อาจารย์สุดที่รัก

10.0

เขียนโดย Katuichobginyelly

วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.07 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  2,363 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03.08 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) จุมพิตร้อยโช่พันธนา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“หากท่านพ่ออยากให้ข้าแต่งงานมากนัก…ข้าก็จะแต่ง”

 

หลักจากที่เหวินเจี๋ยถอดเครื่องปลอมตัวต่างๆนาๆออก ก็เชิดหน้าพูดคุยกับท่านพ่อของเขาอย่างมั่นใจ ในขณะเดียวกันสายตาที่หลินลู่ซิงมองเหวินเจี๋ยก็เปลี่ยนไป

“แต่ที่ข้าจะแต่งงานด้วยไม่ใช่นางผู้นั้น….แต่เป็น หลินหว่านหง! “

 

เสียงพูดของเหวินเจี๋ยกึกก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่ของฮ้องเต้ ทุกคนที่ได้ยินต่างทําสีหน้าตกตะลึง และแล้วทุกสายตาก็ถูกจับจ้องมาที่หลินหลิน หลินหลินตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเหวินเจี๋ยคือคนที่เจอกันที่สะพานไม้ในเมือง

 

“หยุดไร้สาระ! ยศฐาของเจ้ากับนางผู้นั้นไม่ได้คู่ควรกัน”

“กระชับความสัมพันธ์ จะแต่งกับผู้ใดก็ไม่ต่างกันหนิท่านพ่อ”

“พอกันที ข้าเหนื่อยจะต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าเต็มทน ใกล้ฤกษแต่งค่อยมาหารือกันใหม่ว่าจะแต่งกับใครแน่ ท่านว่าดีหรือไม่“

 

สองพ่อลูกต่อล้อต่อเถียงกันยกใหญ่ต่อหน้าคนใช้และครอบครัวของหลินหลิน ทางด้าน เหวินเจี๋ยก็ยืนยันอย่างเด็ดขาดว่ายังไงก็จะแต่งงานกับหลินหลินเท่านั้น

 

”ข้าคิดว่าแบบนั้นก็ดี… ”

 

พ่อของหลินหลินตอบฮ้องเต้ด้วยท่าทีและสีหน้าที่ยังไม่เข้าใจและยังตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้าย หลินหลินถูกแม่เลี้ยงของเธอเรียกให้ไปคุยด้วย

 

“เพี้ยะ!! ”

 

เสียงจากการตบหน้าที่ดังลั่น หลังจากหลินหลิน เดินเข้ามาหา ก็ถูกหลินลู่ซิงที่เป็นพี่สาวง้างมือตบเข้าไปที่หน้าอย่างสุดแรง

 

“เจ้า! กล้าดียังไง ไปหว่านเสน่ห์ใส่องค์ชายตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

หลินลู่ซิงตะคอกถามหลินหลินด้วยความโกรธเกรี้ยว สีหน้าท่าทางของเธอเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมจะประทุได้ทุกเมื่อ

 

“ข้าเพียงแค่เจอเขาในเมือง องค์ชายแค่ช่วยข้าไว้จากพวกคนเมาก็เท่านั้นเอง“

”แกล้งทําเป็นน่าสงสารให้เขาเห็นใจงั้นหรือ…น่าสมเพชนัก!“

”ท่านพี่ก่อนที่จะเห็นหน้าตาที่แท้จริงขององค์ชาย ก็ดูรังเกียจเขาไม่ใช่รึไง ตอนนี้ทําไมทําเหมือนชอบองค์ชายมาตั้งแต่แรกเห็น“

”อีนี่! บังอาจ“

 

หลินหลินอธิบายเหตุการณ์ต่างๆด้วยเสียงที่สั่นคลอนจากความกลัวพี่สาวของเธอ ท้้งสองพูดคุยกันได้สักพัก หลินลู่ซิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น สิ้นประโยคของหลินหลิน หลินลู่ซิงก็ได้ตบหน้าหลินหลินอีกครั้งอย่างรุนแรง และตบต่อไปเรื่อยๆ

 

”พอแค่นี้ก่อนลูก หากนางนี่มีแผลมากกว่านี้จะน่าสงสัยเอาได้“

 

ตบได้สักพักแม่ของหลินลู่ซิงก็ได้เข้ามาห้ามเอาไว้ มองหน้าหลินหลินด้วยสายตาเย็นชาไร้ความปราณี หลินหลินวิ่งออกมาจากที่วัง ออกมาไกลได้สักพักใหญ่ก็มาหยุดอยู่ที่ ที่ราบด้วยทุ่งหญ้าและมองเห็นบรรยากาศของเมืองอย่างทั่วถึง หลินหลินนั่งลงกับพื้นหญ้าอย่างช้าๆพร้อมร้องไห้สะอื้น

 

“ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน…ท่านแม่”

 

หลินหลินสะอื้นแล้วพูดถึงแม่ของตัวเองอยู่สักพัก เหวินเจี๋ยที่แอบเห็นอยู่นานจึงได้เดินเข้ามาและนั่งลงข้างหลินหลิน และได้สังเกตุเห็นใบหน้าของหลินหลินที่เต็มไปด้วยรอยแผล

 

“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ตอนที่เจ้ากินเซาปิ่งหน้าตาเจ้าดูสดใสมากกว่านี้สะอีก”

“องค์…องค์ชาย ข้าไม่ได้เป็นอะไร”

 

เหวินเจี๋ยถาม หลินหลินที่ตกใจที่อยู่ดีๆเหวินเจี๋ยก็มานั่งข้างเธอ จึงรีบปาดเช็ดน้ำตาที่เปื้อนเต็มแก้มของเธอออก

 

“บอกข้ามา ใครบังอาจทําร้ายเจ้า”

“….ท่านพี่ของข้าเอง”

“..เหตุใดท่านพี่ถึงทําเช่นนี้กับเจ้าได้กัน”

 

เหวินเจี๋ยตกตะลึงกับสิ่งที่หลินหลินบอกมา ว่าพี่สาวของตัวเองนั้นเป็นคนที่ลงมือทําร้ายเธอเอง

“ทําไม ท่านถึงพูดเช่นนั้น”

“เจ้าหมายถึงที่ข้าบอกจะแต่งกับเจ้าหนะหรอ”

“ค่ะ..”

“ เพราะข้า…ถูกใจเจ้า ถึงข้าจะมีพระคุณต่อเจ้า แต่เจ้าก็ไม่มีท่าทีที่จะรังเกียจรูปร่างของข้าในตอนนั้น“

”แสดงว่าท่านถูกใจข้า ไม่ได้รักข้าใช่หรือไม่“

”ปะ…ป่าวข้าไม่ได้รักเจ้าสักหน่อย“

”งั้นทําไมถึงอยากแต่งกับข้า“

“เพราะอย่างน้อยก็สบายใจกว่าที่จะแต่งกับเจ้ามากกว่าพี่สาวเจ้า”

 

หลังจากสิ้นประโยคของเหวินเจี๋ย หลินหลินก็หันมามองที่เหวินเจี๋ยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณและประทับใจ ทางด้านเหวินเจี๋ยก็หันมาสบตาและยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับหลินหลิน เช้าวันรุ่งขึ้น ครอบครัวของหลินหลินก็เตรียมที่จะกลับเมืองกันแล้ว

 

“ข้าต้องขอโทษด้วยที่เจ้าเหวินเจี๋ยมันมาส่งไม่ได้”

“ไม่เป็นไรหรอกท่าน มีเรื่องด่วนที่ด้านหน้าทัพไม่ใช่หรือ องค์ชายเป็นถึงแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่เชียว ฮ่าฮ่า”

“ฮ่าฮ่า ขอบใจเจ้าที่เข้าใจข้า เรื่องงานแต่งไว้หารือกันอีกทีนะท่าน ท่านกลับเมืองเถิด ยังมีงานอีกมากรอท่านอยู่“

”ไว้พบกันใหม่ท่านฮ้องเต้ต้าโต่ว“

 

หลังจากพูดคุยส่งกันของฮ้องเต้และพ่อของหลินหลิน ขบวนรถม้าของถังเห้าและครอบครัวก็ออกเดินทางกลับเมือง เดินทางมาถึงยังป่าระหว่างทางกลับแห่งนึง ก็พบชายชุดดํากําลังนอนขวางทางแล้วดูเหมือนว่ากําลังจะบาดเจ็บอยู่

 

“ท่านเจ้าเมืองขอรับ มีคนบาดเจ็บขอรับ”

 

ทหารรายงานให้กับถังเห้า ถังเห้าจึงออกมาจากรถม้าด้วยตัวเอง ขณะที่กําลังจะเดินไปดูอาการของชายผู้นั้น จู่ๆชายชุดดํานับสิบคนก็กระโดดออกมาจากต้นไม้ พุ่มไม้ ทุกทิศทางพร้อมอาวุธครบมือ

 

“พวกเจ้าจะทําอะไร!”

 

ถังเห้าตะโกนพูดใส่เหล่าชายชุดดําดังลั่น พร้อมหยิบหอกคู่ใจของตัวเองออกมาชี้เหล่าชายชุดดํา ทหารยืนล้อมรอบรถม้าเพื่อปกป้องพวกหลินหลิน

 

“อย่าแค้นเคืองข้านักเลย ก็เป็นส่วนนึงของงานข้าก็เท่านั้น…ลงมือได้”

 

หลังคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของเหล่าโจรพูดจบ เหล่าโจรก็พุ่งโจมตีหวังปิดชีพทุกคนที่อยู่ที่นี้

 

ด่านหน้าทัพ ต้าโตว่

 

“โฮ โฮ โฮ สุดยอดไปเลยท่านแม่ทัพของพวกเรา!! ”

 

เสียงของเหล่าทหารที่ตะโกนร้องเพลงและชื่นชมเหวินเจี๋ยกันอย่างกึกก้อง เหวินเจี๋ยปราบเหล่าทหารรับจ้างที่บุกเข้ามาในด่านหน้าทัพหวังจะปล้นทรัพย์ได้ หลังจากที่ยินดีกับเรื่องนี้ได้ไม่นาน เสี่ยวรุ่ย คนสนิทของเหวินเจี๋ยก็วิ่งมาหาด้วยความใจร้อน

 

“มีรายงานมาว่า ขบวนรถม้ากลับเมืองของตระกูลหลินถูกลอบโจมตีขอรับ”

“…ที่ไหน!! ”

 

หลังจากเหวินเจี๋ยฟังจบ ไม่รอช้ารีบหยิบดาบของเค้าและกําลังจะวิ่งไปขึ้นม้าคู่ใจของเขา แต่ก็ถูกเสี่ยวรุ่ยขวางเอาไว้

“แต่นายน้อย ที่นี้อาจจะโดนปล้นอีกนะขอรับ หากท่านไม่อยู่”

“ทหารของข้า หากโจรกระจอกพวกเจ้ายังจัดการไม่ได้ ก็ไม่คู่ควรจะร่วมรบกับข้า!! ”

 

เหวินเจี๋ยหันกลับไปตะคอกใส่เหล่าทหารอย่างดุดัน และก็รีบวิ่งไปขี่ม้าควบออกไปทันที ด้านของเสี่ยวรุ่ยก็รีบควบม้าตามนายของเขาไป

ที่ป่าระหว่างทางกลับเมือง ถังเห้ากําลังต่อสู้กับเหล่าโจรชุดดําอย่างกระอักกระอวน ทหารคนอื่นๆก็ดูเหมือนจะโดนจัดการไปจนเกือบจะหมด มีโจรชุดดําคนหนี่งได้เปิดประตูรถม้าและหวังจะปิดชีพพวกหลินหลิน หลินหลินและทุกคนบนรถต่างตกใจกลัวกันอย่างมาก หลินลู่ซิงที่กลัวสุดขีดจึงรีบคว้าตัวหลินหลินมาและพักลงไปจากรถม้า โจรชุดดําเห็นโอกาสสําคัญในการจัดการหลิงหลิง จึงพุ่งเข้ามาหวังปิดชีพเธอ

 

“ซวกก..” ขณะที่หลินหลินหลับตาลงเพราะความกลัวก็ได้ยินเสียงโดนแทงจึงลืมตาขึ้นมา พบว่าท่านพ่อของเธอได้เอาตัวมาขวางการโจมตีของโจรชุดดําเอาไว้

“ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจมากเลย”

“หลิน..หลิน วิ่งหนีไปสะ”

“ฮืออ…ไม่ท่านพ่อ”

“ข้าบอกให้..หนีไป!! “

 

ถังเห้าที่ดูท่าจะไม่ไหวแล้วกับการเข้ามารับการโจมตี ตะคอกสั่งให้หลินหลินหนีไป หลินหลินสะอื้นอยู่สักพักก็ลุกแล้วรีบวิ่งหนีเข้าป่าไป

 

“เจ้าสองคน ตามนางนั้นไป ตรงนี้ข้าจัดการเอง”

 

หัวหน้าของโจรชุดดําสั่งให้ลูกน้องตามหลินหลินเข้าไปในป่า ถังเห้าที่หมดสภาพแล้วก็ทรุดลงไปชันเข่ากับพื้น หลินหลิน สะอึกสะอื้นพร้อมวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเข้าไปในป่าลึก โจรชุดดําหนึ่งในสองคนที่ถูกสั่งให้ตามหลินหลินมา ได้ทําการยิงธนูอาบยาพิษใส่หลินหลิน ลูกศรธนูปักเข้าไปที่ไหล่เธอเต็มๆ

 

“แบบนี้อีกแปปเดียวนางนั้นก็หมดแรงแล้ว..”

 

“สมกับที่เคยเป็นทหารมาก่อน อึดใช้ได้เลยนะท่าน”

“เจ้า…ต้องการ..อะไร”

“…ชีวิตของพวกท่าน”

 

หัวหน้าโจรและถังเห้าพูดคุยกันได้สักพัก หัวหน้าโจรก็เตรียมง้างดาบฟันไปที่คอของถังเห้า

 

“เช้งงง ซวกกก”

 

ขณะนั้นก็มีคนพุ่งเข้ามากันเอาไว้ได้ด้วยความเร็ว นั้นก็คือเหวินเจี๋ย แต่ทว่าเหล่าโจรชุดดําคนอื่นก็ยังเหลืออยู่ และกําลังเปลี่ยนมาโจมตีกันที่เหวินเจี๋ยแทน แต่ทันใดนั้นเอง โจรชุดดําทุกคนยกเว้นหัวหน้า ก็ถูกฟันเรียบในพริบตาด้วยความเร็วของเสี่ยวรุ่ยกับมีดคู่ คู่ใจของเขา เสี่ยวรุ่ยตรวจสอบคนบนรถม้าแต่กลับไม่พบหลินหลิน

 

“แม่นางหลินไม่อยู่บนรถม้าแล้วขอรับ!”

”หลินหลินอยู่ไหน!!“

”โอ้ะโอ นี่มันบุรุษสงครามเหวินเจี๋ยที่เขาลือกันหรอเนี่ย แข็งแกร่งจริงด้วย“

”เลิกน้ำลายและบอกมาว่านางอยู่ไหน!! “

”ข้าไม่ได้ลักพาตัวนางสักหน่อย นางวิ่งหนีเข้าในป่าเองต่างหาก“

”เสี่ยวรุ่ย!! ”

”รับทราบขอรับ!! “

 

เสี่ยวรุ่ยรีบพุ่งตามเข้าไปเพื่อช่วยหลินหลิน หลินหลินเริ่มจะวิ่งไม่ไหวและเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองน่าจะถูกพิษจากศรธนูเข้าให้แล้ว โจรชุดดําทั้งสองก็เดินเข้ามาใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ จนพ้นป่าถึงทุ่งหญ้าโล่งๆแห่งนึงอีกฝากนึงของทุ่งมีป่าเหมือนกัน

 

“ถ้าข้าจำไม่ผิด…นี่มันเขตหยิน!”

 

(โลกนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองดินแดน ดินแดนหยิน และ ดินแดนหยาง เรียกกันว่าเขตหยิน และ เขตหยาง เขตที่หลินหลินอาศัยอยู่คือเขตหยาง ประชากรของแต่ละดินแดนไม่สามารถข้ามหรือล้ำเส้นไปดินแดนตรงข้ามได้ตามกฎ หากฝ่าฝืน ดินแดนตรงข้ามสามารถลงมือประหารได้เลย)

หลังจากเสี่ยวรุ่ยนึกขึ้นได้ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปช่วยหลินหลินให้ทัน

 

“หมดแรงแล้วก็เลิกหนีสะเถอะแม่นาง ฮ่าฮ่า“

 

โจรชุดดําตะโกนหาหลินหลินบอกให้ยอมจํานน ขณะที่หลินหลินเดินเข้าป่าอีกฝากไปแล้ว โจรชุดดําสองคนกําลังจะเดินตามไปก็ถูกศรธนูนับสิบยิงมาขว้างไว้

 

”อะไรวะเนี้ย.. ”

“คนจากแดนอื่น โวกเวกโวยวายอะไรมิทราบ”

“แดนอื่นบ้าบออะ…เขตหยินงั้นหรอ”

“หากข้ามเส้นตรงนี้ไป จะฆ่าพวกเจ้าสองคนสะ”

 

หลินหลินเดินกระสับกระส่ายมาเรื่อยๆร่างกายที่สะบักสะบอมเหลือทน จนมาถึงถ่ำแห่งนึงภายในถ่ำลึกจนมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง หลินหลินกลัวอย่างมากแต่ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปเพื่อหวังจะหลบซ่อน เดินอย่างช้าๆเรื่อยๆในถ้ำที่มืดมิด มีเพียงแสงอาทิตย์เล็กน้อยที่ลอดส่งทาง มาจนสุดทางก็พบโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ไม่มีอะไรเลย แต่ทว่าพบเจอชายผมยาวผู้หนึ่งนอนอยู่บนหิน “ผู้ใดมานอนในถ้ำลึก…ขนาดนี้กัน” หลินหลินที่ยังลังเลว่าจะปลุกชายผู้นั้นหรือไม่ พลันรู้สึกว่าสายตาพร่ามัว หัวหมุนอย่างรุนแรง ร่างของนางโอนเอนล้มลง…ริมฝีปากของนางเผลอแนบเข้ากับริมฝีปากของชายลึกลับโดยไม่ตั้งใจและแล้วหลิงหลิงก็หมดสติลงไปนอนกองกับพื้น ไม่นานก็มีแสง ปรากฎเป็นโซ่ตรวนที่ผนึกรอบตัวชายหนุ่มผู้นั้นอยู่ โซ่ตรวนได้แตกหักไป

 

และชายหนุ่มลึกลับผู้นั้นก็ลืมตาตื่น….

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา