The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา

9.7

เขียนโดย Killolat

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.

  27 บท
  1 วิจารณ์
  5,931 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) -แคคตัส-

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ฉันลงเอยด้วยการเดินมาห้องสภานักเรียนพร้อมเจ้าชายดอกไม้ 
 
ขึ้นไปเปลี่ยนชุดบนห้องตั้งนาน คิดว่าลงมาคงไม่เจอเค้าแล้ว แต่ไอ้คนหัวรั้นกลับไม่เขยื้อนเลยแม้แต่มิลฯ เดียว
 
ยิ่งรู้จักยิ่งสงสัย อะไรเป็นแรงผลักดันให้นายทำถึงขั้นนี้? 
 
ถึงจะสวยแต่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทนความเย็นชาของฉันได้ 
 
พวกที่ทนได้ทนดี จากประสบการณ์ตรงไม่โรคจิตก็สติไม่สมประกอบ ซึ่งฉันเดาว่านายคงเป็นอย่างแรก - -+
 
“อะไรน่ะ สายตาเร่าร้อนเชียว” 
 
ไอ้หน้าสวยข้างๆ พูดจายียวนเมื่อเราหันมาสบตา
 
ใช่ ร้อนดังกะไฟเยอร์เลยล่ะ ความแค้นที่มีให้นายน่ะ -_-+++
 
“จ้องขนาดนี้…เดี๋ยวท้องหรอก”
 
“ห๊าาา!?” 
 
ฉันร้องอุทานเสียงหลงรีบถอยกรูอย่างไว
 
นึกแล้วเชียว! อีตานี่มันไว้ใจไม่ได้! ไอ้โรคจิต!!!
 
“เฮ้ย ฉันแค่เปรียบเทียบกับปลากัดเฉยๆ” 
 
ทวิตซ์พยายามเอื้อมมือมาทางฉันที่ตั้งการ์ดหวาดระแวงสุดขีด
 
“อย่ามาแตะน๊ะ! หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!” 
 
จะปลากัด ปลาหมอสี ปลาปั๊กเป้าฉันไม่สน!!! นายมันโรคจิต! ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ! >o<
 
“ทะเลาะอะไรกันหรอ?” 
 
สวรรค์ทรงโปรด พอมองตามเสียงใสก็พบสาวน้อยน่ารักซึ่งเคยเจอกันที่โรงอาหาร
 
เอ๊ะ ว่าแต่ชื่อไรนะ? =o=;
 
ทวิตซ์ถอนหายใจยาวเป็นทางรถไฟ
 
“แฟนฉันกลัวท้อง ไม่รู้ว่าเรียนเพศศึกษามายังไงถึงได้…” 
 
เฮ้ย! เดี๋ยวๆ พูดแบบนี้มันแปลกๆ ป่ะ?! =[]=
 
“พะ พวกเธอไปถึงขั้นไหนกัน?” 
 
สาวน้อยทำหน้าช็อคเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง 
 
นั่นไง! นายรีบแก้ข่าวเดี๋ยวนี้เลยน๊ะ!! >\\\< 
 
ฉันจ้องทวิตซ์ตาเขม็งเร่งให้เขารีบทำอะไรสักอย่าง 
 
แต่สิ่งที่ตานั่นทำ…
 
หมับ! 
 
ร่างสูงล็อคคอฉัน มือนึงประคองใบหน้าให้หันมาสบตาและดำเนินบทสัปดนต่อ
 
“บอกแล้วไง แค่นี้ไม่ท้องหรอก…”
 
ใบหน้าฉันร้อนผ่าว เพลง ‘Sweet but psycho’ ลอยเข้าหัว 
 
โอ้ยยย ฉันล่ะเกลียดตัวเองจริงเชียว >\\\<
 
“ฉะ ฉัน…ปะ ไปก่อนนะ!!” 
 
เจ้าหล่อนบอกลาติดอ่าง วิ่งสี่คูณร้อยไม่เหลียวหลัง
 
เออ! เป็นฉันก็วิ่ง เพราะสภาพเราตอนนี้มีแต่กลิ่นเหม็นความรักโชยหึ่งหั่ง แถมเจือกลิ่นคาวโลกีจากไอ้บทละครสัปดนนั่นด้วย T T
 
"ปะ ปล่อย!!” 
 
เยี่ยมเลย ฉันถูกสาปให้ติดอ่างไปอีกคน
 
“หืม…ดื้อแบบนี้จะปล่อยดีมั้ยน้า~ ^^” 
 
รอยยิ้มร้ายทำเสียงทะเล้นยั่วน้ำโห!
 
“เลิกเล่นได้แล้ว! ฉันไม่สนุกด้วยหรอกนะ -*-” 
 
คิ้วขมวดผูกปมจ้องใบหน้าสวยหล่อตาขวาง
 
“ถ้างั้น…อยากให้เอาจริงมั้ยล่ะ?” 
 
เพียงสายตาและน้ำเสียงก็สามารถแปรเปลี่ยนบรรยากาศได้ในพริบตา 
 
เมื่อโดนสะกดอีกครั้ง ฉันจึงตระหนักว่านั่นคือเวทมนต์ของเจ้าชายดอกไม้ ปีศาจที่ควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ 
 
“ล้อเล่นน่า!”
 
เป็นอีกครั้งที่ถูกปั่นหัว ทวิตซ์ใช้มือใหญ่ยีผมฉันจนฟูหยองเป็นผีบ้า 
 
“โอ๊ยยย ทำอะไรของนายเนี่ย!!! >O<” 
 
ฉันเช็ตผมนานมากนะ! คิดว่าความสวยมันเสกปึ้งขึ้นมาได้เหมือนความหล่อของนายรึไงห๊ะ!!!
 
“ไม่ท้องก็ดีแล้วนี่~ เธอควรขอบคุณฉันนะ ^0^” 
 
ทวิตซ์หัวเราะร่าเหมือนชาตินี้ไม่เคยได้หัวเราะ 
 
ฉันชอบที่ดอกไม้บาน แต่ไม่ชอบที่นายยิ้มหน้าบานตอนนี้เลย รู้ไว้ด้วย!! -*-
 
“เลิกล้อ! รู้แล้วย่ะ ว่าแค่จ้องมันไม่ท้อง!! >0<”
 
“เอ…แล้วทำไงถึงจะท้องนะ? ^^” 
 
ไม่ต้องมาทำเป็นยิ้มใสซื่อ! >\\\<
 
“กลับไปถามพ่อนายไป๊!!!”
 
ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก 
 
ฉันระดมหมัดดาวเหนือใส่แขนเขา
 
“คร้าบ~ ล้อเล่นครับล้อเล่น~” 
 
อีตาทวิตซ์ท่าทางอารมณ์ดีไม่รู้ร้อนรู้หนาวเดินทอดหุ่ยสบายใจ
 
จบการเล่าประสบการณ์ระหว่างทางไปสภานักเรียนไว้แต่เพียงเท่านี้
 
.
 
-7 โมงเช้า-
 
(ณ ห้องสภานักเรียน)
 
“ว้าว~ น่ารักขึ้นเป็นกอง! ฉันนี่เก่งจริงๆ~ ^^” 
 
ตกลงชมฉันหรือตัวเอง? = =
 
แต่ผลงานในกระจกฟ้องว่าสวยจริง ใครจะคาดคิดว่าตานี่ถักเปียก้างปลาเป็นซะด้วย
 
เพราะทวิตซ์ทำผมฉันยุ่ง เขาเลยอาสาช่วยแก้ให้ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด
 
“เธอแต่งตัวนานเพราะมัวแต่ทำผมรึเปล่า? คราวหน้าให้ฉันช่วยนะ สนุกดี ^^” 
 
พอเห็นรอยยิ้มลำพองใจนั่นแล้ว อยากถามเหลือเกินว่ามีเรื่องไหนที่ทำไม่ได้บ้างคะคุณเจ้าชาย? 
 
นี่มันแรร์ไอเท็มของสาวๆ ชัดๆ
 
เอาเถอะ คราวนี้ยอมยกโทษให้ละกัน 
 
แอ๊ด~
 
เสียงประตูเปิดออกปรากฏร่างไอ้แว่นเดินดุ่มๆ เข้ามา ตานั่นมองฉันแล้วพูดว่า
 
“หือ? ใครอะ =0=” 
 
ถามจริ๊ง!? ถึงปกติฉันจะทำอยู่ 3 ทรง คือ มัดรวบ มัดครึ่งหัวและปล่อยผม แต่นี่นายล้อเล่นใช่มั้ย?? 
 
“ฮาย~ เค” 
 
ทวิตซ์ยิ้มโบกมือทักทายตาแว่น
 
เคไหน? เคอะไร? เคคุคุ…ไม่เล่นดีกว่า รู้หรอกน่าว่าย่อมาจาก ‘แคคตัส’
 
ตาแว่นเงียบเดินมานั่งที่โซฟาตัวโปรดและยังคงมองหน้าฉันด้วยความสงสัย -*- 
 
เอาจริงดิ ไปตัดแว่นใหม่มั้ย? 
 
“คุยเลยนะ” 
 
ทวิตซ์หยิบเอกสารสีชมพูขึ้นมาวางกลางโต๊ะ 
 
ห๊ะ คุยเรื่อง? 
 
เหมือนมีฉันคนเดียวที่ไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังตั้งวงเสวนาอะไรกัน 
 
“เดี๋ยว” 
 
ตาแว่นเบรกบทสนทนา ก่อนหยิบกล่องนมจากกระเป๋าโยนให้ทวิตซ์ที่นั่งฝั่งตรงข้าม 
 
“ฉันไม่อยากติดหนี้ใคร”
 
ถ้าให้เดา…ทวิตซ์คงใช้นมล่อซื้อไอ้แว่นเหมือนปลาดาว 
 
อีตานี่มันผู้ใหญ่บ้านตำบลหนองโพรึไง? แจกนมเค้าไปทั่วเชียว  
 
นัยย์ตาฟ้าเพ่งกล่องนมชั่วครู่ ก่อนส่งยิ้มตอบกลับ 
 
“ขอบใจ แต่มันหมดอายุแล้วนี่นา ^^”
 
 วางยาพิษเรอะ? =0=
 
“ฉันจิ๊กของรูมเมทมา กินๆ ไปเหอะน่า ไม่ตายหรอก - -;” 
 
อี๋~ ถึงว่ากล่องพองๆ ดีนะตอนโยนไม่ระเบิดใส่หน้าฉัน >o<
 
“อื้ม! จะกินให้อร่อยเลย ^^” <<โกหกชัวร์ล้านเปอร์เซ็น
 
ขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับสงครามนมเย็น ทวิตซ์ก็ดึงบรรยากาศเข้าสู่โหมดจริงจัง แล้วเริ่มร่ายรายละเอียดแผนการสีชมพู
 
“สิ่งที่ต้องทำมี 10 อย่าง แบ่งเป็นนโยบายระยะยาวและอีเว้นต์ ก่อนสิ้นเดือนเราต้องเร่งทำนโยบายให้เป็นรูปธรรม เพราะต้องเขียนรายงานส่ง ผอ. ส่วน
อีเว้นต์ใกล้สุดคือ ‘ฮาโลวีน’”
 
ทวิตซ์อธิบายพร้อมเขียนสรุปลงในกระดาษ นิ้วเรียวชี้ระบุจุดโฟกัสดึงสายตาจ้องมองลายมือน่าอ่าน 
 
โห…สวยเว่อร์ =o= ลองเป็นฉันเขียนสิ หมอยังอาย
 
[1.ม้านั่งสื่อรัก 2.ถุงคู่ชนรัก 3.หอพักฉิมพลี 4.สถานีบรรเทาทุกข์ใจ 5.เลิฟช็อป]
 
อื้อหื๋อ…แต่ละชื่อเสี่ยวสุด =-=
 
“1 เคเคลียร์แล้ว เหลือแค่รอติดตามผล ส่วน 5 ฉันกับยูแชเพิ่งจัดการ…”
 
“เอ๊ะ?” 
 
ฉันอุทานด้วยความสงสัยมองใบหน้าสวยหล่ออย่างฉงน กระทั่งเขาหันมายิ้มตอบ 
 
“พิงค์ช็อคเชอรี่ ^^” 
 
ชื่อนี้จำขึ้นใจ -*- ทำเอาฉากที่ฉันต้องฝืนกินไอ้เมนูโคตรเลี่ยนจนเบาหวานขึ้นตาแว้บเข้าหัวเลย 
 
นั่นอะนะ ‘เลิฟช็อป’ เดาจากชื่อแล้ว สังหรณ์ใจว่ามันคงไม่จบที่ความทรมานครั้งเดียวแน่ 
 
เหมือนทวิตซ์อ่านใจออก จึงใจดีช่วยสาธยายความบรรลัยเพิ่มพอสังเขป
 
“เลิฟช็อปเป็นนโยบายระยะยาว มีจุดประสงค์เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่มจำนวนคู่รักในโรงเรียน โดยทางร้านจะออกสินค้าใหม่ทุกเดือน หน้าที่
ของเราคือทดลองใช้ โปรโมท รายงานผล”
 
“สู้ๆ~ -0-” 
 
ไอ้แว่นทำเสียงกวนโยนขี้เหมือนไม่ใช่ปัญหาของตัวเอง 
 
ย่ะ! ไม่ต้องบอกก็รู้ คนที่ต้องรับกรรมคือฉันกับอีตาทวิตซ์ -*-
 
เจ้าชายดอกไม้บรรยายต่อด้วยท่าทีสุขุม น้ำเสียงหนักแน่นชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็นุ่มนวลไม่ทำให้รู้สึกกดดันมากเกินไป ถ้าจะมีสักอย่างผิดพลาดคง
เป็นรูปลักษณ์ของเขาที่มันสวยเนี๊ยบเตะตาซะจนดึงเอาคนฟังหลุดโฟกัส 
 
“รายละเอียดก็มีเท่านี้แหละ แยกย้ายๆ ^0^” 
 
Smile Maker ยิ้มร่าทยอยเก็บข้าวของกระเป๋า
 
  อ่าว…จบซะละ =O=
 
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกพ่ายแพ้ให้คนไม่เอาอ่าวอย่างไอ้แว่น 
 
ตานั่นมันทำหน้าเข้าใจทะลุปรุโปร่งแบบสุดๆ ประหนึ่งเพิ่งบรรลุโสดาบัน ส่วนฉันโดนกิเลสครอบงำเป็นบัวจมมิดใต้โคลนตม ไม่รับรู้เรื่องอะไรกะเค้าเลย
=-=
 
ไม่ต้องห่วงนะทุกคน ขอเอาศักดิ์ศรีท่านประธานเป็นเดิมพัน ฉันจะรักษาความสุขุมเยือกเย็นไว้ ไม่ปล่อยให้ใครรู้ว่าโง่แน่ - -b
 
“ไปกันเถอะ~” 
 
ทวิตซ์เก็บของเสร็จลากฉันออกจากห้อง
 
เดี๋ยวก่อนน นายจะพาฉันไปต้มยำทำแกงที่ไหนย๊ะ!? =[]=
 
.
 
“…”
 
ม้านั่งโคตรเสร่อ ติดสติ๊กเกอร์หัวใจแดงเท่าฝาบ้าน พร้อมข้อความ ‘Sweet Refill’ 
 
อย่าบอกนะ ไอ้สิ่งนี้คือ ‘ม้านั่งสื่อรัก’ 
 
อี๋! แค่นึกถึงชื่อมันฉันก็แทบอาเจียนเป็นสายรุ้ง >TT< 
 
ขอล่ะอย่าให้ฉันหย่นก้นลงตรงนี้เลย พลีสส~ T T
 
ทวิตซ์ทิ้งตัวนั่งประเดิมส่งยิ้มหวานให้และใช้มือตบที่ว่างข้างกายเบาๆ 
 
รู้นะหมายถึงอะไร แต่…
 
(-  ) (  -) (-  ) (  -) 
 
ฉันส่ายหัวด๊อกแด๊ก
 
วิ้งง~ 
 
หนุ่มหน้าหวานไม่ยอมแพ้ ใช้ไม้ตายส่งสายตาลูกหมาขี้อ้อนสร้างดาเมจรุนแรงบีบหัวใจ
 
มะ ไม่ย่ะ! ไม่นั่ง! ฝันไปเถอะ! ถึงน่ารักให้ตายก็ไม่นั่ง!! >o<
 
ฉันหันหลังเตรียมเผ่น แต่จังหวะหมุนตัวดันเสียหลัก เพราะถูกเขากระตุกรั้งข้อมือเพียงเบาๆ
 
“ว๊าย!~” 
 
ฉันร้องเสียงหลงหลับตาปี๋เตรียมรับแรงปะทะ
 
แต่เมื่อลืมตากลับพบว่า ผลลัพธ์ช่างเลวร้ายกว่าล้มหน้าแหกซะอีก O///O 
 
เพราะตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนตักของเจ้าชายดอกไม้ในท่าโคตรน้ำเน่า!
 
“ค่อยสมเป็นม้านั่งสื่อรักหน่อย…” 
 
น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาใจเป๋วเต้นไม่เป็นจังหวะ
 
และยิ่งเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน เมื่อกลุ่มนักเรียนสัญจรเริ่มหยุดมองคนแล้วคนเล่า แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาคัตซีน
 
‘ม้านั่งสื่อรักเป็นจุด Stop Service ให้คู่รักเติมความหวาน เราติดสติ๊กเกอร์ เพื่อให้รู้ทั่วกันว่า ห้ามรบกวนเด็ดขาด’ 
 
เหลือเชื่อ…ถึงจะหลุดโฟกัสแต่สิ่งที่ทวิตซ์เคยพูดยังวนเข้าหัวฉัน 
 
“ป…ปล่อย” 
 
ฉันพูดเสียงอ้อมแอ้มไม่สมเป็นตัวเอง
 
อยากลุกอยู่หรอก แต่มืออุ่นๆ นั่นเล่นจับเอวไว้แน่นมาก…
 
คิดในแง่ดีเขาอาจกลัวฉันตก แต่ถ้าคิดในแง่ร้าย คงมีเหตุผลนานัปการที่สุดแสนจะบรรยาย
 
“ไม่เอา ฉันชอบท่านี้ ^^” 
 
นั่นเรอะเหตุผลนาย!? =[]=
 
พูดจบคนหน้าด้านก็โอบรัดตัวฉันแน่นกว่าเดิมเหมือนจงใจแกล้งให้หัวใจวาย และโน้มใบหน้าคมสวยเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนกรุ่น
 
อย่ามาปั่นหัวกันเล่นนะย๊ะ!!! > <// คิดว่าฉันจะยอมเหรอ!
 
“อร๊ายย!!~”
 
ไม่ยอมก็ต้องยอม เพราะทันทีที่ดิ้น ทวิตซ์ก็ผ่อนแรงลงจนฉันเกือบหงายหลัง 
 
สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำงานอัตโนมัติ สั่งสองมือขวนขวายเกาะเกี่ยวสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไว้มั่น
 
“โอ๊ะๆ อย่าดื้อสิ~ เดี๋ยวตกหรอก…” 
 
ประโยคแรกคือน้ำเสียงกะล่อนหยอกเย้า ส่วนประโยคหลังฉันสัมผัสได้ถึงอันตรายราวกับเป็นลูกไก่ในกำมือ
 
ตอนนี้สองแขนฉันจึงกอดคอเขาไว้แน่น ตัวสั่นระริกไม่รู้เพราะโกรธหรือกลัว 
 
“ห้ามปล่อยนะย๊ะ!~ ถ้าปล่อยฉันฆ่านายแน่!!!”
 
ทวิตซ์ไม่หวั่นเกรงเสียงตะคอกสู้ชีวิตของฉันแม้แต่น้อย ซ้ำยังหัวเราะคิกคักชอบใจ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกลั้นขำ
 
“อื้ม…จับไว้แน่นๆ เลยนะ…ไม่ปล่อยหรอก”
 
เดี๋ยวสิ! แล้วฉันต้องอยู่ในท่านี้อีกนานแค่หนายยย TOT
 
.
 
- 5 นาทีต่อมา-
 
ฉันติดเหง็กในท่าสวีตวีดวิ้วนั่นอยู่นาน กว่าอีตาทวิตซ์จะยอมเมตตา
 
ผ่านมาสักพักแล้ว แต่ฉันยังรู้สึกเขินจนหน้าชาและหายใจติดขัด เพราะกลิ่นเหงื่อฮอร์โมนผสมสวนดอกไม้อุ่นๆ ของเขายังติดตัว เล่นเอาสติล่องลอย
ไม่เป็นอันทำอะไร…
 
ต่อไปนี้ ฉันจะจำขึ้นใจ!! ไม่เฉียดใกล้ไอ้ม้านั่งนรกแตกนี่เป็นครั้งที่สองแน่!!! 
 
.
 
หลังหลุดจากม้านั่งสยอง วิบากกรรมของฉันยังไม่จบ ทวิตซ์พาวิ่งวุ่นติดใบปลิวโปรโมทซัมติงและสั่งให้ฉันโหลดแอปฯ สีชมพูน่าสงสัยลงเครื่อง โดย
อ้างว่าต้องใช้ดำเนินนโยบายสุดเสี่ยว
 
สรุปคือ ยังไม่รู้อะไรอีกเหมือนเดิม = = 
 
เอาจริง รู้แหละว่าต้องตั้งใจ ถ้าไม่อยากหมดสิทธิ์สอบ แต่ให้ทำไงได้ เมื่อสมองมันไม่อยากยอมรับสิ่งที่ขัดกับสามัญสำนึก ง่ายๆ คือ ‘อคติ’ นั่นแหละ
 

 
(ณ ห้องสภานักเรียน)
 
ไอ้แว่นแว้บไปทำภารกิจบางอย่าง ส่วนทวิตซ์กำลังง่วนอยู่กับการติดตั้งแอปฯ ประหลาด ฉันที่ว่างจัดเลยงมหาหนังสือในกระเป๋าอ่านฆ่าเวลา
 
ฟุ่บ!
 
O///O
 
จู่ๆ อีตาทวิตซ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ บนโซฟาตัวเดียวกันก็ทิ้งตัวหนุนตักฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต!
 
“ยุ่งยากจัง…” 
 
สายตาสีเงินโฟกัสจอมือถือจิ๊ปากบ่นอุบอิบ…
 
นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ! นายรีบลุกจากตักฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้บ้ากาม!!! >O< 
 
“นี่!!!” 
 
ฉันตะเบ็งเสียงใส่ในขณะที่ทั้งหน้าแดงก่ำ…ภาวนาให้เขาคิดว่าฉันโกรธจนหน้าแดงละกัน
 
ทวิตซ์เลื่อนสายตาออกจากจอ จ้องฉันแล้วผลิยิ้ม 
 
เพียงแค่นั้นก็รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกจนต้องยกหนังสือขึ้นมาบังหน้า
 
ไม่ยุติธรรม! ทำไมถึงมีแค่ฉันที่หวั่นไหวอยู่คนเดียวตลอด!? >\\\< 
 
“ฉันหนัก…” 
 
ฉันพยายามสรรหาเหตุผลให้ไอ้คนชอบฉวยโอกาสยอมลุกออกไปง่ายๆ โดยไม่ถูกจับได้ว่าแอบใจสั่นกับการกระทำบุ่มบ่ามของเขา
 
“ไม่ชอบหรอ?” 
 
แม้จะมองไม่เห็นใบหน้ายียวนนั่น แต่พอเดาได้จากน้ำเสียงติดสนุกว่าเขากำลังปั่นหัวฉันเล่นอีกแล้ว
 
หนังสือเล่มบางเฉียบที่เปรียบเหมือนเกราะป้องกันเดียว ถูกนิ้วเรียวชิงไปอย่างง่ายดาย ทำให้เราต้องสบตากันอย่างเลี่ยงไม่ได้
 
 “…แต่ฉันชอบนะ”
 
ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก…
 
เพียงน้ำเสียงแผ่วเบาแทบกระซิบ แค่สายตาสบประสานเพียงเสี้ยววิ และกลิ่นหอมเจือจางกับไออุ่นที่เกิดจากความใกล้ชิด 
 
ทำไมถึงทำให้ใจสั่นกันนะ…
 
“ลูบหัวหน่อยสิ ถ้าเธอทำฉันจะยอมเป็นเด็กดี ^^”
 
กี่ครั้งแล้วที่เขาเล่นกับใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จักหลาบจำซะบ้างเลย…
 
ฉันค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมสีเงินอ่อนนุ่ม 
 
ทำแบบนี้แล้ว นายจะยอมลุกใช่มั้ย?
 
ดวงตาคู่สวยปิดลงอย่างผ่อนคลาย 
 
เวลาหลับตาเขาดูไร้เดียงสาน่าเอ็นดูขึ้นมาเชียว ทั้งอ่อนนุ่ม อบอุ่น ขี้อ้อน เหมือนลูกแมว 
 
แปลกดีที่พอได้สัมผัสเขาจิตใจฉันกลับรู้สึกสงบ 
 
เส้นผมนุ่มกว่าที่คิด…ลูบแล้วสบายมือจัง 
 
ฉันเคยคิดว่าทวิตซ์ย้อมผม แต่ดูจากแพขนตาเงินแล้ว น่าจะเป็นสีผมจริง ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงดูเข้ากับเฉดผิวขาวเนียนอมชมพูนั่นนัก จมูกโด่งสวย
และริมฝีปากบางได้รูปก็รับเข้ากับทุกองค์ประกอบบนใบหน้าอย่างไร้ที่ติ แม้แต่สันกรามยังดูมีเสน่ห์
 
ธรรมชาติช่างน่าพิศวง ทำไมถึงรังสรรค์สิ่งมีชีวิตที่อันตรายขนาดนี้ขึ้นมากัน?
 
ริมฝีปากสีกุหลาบเผยอขึ้นเล็กน้อย พ่นลมหายใจบางเบาเป็นจังหวะ
 
หลับซะแล้ว…?
 
มือของฉันยังคงสัมผัสเส้นผมอ่อนละมุนต่อไป
 
“…ฉันยังชอบนายอยู่นะ” 
 
เสียงกระซิบแผ่วเบาลอยหายลับตามสายลมราวกับดอกแดนดิไลออน
 
อาจเพราะบรรยากาศพาไป ปากเลยเผลอพูดสิ่งที่เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจออกมา
 
แต่ช่วยลืมมันซะเถอะ เพราะไอ้ความรู้สึกเอาแต่ได้แบบนั้น…จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่
 

 
ฉันปล่อยให้เจ้าชายนิทราบรรทมอยู่อย่างนั้น แล้วลองเปิดแอปฯ ที่เขาโหลดทิ้งไว้
 
ถึงจะเกลียดยังไง ฉันก็หนีจากหน้าที่ประธานนักเรียนไม่พ้น ศึกษาไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย
 
อืม…แอปหาคู่ชัดๆ -*- นี่คงเป็นถุงคู่ชนรัก ส่วนตรงนี้ศูนย์บรรเทาทุกข์ใจ ซึ่งดูจากสภาพตึกสภานักเรียน ฉันว่าจัดศูนย์บรรเทาทุกข์ผีเหมาะกว่า 
 
แต่เอาเถอะ แค่สวมบทพี่อ้อยพี่ฉอดตอบปัญหาความรักและจับคู่ให้นักเรียนผ่านแอปฯ เทียบกับงานเอกสารที่ผ่านมา ไม่คณามือฉันหรอก!! +-+
 
“อื้ม…” 
 
ทวิตซ์ส่งเสียงครางงึมงำในลำคอ เกือบลืมแหน่ะว่าตานี่หนุนตักอยู่
 
อย่างน้อยตอนนอนก็สงบเสงี่ยม รับมือง่ายกว่าตอนตื่นเยอะ เป็นเหตุผลที่ฉันยังไม่ปลุกเขาไงล่ะ
 
จริงๆนะ! >//< ไม่ใช่เพราะตอนหลับน่ารักจนทำใจปลุกไม่ลง!
 
โอเค โฟกัสงานดีกว่า…เลิกคิดถึงสัมผัสอุ่นๆ น้ำหนักบนตักและใบหน้าหล่อสวยนั่นซะ! 
 

 
ฉันเคลียร์แอปฯ เจ้าปัญหาเพลินจนกริ่งพักเที่ยงดัง ทวิตซ์ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางอิ่มเอมใจสุดๆ เขาออกไปซื้อข้าวกลางวันมากินด้วยกันที่ห้องสภา
นักเรียน และเขียนรายงานส่ง ผอ. ต่อ ส่วนเวลาที่เหลือก็พาติวหนังสือ จบด้วยเดินไปส่งหอ 
 
หนึ่งวันพันเหตุการณ์ มีแต่กิจวัตรประจำวันแปลกๆ แต่เวลากลับผ่านไปเร็วมาก ความรู้สึกของการได้อยู่ร่วมกับใครสักคนที่ฉันห่างเหินมานาน เป็นแบบ
นี้เองสินะ…
 
.
 
-19.00 น.-
 
(ณ หอหญิง)
 
ก๊อกๆๆๆ
 
ที่เก่าเวลาเดิม = = ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วง ‘อะไรเอ่ยอยู่นอกห้อง’ 
 
ปิ๊งป่อง~ เจ้าชายดอกไม้ในชุดนอนลายตัดอ้อยกับอีแตะช้างดาวยังไงล่ะ
 
โอ๊ยยย อยากจะบ้าตาย! นายมาทำอะไรเอาป่านนี้ย๊ะ?
 
ครืด~
 
แน่นอนว่าต้องจำใจเปิด - -* ด้วยเหตุผลเดิมๆ นั่นแหละ
 
“เด็กดีๆ~ ^^” 
 
มือใหญ่ลูบหัวป่อยๆ ดูเป็นการเยาะเย้ยที่ชวนหงุดหงิดมากกว่าคำชม - -^
 
“รางวัลนะคร้าบ” 
 
ทวิตซ์ยัด ‘ขนมปังสตรอเบอรี่’ ใส่มือฉัน 
 
หน็อย -*- คิดจะยั่วโมโหกันรึไงไอ้บ้า! 
 
“ฉันเกลียดสตรอเบอรี่!” 
 
ต้องให้ย้ำอีกกี่ล้านรอบ 
 
“แต่ฉันชอบนี่นา ^^” 
 
นายใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อของฝากมิทราบ? 
 
ฮึ่ย…ไม่สบอารมณ์เลยจริงๆ - -**
 
หนุ่มร่างสูงยิ้มร่าเมินใส่ไฟพิโรจน์ในตาฉัน แถมยังท้าทายอำนาจด้วยการหยิกแก้มเล่นอย่างหมันเขี้ยว
 
คอยดูเหอะ สักวันฉันจะเอาสตรอเบอรี่ทั้งสวนยัดคอห่านนาย!
 
พอแกล้งฉันจนหนำใจ อีตาทวิตซ์ก็เดินไปแจกโดนัดกาแฟให้ปลาดาวต่อตามสัญญา พร้อมยื่นข้อเสนอสุดช็อค
 
“สนใจเข้าสภานักเรียนมั้ย?” 
 
“เอ่อ…คือ-”
 
“เรากำลังขาดคน ถ้าสมัครตอนนี้จะได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องเข้าเรียนทุกวิชา แล้วเล่นเกมเยอะแค่ไหนก็ได้ ^o^”
 
“ดีลค่ะ! >o<”
 
+1 สมาชิกสภานักเรียน คุยง่ายเคลียร์ไว -_- อนาคตขายประกันท่าจะรุ่งนะตานี่
 
“ประธานอนุมัติมั้ยคร้าบ ^^" 
 
ทวิตซ์หันมาถามกวนประสาท
 
ฉันเคยมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยหรอ? ถึงไม่อนุญาตนายก็ใช้เส้นยัย ผอ. ยัดใครเข้ามาก็ได้หนิ
 
…แต่เพราะเป็นคนนิสัยดีแบบปลาดาวหรอกนะ ฉันถึงไม่มีปัญหาอะไร
 
“อืม” 
 
ฉันตอบกลับสั้นๆ
 
เหมือนตอนประชุมล่าสุดจะได้ยินแว่วๆ ว่าขาดคนจริง แต่ไม่คิดเลยว่าทวิตซ์จะเล็งรูมเมทฉัน
 
หรือที่เข้าหาปลาดาวเพราะตั้งใจทำแบบนี้แต่แรก ละทำไมไม่ไปทักทายตามห้องเรียนปกติ ต้องลงทุนบุกหอด้วย? 
 
ไม่รู้แหละ แต่รู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า -*-
 
มือใหญ่ถือวิสาสะวางแหมะบนหัวฉัน ทวิตซ์โน้มตัวลงให้อยู่ในระดับสายตา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 
 
“อย่าปั้นหน้ามุ่ยสิ ฉันทำเพื่อเธอนะ”
 
พอได้ยินแบบนี้ หัวใจเจ้ากรรมก็พร้อมกระโจนเข้ากองไฟ ไม่ว่าอะไรที่ออกจากปากเขา ฉันคงยอมเชื่ออย่างไร้ข้อกังขา
 
 เกลียดตัวเองจริงๆ…
 
สองมือเลื่อนประคองหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ร่างสูงจ้องมองได้ถนัด
 
“พอเห็นเธอทำหน้าแบบนี้แล้ว…ไม่อยากกลับเลย” 
 
ทั้งดวงตาสีฟ้าอมเทาคู่สวย คำพูดแสนหวานและน้ำเสียงออดอ้อน ทำใจฉันเต้นระรัว ส่งผลให้เลือดสูบฉีดจนใบหน้าร้อนผ่าว
 
โดยไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากอบอุ่นก็ประทับลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา
 
O////O
 
“นะ นายๆๆ…!” 
 
ฉันผงะถอยหลัง สติเตลิดเปิดเปิง ถ้อยคำนับล้านติดอยู่ในลำคอ  
 
เจ้าชายดอกไม้เผยยิ้มฉ่ำหวาน จ้องมองฉันไม่ละสายตาก่อนกล่าวลา
 
“พรุ่งนี้เจอกัน อย่าลืมพาเพื่อนมาด้วยล่ะ ^^”
 

 
(จบตอน)
 
แคคตัส; จงสู้ต่อไป ดั่งดอกแคคตัสที่เบ่งบานท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา