‘ฉันจะไม่ทิ้งเธอ ฉันสัญญา’

ได้เวลาที่ต้องทำตามสัญญาจริงๆซักที…หัวใจด้านๆของผม ถ้ามันช่วยคนที่ผมรักได้ ผมก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว…
ฉันจะไม่เสียใจเลยที่ทำแบบนี้…ขอโทษนะ ‘อีฟ’ ที่สุดท้ายแล้ว ฉันรักยัยนั่นมากกว่าเธอ…

 

…เมื่อ 4 เดือนก่อน…

วันนี้ผมออกมานอกเขตโรงเรียนเพราะมีธุระบางอย่างที่ลุงฝากมาทำ ระหว่างนั้นผมก็นั่งเล่นโน๊ตบุ๊คราคาแพงหูฉี่ที่แม่เคยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

ผมลุกไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาโน๊ตบุ๊คก็หายไป พนักงานบอกว่ามีผู้หญิงใส่แว่นเอามาวางทิ้งไว้หน้าร้าน…ยัยโรคจิตนี่อีกแล้ว

ผมเดินไปดูหน้าร้านก็เห็นใครบางคนซุ่มซ่ามสะดุดโน้ตบุ๊คผมเข้า…ผมสีน้ำตาล ดวงตากลมโตสีดำ ใบหน้าเล็กๆแลดูกลม ปากเล็กๆสีกุหลาบ แก้มแดงอมชมพูเป็นธรรมชาติกับผิวสีไข่นั่น…เหมือนเหลือเกิน…

นั่นมัน‘อีฟ’ชัดๆ ผมอึ้งกับผู้หญิงคนนั้นไปซักพักด้วยความที่เธอคล้ายอีฟมากจริงๆ
แต่แล้ว…

ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ!

เท้าเล็กๆนั่นกลับใช้กริยาถ่อยๆกระทืบโน้ตบุ๊คผมจนเละ

-*- ยัยซาดิสม์…เธอไม่เหมือนอีฟเลยซักนิด! ฉันมันบ้าเองแหละ พอเข้าไปคุยก็ยิ่งรู้ว่าไม่เหมือนเข้าไปใหญ่ ม้าดีดกะโหลกอย่างเธอจะไปเหมือนอีฟได้ยังไงฟะ! ตาถั่วจริงๆเลยเรา(_ _)

“จะชดใช้ยังไง?”

“ไม่ชดใช้! นายมีหลักฐานรึไง? เห็นตอนไหนว่าฉันทำ จะมาปรับปรำกันแบบนี้มันมั่วเกินไปมั้ง?!”เธอกระฟัดกระเฟียดตะโกนใส่ผมฉอดๆ

“ตั้งแต่ตอนเธอล้ม -_-” ผมบอกความจริงไป

“นายเห็นตั้งแต่ฉันล้มเลยเหรอ?!O_O” ตาโตๆเบิกกว้างกว่าเก่า

“อัดวิดิโอไว้ด้วย -_-[]” ผมโกหกหน้าตายไปทั้งๆที่ไม่ได้อัดซักหน่อย

ยัยนั่นเถียงกับผมต่อแล้วทำหน้าพิลึกๆทุกประโยคที่พูด ผู้หญิงอะไรประหลาดชะมัด…ฮะ แค่เห็นก็แทบหลุดหัวเราะแล้ว สุดท้ายยัยนั่นก็วิ่งหนีไปเพราะกลัวต้องจ่ายเงิน ผมรัวกล้องถ่ายแบบเต็มลิมิตใส่ยัยนั่นที่วิ่งเหมือนหนีผีไปไกล

“หึ…ซื่อบื้อชะมัด” เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ผมเผลอหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ถึงโน้ตบุ๊คของรักของหวงที่แม่ซื้อให้จะพัง แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกเบิกบานใจขนาดนี้นะ…ยัยนั่นต้องเล่นของใส่ผมแหงเลย…

ผมรับของของลุงโทนัสเสร็จก็รีบกลับโรงเรียนทันที วันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมเลยไปนั่งเล่นในที่ประจำก็คือหอนาฬิกา ผมหยิบกล้องจิ๋วขึ้นมาเปิดดูภาพของผู้หญิงคนนั้นแล้วอมยิ้ม…เพราะคล้ายอีฟสินะ ผมถึงไม่รู้สึกเกลียด…

พอตอนเย็นผมก็เดินกลับบ้าน แต่ก็เจอยัยตัวแสบนั่นในห้องของผมในสภาพ…ไม่น่าดูเท่าไหร่นัก ผมแอบดีใจนิดๆที่เจอเธอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็ไล่ยัยนั่นออกจากห้อง
ผมมารู้ทีหลังว่าสาเหตุเพราะลุงโทนัสนั่นเอง ลุงเข้ามาคุยกับผมหลังทานอาหารเสร็จ

“ได้ยินเรื่องของแม่หลานรึเปล่า?”

“ทำไมครับ?” ผมถามไปด้วยความกังวลในใจ

แม่กับพ่อผมเลิกกันแล้ว แต่หลังจากที่แม่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนสมองกระทบกระเทือนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา พ่อก็เลยกลับมาดูแลแม่…ซึ่งผมเองก็อยู่ที่นี่กับลุงเพราะไม่อยากเป็นภาระให้พวกท่าน…ยิ่งไม่ได้อยู่ใกล้แบบนี้ทำให้ผมยิ่งห่วงแม่มาก

“หมอที่เป็นเพื่อนของลุงที่อเมริกาบอกว่า สามารถรักษาแม่หลานได้แต่ค่ารักษาต้องใช้เงินจำนวนมาก…”

“…”

“ลุงเองก็อยากจะช่วยแต่ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น เลยคิดจะรวมธุรกิจกับเพื่อนสนิทลุง เพื่อหาเงินมาช่วยแม่หลาน แต่ทางนั้นเค้ามีข้อแม้…”

“ข้อแม้อะไรครับ?”

ต้องแต่งงานตามประเพณีสืบทอดของบริษัทเท่านั้น จึงจะยอมร่วมธุรกิจด้วย”

“คลุมถุงชนสินะ” ผมพูดแบบเก็บอาการเหมือนทุกที

“ใช่ถ้าภายใน 4เดือนนี้หลานทำให้ลูกของเพื่อนสนิทลุง ยอมแต่งงานหรืออาจจะแค่รักก็ได้ แม่ของหลานก็จะหายดี”

“ก็ได้”

“ลุงไม่ได้บังคับหรอกนะ แต่…”

“บอกว่า‘ก็ได้’ไง!” ผมตวัดสายตาไปมองเค้า

มันไม่มีทางอื่นแล้วนี่ ถ้ามันทำให้แม่ของผมหายดี…ถึงผมจะรู้สึกเหมือนโดนใช้เป็นเครื่องต่อรองธุรกิจของลุง หรือต้องหลอกใครอีกกี่คนก็จะทำ! หรือแม้กระทั่งหลอกคนทั้งโลกก็ตาม…

จู่ๆความคิดนึงก็แว๊บเข้ามาในหัวผม…หรือว่าคนๆนั้นจะเป็นยัยพิลึกนั่น!…พับผ่าสิ ผมอยากจะถอนคำพูดชะมัด! เวรกรรมจริงๆผมจะซวยได้โล่เลยรึไงนะ? 

 


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

อ่านแล้วเป็นไงบ้าง?

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา