อาจารย์สุดที่รัก

10.0

เขียนโดย Katuichobginyelly

วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.07 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  2,378 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03.08 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) เฉินยวิ้น เทพเซียนผู้แหวกฟ้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ขณะนี้ทหารของเขตหยินได้ยืนอยู่ต่อหน้าโจรชุดดําทั้งสอง 

“มีแม่หญิงเดินเข้าไปในป่าเขตของท่านไปแล้ว ไปลากนางมาดีกว่าหรือไม่”
“ถ้ามาในเขตของพวกข้า ก็คือหน้าที่ของข้าอย่าอาจมาออกคําสั่ง”

โจรชุดดําและทหารเขตหยินพูดคุยกันได้ไม่นาน เสี่ยวรุ่ย ที่มาด้วยความเร็ว จู่โจมปิดชีพโจรชุดดําทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว 

“ เจ้าทหารจากเขตหยิน แม่นางผู้นั้นเป็นคนสําคัญ ช่วยไปพามาที”
“ ไม่ว่าจะหน้าไหนก็มาออกคําสั่งกับข้า เจ้าเป็นใครกัน!! ”

ทหารจากเขตหยินที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพูดตะคอกดังลั่นใส่เสี่ยวรุ่ยด้วยความฉุนเฉียว พร้อมควักดาบออกมาชี้หน้าเสี่ยวรุ่ย ทั้งสองตั้งท่าทําท่าทีที่จะปะทะกัน


ในถ้ำลึกที่หลินหลินได้หมดสติไป ชายลึกลับผู้นั้นได้ลืมตาตื่นขึ้น 

“นี่ข้า..ตื่นหรอ แล้วมานอนทําอะไรที่นี้” ชายผู้นั้นตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง และสงสัย ขณะที่กําลังลุกยืนและเดินก็เผอิญไปโดนหลินหลินที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้นเข้า

“โอ่ะ..แม่นางนี่ มานอนทําไมตรงนี้..เอ๊ะ” แม่นางคนนี้กําลังจะตายในอีกไม่นานผลมาจากพิษงั้นหรือ ชายผู้นั้นสังเกตุว่าหลินหลินใกล้จะเสียชีวิตลงเนื่องจากถูกพิษ ไม่ทันไรชายผู้นั้นใช้มือแตะที่ไหล่ของหลินหลินอย่างเบาๆ มือของชายผู้นั้นมีเปลวไฟสีชาดล้อมรอบ เหมือนจะเป็นการรักษา 

“พิษธรรมดาเช่นนี้ ก็จะตายเลยหรอ แต่เพียงเท่านี้หากอยากรู้ว่าทําไมข้าอยู่ที่นี้ก็คงต้องรอนางตื่นเท่านั้น “

หลังจากรักษาหลินหลินก็อุ้มหลินหลินมานอนตรงที่ชายผู้นั้นเคยนอน และเฝ้ารอที่หลินหลินจะตื่นขึ้นมา


ในจุดที่ขบวนรถม้าของตระกูลหลินถูกรอบโจมตี เหวินเจี๋ยและหัวหน้าโจรชุดดําเข้าหํ้าหั่นกันอย่างดุเดือด

“สมคําร่ำลือจริงๆข้าว่าในตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่จะมาสู้กับท่าน”
“ฮึ..อย่าคิดหนีเชียวเพราะข้าจะต้องเอาหัวของเจ้ามาตั้งไว้กลางจวนข้า” หลินหลินเจ้าจะต้องปลอดภัยนะข้าขอร้องล่ะ

“ฮ่าฮ่า..โหดร้ายไม่สมกับเป็นบุรุษแห่งสงครามเลยนะท่าน”

หัวหน้าโจรชุดดําดูท่าว่าจะมีฝีมือที่เทียบกับเหวินเจี๋ยไม่ติด ทางด้านเหวินเจี๋ยก็อารมณ์เสียสุดขีดเนื่องจากยังไม่รู้ความปลอดภัยของหลินหลิน

“หมดเวลาแล้วล่ะท่าน หากอยู่ต่อ หัวข้าได้ไปอยู่ในจวนท่านจริงแน่”
“อย่าได้คิดที่จะหนี!!”

สิ้นประโยคเหวินเจี๋ยก็รีบพุ่งเข้าไปโจมตีหัวหน้าโจรในทันที แต่เพียงพริบตาเดียวหัวหน้าโจรก็หายไปจากสายตา หลบหนีได้สําเร็จ ทางด้านเสี่ยวรุ่ยที่มีท่าทีจะสู้กับหัวหน้าทหารของเขตหยินก็ตัดสินใจรีบถอยออกมาเพื่อมารายงานให้นายของเขา

“หลินหลินล่ะ หลินหลินอยู่ไหน”
“นายน้อยขอรับคือ..แม่นางหลินข้ามไปยังเขตหยินแล้วขอรับ”
“เจ้าว่าอะไรนะ!! ”

เหวินเจี๋ยฟังจบไม่รอรีที่จะรีบวิ่งไปหาหลินหลิน แต่ก็กลับถูกเสี่ยวรุ่ยขวางเอาไว้อีกครั้ง

“นายน้อยขอรับ เขตหยินไม่ใช่เรื่องที่จะทําตามอารมณ์ได้นะขอรับ”
“เสี่ยวรุ่ย ข้าบอกให้หลบไป หลบไป!! ”
“ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขอรับ เรารีบกลับไปรายงานท่านเจ้าเมืองเถอะขอรับ”
“เจ้าก็รู้หนิว่าข้ามไปจะเกิดอะไรขึ้น ต้องรีบไปช่วยตอนนี้เท่านั้น หลบไป!! ”
“ทหารเขตหยินคุ้มกันแน่นหนาขึ้นแล้วในตอนนี้ ต่อให้เป็นท่านกับข้าก็คงไม่ไหว รีบกลับไปแจ้งเถอะขอรับหากช้ากว่านี้อาจจะสายไป”

เหวินเจี๋ยไม่มีท่าทีจะยอมถอยทางด้านเสี่ยวรุ่ยก็ขัดขวางเอาไว้อย่างสุดความสามารถ แม้จะไม่เต็มใจแต่ในท้ายที่สุดเหวินเจี๋ยก็ยอมทําตามที่เสี่ยวรุ่ยบอกแม้จะเจ็บใจอย่างมาก เหวินเจี๋ยสั่งให้กองกําลังเสริมมาคุ้มกัน ขบวนรถม้ากลับเมืองของตระกูลหลิน ให้กลับเมืองอย่างปลอดภัย ครอบครัวของหลินหลินปลอดภัยดี เพียงแต่อาการของถังเห้าค่อนข้างจะสาหัสจากการถูกแทง จึงมีม้าเร็วรีบไปส่งถังเห้าที่ตําหนักหมอ เหวินเจี๋ยและเสี่ยวรุ่ยรีบควบม้าเร็วกลับไปยังเมืองต้าโต่วเพื่อแจ้งข่าวสําคัญของหลินหลิน


ในถ้ำลึกที่หลินหลินนอนหมดสติอยู่นั้น จนกระทั่งหลินหลินรู้สึกตัวกําลังค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ก็พบชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ โห..นี่มันเทพเซียนหรือป่าวนะทําไมถึงดูดีถึงเพียงนี้

“เจ้ารู้สึกตัวแล้วหรือ”
“…ค่ะ”
“ทําไมข้าถึงอยู่ที่นี้”
“คะ?..ข้าสิต้องถามเจ้าว่าทําไมเจ้าอยู่ที่นี้”
“เจ้าไม่ได้อยู่กับข้าที่นี้ตั้งแต่แรกหรือ“
” หลินหลินส่ายหน้า “

ทั้งสองพูดคุยกันอย่างมึนงง ทางด้านหลินหลินก็ยังคงตกตะลึงกับความดูดีของชายผู้นี้ หลินหลินจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่ละสายตา แม่หญิงผู้นี้ตกตะลึงที่เจอข้าสินะ ก็มันแน่นอนชื่อเสียงของข้าทั่วทั้งใต้หล้าผู้ใดกันที่จะไม่รู้จัก แต่ฉไนนถึงเรียกแทนตัวข้าว่า เจ้า ช่างโอหังเสียจริง

”เจ้าคือใคร..“
……….

สิ้นประโยคคําถามของหลินหลิน ชายผู้นั้นก็มีท่าทีสีหน้าที่ซีดเผือกหน้าตายแน่นิ่งไปชั่วขณะ

”นี่เจ้า…ไม่รู้จักข้าอย่างนั้นหรอ“ 
”ก็ใช่สิ ข้าเดินเข้ามาก็เจอเจ้านอนอยู่ที่นี้จากนั้นข้าก็หมดสติไป“

นางนี่ไม่รู้จักข้าจริงๆสินะ หึ้ วาสนาช่างต่ำเตี้ยจริงๆ

”ก็ย่อมได้ ข้าจะให้เจ้าได้รู้จักข้า แต่จงอย่าตกตะลึงให้มากนักล่ะ…. ข้า คือพรหมยุทธ์เทพที่แข็งแกร่งที่สุดบนสรวงสวรรค์ นามว่า เฉินยวิ้น จงภูมิใจเถิดที่ได้ยินเสียงและเห็นตัวข้าเป็นๆแบบนี้ช่างเป็นบุญวาสนาที่ยิ่งใหญ่สุดของเจ้าเลยล่ะ…“

”ตานี้บ้าแน่ๆ..“
”หา!? เจ้าว่าอย่างไรนะเมื่อครู่“
”ข้าสงสารเจ้าจัง ข้าพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ที่เจ้ามาอยู่ในถ้ำลึกห่างไกลผู้คนขนาดนี้ ผู้คนคงไม่ยอมรับเจ้าที่สติไม่ดีสินะ ข้าเข้าใจเจ้าสุดๆเลยล่ะ ไม่เป็นไรนะ“

หลินหลินพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหาเฉินยวิ้นอย่างใกล้ชิด หลินหลินเอามือของเธอลูบไปที่หัวเฉินยวิ้นอย่างค่อยๆเบาๆอย่างถนุถนอม เฉินยวิ้นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างมากหยุดชะงักไปพักใหญ่ หลังจากรู้สึกตัวก็ขยับห่างออกจากหลินหลิน

”นี่เจ้า..ทําอะไร เจ้าไม่เชื่อข้าหรอ“
”จะเชื่อเจ้าได้ไง ที่เจ้าพูดมามันคือนิทาน ข้าเคยเล่าให้เหล่าเด็กๆฟังที่บ้านของข้า“
”นิทาน?..”
“อื้ม..นิทาน เจ้าไม่ต้องโศกเศร้าไปนะข้าเข้าใจเจ้า ไว้ถ้าข้ากลับบ้านไปได้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้าอีกครั้ง แต่ว่าตอนนี้ข้าต้องรีบไปก่อน ข้าไปล่ะ“
”เดี๋ยว เจ้า..“

หลินหลินพูดให้กําลังใจเฉินยวิ้นพร้อมส่งยิ้มที่แสนจะอบอุ่นให้แล้วรีบวิ่งออกจากถ้ำไปโดยไม่สงสัยเลยว่าตัวเองหายจากพิษธนูได้อย่างไร
บ้าเอ้ย นางนี่มันบ้าไปแล้วจริงๆไม่รู้จักข้าแล้วยังจะมาว่าข้าสติไม่ดีงั้นหรอแล้วยังจะมายิ้มแบบนั้นให้กับข้าอีก…ชั่งกล้า หลินหลินรีบวิ่งออกมายังนอกถ้ำและเดินเข้าป่ามาเรื่อยๆหวังจะหาทางกลับไปที่ขบวนรถม้าของท่านพ่อของเธอ ขอให้ท่านพ่อและทุกๆคนปลอดภัยด้วยเถอะ

แคว้นต้าโตว่ จวนฮ้องเต้

เหวินเจี๋ยและเสี่ยวรุ่ยรีบควบม้ามาถึง จวนของฮ้องเต้ ไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งเข้าไปเพื่อแจ้งข่าวหลินหลิน

“ท่านพ่อเราต้องส่งคนไปช่วยหลินหลินด่วนขอรับ เธอข้ามไปยังเขตหยินแล้ว!!”
“เจ้าว่าไงนะ..เขตหยินงั้นรึ”
“ใช่ขอรับ”

เหวินเจี๋ยรีบแจ้งข่าวให้กับพ่อของเขาอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่หอบเหนื่อยสุดๆจากการรีบควบม้ามาถึงที่นี้

“ตัดใจเสีย…ไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว”
“ท่านพ่อ..ท่านพูดอะไรออกมา!!”

ฮ้องเต้แสดงสีหน้าที่หมดหวังพร้อมพูดออกมาอย่างเบาๆผิดจากที่เคยตะคอกใส่เหวินเจี๋ย
ลูกชายมาโดยตลอด

“หากท่านพ่อไม่ช่วยข้า ข้าจะไปพานางกลับมาด้วยตัวเอง! ”
“หยุดทําอะไรโง่ๆเสียที!! เรื่องของเขตหยินไม่ใช่เรื่องที่เด็กอย่างเจ้าจะเข้าไปยุ่ง”
“แต่ถ้าข้าอยู่เฉยต่อไปหลินหลินจะต้อง…”
“ตาย..ทําใจเสียเถอะเหวินเจี๋ยลูกข้า ฝั่งนั้นไม่มีทางปล่อยให้รอดไปได้แน่”
“โถ่เว้ย!!!” 

เหวินเจี๋ยที่โมโหสุดใจตะโกนระบายออกมาดังลั่นโถงแล้วเดินตึงตังออกไป ทั้งๆที่รู้ตัวว่าทําอะไรไม่ได้เหวินเจี๋ยเจ็บใจและโกรธตัวเองเป็นอย่างมาก

“เสี่ยวรุ่ย เจ้าตามไปดูแลนายของเจ้าให้ดี อย่าให้ทําอะไรโดยพลการ ส่วนเรื่องเขตหยินข้าจะลองให้ทูตติดต่อไปอย่างเป็นทางการดู“
”เข้าใจแล้วขอรับ“

ฮ้องเต้ต้าโต่วที่ดูเหมือนจะเข้มงวดและดุดันอยู่ตลอดเวลาแต่พอกลับเป็นเรื่องของเขตหยิน เขากลับสุขุม เย็นเฉียบขึ้นจนน่าตกใจ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทําให้ฮ้องเต้แคว้นต้าโตว่ตกที่นั่งลําบากเข้าให้แล้ว

ทางด้านหลินหลิน ที่วิ่งเข้าป่าไปลึกขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ไม่พบขบวนรถม้าแต่อย่างใด

“หยุดอยู่ตรงนั้นนิ่งๆสะ” เสียงของหัวหน้าทหารเขตหยินได้โผล่ขึ้นมาตรงหน้าของหลินหลินพูดข่มขู่อย่างหนักแน่น

“ข้า..ข้าหนีโจรมาท่านคือทหารใช่หรือไม่”
“เจ้านี่แหละโจร”
“หา!? ข้าไม่ใช่โจรนะ”
“หุบปากสักที ที่นี้เขตหยินเจ้ารู้ตัวหรือไม่”
“….” เขตหยินงั้นหรอ เหมือนข้าจะเคยได้ยินมาอยู่บ้าง เดี๋ยวนะนี้ข้าวิ่งมายังเขตหยินจริงๆหรอเนี่ย
“จับตัวนางไปที่ค่าย”
“เดี๋ยว..ฟังข้าก่อนสิ”

ทหารของเขตหยินคุมตัวหลินหลินพาไปที่ค่ายทหารเฝ้าเขตแดนของดินแดนหยินในทันที หลินหลินถูกพามากักขังไว้ที่ค่าย

“นี่ท่านพี่ทหารสุดหล่อ ก็แค่ส่งข้ากลับไปเขตหยางเงียบก็พอแล้ว ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่บอกใครเลย” 
“ข้าต้องกลับไปหาท่านพ่อของข้าจริงๆนะ”

หลินหลินพยายามอ้อนหว่านล้อมให้หัวหน้าทหารเขตหยินปล่อยตัวเธอไป

“เจ้ารู้สินะ ว่าคนที่ข้ามเส้นมาโดยพลการจะเกิดอะไรขึ้น ข้าเป็นทหารไม่ใช่นักบุญ…ข้าขอโทษกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้นะแม่หญิง”
“เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อนสิ”

บรรยากาศได้เปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่หัวหน้าทหารเขตหยินได้พูดประโยคนี้กับหลินหลินด้วยน้ำเสียงท่าทีที่จริงจังอย่างมากแววตาที่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองกําลังจะทําหลินหลิน หากแต่เป็นหน้าที่ที่ไม่มรทางเลือกก็เท่านั้น หลินหลินที่ได้รับฟังจนจบก็ทําเอาน้ำตาไหลพรากออกมาดั่งสายฝน ขอร้องล่ะข้ายังไม่อยากตายที่นี้ตอนนี้

“พานางไป..ที่แท่นประหาร“ หลังสิ้นประโยคคําสั่งจากหัวหน้า ทหารก็พาตัวหลินหลินไปยังแท่นประหารทันที แม้จะขัดขืนสุดกําลังแต่ไม่มีท่าทีเลยที่ผู้หญิงตัวเล็กร่างบางคนนี้จะสลัดทหารสองนายที่ร่างกายกํายําหลุดได้

“ข้าขอโทษแม่หญิง”
“ข้าขอร้องล่ะ..ได้โปรดเถิดนะ“
“ข้าสัญญา เจ้าจะไม่เจ็บปวดสักนิด”

หลินหลินร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตอย่างสุดหัวใจ เมื่อรู้ว่าชะตาของเธอกําลังจะจบสิ้นลงตรงนี้เสียแล้ว ทางด้านหัวหน้าหทารแม้ว่าคําพูดที่สั่นคลอนจากความกลัวและน้ำตาที่ไหลนองจากความโศกเศร้าของหลินหลินจะกระทบจิตใจของทหารผู้นี้อย่างมาก แต่เขาก็ยึดมั่นในหน้าที่ในฐานะทหารของเขตหยิน จึงไม่รอช้า ง้างดาบพร้อมที่จะฟันเข้าไปที่คอของเธอ
ท่าน..แม่ ท่านแม่..ข้ายังไม่อยากตายเลย..ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย ช่วยข้า…ด้วย 

”หื้ม?!“ เสียงในใจของหลินหลินที่กําลังภาวนาขอความช่วยเหลือเข้ามาดังกึกก้องอยู่ในหัวของเฉินยวิ้นที่กําลังเดินสํารวจอยู่ในป่า หลังจากตกใจและสงสัยได้ไม่นานจู่ๆเฉินยวิ้นก็หายไปจากตรงนั้นทันที หัวหน้าทหารฟาดดาบอย่างรุนแรงและรวดเร็วไปที่หัวของหลินหลิน แต่จู่ๆก็ปรากฎชายหนุ่มผมยาวแต่งกายดั่งเทพเซียนยืนรับดาบนั้นเอาไว้ โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดขวน

”อะไรกันเจ้ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!!“
”ข้าสิต้องถามว่าข้ามาโผล่นี่ได้ไงกัน นี่อะไรฟันข้างั้นหรอ“ เฉินยวิ้นยิ้มออกมาก่อนที่จะเตะหัวหน้าทหารออกไปไกล

ตั้ม!!! เสียงดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั้งค่ายเนื่องจากเฉินยวิ้นได้เตะหัวหน้าทหารจนไปกระแทกกับภูเขา ทหารตกตะลึงกับความสามารถของเฉินยวิ้นอย่างมาก

”ไงเจ้า เรียกข้ารึ“ เฉินยวิ้นก้มหน้าไปใกล้หลินหลินยิ้มอ่อนๆออกมาและถามด้วยความสงสัย
”ข้า..ข้าป่าวเรียกเจ้า“ หลินหลินยังคงสะอื้นจากความกลัวและปนความสงสัยที่จู่ๆเฉินยวิ้นก็ปรากฎตัว ไม่ทันไรหัวหน้าทหารและเหล่าทหารนับสิบก็พุ่งเข้ามาหวังปิดชีพเฉินยวิ้น

”ข้างหลังเจ้า!! “
”เห้ออ..คนเขากําลังคุยกัน..ไสหัวไป!!“ เฉินยวิ้นหันมาถอนหายใจ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงชาด หลังจากเขาพูดว่า ไสหัวไป อย่างนักแน่น จู่ทหารที่กําลังมาโจมตี ก็กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

”บ้าไรวะเนี่ย“
”จอมยุทธ์งั้นหรอ“

เหล่าทหารสงสัยในความเก่งกาจของเฉินยวิ้นจนตัวสั่น เริ่มกลัวเฉินยวิ้นถึงขีดสุด พื้นดินเริ่มสั่นไหว อากาศเริ่มร้อนระอุ 

“บ้าเอ้ยร้อนชะมัดอะไรเนี่ย” พื้นที่รอบๆค่ายทหารร้อนระอุขึ้นอย่างมาก เฉินยวิ้นเพ่งมาที่พวกเหล่าทหารที่ล้มระเนระนาดกันอยู่ด้วยสายตาดุดันร้อนลุ่ม รอบๆร่างของเขามีไฟร้อนผ่าวล้อมรอบ เขานําแขนขึ้นมาทําท่าทีเหมือนจะปล่อยพลังอะไรออกมาตรงหน้าเหล่าพวกทหาร

“มีเรื่องที่ข้าไม่พอใจอย่างมากจริงๆ อย่างแรก พวกเจ้าทําไมไม่รู้จักข้า”
“ก็แล้วเจ้าเป็นใครกันเล่า!!”
“คําถามนี้ยิ่งทําให้ข้าอยากจะเผาพวกเจ้ามากขึ้นไปใหญ่ อย่างที่สอง กับแม่หญิงตัวแค่นี้ก็ยังกล้าฟาดฟันไปที่คอของนางได้ลงคอ อัมหิตเหนือมารอย่างยิ่ง”
“ไว้ชีวิตพวกข้าเถอะท่าน…”

….เพลิงนรกลงทัณฑ์ ไฟขนาดใหญ่ที่ร้อนถึงขนาดไม่ว่าจะผ่านสิ่งใดก็จะสลายไม่เหลือแม้แต่เถ้าธุลีพุ่งออกไปจากมือของเฉิ้นยวิ้น พุ่งตรงไปที่เหล่าพวกทหาร 

ซูมมม!! ทั้งค่ายทหารและป่าในระแวกนั้นถูกเผาจนมอดไหม้ไม่เหลือสิ่งใด 

“เพราะการทําให้ข้าโมโห คือบาปอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ยังไงล่ะ”
“หื้ม!? เป็นลมไปอีกแล้วหรอเนี่ย ยัยนี่เพี้ยนแน่ๆ”

ใจเย็นลงได้สักพักก็หันมาหาหลินหลินแต่พบว่าหลินหลินได้หมดสติไปอีกแล้ว
แต่เพราะอะไรนะข้าถึงมาอยู่ตรงนี้โดยไม่รู้ตัวกัน

เพราะเพียงแค่เจ้าเรียกหา…ข้าจึงมาอย่างงั้นหรือ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา