The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา
9.7
เขียนโดย Killolat
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.
27 บท
1 วิจารณ์
2,897 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) -ฮิบิสคัส-
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเหลืออีก 1 ชม. ก่อนเริ่มมื้ออาหาร เด็กชายทวิตซ์ขี้เบื่อเลยจัดทริปสุ่มพาทัศนศึกษารอบบ้าน
ความเร็วก้าวถูกผ่อนปรนให้เดินตามได้สบาย
แทนที่จะสนใจสภาพแวดล้อมศิวิไลเว่อร์วัง สายตาดันเลือกจดจ่อเหม่อมองเพียงแผ่นหลังกว้างของร่างสูงชะลูด พาความคิดจมปลักวกวน
ทวิตซ์เปลี่ยนเสื้อใหม่เรียบร้อยหลังประสบอุทกภัยน้ำตา
สมองฉันยังติดสถานะสับสน เพราะหมอนั่นไม่ได้แกงตัวเองคนเดียว แต่ลามปามมาสะกดจิตฉันด้วย
รักสามเส้า เราสองคน = ‘ทวิตซ์’ ‘ฉัน’ ‘ทวิตซ์’???
ปวดหัวจี๊ด -*- หรือฉันควรสารภาพความจริงดี
…แต่ถ้าทำแบบนั้น ตัวนายที่กำลังมีความสุขอยู่ตอนนี้จะหายไปรึเปล่า? เกิดสมองรับไม่ไหว ช็อคหมดสติอีกรอบล่ะ!?
ไม่เอานะ! ฉันไม่อยากนั่งร้องไห้เจียนตายข้างเตียงคนไข้แล้ว~ ToT
ขนาดหมอยังไม่กล้ายุ่ง ฉันเป็นใครคิดแทรกแซงสมองเขา
เอาเป็นว่า ปล่อยให้ฟื้นฟูเองตามธรรมชาติละกัน
จึก
นิ้วจิ้มแก้มฉุดฉันหลุดจากห้วงคะนึง
“คิดอะไรอยู่ ซีเรียสเชียว”
รอยยิ้มบางคลายกังวล มือหนาอุ่นลูบหัว ตะล่อมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุน
“ให้ฉันช่วยมั้ย?”
ความใจดีทำให้ฉันเพลี่ยงพล้ำ เผลอสบตาสีฟ้าอย่างโหยหา…
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
นั่นสิ ถ้าเป็นนายจะทำยังไง?
คงเลือกยืนเคียงข้างฉัน คอยดูแลถนุถนอม…
เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ใช่มั้ย?
…
ครืนน
ขนลุกซู่ชูชัน เมื่อสัมผัสถึงคลื่นรังสีมฤตยูแผ่กระจายเป็นวงกว้าง สายตาสีครามฉายแววหึงโหดชัดเจน
ตายล่ะ =o=;; ดูก็รู้…ฉันกำลังตกอยู่ในวังวนประหลาด ถูกทวิตซ์จับได้คาหนังคาเขาว่า กำลังแอบคิดถึงทวิตซ์(คนเก่า) จนน้ำตาคลอเบ้า
“ถ้าเธอร้องฉันจูบแน่!”
เสียงข่มขู่กดเข้มเชือดเฉือน ทำน้ำตาหดหายหนีต้านแรงโน้มถ่วงแทบไม่ทัน T^T
“ท…ทะลึ่ง!”
สัญชาตญาณเอาตัวรอดหวังพลิกสถานการณ์ สั่งปากซ่าสวนสู้ทันควัน
ร่างสูงกระตุกยกมุมปาก ใบหน้าสวยอารมณ์ดีขึ้นหน่อย เมื่อสายตาฉันโฟกัสเพียงเขา
“อ๊ะอา~ โรแมนติกต่างหาก”
นิ้วชี้กะล่อนโบกยั่วกวนลูกตาตามโน้ตเสียง ท่าทีขี้เล่นล้างมาดอำมหิตพิศวาสหายวับ
“จูบซับน้ำตาแบบซีรี่ส์เกาหลีไง ^^+”
“เกาหลีเกาเหลาก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละย่ะ!!”
ปฏิกริยาตอบสนองก้าวร้าวช่างเร้าใจพ่อหนุ่มมาโซคิสม์ เล่นเอากลั้วหัวเราะไม่หยุด
น่าโมโห…แต่หล่อจัง -\\\-
ขี้โกงชะมัด! ถ้าไม่ติดว่าน่าเอ็นดู คนกวนส้นอย่างนายคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอกย่ะ
หมับ!
จอมแต๊ะอั๋งเล่นทีเผลอ อาศัยจังหวะว้าวุ่นคว้ามือฉับไว เนียนสอดนิ้วจับประสานนสนิทสนม ก่อนพาจูงนำล่องคนละโยชน์กับห้องอาหาร
คราวนี้ฉันไม่ปล่อยให้ความสงสัยทำงานแค่ในใจ
“เดี๋ยว! นายจะไปไหน?”
คำถามถูกตอบกลับอย่างนอนเซ้นส์ด้วยน้ำเสียงสุขุม
“เชื่อเท้าฉันเถอะน่า”
เฮ้อ ไม่น่าถาม…ฉันล่ะทึ่งจริง ที่นายยึดมั่นในไอ้ GPS ไร้แก่นสารนั่นเหลือเกิน
.
โทษที…ฉันจะไม่ดูถูกมันอีกแล้ว
ตอนนี้เราหยุดยืนหน้าป้ายหลุมศพสองหญิงสาวใจกลางทุ่งบุพผชาติ
ม้วนฟิล์มเดิมฉายซ้ำเพียงเปลี่ยนตัวนักแสดง
ทวิตซ์ก้มเด็ดดอกไม้ขาวริมทางวางเคารพหลุมศพแม่ หมางเมินแท่นว่างเปล่าข้างกันเช่นเดียวกับเอเดล
ท่ามกลางธรรมชาติงดงามดุจแดนสวรรค์ ดวงตาน้ำข้าวแฝงความเจ็บช้ำบาดลึก เลือกเหม่อมองซึมซับเพียงสายลมว่างเปล่า
“…ไม่ง่ายเลย”
เสียงแผ่วเบาคายคำพูดเปี่ยมอารมณ์ซับซ้อน ตีความได้หลากหลาย
…
ไม่รู้ทำไม แต่ภาพตรงหน้าทำให้ฉันนึกถึงตัวเองตอนประสบปัญหาชีวิต
‘หลักสีผึ้งเยียวยาแห่งการให้อภัย’ โดย ‘เอ็ลเดอร์เควิน อาร์. ดันแคน’ ใช้ได้ดีเสมอ
การให้อภัยคือหลักธรรมน่าสรรเสริญ เราไม่ต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำสอง เราสามารถให้อภัยได้
ไม่ใช่การยกผลประโยชน์ให้จำเลย มนุษย์ต่างดิ้นรนให้อภัย เพื่อหลุดพ้นความเจ็บปวดต่างหาก
…
ฉันย่อตัวเด็ดสองดอกไม้ขาววางบนแท่นอย่างเท่าเทียม ยืนไว้อาลัยสงบเงียบ
ไม่รู้หรอกว่า ที่ผ่านมาเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง…แต่วิญญาณทุกดวงควรได้รับการให้อภัยไม่ใช่หรอ?
ดวงตาครามเฝ้ามองฉันแน่นิ่งชั่วขณะ พยายามจัดระเบียบความรู้สึกยุ่งเหยิง พามาสู่บทสรุปแห่งความสุข
หน้าต่างหัวใจใต้แพขนตาเงินผันเปลี่ยนเปล่งประกายฟ้ากระจ่าง โลกทั้งใบพลันสดใสอีกครั้ง เมื่อเจ้าชายดอกไม้ผลิยิ้มสวยงดงามกว่าดอกไม้ใด
“ขอบคุณนะ”
ฉันคลายยิ้มรับคำ
แม้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่สัมผัสได้ว่า ทุกอย่างกำลังดีขึ้น
.
กร๊องง
ทุกคนเข้าประจำที่ ณ ห้องอาหาร ฉันไม่พลาดแข่งจ้องนาฬิกากุ๊กกูกับฝาแฝด
เอเดลชดใช้กรรมเสร็จทันนัดมื้อเที่ยงพอดี
ปกติโรงเรียนทั่วไป หากโดนทัณฑ์บนจะไม่สามารถแก้ได้ แต่ฉันไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ นี่เอเดลเชียวนะ เธอคงซิกแซกเก่งเหมือนอีตาปีศาจข้างกาย
ฉัน
ประตูเปิดอ้าไร้เสียง ต้อนรับบุรุษผู้มีฝีเท้านุ่มนวลหนักแน่น
ตึก ตึก ตึก
ราชาน้ำหอมหล่อเข้มตรงต่อเวลาเสมอ
“Bongjour”
พ่อพิมพ์ไร้ที่ติ ทุกอิริยาบถน่าจับจ้อง กล่าวทักทายภาษาฝรั่งเศส
“แด๊ด~”
เอเดลพุ่งกระโจนกอดคุณอาทุบทลายทุกกฎมารยาทสังคม
ภาพเก่าเล่าใหม่ ต้นแบบเตาผิงเรียกพ่อยิ้มกว้าง ลูบหัวเอ็นดูสาวน้อยเรือนผมเงิน
“My princess ^^”
พ่อลูกเริงร่าสนิทสนม พากันเดินควงแขนนั่งประจำตำแหน่งพร้อมหน้า
ถึงตาเจ้าชายดอกไม้ผู้เฝ้ามองสถานการณ์ ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากครั้งก่อน
“Boujour monsieur”
ไม่มีอีกแล้ว ‘โป๊กเกอร์เฟส’ คงเหลือเพียงรอยยิ้มต้อนรับถูกสะท้อนส่งถึงกันจากใจจริง
“อาการเป็นไงบ้างล่ะ?”
คุณอาเปิดบทสนทนาระหว่างรอจัดเสิร์ฟ
“แข็งแรงดี แต่จำพ่อไม่ได้หรอกครับ”
ทวิตซ์แกล้งหยอกบุพการีสนิทสนม
“หึๆ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”
คุณอาไม่ถือโทษ เค่นหัวเราะในลำคอ
“ทรงนี้ในหัวคงมีแต่เรื่องสาว”
ต้นแบบมาโซคิสม์ต่อบทจี้แซวอย่างออกรส
“Veuillez m'excuser pour cette erreur”
หนุ่มหน้าสวยร่ายภาษาฝรั่งเศสน่าฉงนด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชัน
ฟังออกอีกทีก็ตอนตานี่กลับมาหยอดมุกภาษาไทย
“พอดีว่าเชื้อพ่อแรง”
…นั่นคงไม่ใช่คำแปลใช่มั้ย?
“ยีนส์คลั่งรักน่ากลัวจริง แม้แต่คนในครอบครัว ผมยังกัดไม่ปล่อย”
ปากร้ายทะเล้นน่าเอ็นดู ทำผู้ฟังหุบยิ้มไม่ได้
…
บรรยากาศครื้นเครงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน กระทั่งอาหารจานสุดท้ายจัดเสิร์ฟ
แก้วใส่น้ำองุ่นหมักบ่มแดงฉานดั่งโลหิตพระคริสต์ยกสูงพร้อมประกาศเปิดมื้อฉลอง
“Félicitations!”
อาวุธพร้อม ท้องพร้อม อาหารพร้อม
สุภาพบุรุษบ้านนี้ไม่เคยบกพร่องเรื่องดูแล จานตรงหน้าถูกเติมเต็มด้วยความใส่ใจ
ทวิตซ์เลือกตักแต่ของกลางๆ กินง่ายและสนุกกับการสำรวจเป้าหมายอย่างสนอกสนใจ
โชคดีที่ฉันชอบรสอ่อนปรุงน้อย นายถึงได้คะแนนเต็มสิบไม่หัก
ระหว่างที่ครอบครัวช่างจ้อเว้นช่องไฟเพื่อโฟกัสการกิน ฉันจึงไม่พลาดใช้โอกาสนี้ ระบายความรู้สึกผิดติดค้าง
“คุณอาคะ หนูขอโทษที่ครั้งก่อนเสียมารยาท…”
ดวงตานิลกาฬฉายแววเอ็นดู คลายยิ้มบาง ออร่าอบอุ่นเปล่งประกายไม่แพ้เจ้าชายดอกไม้
“ไม่ต้องคิดมาก ^^ แล้วเจ้าเหมียวไส้ติ่งแตกเป็นไงบ้างล่ะ?”
“…?”
“อ๊า~ แด๊ดอันนั้นน่ากินจัง! ^0^;;”
เอเดลเข้าแทรกแซงกระตุกแขนอ้อนพ่อตัดบท ช่วยกลบเกลื่อนเรื่องโกหกคำโต
แมวบ้าอะไรไส้ติ่งแตก…ถามจริ๊ง??
นั่นอ่ะนะเหตุผลที่เธอใช้เป็นข้ออ้างให้ฉัน =-=;;
ฉันประเมินพี่น้องคู่นี้สูงไป
บุคลิกย้อนแย้งหลอกตาสร้างภาพลัษณ์เจ้าเล่ห์เพทุบาย…ความจริงคือโกหกไม่เก่ง แถมติ๊งต๊องอีกต่างหาก
.
“นายว่างอีกทีเมื่อไหร่?”
ประโยคคำถามราบเรียบระหว่างรอรถกลับบ้านปลุกสายตาลุกวาว
“เดทหรอ? ไปซี้~ ^o^”
ท่าทางตื่นเต้นลั้นลาเหมือนลูกสุนัขพร้อมเดินเล่น ทำฉันเผลอหลุดยิ้ม
แต่ๆๆ!!
“ไม่ใช่ย่ะ!”
แป่ว~
หงอยลงทันตา…น่ารักซะไม่มี
อ๊ะ แล้วฉันจะเปิดโหมดคลั่งรักตามเค้าทำไมเนี่ย!? >\\\<
ไม่ได้ๆ เจ้าหญิงน้ำแข็งองค์ลงก่อนเพคะ!
“มีเรื่องเอกสารอยากให้นายช่วยจัดการ”
น้ำเสียงนิ่งสงบเยือกเย็น ช่างตรงข้ามกับความรู้สึกสับสนโหวงเหวงภายใน
ฉันเกลียดนโยบายนี้มาตลอด ไม่มีอะไรต้องลังเล…
แล้วทำไมถึงรู้สึกใจหายล่ะ?
สายตาสีครามแน่นิ่งเฝ้าจดจ่ออ่านความคิด ก่อนยอมตอบตกลงไม่สาวความ
“ได้สิ พรุ่งนี้เจอกัน”
.
กริ๊งง กริ๊งง กริ๊งงง
เรื่องเซอร์ไพรส์โหมกระหน่ำจู่โจม เมื่อเสียงมือถือเครื่องเก่าเพิ่งซ่อมเสร็จหมาดๆ ดังประเดิมสายแรก 1 ทุ่มตรง
แอบตะหงิดอยู่หรอก ว่าทำไมตานั่นถึงโทรมาได้? แต่จังหวะนั้น ไอ้หัวใจดี๊ด๊ากระตู้วู้ มันดันบงการสั่งสมองให้ลบเลือนทุกเหตุผล พร้อมแท็กทีมเข้า
ชักใยร่างกายกดรับสายไปซะแล้ว…
“ว่า?”
ฉันตอบห้วนเก๊กวางมาด แต่แอบซุ่มอมยิ้มหวาน
[ฮะๆ เย็นชา~]
ปลายสายค่อนแซะอย่างหมันเขี้ยว
ไม่ต้องรอฉันถาม ทวิตซ์กระตือรือร้นคลี่คลายข้อสงสัยด้วยตัวเอง
[ความรู้สึกมันสั่งให้โทรมาน่ะ]
เสียงเรียบทุ้มต่ำสร้างแรงสะเทือนระดับภัยพิบัติ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
[ไหนๆ ก็โทรมาแล้ว…ฝันดีครับเจ้าหญิง]
ตัวตนดื้อด้านไม่เลือนหายพร้อมความทรงจำ
เขายังคงเป็นผู้ชายเสมอต้นเสมอปลาย พูดกระชับสื่อสิ่งที่ต้องการ บอกราตรีสวัสดิ์ ก่อนกดวางเอาเองตามใจชอบ
…แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเล็กน้อย
[รักนะครับ]
ติ๊ด
คนขี้โกงชิงตัดสายไม่รอรับฟีดแบค
ตึกตักๆๆๆ!
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก หรือฉันหูฝาดไป???
ตึกตักๆๆๆ!
‘ไม่’ เสียงหัวใจเต้นแรงช่วยตอบ
O///O
!!!ทวิตซ์บอกรักฉันจริงๆ!!!
“…กรี๊ดดดดด!!!~”
ฉันมุดหน้าซุกหมอนเล็บจิกฟิน >\\\<
ถ้าเอาหมอนออกตอนนี้ คนทั้งซอยได้ตกใจเสียงกรีดร้อง 80 เดซิเบลของฉันแน่!
นายจะไม่รับผิดชอบหน่อยหรอ? ที่ทำใจฉันเต้นแรงแทบทะลุออกจากอก ใบหูร้อนฉ่าเหมือนโดนเหล็กร้อนนาบ…ไม่สิ ทั่วทั้งหน้าเลยต่างหาก!
ฟินฟุ้งตัวลอยได้ไม่เท่าไหร่ ไอ้อารมณ์ว้าวุ่นฟุ้งซ่านก็บุกเข้าจู่โจมตามประสาคนคิดมาก พาเท้าซนเดินวนเวียน
…
ไม่อยากเชื่อ! นี่ฉันเพ้อไปเองรึเปล่า?!
คำที่อยากได้ยินมาตลอด สิ่งที่ฉันต้องการ…มันง่ายดายแบบนี้เลย???
คิดๆ ไปก็โมโห! คำสำคัญแท้ๆ…ตาบ้าเอ้ย! ทำไมถึงไม่พูดต่อหน้า
…หรือไม่เห็นว่ามันสำคัญ?
ถ้าเริ่มนับตั้งแต่ความจำเสื่อม เอาจริงๆ เขาเพิ่งรู้จักฉันได้ 3 วัน
วันแรกลูบหัว วันที่สองขโมยจูบ วันนี้สารภาพรัก…พรุ่งนี้ไม่ขอแต่งเลยเร๊อะ!?
พ่อหนุ่มไวไฟแรงทะลุนรก นายจะก้าวกระโดดเร็วไปไหน? ช่วยสงสารใจฉันบ้างเถอะ~ T//T
…
เอ๊ะ หรือเพราะความจำเสื่อม ช่วยลบปมเรื่องความรัก เขาถึงกล้าพูดคำนี้ออกมาง่ายดาย ไม่ต่างจากชื่อฉัน…
แล้วถ้าเกิดทวิตซ์คนเดิมกลับมาล่ะ…?
เอาไงดี ฉันก็รักนาย แต่ว่า…
อ๊าา ไม่น๊าา!!!!~
ความตึงเครียดถาโถม ทำฉันทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งบนเตียง ขยี้ผมฟูฟ่องเป็นก้อนสายไหม
ค็อกเทลอารมณ์ผสมปนเละเทะ
ฉันต้องรู้สึกยังไงกัน…
โกรธ เศร้า เหงาหงอย ดีใจหรือเสียดาย?
…
ถึงอย่างนั้น มุมปากดื้อที่เอาลงมาไม่ได้ก็กำลังฟ้องชัดว่า
‘ฉันช่างมีความสุขเหลือเกิน’
.
-เช้าวันต่อมา-
จุดจบสาวคลั่งรัก ใต้ตาดำปิ๊ดปี๋ =_=
จงภูมิใจซะเถอะเจ้าชาย สัตว์สงวนไม่มีทางสูญพันธุ์อีกต่อไป เพราะดาเมจ ‘รักนะครับ’ ของนาย เพิ่งสร้างหมีแพนด้าและแรดเพิ่มอีกตัว
อร๊ายย~ คิดแล้วเขิน! >\\\<
ขอร้องล่ะ สติอย่าเพิ่งทิ้งฉันเลย! ถึงแม้มันจะน่าอาย…แต่ฉันยังไม่อยากให้เขาหมดรัก เพราะเป็นบ้าหรอกนะ
…
ว่าแต่…อีตาทวิตซ์ถึงไหนละเนี่ย?
จริงอยู่ที่ฉันเห่อมารอหน้าห้อง ผอ. ก่อนครึ่งชั่วโมง แต่ทุกครั้งทวิตซ์มักนำหน้าฉันก้าวนึงเสมอ
เขาไม่เคยปล่อยให้รอ…
เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน ฉันลืมอะไรไปรึเปล่า…? หมอนั่นความจำเสื่อม จะรู้ทางมาห้อง ผอ.ได้ไง!?
คิดอีกที…เขาไม่ใช่คนโง่นี่นา น่าจะพอคลำทางมาเองได้ หรือถ้าติดขัดอะไรคงเผื่อเวลาโทรบอกก่อนล่วงหน้า
แล้ว…ทำไมถึงช้า?
…
ให้ตายสิ! ใจคอไม่ดีเลย…!!!
ตู้ด… ตู้ด… ตู้ด…
เสียงรอสายวังเวงทำใจตกไปอยู่ตาตุ่ม คิดกังวลปรุงแต่งต่างๆ นานา
สองเท้าปรี่เดินตามหา ก่อนเร่งวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
…
[โทษที ลืมเปิดเสียง]
ไอ้คนไม่เอาอ่าวเอ๊ย! กดรับได้ซักทีนะย๊ะ!!
…คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วงแทบแย่
“แฮ่กๆๆ”
ฉันทรุดตัวนั่งหอบถี่…อยากตะโกนด่าทอให้คอแตก แต่ตอนนี้แค่หายใจทันก็บุญแล้ว
“ว้าว~ เธอหาฉันเจอด้วยล่ะ”
น้ำเสียงตื่นเต้นปลายสายดังคมชัดเหมือนหลุดออกมาจากมือถือ
เงาตะคุ่มเบื้องหน้าบดบังแสงแดดยามเช้า พาสายตาแหงนมอง ปรากฏภาพหนุ่มผมเงินสวมชุดนักเรียนตามระเบียบเชิตขาวสเลคดำคุ้นตา
…แต่ฉันกลับรู้สึกราวกับฝัน
“เก่งจริงๆ”
สุ้มเสียงทุ้มนุ่มและดวงตาสีฟ้าหล่อเลี้ยงหัวใจ ปัดเป่าความกังวล
ร่างสูงย่อตัวลูบหัวตบรางวัล
นิ้วเรียวไล้ช่วยปาดเช็ดเม็ดเหงื่อเก็บไรผม
รอยยิ้มสวยขี้โกงนั่น…ทำฉันโกรธเขาไม่ลงอีกแล้ว
GPS แสนรู้นำทางเรามาพบกัน ‘หน้าหอหญิง’
จุดประจำเดิมๆ ที่เจ้าชายดอกไม้มักยืนรอฉันทุกเช้า เพื่อกล่าวคำทักทาย
“มอนิ่ง”
“นายมาทำอะไร…ตรงนี้?”
เสียงแผ่วปนหอบถี่เอ่ยถาม ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ไม่รู้สิ เท้าพามา ^^”
ท่าทีขี้เล่นช่างน่าตี
“…”
…ทำไมนายถึงชอบทำตามใจตัวเองให้ฉันหงุดหงิดอยู่เรื่อย!
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
โถ่ หัวใจบ้า ใช่เวลามาเต้นมั้ย…?
ทวิตซ์ส่งมือช่วยดึงพยุงให้ลุกยืน คลายยิ้มบางพลางสาธยายต้นตอ
“ความรู้สึกมันสั่งให้หยุดรออะไรซักอย่าง แต่ตอนนี้ได้คำตอบแล้วล่ะ”
ดวงตาสีฟ้าพราวระยับเจิดจ้า ส่องสะท้อนภาพฉันราวผืนน้ำ
“ฉันรอคอยเธอมาตลอด…ยูแช”
ชายตรงหน้าหนักแน่นไม่ต่างจากฮาจิโกะผู้ภักดี
ใบหน้าเปี่ยมสุขช่วยยืนยันคำพูดอีกครั้ง
…
ฉันเข้าใจแล้วทวิตซ์…
คำว่า ‘รัก’ ที่ต้องการนักหนา เทียบไม่ได้เลยซักนิดกับความทุ่มเทใส่ใจที่นายมอบให้กันเสมอ
“…ฮึก”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เด็กขี้แย~”
เสื้อนักเรียนสีขาวกลายเป็นผ้าซับน้ำตา
รู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกทวิตซ์กอดไว้แน่น
สัมผัสอุ่นปลอบประโลมถนุถนอม
“น่าเสียดาย…ถ้าน้ำตาราคาเท่าน้ำมัน เธอคงรวยเละ”
นักยิงมุกเจ้าเสน่ห์ เกือบทำฉันหลุดขำพรืด
หมดกันบรรยากาศโรแมนติก
เกลียดไอ้มุกตลกงี่เง่าของนายจัง
…แต่ก็รักที่สุดเลย
.
(ณ ห้อง ผอ.)
ป้าเชอรี่หัวทองไม่หนีไปไหน พอได้ยินว่าทวิตซ์ยอมมาด้วย
แต่เพราะนิสัยเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ละเอียดถี่ถ้วน ทำให้เขาไม่ยอมช่วยเจรจาง่ายๆ จนกว่าจะทราบข้อมูลทุกแง่มุมทะลุปรุโปร่ง
ตอนนี้ฉันกะยัย ผอ. เลยนั่งจ๋องรากงอก รอบทสรุปจากเจ้าชายดอกไม้ร่วม 2 ชม. =_=*
นัง ผอ. ทำท่าขยุกขยิกบ่นอุบอิบพึมพำ แต่ไม่กล้าด่าเขาตรงๆ
เป็นไงล่ะ หล่อนเป็นคนบังคับให้ฉันพาตานี่มาเองนะ ถ้าไม่ติดว่ามีชะตากรรมเดียวกัน ฉันคงพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘สมน้ำหน้า!’
“นโยบายมีแต่ข้อดี ผลประกอบการราบรื่น เหลืออีกอีเว้นต์เดียวก็จบ…ทำไมเธอถึงอยากยกเลิกกลางคันล่ะ?”
ดูเหมือนว่าเขาจะโอนเอนไปทางฝั่งยัย ผอ.
ฉันนิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนเลือกบอกเหตุผลตามตรง
“ฉันไม่ชอบ”
ไอ้นโยบายม่านรูดก็เหมือนกับขนมปังสตอเบอรี่ เป็นของแสลงที่ฉันไม่เคยคิดจะแดรก ต่อให้นายบอกว่ามันหอมหวานอร่อยแค่ไหน ฉันก็ไม่ชอบ!ไม่
เคยมีเหตุผลอื่นใดมากกว่านั้น
นอกจาก…อยากหนีนาย
“รู้มั้ยว่าคนเราเลียข้อศอกไม่ถึง เว้นแต่จะเกิดมาลิ้นยาวแขนสั้นผิดธรรมชาติ หรือลงทุนดึงลิ้น ตัดแขน หักกระดูก”
เป็นอีกครั้งที่ฉันถูกเจ้าชายดอกไม้ท้าทาย GAT เชื่อมโยง
ขอที! เรื่องปวดหัวฉันมากพอแล้ว ช่วยเฉลยเลยเหอะ!
“นายจะสื่ออะไร?”
ทวิตซ์คลายยิ้มหวาน จ้องมองลึกเข้ามาในตา ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลจูงใจโน้มน้าวให้ทบทวน
“ถ้าไม่ได้เกลียดขนาดนั้น…ก็อย่าเลิกเลย”
“…”
ใช่ ฉันไม่เคยชอบเรื่องไร้ยางอางขัดขนบธรรมเนียมไทยอันดีงาม
เป็นยัยหัวโบราณแบบ Mrs.CrumpleBottom ที่ไม่อยากให้ทั้งโรงเรียนกลายเป็นสถานที่พลอดรัก
แต่…ไม่เคยเกลียดสักครั้ง เวลาเห็นสายตามีความสุขของทุกคน
เพราะนโยบายนี้ ฉันถึงได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีแสนประหลาดของนาย
…เหมือนอลิซที่ไม่อยากออกจากดินแดนมหัศจรรย์ แม้จะควานหาทางกลับบ้านมาตลอดทั้งเรื่อง
ความจริงคือ ฉันไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงเลย…
“พอที! Get Lost!!!!!”
ผอ.เชอรี่ ปรอทแตกหมดความอดทน ไล่ตะเพิดดันหลังฉันออกจากห้อง กระแทกปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง
ปัง!!!
กริ๊ก
แม่นางลงกลอนเรียบร้อยตัดโอกาสเข้าถึงตัว 100 เปอร์เซ็น
“สรุปทำต่อเนอะ ^^”
ทวิตซ์เดินตามออกมาพร้อมกัน ส่งยิ้มสวยถามยียวน ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ช่วยไม่ได้หนิ”
ฉันย้ำชัดอีกครั้ง เดินสะบัดบ๊อบหนีความจริงตัวเบอเร่อที่กำลังไล่ตามหลังมาติดๆ
หมับ!
สกินชิพเซอร์ไพรส์ทำใจสั่นไม่รู้จบ ทวิตซ์ใช้แขนล่ำล็อคคอฉันไว้จากด้านหลัง วางคางเกยหัวตอกย้ำถึงระดับความสูงห่างกันกว่า 20 ซม.
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ไออุ่นหอมโชยซึบซาบผ่านจมูก แม้ช่วงนี้ไม่ได้ฉีดน้ำหอมสวนดอกไม้ แต่กลิ่นฟีโรโมนเย้ายวนตามธรรมชาตินั่น ก็รุนแรงพอฆ่าคนได้
“จะกลับเลยหรอ? พาชมโรงเรียนหน่อยสิ…”
สายลมร้อนป้อนกระซิบข้างหู หลอมละลายโสทประสาท
“มีขาก็ไปเองสิย๊ะ!”
ปากเก่งนัมเบอร์วัน ทำหน้าที่ดีเยี่ยม
แม้ว่าภายหลังมันจะตื่นเต้นสั่นระริก สะท้านชาแทบกลายเป็นอัมพาต เมื่อถูกเสน่ห์ร้ายกาจจู่โจมก๊อกสอง
“นะคร้าบ คุณประธานสุดสวย~”
พ่อหนุ่มมาร์ชเมลโล่ใช้น้ำเสียงออดอ้อนกะลิ้มกะเหลี่ย ปล่อยมุกเสี่ยวเกี่ยวรัก
“อย่าปล่อยให้คนน่าสงสารอย่างผม…หลงเข้าไปในใจคุณเลย”
…อร๊ายยย!!!~
ตึกตักๆๆ!
ทำไมฉันต้องแพ้ทางอะไรแบบนี้ทุกที >\\\<
“ก็ได้ๆ หุบปาก…!”
ก้อนตะคอกแข็งกระด้างแสร้งรำคาญ เกือบหลุดเพี้ยนเป็นนุ่มนิ่มหวานจ๋อยตามอารมณ์คลั่งรัก
วงแขนแกร่งคลายออกเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ…
เอาล่ะ เรามีปัญหาใหม่แล้ว ฉันจะเอามุมปากลงยังไง!?
“รักเธอจัง ^^”
คำบอกรักแสนหวานปานน้ำเชื่อม ทำฉันจำต้องเบือนหน้าหนี รีบตะครุบปิดปากไว้อย่างไว ก่อนที่มันจะเผยไต๋ฉีกยิ้มกว้างประจานเจ้าของ
แต่ไอ้คนชอบเรียกร้องความสนใจ ก็มักทำให้ฉันหันกลับไปมองได้เสมอ
“อ้อ ฉันซื้อมือถือใหม่แล้ว ตั้งภาพเธอขึ้นหน้าจอด้วยน้า~”
ภาพเก่าถูกโชว์หราบนหน้าจอแบนราบ กระตุ้นต่อมความเขินแตกแตน
“ลบออกซะ!”
คนหน้าด้านหัวเราะในลำคอชอบใจ มองเอ็นดูพลางค่อนแซะ
“ให้ฉันลบแล้วเอาแมวส้มขึ้นจอแบบเธออะเหรอ?”
อีตาบ้านี่ ละลาบละล้วง! แอบลักลอบส่องมือถือฉันตอนไหน!?
มือหนาจับหัวโยกเอนตามแรง พูดเน้นชัดกวนประสาท
“ฝัน-ไป-เถอะ”
ดวงตาสีฟ้าพาเพ้อหลงละเมอ
น่าหงุดหงิดเป็นบ้า…
แต่ว่า ‘รัก-นาย-จัง’
ถ้าสักวันเราต้องตื่นจากฝัน งั้นฉันขอยืดเวลาดื่มด่ำความหวานเพิ่มอีกนิดละกัน
(จบตอน)
ฮิบิสคัส; แรงศรัทธาถักทอสายใยรัก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ