เอกภพคู่ขนาน
-
เขียนโดย หยาดน้ำหวาน
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11.16 น.
5 ตอน
45 วิจารณ์
3,374 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 11.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) แรงดึงดูด...ของทางคู่ขนาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ขอดาวบนฟ้า ส่งความรักข้ามเวลามาได้ไหม และแม้ใครคนนั้นอยู่ห่างกันสุดแสนไกล กี่ปีแสงก็จะรอ ฉันจะรอมอบความรักหมดหัวใจ หากใครคนนั้นที่เกิดมาเพื่อฉันเขามีอยู่จริง" บทเพลงที่กำลังขับกล่อมบรรเลงผ่านสายสมอลทอร์คที่เปิดโดยเครื่องเล่นเพลงขนาดเล็กของชายหนุ่มดังก้องวนอยู่ในโสตประสาทถึงแม้เพลงดังกล่าวจะจบลงไปแล้วก็ตาม ครั้นเสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านก็เข้ามาแทรกทำให้ขนานชำเลืองตามองกับคนที่เข้ามาใหม่เสียงพูดคุยกันจอแจพลางหัวเราะร่วนไปด้วย "ไอ่ภพเอ็งเปียกแล้วดูเหมือนลูกเป็ดเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า" หนึ่งในสมาชิกที่เข้ามาใหม่นั่นพูดกับกลุ่มเพื่อนทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นเบา ๆของคนที่ถูกกล่าวถึง "เธอก็ไปว่าภพได้นะนั่นมันเพอร์เฟคแมนของรุ่นตั้งแต่มัธยมจนจบมหาลัย" หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มกล่าวขึ้นแล้วหันไปสั่งเมนูกับพนักงานต่อ สองหนุ่มขนาบข้างสาวสวยกรอกตาไปมาเมื่อเธอพูดจบ
"ขอเฉาก๊วยให้เราด้วยนะ" ชายหนุ่มที่เพื่อน ๆ หัวเราะก่อนหน้าเอ่ยสั่งเมนูกับเพื่อนสาวสวย หญิงสาวพยักหน้าเบาๆรับเป็นอันว่ารับรู้แล้ว คนตัวโปร่งที่เห็นทุกอย่างตั้งแต่เริ่มยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวว่าได้หยุดเวลาเอาไว้ยังไงยังงั้นจนเพื่อนตัวเล็กสะกิดเขาเบา ๆ ถึงรับรู้กับบรรยากาศรอบข้างที่มีแต่กลิ่นอายของผู้มาใหม่ที่กลบกลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วทำไมกันนะ คนตัวโปร่งหันไปมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้นั่งทำหน้างงดูดชาพีชกับจ้วงมัฟฟินอย่างอร่อยก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆกับเขา
"นั่นเพอร์เฟคแมนของหนานนิไม่เห็นนานแล้วนะ" เพื่อนตัวเล็กกระซิบเบาๆราวกับกลัวคนอื่นได้ยินด้วย
"อะ อืมสิบปีได้มั้งก็ตั้งแต่ตอนนั้น" ย้อนกลับไปในอดีต เสียงบูมสลับกับเสียงร้องเพลงยินดีดังก้องบริเวณซุ้มจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3และ6
“เฮ้ยยยินดีด้วยนะโว้ยยจบแล้วพวกเรา” หนึ่งในกลุ่มของนักเรียนชั้นม.6 พูดขึ้นพร้อมกับกระโดดโลดเต้นชูสองแขนขึ้นเหนือหัวก่อนจะกอดคอกันกับเพื่อนที่อยู่ตรงนั้น “เวอร์อีกแล้วเจเจ เดี๋ยวก็เจอก้นอยู่ดีที่มหาลัย อย่าลืมสิเรียนก็คณะเดียวกันเอาอะไรมาแยกย้ายละ อ๋อเว้นเราคนหนึ่ง คนสวยขอไปเจอผู้ใหม่ ๆเบื่อหน้าพวกนาย ” สาวสวยหน้าฝรั่งผมเปียสองข้างพูดขณะรับดอกไม้จากรุ่นน้องที่เข้ามาแสดงความยินดีแต่!! มันไม่ใช่ของเธอยังไงละ ที่จริงแล้วดอกไม้กับถุงพวกนั้นเป็นของเพื่อนของเขาเองผู้ที่มีฉายาว่าเพอร์เฟคแมนของรุ่นที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มสาวๆ ที่ห้อมล้อมตัวชายหนุ่มอยู่
“ผิง คือเราฝากของไปให้พี่เขาได้มั้ย ” เด็กหนุ่มร่างผอมบางสวมแว่นตาหนาเตอะยื่นถุงที่มีเฉาก๊วยกับพวงกุญแจหนังสลักชื่อ “เอกภพ” ตรงกลางส่วนมุมล่างขวาพื้นที่เล็กๆ สลักว่า “ขนาน” เป็นตัวเล็กๆ แทบจะอ่านไม่ออก เพื่อนสาวของเขารับถุงไปก่อนจะเอ่ยว่า
“พี่เขาจบแล้วนะหนาน ทำไมไม่ไปให้เองบ้างจะหลบไปถึงไหน ” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มพูดออกไปเผื่อเพื่อนตัวดีของเขาจะเปลี่ยนใจเอาไปให้ด้วยตัวเอง
“น่า ช่วยมันหน่อยเธอก็รู้ว่าเพื่อนเรามันปอดแหกแค่ไหน ” มู่ลี่ว่าพลางดันหลังเพื่อนสาวของทั้งสองเดินออกจากหลังเสาที่พวกเขายืนอยู่
“เห้ออ พวกแกนิเห็นฉันเป็นอะไร ถึงจะรู้จักพี่ภพก็ใช่ว่าจะอยากเอาไปให้บ่อยๆ เดี๋ยวเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันชอบจะทำไง ผิดผีเลยนะ” ขนานก้มหน้ามองพื้นก่อนจะพูดกับเพื่อนรักของเขา
“นะ ผิงเพื่อนรักครั้งนี้เราอาจจะเจอพี่เขาครั้งสุดท้ายก็ได้ เดี๋ยวเขาก็ไปเรียนที่อื่นแล้ว ” ผิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปตรงไปยังกลุ่มที่มีบุคคลที่สามเพื่อเอาของยินดีไปให้
“ทำไมไม่เอาไปให้เองวะหนาน สุดท้ายที่จะเจอแล้วนะ แก..จะไม่เสียดายทีหลังใช่ไหม๊ที่ทำแบบนี้” มู่ลี่ถามพูดกับเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังส่องดูเพื่อนสาวยืนคุยกับรุ่นพี่ก่อนจะหันมาทางที่เขายืนหลบอยู่ขนานได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กรีบหมุนตัวกลับไปหาเพื่อนตัวเล็กและดึงให้เดินออกจากตรงนั้นไป
กลับมาปัจจุบัน
“หนาน ขนาน ขนาน” วศิฑาเขย่าแขนเพื่อนที่กำลังจ้องมองกลุ่มของชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่คนถูกเรียกดึงสติกลับมาก่อนจะก้มหน้าแล้วพึมพำกับตัวเอง
“เขายิ้มให้เราหรอวะ หรือว่า ไม่หรอกใครมันจะจำได้ตั้งนานแล้วมีแต่เรานี้แหละ” ร่างโปร่งสบัดความคิดออกไปก่อนจะเอ่ยกับเพื่อนสนิท
“มู่ลี่ แกว่าคนเราเจอกันแค่เสี้ยววิจะสามารถจำหน้ากันได้มั้ย ” เขามอบสบตากับเพื่อนเพื่อขอความคิดเห็น มันจะเป็นไปได้มั้ยนะหรือไม่เขาคนนั้นก็แค่แจกยิ้มตามมารยาทคนทั่วไป
“ทำไมเขายิ้มให้แกหรอ คิดมากคนในร้านออกเยอะแยะอาจจะเป็นสาวคนนั้นก็ได้ ” เพื่อนตัวดีพยักเพยินหน้าไปทางสาวสวยที่อยู่มุมหนังสือไม่ไกลจากพวกเขานัก อาจจะเป็นไปได้แต่นาทีนี้เขาขอเข้าข้างตัวเองก่อนก็แล้วกัน ทั้งสองหมุนตัวกลับมาตรงบาร์ที่มีข้าวของวางอยู่ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า คู่เพื่อนรักต่างพากันกินของที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ เสร็จจากนั้นทั้งสองก็พากันออกจากร้านเพื่อกลับที่พักของตัวเอง แต่ระหว่างเดินผ่านกลุ่มของชายหนุ่มก็เกิดชะงักสายตาของร่างโปร่งเหลือบไปเห็นพวงกุญแจที่ห้อยอยู่กับกระเป๋าใบโปรดของภพใบหน้าเขาเองนั่นร้อนลุ่มเหมือนกาน้ำที่กำลังร้อนทำให้ต้องรีบออกจากตรงนั้นเป็นเร็วที่สุดหัวใจที่ไม่รักดีตอนนี้เต้นแรงแทบจะละทุออกจากอกเขาพยายามข่มใจให้นิ่งแล้วออกจากร้านไป
ย้อนกลับไปในอดีต เสียงบูมยังคงดังก้องสลับกับเสียงร้องเพลงยินดีตอนนี้ชายหนุ่มอยู่กลางวงล้อมของน้องๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดีกับเขาโดยมีเพื่อนทั้งสามยืนรอรับของที่สาวๆเอามาให้ไม่ขาดสายจนกระทั่งวงล้อมนั้นหายไปทีละน้อยจนเหลือคนสุดท้ายที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงและดอกไม้อีกสี่ดอกเป็นอันเข้าใจว่าเอามาให้เพื่อนของเขาทั้งสามด้วยนั้นเอง
“พี่ภพยินดีด้วยนะคะ คือมีคนฝากของมาให้ด้วยค่ะ ” สาวน้อยยื่นถุงและดอกไม้ของเธอให้กับเขา ชายหนุ่มยื่นมือรับของมาถือเอาไว้ก่อนจะเอ่ยออกมา
“ขอบใจมานะผิง ว่าแต่เจ้าของถุงนี้ไม่อยากเอามาให้ด้วยตัวเองบ้างหรอ” เขาพูดกับสาวน้อยที่ตอนนี้กำลังยื่นดอกไม้ให้กับเพื่อนๆของเขาอยู่
“แล้วว เขาอยู่ตรงไหนหรอตอนนี้บอกพี่หน่อย” ชายหนุ่มกระซิบกับสาวน้อยกระทั้งผิงหันกลับไปตรงเสาที่ตอนนี้มีอีกคนซ้อนอยู่ด้านหลังและกำลังชะโงกหน้าออกมองมาทางพวกเขายืนอยู่ คนที่โดนจับได้รีบหมุนตัวหลบออกไปจากตรงนั้นทันที ภพมองตามแผ่นหลังที่เดินฉับออกจากหลังเสาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
กลับมาปัจจุบัน ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาข้างในร้านตัวเองกับกลุ่มเพื่อนด้วยความเร่งรีบเพราะฝนที่สาดกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำให้เขาเองเปียกไปหมดจนทำให้เพื่อนตัวดีพูดแซวกันขำๆ "ไอ่ภพเอ็งเปียกแล้วดูเหมือนลูกเป็ดเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า" เจเจพูดติดตลกกระนั้นก็ทำให้เพื่อนๆ หัวเราะตามไปด้วยก่อนที่จะถูกหญิงสาวหนึ่งเดียวของกลุ่มเอ็ด
"เธอก็ไปว่าภพได้นะนั่นมันเพอร์เฟคแมนของรุ่นตั้งแต่มัธยมจนจบมหาลัย" หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มกล่าวขึ้นแล้วหันไปสั่งเมนูกับพนักงานต่อ สองหนุ่มขนาบข้างสาวสวยกรอกตาไปมาเมื่อเธอพูดจบ
"ขอเฉาก๊วยให้เราด้วยนะ" ชายหนุ่มที่เพื่อน ๆ หัวเราะก่อนหน้าเอ่ยสั่งเมนูกับเพื่อนสาวสวยหญิงสาวพยักหน้าเบาๆรับเป็นอันว่ารับรู้แล้ว กลิ่นกาแฟคั่วหอมฟุ้งไปทั่วร้านร่างสูงกวาดสายตามองรอบๆ ร้านก่อนจะหยุดตรงที่บาร์ริมหน้าต่างความรู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้าทั้งสองทำให้พยายามนึกก่อนจะก้มมองกระเป๋าตัวเอง เหมือนภาพทุกอย่างมันกลับมาเด็กผู้ชายที่หลบหลังเสาในวันนั้นจะใช่ไหม๊นะ ภพสลัดภาพในหัวออกเมื่อพนักงานร้านเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มที่สั่งไว้กับเฉาก๊วยของเขา
กลุ่มเพื่อนของคนตัวสูงพูดคุยกันอย่างออกรสสนุกสนานในเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในอดีตที่พวกเขาร่วมกันมา ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงเหมือนถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้อะไรจนกระทั้งสาวสวยข้างๆสะกิดก่อนกระซิบเบาๆ
“เสน่ห์แรงนะมีแต่คนแอบมอง” ก่อนจะพยักเพยินหน้าไปทางบาร์ริมหน้าต่างที่มีอีกคนนั่งอยู่ ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มเบาๆไปให้คนตรงหน้า ตาโตๆแทบจะถลนออกจากเบ้า หน้าที่แดงระเรื่อเหมือนลูกพีชสุกเห็นแบบนี้แล้วเขาก็อดขำไม่ไหวก่อนที่เพื่อนของคนตัวโปร่งจะเรียกคืนสติแล้วหันกลับไป
“หึ หึ คงใช่แล้วแหละ” ชายหนุ่มพูดเบาๆกับตัวเอง ใบหน้าที่จำได้ตั้งแต่ครั้งนั้นมันไม่ได้เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ แต่แค่อีกคนดูดีขึ้นอาจเพราะกาลเวลาและหน้าที่การงานซึ่งเขาเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
“พึมพำอะไรไอ้เสือ แน๊ะสาวๆโต๊ะไหนอะบอกหน่อยดิ” เจเจเอ่ยแซว คนตัวสูงด้วยท่าทางทะเล้นฉบับคนขี้เล่นก่อนจะโดนหนุ่มน้อยหน้าหวานที่นั่งข้างๆหยิกที่เอว และเอ่ยว่าเพื่อนขี้เล่นคนนี้
“ดับเบิ้ลเจทำไมต้องแซวเพื่อนเห็นมั้ยหน้างี้บึ้งแล้ว “โอ้ยยเจ็บนะภพ” ” หนุ่มน้อยหน้าหวานที่เข้ามาใหม่หยอกล้อตามหลังเพื่อนขี้เล่นก่อนจะโดนคนตัวสูงตีมือโทษฐานไปยืดแก้มของเขา
“ยืดแก้มเราทำไมละ เดี๋ยวเราก็ยืดไอซ์คืนเลยนิลองดูมั้ยหืมมม” ร่างสูงว่าก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเพื่อนตัวเล็ก
กระทั้งร่างโปร่งและเพื่อนของเขาได้ลุกออกจากที่นั่งก่อนจะเดินผ่านโต๊ะที่กลุ่มร่างสูงอยู่ คนน่ารักก็ชะงักก่อนจะเหลือบมองมาที่เขาสายตาหยุดที่กระเป๋าใบโปรดของคนตัวสูง ภพสังเกตุอาการของคนน่ารักที่ตอนนี้กำลังแดงเหมือนลูกพีชสุกก่อนที่ทั้งสองจะรีบเดินออกจากร้านไป
“เด็กเก่าเอ็งหรอวะ” เจเจเอ่ยถามเพื่อนขณะที่ร่างสูงตักเฉาก๊วยเข้าปาก
“ไม่ใช่ แต่คุ้นมากเหมือนเคยเจอที่ไหน ” ภพตอบกลับออกไปทั้งที่ภายในใจมีคำตอบว่าใช่คนนี้แหละที่ตามหามาตลอดสิบปี คนที่เป็นเจ้าของพวงกุญแจหนังสลักชื่อเขาและคนให้ลงไป เพื่อนของร่างสูงพยักหน้ารับและไม่เซ้าซี้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
******
ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ที่เสียสละอันมีค่าเข้ามาอ่านผลงานของหยาดน้ำหวานในครั้งนี้
ฝากทุกท่านติชมได้นะค้าบบ อย่าลืมติดแท็ก #เอกภพคู่ขนาน สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ
***ปล.ยังไม่ตรวจคำผิด***
ถึงแม้แรงดึงดูดจะเหวี่ยงทางขนานให้กลับมาเป็นวงกลมไม่ได้.......แต่แอปเปิ้ลเขียวเปรี้ยวนิดๆก็อร่อยดีนะ
"ขอเฉาก๊วยให้เราด้วยนะ" ชายหนุ่มที่เพื่อน ๆ หัวเราะก่อนหน้าเอ่ยสั่งเมนูกับเพื่อนสาวสวย หญิงสาวพยักหน้าเบาๆรับเป็นอันว่ารับรู้แล้ว คนตัวโปร่งที่เห็นทุกอย่างตั้งแต่เริ่มยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวว่าได้หยุดเวลาเอาไว้ยังไงยังงั้นจนเพื่อนตัวเล็กสะกิดเขาเบา ๆ ถึงรับรู้กับบรรยากาศรอบข้างที่มีแต่กลิ่นอายของผู้มาใหม่ที่กลบกลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วทำไมกันนะ คนตัวโปร่งหันไปมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้นั่งทำหน้างงดูดชาพีชกับจ้วงมัฟฟินอย่างอร่อยก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆกับเขา
"นั่นเพอร์เฟคแมนของหนานนิไม่เห็นนานแล้วนะ" เพื่อนตัวเล็กกระซิบเบาๆราวกับกลัวคนอื่นได้ยินด้วย
"อะ อืมสิบปีได้มั้งก็ตั้งแต่ตอนนั้น" ย้อนกลับไปในอดีต เสียงบูมสลับกับเสียงร้องเพลงยินดีดังก้องบริเวณซุ้มจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3และ6
“เฮ้ยยยินดีด้วยนะโว้ยยจบแล้วพวกเรา” หนึ่งในกลุ่มของนักเรียนชั้นม.6 พูดขึ้นพร้อมกับกระโดดโลดเต้นชูสองแขนขึ้นเหนือหัวก่อนจะกอดคอกันกับเพื่อนที่อยู่ตรงนั้น “เวอร์อีกแล้วเจเจ เดี๋ยวก็เจอก้นอยู่ดีที่มหาลัย อย่าลืมสิเรียนก็คณะเดียวกันเอาอะไรมาแยกย้ายละ อ๋อเว้นเราคนหนึ่ง คนสวยขอไปเจอผู้ใหม่ ๆเบื่อหน้าพวกนาย ” สาวสวยหน้าฝรั่งผมเปียสองข้างพูดขณะรับดอกไม้จากรุ่นน้องที่เข้ามาแสดงความยินดีแต่!! มันไม่ใช่ของเธอยังไงละ ที่จริงแล้วดอกไม้กับถุงพวกนั้นเป็นของเพื่อนของเขาเองผู้ที่มีฉายาว่าเพอร์เฟคแมนของรุ่นที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มสาวๆ ที่ห้อมล้อมตัวชายหนุ่มอยู่
“ผิง คือเราฝากของไปให้พี่เขาได้มั้ย ” เด็กหนุ่มร่างผอมบางสวมแว่นตาหนาเตอะยื่นถุงที่มีเฉาก๊วยกับพวงกุญแจหนังสลักชื่อ “เอกภพ” ตรงกลางส่วนมุมล่างขวาพื้นที่เล็กๆ สลักว่า “ขนาน” เป็นตัวเล็กๆ แทบจะอ่านไม่ออก เพื่อนสาวของเขารับถุงไปก่อนจะเอ่ยว่า
“พี่เขาจบแล้วนะหนาน ทำไมไม่ไปให้เองบ้างจะหลบไปถึงไหน ” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มพูดออกไปเผื่อเพื่อนตัวดีของเขาจะเปลี่ยนใจเอาไปให้ด้วยตัวเอง
“น่า ช่วยมันหน่อยเธอก็รู้ว่าเพื่อนเรามันปอดแหกแค่ไหน ” มู่ลี่ว่าพลางดันหลังเพื่อนสาวของทั้งสองเดินออกจากหลังเสาที่พวกเขายืนอยู่
“เห้ออ พวกแกนิเห็นฉันเป็นอะไร ถึงจะรู้จักพี่ภพก็ใช่ว่าจะอยากเอาไปให้บ่อยๆ เดี๋ยวเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันชอบจะทำไง ผิดผีเลยนะ” ขนานก้มหน้ามองพื้นก่อนจะพูดกับเพื่อนรักของเขา
“นะ ผิงเพื่อนรักครั้งนี้เราอาจจะเจอพี่เขาครั้งสุดท้ายก็ได้ เดี๋ยวเขาก็ไปเรียนที่อื่นแล้ว ” ผิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปตรงไปยังกลุ่มที่มีบุคคลที่สามเพื่อเอาของยินดีไปให้
“ทำไมไม่เอาไปให้เองวะหนาน สุดท้ายที่จะเจอแล้วนะ แก..จะไม่เสียดายทีหลังใช่ไหม๊ที่ทำแบบนี้” มู่ลี่ถามพูดกับเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังส่องดูเพื่อนสาวยืนคุยกับรุ่นพี่ก่อนจะหันมาทางที่เขายืนหลบอยู่ขนานได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กรีบหมุนตัวกลับไปหาเพื่อนตัวเล็กและดึงให้เดินออกจากตรงนั้นไป
กลับมาปัจจุบัน
“หนาน ขนาน ขนาน” วศิฑาเขย่าแขนเพื่อนที่กำลังจ้องมองกลุ่มของชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่คนถูกเรียกดึงสติกลับมาก่อนจะก้มหน้าแล้วพึมพำกับตัวเอง
“เขายิ้มให้เราหรอวะ หรือว่า ไม่หรอกใครมันจะจำได้ตั้งนานแล้วมีแต่เรานี้แหละ” ร่างโปร่งสบัดความคิดออกไปก่อนจะเอ่ยกับเพื่อนสนิท
“มู่ลี่ แกว่าคนเราเจอกันแค่เสี้ยววิจะสามารถจำหน้ากันได้มั้ย ” เขามอบสบตากับเพื่อนเพื่อขอความคิดเห็น มันจะเป็นไปได้มั้ยนะหรือไม่เขาคนนั้นก็แค่แจกยิ้มตามมารยาทคนทั่วไป
“ทำไมเขายิ้มให้แกหรอ คิดมากคนในร้านออกเยอะแยะอาจจะเป็นสาวคนนั้นก็ได้ ” เพื่อนตัวดีพยักเพยินหน้าไปทางสาวสวยที่อยู่มุมหนังสือไม่ไกลจากพวกเขานัก อาจจะเป็นไปได้แต่นาทีนี้เขาขอเข้าข้างตัวเองก่อนก็แล้วกัน ทั้งสองหมุนตัวกลับมาตรงบาร์ที่มีข้าวของวางอยู่ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า คู่เพื่อนรักต่างพากันกินของที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ เสร็จจากนั้นทั้งสองก็พากันออกจากร้านเพื่อกลับที่พักของตัวเอง แต่ระหว่างเดินผ่านกลุ่มของชายหนุ่มก็เกิดชะงักสายตาของร่างโปร่งเหลือบไปเห็นพวงกุญแจที่ห้อยอยู่กับกระเป๋าใบโปรดของภพใบหน้าเขาเองนั่นร้อนลุ่มเหมือนกาน้ำที่กำลังร้อนทำให้ต้องรีบออกจากตรงนั้นเป็นเร็วที่สุดหัวใจที่ไม่รักดีตอนนี้เต้นแรงแทบจะละทุออกจากอกเขาพยายามข่มใจให้นิ่งแล้วออกจากร้านไป
ย้อนกลับไปในอดีต เสียงบูมยังคงดังก้องสลับกับเสียงร้องเพลงยินดีตอนนี้ชายหนุ่มอยู่กลางวงล้อมของน้องๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดีกับเขาโดยมีเพื่อนทั้งสามยืนรอรับของที่สาวๆเอามาให้ไม่ขาดสายจนกระทั่งวงล้อมนั้นหายไปทีละน้อยจนเหลือคนสุดท้ายที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงและดอกไม้อีกสี่ดอกเป็นอันเข้าใจว่าเอามาให้เพื่อนของเขาทั้งสามด้วยนั้นเอง
“พี่ภพยินดีด้วยนะคะ คือมีคนฝากของมาให้ด้วยค่ะ ” สาวน้อยยื่นถุงและดอกไม้ของเธอให้กับเขา ชายหนุ่มยื่นมือรับของมาถือเอาไว้ก่อนจะเอ่ยออกมา
“ขอบใจมานะผิง ว่าแต่เจ้าของถุงนี้ไม่อยากเอามาให้ด้วยตัวเองบ้างหรอ” เขาพูดกับสาวน้อยที่ตอนนี้กำลังยื่นดอกไม้ให้กับเพื่อนๆของเขาอยู่
“แล้วว เขาอยู่ตรงไหนหรอตอนนี้บอกพี่หน่อย” ชายหนุ่มกระซิบกับสาวน้อยกระทั้งผิงหันกลับไปตรงเสาที่ตอนนี้มีอีกคนซ้อนอยู่ด้านหลังและกำลังชะโงกหน้าออกมองมาทางพวกเขายืนอยู่ คนที่โดนจับได้รีบหมุนตัวหลบออกไปจากตรงนั้นทันที ภพมองตามแผ่นหลังที่เดินฉับออกจากหลังเสาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
กลับมาปัจจุบัน ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาข้างในร้านตัวเองกับกลุ่มเพื่อนด้วยความเร่งรีบเพราะฝนที่สาดกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำให้เขาเองเปียกไปหมดจนทำให้เพื่อนตัวดีพูดแซวกันขำๆ "ไอ่ภพเอ็งเปียกแล้วดูเหมือนลูกเป็ดเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า" เจเจพูดติดตลกกระนั้นก็ทำให้เพื่อนๆ หัวเราะตามไปด้วยก่อนที่จะถูกหญิงสาวหนึ่งเดียวของกลุ่มเอ็ด
"เธอก็ไปว่าภพได้นะนั่นมันเพอร์เฟคแมนของรุ่นตั้งแต่มัธยมจนจบมหาลัย" หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มกล่าวขึ้นแล้วหันไปสั่งเมนูกับพนักงานต่อ สองหนุ่มขนาบข้างสาวสวยกรอกตาไปมาเมื่อเธอพูดจบ
"ขอเฉาก๊วยให้เราด้วยนะ" ชายหนุ่มที่เพื่อน ๆ หัวเราะก่อนหน้าเอ่ยสั่งเมนูกับเพื่อนสาวสวยหญิงสาวพยักหน้าเบาๆรับเป็นอันว่ารับรู้แล้ว กลิ่นกาแฟคั่วหอมฟุ้งไปทั่วร้านร่างสูงกวาดสายตามองรอบๆ ร้านก่อนจะหยุดตรงที่บาร์ริมหน้าต่างความรู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้าทั้งสองทำให้พยายามนึกก่อนจะก้มมองกระเป๋าตัวเอง เหมือนภาพทุกอย่างมันกลับมาเด็กผู้ชายที่หลบหลังเสาในวันนั้นจะใช่ไหม๊นะ ภพสลัดภาพในหัวออกเมื่อพนักงานร้านเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มที่สั่งไว้กับเฉาก๊วยของเขา
กลุ่มเพื่อนของคนตัวสูงพูดคุยกันอย่างออกรสสนุกสนานในเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในอดีตที่พวกเขาร่วมกันมา ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงเหมือนถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้อะไรจนกระทั้งสาวสวยข้างๆสะกิดก่อนกระซิบเบาๆ
“เสน่ห์แรงนะมีแต่คนแอบมอง” ก่อนจะพยักเพยินหน้าไปทางบาร์ริมหน้าต่างที่มีอีกคนนั่งอยู่ ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มเบาๆไปให้คนตรงหน้า ตาโตๆแทบจะถลนออกจากเบ้า หน้าที่แดงระเรื่อเหมือนลูกพีชสุกเห็นแบบนี้แล้วเขาก็อดขำไม่ไหวก่อนที่เพื่อนของคนตัวโปร่งจะเรียกคืนสติแล้วหันกลับไป
“หึ หึ คงใช่แล้วแหละ” ชายหนุ่มพูดเบาๆกับตัวเอง ใบหน้าที่จำได้ตั้งแต่ครั้งนั้นมันไม่ได้เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ แต่แค่อีกคนดูดีขึ้นอาจเพราะกาลเวลาและหน้าที่การงานซึ่งเขาเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
“พึมพำอะไรไอ้เสือ แน๊ะสาวๆโต๊ะไหนอะบอกหน่อยดิ” เจเจเอ่ยแซว คนตัวสูงด้วยท่าทางทะเล้นฉบับคนขี้เล่นก่อนจะโดนหนุ่มน้อยหน้าหวานที่นั่งข้างๆหยิกที่เอว และเอ่ยว่าเพื่อนขี้เล่นคนนี้
“ดับเบิ้ลเจทำไมต้องแซวเพื่อนเห็นมั้ยหน้างี้บึ้งแล้ว “โอ้ยยเจ็บนะภพ” ” หนุ่มน้อยหน้าหวานที่เข้ามาใหม่หยอกล้อตามหลังเพื่อนขี้เล่นก่อนจะโดนคนตัวสูงตีมือโทษฐานไปยืดแก้มของเขา
“ยืดแก้มเราทำไมละ เดี๋ยวเราก็ยืดไอซ์คืนเลยนิลองดูมั้ยหืมมม” ร่างสูงว่าก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเพื่อนตัวเล็ก
กระทั้งร่างโปร่งและเพื่อนของเขาได้ลุกออกจากที่นั่งก่อนจะเดินผ่านโต๊ะที่กลุ่มร่างสูงอยู่ คนน่ารักก็ชะงักก่อนจะเหลือบมองมาที่เขาสายตาหยุดที่กระเป๋าใบโปรดของคนตัวสูง ภพสังเกตุอาการของคนน่ารักที่ตอนนี้กำลังแดงเหมือนลูกพีชสุกก่อนที่ทั้งสองจะรีบเดินออกจากร้านไป
“เด็กเก่าเอ็งหรอวะ” เจเจเอ่ยถามเพื่อนขณะที่ร่างสูงตักเฉาก๊วยเข้าปาก
“ไม่ใช่ แต่คุ้นมากเหมือนเคยเจอที่ไหน ” ภพตอบกลับออกไปทั้งที่ภายในใจมีคำตอบว่าใช่คนนี้แหละที่ตามหามาตลอดสิบปี คนที่เป็นเจ้าของพวงกุญแจหนังสลักชื่อเขาและคนให้ลงไป เพื่อนของร่างสูงพยักหน้ารับและไม่เซ้าซี้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
******
ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ที่เสียสละอันมีค่าเข้ามาอ่านผลงานของหยาดน้ำหวานในครั้งนี้
ฝากทุกท่านติชมได้นะค้าบบ อย่าลืมติดแท็ก #เอกภพคู่ขนาน สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ
***ปล.ยังไม่ตรวจคำผิด***
ถึงแม้แรงดึงดูดจะเหวี่ยงทางขนานให้กลับมาเป็นวงกลมไม่ได้.......แต่แอปเปิ้ลเขียวเปรี้ยวนิดๆก็อร่อยดีนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ