Grimms. เมืองยมฑูต

-

เขียนโดย unitearsricklis

วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 22.43 น.

  3 chapter
  1 วิจารณ์
  1,147 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 22.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) CH1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
มี E-book ใน MEB น้าาา เป็นเรื่องยาว หลายตอน แต่ละตอนสั้นๆ
 

 
อาณาจักรกริมส์
 
ดินแดนลึกลับซึ่งผู้ยังคงชีวิตอยู่ไม่อาจเอื้อม และไม่ควรคิดที่จะเอื้อม เพราะอาณาจักรแห่งนี้ เต็มไปด้วยวิญญาณผู้ล่วงลับซึ่งไม่ละวางห่วงในอดีต หรือในบางกรณี ถูกบังคับให้อาศัยอยู่ที่นี่
แม้เหตุผลในการอยู่แตกต่างกันไป แต่เป้าหมายของอาณาจักรมีหนึ่งเดียวคือคงความเสมอภาคให้ทุกชีวิต และทุกสรรพสิ่งที่มีหรือ เคยมีชีวิต นั่นคือทุกคนต่างสมัครใจทำหน้าที่อุทิศให้กับโลกมนุษย์ ...พวกเขาคือยมทูต
 
ประชากรในอาณาจักรมีอายุแตกต่างกันไป ทุกรายถูกแช่แข็งภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูราว 20 ถึง 30 ปี หรือในช่วงที่เจ้าตัวมองว่าตนเองงดงามที่สุด ไม่ว่าตนจะตายด้วยหน้าตาที่น่าสยดสยอง หรือตายด้วยอายุอานามเท่าไร
 
แต่โลกหลังความตายไม่ได้มีเพียงกริมส์เท่านั้น พวกเขาห้อมล้อมไปด้วยสิ่งที่นอกเหนือจินตนาการและความคาดฝันว่ามีอยู่จริงของมนุษย์ ได้แก่ โกสต์ แวมไพร์ และ ซีลีส์
โกสต์ คือ เหล่าวิญญาณที่เกือบจะคล้ายยมทูต ขาดเพียงอย่างเดียวคือ พวกเขาเพียงมีห่วงที่ยึดติดตัวพวกเขากับโลกมนุษย์ทำให้ไม่สามารถก้าวข้ามโลกแห่งความตายไปยังอีกฝั่งได้ แต่ไม่มีเจตนาจะถวายตัวให้กับโลกมนุษย์ที่หวงนักหวงหนา
 
แวมไพร์ คือ มนุษย์ หรือ โกสต์ ที่เบื่อกับการใช้ชีวิตธรรมดาจึงอยากชื่นชมหลงใหลในความงดงามของศิลปะทุกแขนงอย่างเต็มที่ในแบบที่โกสต์หรือกริมส์ไม่สามารถทำได้ แต่เพราะสนธิสัญญาวิลเนสที่ทำไว้กับกริมส์ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนใครเป็นแวมไพร์ได้หากไม่ได้รับความสมัครใจจากเจ้าตัว พลังเวทมนตร์ของสัญญานี้จะทำให้พวกเขาถูกสังหารได้อย่างชอบธรรม
 
ซีลีส์ คือเหล่าภูตซึ่งเติบโตมาเป็นภูตตั้งแต่เกิด การเจริญเติบโตเกือบคล้ายมนุษย์ ต่างกันที่พวกเขามีพลังวิเศษตั้งแต่เกิด และที่สำคัญคือไม่สามารถพูดโกหกได้
อาณาจักรเหล่านี้มักจะขโมยเหล่าวิญญาณเร่ร่อนไปโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ และนั่นเป็นหน้าที่ในการเจรจาหรือบางครั้งโจมตีของยมทูต
 

วันนี้เป็นวันประลองของเหล่ายมทูตวัยเยาว์
 
มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถเจริญเติบโตได้ในอาณาจักรกริมส์ คือ บุตรของยมทูตชั้นสูง ซึ่งแน่นอนว่าจะกลายเป็นยมทูตชั้นสูงในวันหน้า ครอบครัวของยมทูตชั้นสูงดำรงอยู่อย่างไม่มีที่มาที่ไป พวกเขาคอยรับช่วงต่อ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ายมทูตตั้งแต่เด็กจนถึงวัย 20 ซึ่งเป็นวัยใช้งาน
ผู้คนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อาจคิดว่าพวกเขาน่าอิจฉาที่เกิดมาในตระกูลที่ยืนยาวและมีชีวิตอมตะ แต่ความลับคือพวกเขาไม่สามารถตัดสินใจกลับชาติไปเกิดเหมือนยมทูตที่มาจากโลกมนุษย์ได้ และมีความลับของวงตระกูลที่ไม่อาจล่วงรู้ว่าต้องทำเช่นไรจึงจะได้ได้เกิดด้วยซ้ำ
ทำให้พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ น่าสังเวช
 
ยมทูตชั้นกลาง คือ พวกที่เกิดมาจากมนุษย์ แต่ทำงานเป็นระยะเวลานานจนสามารถได้รับตำแหน่งสูงในสายงานได้
ยมทูตชั้นล่าง คือ พวกที่เกิดจากมนุษย์ และเพิ่งเข้ารับบรรจุในตำแหน่งระดับต่ำ
 
“เซอร์ซี่ ปะทะ เอเดน” เสียงประกาศดังขึ้น เมื่อหันไปพบยมทูตชั้นกลางซึ่งได้รับพลังวิเศษในการเป็นโฆษกทำให้สามารถใช้พลังขยายเสียงได้ตามที่ต้องการ
หญิงสาววัยรุ่นกำดาบก้าวเข้าสู่สังเวียนเป็นฝ่ายแรก เธอมีใบหน้าอ่อนหวาน แต่มีสีหน้าที่ดุดันดูสะดุดตา ดวงตาที่พยายามทำออกมาให้ดูแข็งกร้าวแต่กลับมีความอ่อนโยนที่เธอพยายามเหลือเกินที่จะซ่อนไว้อยู่ ปากกระจับได้รูปหายใจอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากรู้สึกเหนื่อยหน่ายจากการต่อสู้ซึ่งเพิ่งจบไปก่อนหน้าไม่นาน
 
ชายหนุ่มอีกคนก้าวตามเข้ามาทางฝั่งตรงข้าม เขายิ้มเล็กน้อยอย่างขัดกับสถานการณ์ รอยยิ้มที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นมิตรนั้น เขากลับส่งไปให้คู่ต่อสู้
เซอร์ซี่มองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ปิดบังรอยยิ้มเหยียดเอาไว้เพียงในใจ เธอมีลายเซ็นของการข่มอารมณ์ปรากฏอยู่เต็มหน้า เธอทำมันได้ดี สังเกตจากการที่เอเดนหุบยิ้มที่เคยมีอยู่
“เริ่มได้” เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง
 
ทั้งคู่จ้องหน้ากัน ถือดาบในแนวต่อสู้ และหยั่งเชิงอีกฝ่าย
 
เซอร์ซี่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอโจมตีไปที่เขาโดยที่เจ้าตัวไม่ทันระวัง เฉียดจนเฉือนชายผ้าที่แขนเสื้อขาดและเกิดแผลสีจางที่ชั้นผิวหนังในคมดาบเดียว ผู้ชมที่ดูอยู่โห่ร้องให้กับความเฉียบขาดของเซอร์ซี่เช่นที่มีมาตลอดการแข่งขันที่ผ่านมา
 
เอเดนแทงโดยเล็งไปที่แขนของเซอร์ซี่บ้างแต่คราวนี้ตาของเซอร์ซี่จ้องไปที่ท้องของเอเดน แต่กลับโจมตีไปที่ต้นขาข้างขวา ไม่ลังเลที่จะปัดดาบของอีกฝ่ายออกด้วยดาบของเธอก่อนจะแทงเข้าไปที่ตำแหน่งที่เธอตั้งใจไว้โดยหวังให้อีกฝ่ายสับสน แต่เอเดนกลับหลบไปด้านข้างทัน
เขามองเธอต่อสู้ก่อนหน้าเป็นสิบครั้ง
 
ผู้แพ้จะต้องออกจากสนามรบ
 
เซอร์ซี่ไม่เคยก้าวเท้าออกมาแม้เพียงก้าวเดียว
 
ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการกระทำ ของเซอร์ซี่ต่อจากนั้น เต็มไปด้วยความแน่วแน่ เธอไม่กลัว และจะไม่ลังเลหากจะบังเอิญแทงเข้าที่หัวใจของคู่ต่อสู้เข้าจริงๆ แม้มันไม่ทำให้อีกฝ่ายตายอีกครั้งได้ แต่ความเจ็บปวดก็เทียบเท่าได้กับร่างกายมนุษย์ต้องเผชิญ
 
เอเดนยกยิ้มมุมปาก หลังจากได้รับรู้ความจริงข้อนั้นแล้ว… เธอไม่ใส่ใจสักนิดหากเขาตกไปอยู่ในจุดที่ต้องรักษาตัวจากฝ่ายเยียวยาไปอีกหนึ่งปีต่อจากนี้
 
เขาไม่คิดที่จะทำร้ายเซอร์ซี่ แต่ก็ไม่คิดที่จะถูกเฉือนจนเป็นชิ้นย่อยๆ เช่นกัน
 
ทุกการเคลื่อนไหวหลังจากนั้น ทุกคมดาบของทั้งสองฝ่าย เกิดขึ้นรวดเร็วจนผู้ชมเกือบลืมหายใจ มีการจ้วงแทง แต่ก็เกิดการพลิกเกมได้ในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา
“ถ้าฉันแพ้ ขออะไรอย่างสิ” เอเดนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะที่พวกเขาปะดาบกันในระยะใกล้เพียงลมหายใจ
 
เซอร์ซี่ไม่ตอบกลับ ยังคงมีใบหน้านิ่งเงียบ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึก แต่ถึงกระนั้นเอเดนก็อ่านสีหน้าเธอออก นายแพ้แล้วเรื่องอะไรต้องให้อะไรด้วย
เซอร์ซี่เลือกที่จะโจมตีไปขาของเอเดนในมีดดาบนี้ แต่เอเดนทันเห็นจึงกันเอาไว้ ก่อนจะผลักสู้แรงดาบ แรงพอที่จะดึงดาบของทั้งคู่ให้มาปะหน้ากันได้อีกครั้ง เซอร์ซี่กำลังจะอ้าปากยกเลิกสัญญา แต่
“เงียบถือว่าตกลงนะ ก็พ่อฉันมองอยู่นี่นา” เอเดนยิ้ม พยักหน้าไปทางผู้ชม ก่อนที่เซอร์ซี่จะผลักดาบนั้นออกเต็มแรงด้วยความหัวเสีย เอเดนเห็นดังนั้นก็ประทับใจในตัวเองที่ทำให้หญิงสาวแสดงอารมณ์ออกมาได้
 
เซอร์ซี่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ทันระวังตัวจึงเล็งและแทงไปที่คอของเขาอย่างเต็มแรง
แต่เอเดนกลับไปหลบและปล่อยตัวลงพื้น แสร้งว่าหมดหนทางสู้ ก่อนจะยกมือขึ้นเชิงยอมแพ้ แต่เธอกลับไม่หยุดในทันที ดาบของเซอร์ซี่เฉือนเนื้อของเอเดนอีกครั้ง คราวนี้ลึกกว่าครั้งแรก
เอเดนยื่นมือขึ้นไปต้องการให้อีกฝ่ายดึงตัวเขาขึ้นไป
 
“เพราะงี้สินะ ถึงได้ทุ่มตัวลงไปกับพื้น” เซอร์ซี่ก้มมองดูเขาอย่างดูแคลน
“ฉันอยากรู้ว่าเธอจะมองเห็นอนาคตฉันได้มั้ย” รอยยิ้มของเขาทำให้เซอร์ซี่อยากจะเข้าไปทึ้งหัวเขาแรงๆ แล้วถามว่า เป็นอะไรกับฉันมากมั้ย “ก็ฉันอ่านความคิดเธอไม่ได้นี่” เอเดนเอ่ยต่อถึงพลังของพวกเขาที่ตัวเขาเองสามารถอ่านความคิดคนได้ ทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้มาตลอด ในขณะที่เซอร์ซี่สามารถอ่านอนาคตได้ผ่านการสัมผัส
 
“ฉันขอยกเลิกสัญญา เพราะฉันไม่เคยตกลงแต่แรก”
 
สัญญาเป็นอะไรที่อ่อนไหวในโลกหลังความตาย หากรับปากแล้ว จะต้องทำตามอย่างไม่จำกัดเงื่อนไขเพื่อรักษาเกียรติของสัญญา ผู้ที่ไม่ทำตามสัญญา คล้ายกับโลกมนุษย์ พวกเขาจะเสื่อมเสียเกียรติ แต่ในทางที่หนักกว่าคือข้อมูลจะถูกบันทึกเข้าระบบ หากใครมาค้นดูก็สามารถรู้ได้
 
ปกติแล้วยมทูตจะยึดถือสัญญาเป็นคำมั่น พวกเขาจะแลกเปลี่ยนสัญญาในเหตุการณ์จำเป็นเท่านั้น การที่เขาเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นสัญญาถือว่าเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดมาก
“ฉันไม่ได้ยิน” เซอร์ซี่หอบโกรธและจ้องตาของเอเดนอย่างแข็งกร้าว
 
 
unitears
x : @unitearsbby

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา