นิรันดร์รัตติกาล
-
เขียนโดย zarat
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 04.28 น.
7 ตอน
2 วิจารณ์
1,405 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) การกลับมา2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ปราสาทรอยด์แห่งดินแดนเมอร์ราเคิลส์
“นายท่านเกเบรียลกลับมาแล้ว รีบเข้าข้างในเถอะ” จอร์น ผู้รับใช้คนสนิทกล่าวต้อนรับพร้อมช่วยถอดฮู้ดออก
“มีใครสงสัยหรือถามหาข้าบ้างมั๊ย”
“ไม่มีขอรับนายท่าน พวกนั้นรื่นเริงใจอยู่ในงานเลี้ยง ไม่มีใครสงสัยอะไร วันนี้ก็จับทาสมนุษย์มาสังเวยอีกเช่นเคย ท่านอย่าเข้าไปเลยจะดีกว่า’’
“กรี๊ดดดดด ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที ข้ายังไม่อยากตาย”เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากในห้องโถงปราสาท
“พวกนั้นป่าเถื่อนเกินไปแล้ว”เกเบรียลเตรียมวิ่งไปตามเสียง
“อย่าเข้าไปยุ่งเลยนายท่าน”จอร์นขวางเอาไว้
“จะไม่เข้ามาช่วยหน่อยเหรอ”เสียงเรียบๆดังขึ้นมาจากข้างหลัง ทั้งเกเบรียลและจอห์นหันกลับไปมอง ภาพที่เห็นคือมนุษย์ผู้หญิงโดนลากมาตามพื้น ทั้งที่เลือดอาบเต็มตัว
“เดม่อน คิดจะทำอะไรหน่ะ”
“ก็แค่สนุกไปกับมันเอง งานเลี้ยงก็ต้องมีเกมส์สิ แล้วยัยมนุษย์นี่ก็แพ้เกมส์วิ่งไล่จับ โดนจับได้ก็ต้องโดนจัดการไม่ถูกรึไง”เดม่อนพูดพลางแสยะยิ้ม
“นางเป็นแค่มนุุษย์อ่อนแอ จะไปชนะแกได้ยังไง”
“โหยโกรธจนตัวสั่นเชียว ทำเอาข้าหมดสนุกเลยอ่ะ งั้นก็เลิกเล่นละกัน”พูดจบเดม่อนก็กัดคอผู้หญิงคนนั้น พร้อมทั้งดูดเลือดไปจนเกือบหมด จากนั้นก็โยนร่างทิ้งลงไปที่พื้น เกเบรียลได้แต่ยืนมองการกระทำตรงหน้าอย่างคับแค้นใจ
“นี่ ปล่อยวางบ้างเถอะ ได้มีชีวิตอมตะทั้งที แต่มัวแต่ใจอ่อนอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่จะแข็งแกร่งได้ล่ะ”เดม่อนเข้ามาประชิตตัวเกเบรียลแล้วเอามือตบบ่า
“อย่ามาแตะตัวข้า แกมันปีศาจ”เกเบรียลผลักมือเดม่อนออก
“ปากดีนักนะ แกก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ว่าแต่แกหายไปไหนมาเหรอ เหมือนเพิ่งกลับมาจากที่ไหนสักที่นึงรึเปล่าน้า ท่านพ่อถามหาแกอยู่นะ งานฉลองวันเกิดท่านทั้งทีไม่คิดจะมาร่วมสนุกเลยรึไง”เดม่อนทำหน้าหยั่งเชิง
“ข้าจะไปไหนมันก็เรื่องของข้า”เกเบรียลเดินหนี
“เด็กนั่น โตมาอย่างดีเลยนี่ แล้วพลังก็เหลือล้นซะด้วย เล่นงานอบิเกลของข้าซะยับเลย ถ้าพวกอาวุโสหรือท่านพ่อรู้เรื่องที่เจ้าเข้าไปช่วย คงจะจบไม่สวยแแน่”คำพูดของเดม่อนทำให้เกเบรียลหยุดเดิน
“อย่ามายุ่งเรื่องของข้า”เกเบรียลประชิดตัวเดม่อนแล้วผลักชนกระแทกกำแพง
“เล่นเเรงซะด้วย”เดม่อนพูดพลางผลักตัวออก
“จะเป็นยังไงน้า ถ้านางรู้ความจริงว่าแกคือต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของนางโดนผนึกทั้งตระกูล อยากเห็นตอนนางอาละวาดไล่ฆ่าแกตอนรู้ความจริงเร็วๆจัง โดนหักหลังแบบนั้น คงเจ็บปวดไม่น้อย”เดม่อนยิ้มให้เกบรียลอย่างมีเลสนัย
“มีเรื่องอะไรกันเหรอนายท่านทั้ง2”บารอนหนึ่งในขุนนางอาวุโสออกมาดูสถานการ์ณหลังได้ยินเสียงเอะอะ
“ไม่มีอะไรหรอกท่านบารอน แค่พี่น้องคุยกันหน่ะ แต่ข้ากำลังจะไปละล่ะ”เดม่อนพูดขึ้น ฝั่งเกเบรียลเดินกลับไปอีกทางโดยไม่พูดอะไร โดยมีจอร์นเดินตามไปด้วย
“อย่าเพิ่งไปนายท่านเดม่อน ดาร์คลอร์ดให้มาตามท่าน”
“ได้เดี๋ยวข้าเข้าไป”เดม่อนรับคำ
ณ ห้องประชุมปราสาทรอยด์
“มาแล้วเหรอลูกข้า”ดาร์กลอร์ดพูดขึ้น
“ท่านพ่อเรียกข้ามีเรื่องอะไรให้ข้ารับใช้”เดม่อนถามกลับ
“เจ้านี่มันรู้งาน ผิดกับน้องเจ้าที่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เมื่อกี้มีพวกอาวุโสมารายงานว่าหัวใจนั่นเปล่งแสงขึ้นมาได้อีกครั้ง นางเด็กนั่นใช้พลังได้จริงๆ ทั้งกองทัพอสูรที่ส่งไป ทั้งอบิเกลต่างแพ้ราบคาบ เราน่าจัดการให้สิ้นซากตั้งแต่วันนั้น จะได้ไม่เป็นเสี้ยนหนามมาถึงตอนนี้”
“ต่อให้กำจัดนางไป ยังไงซะพลังนั่นมันก็เลือกเจ้าของใหม่อยู่ดี ข้าว่าเราลองเจรจา เผื่อนางจะเปลี่ยนใจมารับใช้เรา แบบนั้นจะเป็นประโยชน์มากกว่า เลือดนางเพิ่มพลังได้ไม่จำกัด แล้วยังไม่ฤทธิ์ทำลายล้างสูง ถ้าได้นางมาเป็นพวก เผ่าพันธุ์อื่นคงยอมแพ้เราหมด’’
“เจ้าพูดมามีเหตุผล แต่การหว่านล้อมคงยากสักหน่อย เราทำกับครอบครัวนางขนาดนั้น ตอนนี้คงมีแต่คิดจะจัดการข้าล่ะมั้ง ไหนจะพวกกำลังซ่องสุมที่ไปสนับสนุนนางอีก ถือเป็นศัตรูชั้นดีเลยทีเดียว”
“เรามีตัวประกันคือร่างของครอบครัวนางที่โดนผนึกไว้ นางคงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ส่วนเรื่องหว่านล้อม ก็แค่บอกถึงตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการ์ณนั้นขึ้น นางอาจมองท่านพ่อเปลี่ยนไป”
“นี่เจ้าจะให้ข้าโยนความผิดให้เกเบรียลงั้นเรอะ”
“นี่เป็นเพียงหนทางที่ข้าเสนอขึ้น แล้วแต่ท่านจะพิจารณาว่ามันคุ้มค่าหรือไม่”
“ข้าชอบความเด็ดเดี่ยวของเจ้ามากจริงๆ ตัดได้แม้กระทั่งพี่น้อง แบบนี้สิถึงจะเป็นผู้นำได้ งั้นเอาตามที่เจ้าว่าก่อน หากเจรจาไม่เป็นผล ก็ค่อยเล่นบทแรงก็แล้วกัน ยังไงซะนางก็ต้องกลับมาที่ปราสาทบ้านของนาง แค่ส่งคนดูไว้ห่างๆก็พอ อย่าเพิ่งทำอะไร”ดาร์กลอร์ดพูดด้วยสีหน้าพึงใจ
“รับทราบ”พูดจบเดม่อนก็เดินออกมาจากห้อง โดยที่มีบารอนยืนเฝ้าอยู่ บางรองโค้งคำนับให้เล็กน้อย
“หากมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือ ท่านบอกข้าได้ทุกเรื่องเลยนะนายท่าน ยังไงซะอนาคตท่านก็ต้องได้เป็นผู้นำสืบต่อจากพ่อของท่านอย่างแน่นอน”บารอนพูดเยินยอเพื่อเเสดงความภักดี แต่ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองในภายภาคหน้า
“ได้สิ”เดม่อนตอบรับพร้อมเดินจากไปด้วยสีหน้าเอือมระอาเพราะรู้ธาตุแท้ของบารอนอยู่แล่วว่าเป็นพวกจิ้งจกเปลี่ยนสี พลันหันไปเห็นหลังคนวิ่งอยู่ไกลๆ น่าจะเป็นอีกคนที่มาแอบฟังการสนทนาของเดม่อนกับดาร์คลอร์ด เดม่อนจึงรีบวิ่งไปขวางไว้
“ว่าแล้วเชียว จะมีใครชอบสอดส่องไปมากกว่าเจ้าคงไม่มีอีกแล้ว จอร์น”
“นายท่านพูดเรื่องอะไร ข้าเพียงแค่เดินผ่านมาแถวนี้”จอร์นรีบแก้ตัว
“เอาเถอะ ไปบอกนายเจ้าแล้วกันว่าเตรียมตั้งรับให้ดี ศึกครั้งนี้จะยิ่งใหญ่อลังกาล 555 แค่คิดก็สนุกละ”เดม่อนพูดพลางหัวเราะ แล้วก็เดินจากไป
“นายท่านเกเบรียลกลับมาแล้ว รีบเข้าข้างในเถอะ” จอร์น ผู้รับใช้คนสนิทกล่าวต้อนรับพร้อมช่วยถอดฮู้ดออก
“มีใครสงสัยหรือถามหาข้าบ้างมั๊ย”
“ไม่มีขอรับนายท่าน พวกนั้นรื่นเริงใจอยู่ในงานเลี้ยง ไม่มีใครสงสัยอะไร วันนี้ก็จับทาสมนุษย์มาสังเวยอีกเช่นเคย ท่านอย่าเข้าไปเลยจะดีกว่า’’
“กรี๊ดดดดด ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที ข้ายังไม่อยากตาย”เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากในห้องโถงปราสาท
“พวกนั้นป่าเถื่อนเกินไปแล้ว”เกเบรียลเตรียมวิ่งไปตามเสียง
“อย่าเข้าไปยุ่งเลยนายท่าน”จอร์นขวางเอาไว้
“จะไม่เข้ามาช่วยหน่อยเหรอ”เสียงเรียบๆดังขึ้นมาจากข้างหลัง ทั้งเกเบรียลและจอห์นหันกลับไปมอง ภาพที่เห็นคือมนุษย์ผู้หญิงโดนลากมาตามพื้น ทั้งที่เลือดอาบเต็มตัว
“เดม่อน คิดจะทำอะไรหน่ะ”
“ก็แค่สนุกไปกับมันเอง งานเลี้ยงก็ต้องมีเกมส์สิ แล้วยัยมนุษย์นี่ก็แพ้เกมส์วิ่งไล่จับ โดนจับได้ก็ต้องโดนจัดการไม่ถูกรึไง”เดม่อนพูดพลางแสยะยิ้ม
“นางเป็นแค่มนุุษย์อ่อนแอ จะไปชนะแกได้ยังไง”
“โหยโกรธจนตัวสั่นเชียว ทำเอาข้าหมดสนุกเลยอ่ะ งั้นก็เลิกเล่นละกัน”พูดจบเดม่อนก็กัดคอผู้หญิงคนนั้น พร้อมทั้งดูดเลือดไปจนเกือบหมด จากนั้นก็โยนร่างทิ้งลงไปที่พื้น เกเบรียลได้แต่ยืนมองการกระทำตรงหน้าอย่างคับแค้นใจ
“นี่ ปล่อยวางบ้างเถอะ ได้มีชีวิตอมตะทั้งที แต่มัวแต่ใจอ่อนอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่จะแข็งแกร่งได้ล่ะ”เดม่อนเข้ามาประชิตตัวเกเบรียลแล้วเอามือตบบ่า
“อย่ามาแตะตัวข้า แกมันปีศาจ”เกเบรียลผลักมือเดม่อนออก
“ปากดีนักนะ แกก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ว่าแต่แกหายไปไหนมาเหรอ เหมือนเพิ่งกลับมาจากที่ไหนสักที่นึงรึเปล่าน้า ท่านพ่อถามหาแกอยู่นะ งานฉลองวันเกิดท่านทั้งทีไม่คิดจะมาร่วมสนุกเลยรึไง”เดม่อนทำหน้าหยั่งเชิง
“ข้าจะไปไหนมันก็เรื่องของข้า”เกเบรียลเดินหนี
“เด็กนั่น โตมาอย่างดีเลยนี่ แล้วพลังก็เหลือล้นซะด้วย เล่นงานอบิเกลของข้าซะยับเลย ถ้าพวกอาวุโสหรือท่านพ่อรู้เรื่องที่เจ้าเข้าไปช่วย คงจะจบไม่สวยแแน่”คำพูดของเดม่อนทำให้เกเบรียลหยุดเดิน
“อย่ามายุ่งเรื่องของข้า”เกเบรียลประชิดตัวเดม่อนแล้วผลักชนกระแทกกำแพง
“เล่นเเรงซะด้วย”เดม่อนพูดพลางผลักตัวออก
“จะเป็นยังไงน้า ถ้านางรู้ความจริงว่าแกคือต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของนางโดนผนึกทั้งตระกูล อยากเห็นตอนนางอาละวาดไล่ฆ่าแกตอนรู้ความจริงเร็วๆจัง โดนหักหลังแบบนั้น คงเจ็บปวดไม่น้อย”เดม่อนยิ้มให้เกบรียลอย่างมีเลสนัย
“มีเรื่องอะไรกันเหรอนายท่านทั้ง2”บารอนหนึ่งในขุนนางอาวุโสออกมาดูสถานการ์ณหลังได้ยินเสียงเอะอะ
“ไม่มีอะไรหรอกท่านบารอน แค่พี่น้องคุยกันหน่ะ แต่ข้ากำลังจะไปละล่ะ”เดม่อนพูดขึ้น ฝั่งเกเบรียลเดินกลับไปอีกทางโดยไม่พูดอะไร โดยมีจอร์นเดินตามไปด้วย
“อย่าเพิ่งไปนายท่านเดม่อน ดาร์คลอร์ดให้มาตามท่าน”
“ได้เดี๋ยวข้าเข้าไป”เดม่อนรับคำ
ณ ห้องประชุมปราสาทรอยด์
“มาแล้วเหรอลูกข้า”ดาร์กลอร์ดพูดขึ้น
“ท่านพ่อเรียกข้ามีเรื่องอะไรให้ข้ารับใช้”เดม่อนถามกลับ
“เจ้านี่มันรู้งาน ผิดกับน้องเจ้าที่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เมื่อกี้มีพวกอาวุโสมารายงานว่าหัวใจนั่นเปล่งแสงขึ้นมาได้อีกครั้ง นางเด็กนั่นใช้พลังได้จริงๆ ทั้งกองทัพอสูรที่ส่งไป ทั้งอบิเกลต่างแพ้ราบคาบ เราน่าจัดการให้สิ้นซากตั้งแต่วันนั้น จะได้ไม่เป็นเสี้ยนหนามมาถึงตอนนี้”
“ต่อให้กำจัดนางไป ยังไงซะพลังนั่นมันก็เลือกเจ้าของใหม่อยู่ดี ข้าว่าเราลองเจรจา เผื่อนางจะเปลี่ยนใจมารับใช้เรา แบบนั้นจะเป็นประโยชน์มากกว่า เลือดนางเพิ่มพลังได้ไม่จำกัด แล้วยังไม่ฤทธิ์ทำลายล้างสูง ถ้าได้นางมาเป็นพวก เผ่าพันธุ์อื่นคงยอมแพ้เราหมด’’
“เจ้าพูดมามีเหตุผล แต่การหว่านล้อมคงยากสักหน่อย เราทำกับครอบครัวนางขนาดนั้น ตอนนี้คงมีแต่คิดจะจัดการข้าล่ะมั้ง ไหนจะพวกกำลังซ่องสุมที่ไปสนับสนุนนางอีก ถือเป็นศัตรูชั้นดีเลยทีเดียว”
“เรามีตัวประกันคือร่างของครอบครัวนางที่โดนผนึกไว้ นางคงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ส่วนเรื่องหว่านล้อม ก็แค่บอกถึงตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการ์ณนั้นขึ้น นางอาจมองท่านพ่อเปลี่ยนไป”
“นี่เจ้าจะให้ข้าโยนความผิดให้เกเบรียลงั้นเรอะ”
“นี่เป็นเพียงหนทางที่ข้าเสนอขึ้น แล้วแต่ท่านจะพิจารณาว่ามันคุ้มค่าหรือไม่”
“ข้าชอบความเด็ดเดี่ยวของเจ้ามากจริงๆ ตัดได้แม้กระทั่งพี่น้อง แบบนี้สิถึงจะเป็นผู้นำได้ งั้นเอาตามที่เจ้าว่าก่อน หากเจรจาไม่เป็นผล ก็ค่อยเล่นบทแรงก็แล้วกัน ยังไงซะนางก็ต้องกลับมาที่ปราสาทบ้านของนาง แค่ส่งคนดูไว้ห่างๆก็พอ อย่าเพิ่งทำอะไร”ดาร์กลอร์ดพูดด้วยสีหน้าพึงใจ
“รับทราบ”พูดจบเดม่อนก็เดินออกมาจากห้อง โดยที่มีบารอนยืนเฝ้าอยู่ บางรองโค้งคำนับให้เล็กน้อย
“หากมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือ ท่านบอกข้าได้ทุกเรื่องเลยนะนายท่าน ยังไงซะอนาคตท่านก็ต้องได้เป็นผู้นำสืบต่อจากพ่อของท่านอย่างแน่นอน”บารอนพูดเยินยอเพื่อเเสดงความภักดี แต่ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองในภายภาคหน้า
“ได้สิ”เดม่อนตอบรับพร้อมเดินจากไปด้วยสีหน้าเอือมระอาเพราะรู้ธาตุแท้ของบารอนอยู่แล่วว่าเป็นพวกจิ้งจกเปลี่ยนสี พลันหันไปเห็นหลังคนวิ่งอยู่ไกลๆ น่าจะเป็นอีกคนที่มาแอบฟังการสนทนาของเดม่อนกับดาร์คลอร์ด เดม่อนจึงรีบวิ่งไปขวางไว้
“ว่าแล้วเชียว จะมีใครชอบสอดส่องไปมากกว่าเจ้าคงไม่มีอีกแล้ว จอร์น”
“นายท่านพูดเรื่องอะไร ข้าเพียงแค่เดินผ่านมาแถวนี้”จอร์นรีบแก้ตัว
“เอาเถอะ ไปบอกนายเจ้าแล้วกันว่าเตรียมตั้งรับให้ดี ศึกครั้งนี้จะยิ่งใหญ่อลังกาล 555 แค่คิดก็สนุกละ”เดม่อนพูดพลางหัวเราะ แล้วก็เดินจากไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ