เจ้าหญิงของฉัน

-

เขียนโดย POPENGL

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.

  27 ตอน
  4 วิจารณ์
  7,369 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ว่าที่พี่สะใภ้ Pt.1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       ร่างสูงระหงของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ผมยาวสลวยถูกเกล้ามวยเล็กๆ เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานเดินออกมาจากห้องนอนตั้งแต่เช้า ดวงตากลมโตคู่สวยมองไปรอบๆ ห้อง เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม แก้วกาแฟยังคงวางไว้ข้างซ้ายมือเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพี่ชายของเจ้าตัวยังคงคร่ำเคร่งอยู่กับงานตรงหน้า

“<<พี่ป๊อปตื่นเช้าจัง นี่วันหยุดน้า>>”

เสียงใสอันคุ้นหูดังแว่วกระทบโสตประสาทของคนบ้างาน ใบหน้าครึ้มด้วยหนวดเคราหันกลับมาหาคนที่เรียก ปากหยักผุดยิ้มขึ้นจนสุดเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานส่งยิ้มจนตาแทบปิดมาให้

“<<พอดีวันนี้พี่ต้องไปส่งงานลูกค้าที่สาทรน่ะ เลยรีบตื่น>>” เสียงเข้มเว้นเล็กน้อย มือหนาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนเอื้อมมาเขย่ามวยผมเหนือศีรษะของคนเป็นน้องเล่น “<<ว่าแต่เราเหอะ นี่วันหยุดทำไมตื่นเช้าจัง เมื่อคืนร้องไห้ขี้มูกโป่งรึเปล่าเนี่ย ขิๆๆ>>”

“<<พี่ป๊อปอ่ะ>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัด ทำหน้ามู่ทู่ใส่ ฝ่ามือน้อยฟาดลงบนท่อนแขนแกร่งเบาๆ “<<ย้ำจังเลยนะ หนูไม่ได้ขี้แยขนาดนั้นซะหน่อย>>” เสียงใสเว้นเล็กน้อย “<<พี่ป๊อป เลิกเล่นผมหนูได้แล้ว>>” พูดจบมือเล็กยกแขนของคนเป็นพี่ชายออก

“<<ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยใบหม่อน>>” เขาว่าพร้อมกลั้วหัวเราะเบาๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง “<<อื้ม อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะนะ พี่ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งกับขนมปังมาให้ ไม่กินกาแฟใช่ไหมเราน่ะ เอ้าพี่ซื้อชาเย็นมาให้ด้วย>>”

พูดจบมือหนายกแก้วกาแฟขึ้นซดอีกโฮกใหญ่จนหมดแก้วก่อนหันกลับไปทำงานต่อ ไหนๆ ระหว่างรอเวลา ขอรีทัชภาพแรกของงานใหม่ก่อน ขณะเดียวกัน ใบหม่อนเริ่มลงมือละเลียดอาหารมื้อเช้าที่พี่ชายซื้อให้ทั้งข้าวเหนียวหมูปิ้งห้าไม้ ขนมปังเนยน้ำตาล ตบท้ายด้วยชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไปด้วย

เวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง

ร่างสูงใหญ่ห่อหุ้มด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนขากระบอกเล็กตัวเดิมที่ใส่เป็นประจำเดินออกมาจากห้องนอนเล็กใกล้ประตูทางเข้า สะพายกระเป๋าแม็คบุ๊คพร้อมกับบรีฟงานที่ได้รับเข้าไปหาคนเป็นน้องสาวที่กำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่บนโซฟาใหญ่กลางห้อง

“<<ใบหม่อน เดี๋ยวพี่ไปหาลูกค้าก่อนนะ ข้าวเที่ยงถ้าหิวโทร.สั่งร้านข้างล่างได้เลย เบอร์พี่ให้เราแล้วใช่ไหมล่ะ>>”

“<<ให้แล้วล่ะพี่ป๊อป ไม่เป็นไรหรอก ในตู้เย็นมีไข่อยู่ เดี๋ยวหนูเจียวไข่กินเองได้>>” เสียงใสตอบกลับคนเป็นพี่ชาย ดวงตาคู่สวยยังจ้องมองหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือ

“<<อื้ม ถ้าใบหม่อนจะทำอีเลิร์นนิ่งข้าราชการใหม่นะ ทำที่คอมพ์พี่ได้เลย พี่ไม่ได้ล็อกรหัสไว้ พี่ไปแล้วนะคะ ใบหม่อนหน้ากลม>>” พูดจบคนตัวใหญ่เดินหลีกออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะทิ้งท้าย แต่คนโดนล้อกลับไม่ขำด้วย

“<<ล้อหนูหน้ากลมอีกแล้วนะอีพี่ชายบ้า เดี๋ยวเหอะ!>>” ใบหม่อนแหวไล่หลังตามคนที่เพิ่งเดินจากไป จากอารมณ์ดีๆ อยู่กลับต้องมาอารมณ์เสียเพราะโดนล้อตั้งแต่หัววัน ยิ่งนึกถึงยิ่งโมโหไม่หาย

                                                                  ..........................................................................

ใบหม่อนหยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะทำงานไปล้างพร้อมกับจานอาหารเช้าของตัวเองที่อ่างซิงค์หลังครัว พร้อมกับเปิดเพลงป๊อปสมัยนิยมจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสร้างบรรยากาศไปด้วย หญิงสาวใช้เวลาล้างไม่นานนักเพราะเมื่อคืนวานคนเป็นพี่ชายล้างไว้ให้หมดแล้ว หญิงสาวเริ่มสอดส่ายสายตามองหาอะไรทำเผื่อเป็นการแบ่งเบาพี่ชายได้บ้าง แต่แล้วเห็นไม้กวาดพร้อมที่ตักวางอยู่หัวมุมระหว่างครัวกับระเบียง ร่างสูงระหงเดินไปหยิบไม้กวาดพร้อมที่ตักผงกวาดพื้นตั้งแต่หลังครัว ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงห้องนอนของตัวเองและห้องนอนของพี่ชาย

ร่างสูงระหงเดินถือไม้กวาดรอบๆ เตียงนอนใหญ่กลางห้อง แอบอึดอัดแทนคนเป็นพี่ชายไม่น้อยเมื่อเห็นว่าภายในห้องค่อนข้างแคบกว่าห้องนอนตัวเอง ถึงแม้จะเคยนอนค้างด้วยเมื่อตอนมากับครอบครัวก็ตาม

‘หูยพี่ป๊อป ห้องเล็กขนาดนี้พี่นอนเข้าไปได้ไงเนี่ย’ หญิงสาวนึกในใจ

ดวงตากลมโตคู่สวยมองไปรอบๆ ห้องที่รายล้อมไปด้วยตู้เสื้อผ้าพร้อมกองเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง โต๊ะทำงานเล็กๆ พร้อมชั้นวางซีดีเพลง ทีวีติดผนังตรงข้ามเตียงนอน ชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือจำนวนมากและกรอบรูปถ่ายเก่าตั้งแต่สมัยเรียน จนไปสะดุดตากับรูปรูปหนึ่ง มือเล็กเอื้อมหยิบภาพนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ จำได้ว่าเป็นรูปที่ถ่ายคู่กับพี่ชายเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนเรียนปี 3 เห็นตัวเองกำลังเอียงคอฉีกยิ้มสุดริมฝีปากยืนคู่กับคนเป็นพี่ชายที่ยืนยิ้มน้อยๆ ก่อนวางกลับคืนที่เดิม กำลังจะกลับไปหยิบไม้กวาดมากวาดต่อ แต่แล้วก็ต้องสะดุดตากับรูปถ่ายอีกรูปหนึ่ง

รูปเด็กชายวัยราวเก้าขวบกำลังจูงแขนเด็กหญิงกำลังส่งยิ้มมาให้กล้อง ถึงแม้สีจะค่อนข้างซีดจางลงตามอายุของภาพแต่ยังคงเห็นทุกอย่างในภาพได้ชัดเหมือนเดิม มือเล็กคว้าขึ้นมาดูใกล้ๆ เห็นสีหน้าของตัวเองกำลังฉีกยิ้มอย่างร่าเริงบ่งบอกความรู้สึกในตอนนั้น กลีบปากเรียวเล็กคลี่ยิ้มบางๆ พร้อมกับหยาดน้ำตาใสไหลรินอาบพวงแก้ม รู้สึกอบอุ่นและตื้นตันในหัวใจ ย้อนนึกถึงวัยเด็กที่เจ้าตัวติดพี่ชายเป็นอย่างมากตั้งแต่จำความได้ มาจนถึงวันนี้ วันที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

ก่อนจะรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปมากกว่านี้ มือเล็กค่อยๆ วางกรอบรูปลง หันกลับไปหยิบไม้กวาดขึ้นมาเตรียมตัวกวาดต่อ แต่ดวงตากลมโตคู่สวยแอบเหลือบมองไปที่ผนังข้างตู้เสื้อผ้า เห็นกีตาร์ไฟฟ้า Gibson SG สีแดงสดตัวเดิมแขวนบนขาตั้งติดผนังคู่กับกีตาร์โปร่ง Takamine ตัวเดิมที่เห็นมาตั้งแต่ตัวเองเรียนชั้นมัธยมต้น นึกถึงภาพความทรงจำเมื่อครั้งที่ตัวเองไปดูพี่ชายตัวเองเล่นในงานประกวดดนตรีระดับจังหวัดกับวงดนตรีที่พี่ชายและเพื่อนๆ ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา ภาพเด็กหนุ่มในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมยืนสะพายกีตาร์สีแดงตัวนี้บรรเลงไปกับเพื่อนร่วมวงอย่างมีความสุขยังคงติดตาตรึงใจเจ้าตัวมาจนถึงตอนนี้

‘พี่ป๊อปยังเล่นกีตาร์อยู่ไหมน้า ดูสิ ฝุ่นเกาะหมดแล้ว’ ใบหม่อนนึกในใจ มือเล็กเอื้อมไปลูบๆ บนบอดี้สีแดงสดที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกาะจนหนา บ่งบอกถึงระยะเวลายาวนานแค่ไหนที่ไม่ได้ถูกหยิบมาเล่น จริงอยู่ที่เจ้าตัวเล่นกีตาร์ไม่เป็นเลย แต่ครั้งใดที่ได้เห็นพี่ชายเล่นกีตาร์แล้วก็รู้สึกมีความสุขและสนุกไปด้วยทุกครั้ง แต่แล้วสติของเจ้าตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง มือเล็กเริ่มลงมือกวาดห้องนอนของพี่ชายต่อจนเสร็จก่อนผละไปทำในห้องน้ำต่ออย่างอารมณ์ดี

แต่เมื่อเห็นสภาพในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยคราบตะใคร่และกลิ่นที่ไม่ค่อยดีต่อจมูกเท่าไหร่นัก รอยยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดีของหญิงสาวหุบลงแทบจะทันที จมูกเล็กโด่งเชิดรั้นย่นขึ้นอย่างอิดหนาระอาใจ มองไปทางไหนก็รู้สึกขัดใจไปหมด เริ่มอดรนทนไม่ไหวรีบปรี่เข้าไปหยิบแปรงขัดและขวดน้ำยาขัดห้องน้ำที่อยู่ในสภาพใหม่เอี่ยมเหมือนกับไม่เคยเปิดมาก่อน ลงมือล้างห้องน้ำให้ก่อนที่จะรู้สึกระอาคนเป็นพี่ชายไปมากกว่านี้...

‘พี่ป๊อปนะพี่ป๊อป ไม่คิดจะล้างห้องน้ำบ้างเลยใช่ไหม เดี๋ยวเหอะๆ กลับมาโดนหนูบ่นแน่ๆ’

                                                            ...............................................................................

ตกบ่าย

ป๊อปก้าวลงจากประตูฝั่งคนขับรถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำหลังจากดับเครื่องยนต์เสร็จ มือหนาเปิดประตูด้านหลังฝั่งคนขับหยิบกระเป๋าแม็คบุ๊คคู่กายและของที่ซื้อมาใหม่ทั้งกับข้าวที่เตรียมไว้สำหรับทำอาหารมื้อเย็นวันนี้และถุงพลาสติกประทับโลโก้แอปเปิ้ลหุ้มลังกระดาษใบใหญ่ลงจากรถ รู้ตัวอีกทีมาถึงลิฟต์ที่กำลังพาขึ้นไปยังชั้นที่ 23 แล้ว

คนตัวใหญ่วางของในมือข้างหนึ่งวางของลงกับพื้นก่อนหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแตะพร้อมกับผลักประตูเปิดเข้าไป ก้มตัวลงหยิบของที่วางลงขึ้นมา เดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ พร้อมเอื้อมมือไปปิดประตูเบาๆ ก้มลงถอดรองเท้าผ้าใบคูโปรดเก็บบนชั้นวาง นัยน์ตาคมเข้มมองไปทางโถงกลางเห็นทีวียังเปิดอยู่ หันกลับมามองร่างสูงระหงของน้องสาวทอดตัวนอนบนโซฟาใหญ่กลางห้อง ดวงตากลมโตคู่สวยปิดสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอตอบกลับมาเท่านั้น สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินยังคามืออยู่อย่างนั้น มือหนาคว้ารีโมตบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาขึ้นมากดปุ่มปิดให้

“เฮ้อ หลับซะแล้วน้องกู ทีวีก็ไม่ปิด” เขาบ่นพึมพำเบาๆ ส่ายหน้าไปมา แอบลอบมองใบหน้าสวยหวานอย่างไม่วางตา ยามเมื่อหญิงสาวนอนหลับช่างน่ารักน่าเอ็นดูแท้

เขาเดินไปที่เคาน์เตอร์ข้างโต๊ะทำงานเงียบๆ ค่อยๆ วางของลงอย่างเบามือ เว้นแต่ของสดที่ต้องเอาไปใส่ตู้เย็น หลังจากเก็บของเสร็จร่างสูงรีบพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำก่อนหลังจากต้องออกไปผจญกับอากาศร้อนๆ ข้างนอกทั้งส่งงานลูกค้าและแวะซื้อของก่อนกลับ

ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นอยู่บ้านเดินออกจากห้องนอนของตัวเองหลังจากอาบน้ำเสร็จ พาตัวเองมานั่งหน้าโต๊ะทำงาน มือหนาเปิดไอแม็คตรงหน้าเตรียมตัวทำงานต่อ แต่แอบหันไปมองคนที่ยังนอนหลับอยู่ก่อนเพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆ ก่อนเริ่มลงมือทำงาน

ใบหม่อนลืมตาขึ้นช้าๆ หลังจากเผลอหลับไปไม่รู้ตัว ร่างสูงระหงผุดลุกขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ตาขับไล่อาการงัวเงียออก เห็นทีวีติดผนังตรงหน้าถูกปิดไปแล้ว รู้ทันทีเลยว่าพี่ชายตัวเองกลับมาแล้ว ร่างสูงระหงลุกขึ้นด้วยท่าทางงัวเงียเดินไปยังโต๊ะทำงาน เห็นคนเป็นพี่ชายนั่งทำงานอยู่

“<<กลับมาแล้วเหรอพี่ป๊อป>>”

ป๊อปหันไปหาเจ้าของเสียงใสที่เพิ่งเอ่ยถามออกมา เลือกที่จะไม่ตอบคำถามนี้แต่ย้อนถามกลับไป “<<อ้าวตื่นแล้วเหรอใบหม่อน พี่เห็นเราหลับไปเลยปิดทีวีน่ะ>>”

ใบหม่อนไม่พูดอะไรอีก เดินตรงไปยังอ่างซิงค์หลังครัวล้างหน้าล้างตาขับไล่อาการง่วงอยู่สักพักก่อนเดินกลับมาหยิบเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวมานั่งข้างๆ คนเป็นพี่ชายที่นั่งทำงานอยู่

“<<ยังนอนขี้เซาไม่เปลี่ยนเลยนะใบหม่อน>>” ป๊อปเอ่ยพร้อมเอื้อมมือมาเขย่ามวยผมเล็กๆ เหนือศีรษะของคนเป็นน้องสาว

“<<อ้าวก็ง่วงอ่ะพี่ป๊อป>> ใบหม่อนว่าเสียงกระเง้ากระงอด “<<เลิกเล่นผมหนูได้แล้วนะพี่ป๊อป>>”

ป๊อปยอมปล่อยมือออกแต่โดยดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อเห็นน้องสาวเกล้ามวยผมแล้วรู้สึกมันเขี้ยวอยากจับเล่นทุกที เขากระแอมเล็กน้อยก่อนเอ่ยถามกลับไป “<<ทำอะไรมาล่ะถึงง่วง หืม>>”

“<<ก็เมื่อเช้าหนูทำงานบ้านน่ะสิพี่ป๊อป ทั้งล้างจาน ไหนจะกวาดห้องถูห้อง ล้างห้องน้ำให้พี่อีกเนี่ย>>” ใบหม่อนจาระไนให้พี่ชายฟังอย่างละเอียดว่าตัวเองทำอะไรบ้างตลอดครึ่งวันเช้า ขณะที่คนนั่งรับฟังถึงกับสะดุ้งด้วยอาการตกตะลึง ไม่คิดว่าน้องสาวจะทำให้ถึงขนาดนี้

“<<โห ทำขนาดนี้เลยเหรอใบหม่อน>>”

“<<ก็มันว่างๆ อ่ะพี่ป๊อป อีกอย่างหนูมาอยู่กับพี่ก็เกรงใจด้วย หนูเลยทำงานบ้านดีกว่า>>” ใบหม่อนย้อนกลับมา สีหน้าเริ่มจริงจังขึ้นกว่าเดิม “<<พี่ป๊อปเคยล้างห้องน้ำบ้างไหมเนี่ย หนูเข้าไปล้างที อี๋ สกปรกมาก ตะใคร่ขึ้นดำปึ๊ดเลย เหม็นก็เหม็น หนูถามจริงๆ เหอะ ถ้าหนูไม่มาอยู่ด้วยนี่พี่จะทำไหมเนี่ย ห๊า!!!>>”

ป๊อปถึงกับหูชาเมื่อโดนน้องสาวว่าให้ รู้สึกถึงคำว่ามืดแปดด้าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาโต้แย้งได้เลยเพราะตัวเองแทบจะไม่ล้างห้องน้ำเลยถ้าไม่สกปรกจริง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่ได้ล้างห้องน้ำมาได้เกือบจะสี่เดือนแล้ว

“<<พี่ขอโทษนะคะใบหม่อน>>” ป๊อปออกปากขอโทษคนเป็นน้องสาว น้ำเสียงแสดงความรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย

“<<พี่ป๊อปนี่น้า จริงๆ เลย ยังต้องให้หนูตามเก็บตามเช็ดให้เหมือนเด็กๆ อีก>>” ใบหม่อนว่าให้แบบไม่จริงจังนัก จมูกเล็กย่นขึ้นอย่างระอาใจหลังจากได้ยินคำขอโทษจากปากคนตรงหน้า

คนโดนต่อว่าพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าเข้มยังมีร่องรอยความรู้สึกผิดให้เห็นอยู่ ก่อนลุกขึ้นหยิบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ประทับโลโก้แอปเปิ้ลแหว่งบนเคาน์เตอร์และส่งให้กับคนที่เพิ่งต่อว่าเขาไปเมื่อสักครู่

“<<อ่ะใบหม่อน พี่ซื้อให้ ดูซิ ชอบไหม>>” เขาพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดีทั้งๆ ที่ยังรู้สึกผิดอยู่

ใบหม่อนรีบคว้าถุงขนาดใหญ่จากมือหนาของคนเป็นพี่ ลุกขึ้นเดินกลับไปที่โซฟาใหญ่กลางห้องอีกครั้ง มือเล็กค่อยๆ คว้ากล่องกระดาษอาร์ตใบใหญ่ออกมาจากถุง ดวงตากลมโตคู่สวยถึงกับลุกวาวเมื่อได้เห็นของตรงหน้า

“<<พี่ป๊อปซื้อแม็คบุ๊คให้หนูเหรอ ขอบคุณมากๆ น้าพี่ป๊อป น่ารักจังเลยอ่าพี่ชายของหนู>>” เสียงใสเอ่ยขอบคุณเป็นพี่ชาย

ป๊อปถึงกับไปไม่ถูกเมื่อจู่ๆ น้องสาวเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว เมื่อสักครู่ก่อนหน้าสาวเจ้ายังบ่นเขาจนหูชา แต่ตอนนี้กลับมาเอ่ยขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงและกิริยาท่าทางสดใสร่าเริง ขณะเดียวกัน หญิงสาวแกะกล่องกระดาษในมืออย่างช้าๆ หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวถี่ด้วยอาการตื่นเต้นและลุ้นอยู่ไม่น้อย และแล้ว Macbook Pro 13’ Silver รุ่นใหม่ล่าสุดถูกแกะออกจากถาดรองอย่างทะนุถนอม

“<<หูยพี่ป๊อป Macbook Pro ด้วยอ่า>>” เสียงใสเอ่ยกับคนเป็นพี่ชายด้วยอาการตื่นเต้นไม่น้อย

“<<ชอบไหมล่ะใบหม่อน>>” ป๊อปถามสั้นๆ ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุขเมื่อเห็นกิริยาท่าทางดีใจของน้องสาวคนเดียวของเขาคนนี้

“<<ชอบสิพี่ป๊อป ขอบคุณมากๆ นะคะพี่ป๊อปที่ซื้อให้>>” ใบหม่อนยกมือไหว้ขอบคุณคนเป็นพี่ชายอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้แม็คบุ๊คเครื่องใหม่วางอยู่บนหน้าตักของเจ้าตัวแล้ว

ป๊อปลอบยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าบ่งบอกอาการเห่อของน้องสาว “<<ถ้าชอบพี่ก็ดีใจแล้วล่ะใบหม่อน พี่ตั้งใจซื้อให้เราจริงๆ>>”

“<<แพงไหมอ่าพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนย้อนถามกลับมา ดวงตาคู่สวยจ้องมองรอคำตอบอย่างตื่นเต้น

“<<สี่หมื่นสองน่ะ ถูกกว่าไอโฟนของเราอีกนะ>>” ป๊อปเอ่ยตอบเสียงเรียบๆ พร้อมกับชี้มือไปที่สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินรุ่นท็อปที่วางอยู่ข้างร่างบางของอีกฝ่าย

“<<ของพี่ป๊อปด้วยแหละ>>” ใบหม่อนย้อนให้พลางเพยิดหน้าส่งสายตาไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกันแต่เป็นสีดำที่วางบนโต๊ะทำงานที่คนเป็นพี่ชายนั่งอยู่

“<<ก็สี่หมื่นแปดทั้งคู่นี่แหละ จำได้ว่าพี่ออกเงินให้เราด้วยนี่หว่าครึ่งนึงอ่ะ>>” ป๊อปไม่ยอมแพ้น้องสาวง่ายๆ แอบพาดพิงเมื่อตอนที่น้องสาวของเขาซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่เขาช่วยออกเงินให้ตอนลงมาเยี่ยมเมื่อสี่เดือนที่แล้ว

หลังจากนั้นใบหม่อนเริ่มสำรวจแม็คบุ๊คเครื่องใหม่ป้ายแดงที่ได้รับจากคนเป็นพี่ชายอย่างตื่นเต้น มือเล็กค่อยๆ เปิดหน้าจอและเปิดเครื่องทดลองเล่นฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ป๊อปยังลอบมองไปยิ้มไปอย่างมีความสุขเมื่อเห็นสาวเจ้าออกอาการเห่อของใหม่เหมือนกับเด็กๆ รู้สึกมีความสุขหลังจากที่เขายอมจ่ายเงินราวๆ สี่หมื่นกว่าบาทเพื่อซื้อให้กับน้องสาวคนเดียวคนนี้

‘แค่เห็นใบหม่อนมีความสุข พี่ก็มีความสุขแล้วล่ะค่ะ’ เสียงในใจแว่วขึ้นมาในสามัญสำนึกของชายหนุ่ม ยิ่งเห็นกิริยาท่าทางของคนเห่อของก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขาพองโตตามไปด้วย

                                                                ...........................................................................

“<<ใบหม่อน วันนี้พี่ซื้อมะเขือมาด้วย เห็นเราอยากกินตำมะเขือไม่ใช่เหรอ>>” ป๊อปเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้มือไปที่ถุงมะเขือเปราะที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์พร้อมกับเครื่องส้มตำอื่นๆ ที่ซื้อติดมาด้วย

หญิงสาวหันมามองตามเสียงของคนเป็นพี่ชาย นัยน์ตาคู่สวยลุกวาวขึ้นอย่างตื่นเต้น “<<จริงเหรอพี่ป๊อป>>”

ยังไม่ทันที่ป๊อปจะตอบอะไร เจ้าของร่างสูงระหงรีบวางแม็คบุ๊คและลุกเดินมาที่เคาน์เตอร์วางของ มือเล็กคว้าถุงมะเขือและเครื่องส้มตำขึ้นมาดูใกล้ๆ อย่างตื่นเต้น “<<หูย พี่ป๊อปรู้ใจหนูจริงๆ เลย ว่าแต่จะให้หนูตำเองไหมอ่ะ>>”

“<<พี่ลืมบอกเราเลย วันนี้พี่พัชรแฟนพี่จะมาค้างด้วย ใบหม่อนอยากชิมฝีมือพี่พัชรไหมล่ะ>>” เสียงเข้มย้อนถามกลับไป พูดจบปากหยักได้รูปยกยิ้มขึ้น

หัวใจดวงน้อยของสาวเจ้ายิ่งพองโตขึ้นเมื่อได้ยินคำถามจากปากของคนเป็นพี่ชาย “<<จริงปะพี่ป๊อป พี่พัชรจะมาค้างด้วยเหรอ ดีใจจังเลยอ่ะพี่ป๊อป>>” เสียงใสแฝงความร่าเริงเอ่ยขึ้นมา

ป๊อปพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้ รู้อยู่แล้วว่าใบหม่อนสนิทกับแฟนสาวของเขามากตั้งแต่แรกเจอเมื่อเขาพาไปบ้านครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้วตั้งแต่ตอนเรียนปีสาม เขายังจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่คบกัน เมื่อไปถึงเขายังแปลกใจที่น้องสาวของเขาให้ความสนิทสนมกับแฟนสาวอย่างง่ายๆ เพราะปกติแล้วใบหม่อนไม่ยอมให้ความสนิทสนมกับคนแปลกหน้าง่ายๆ และค่อนข้างมีระยะห่างพอสมควร กว่าจะสนิทสนมกับใครได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเช่นเดียวกับที่เพื่อนๆ ของเขาเคยเจอมาแล้ว

ใบหม่อนเริ่มลงมือเตรียมอาหารมื้อเย็นไปฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี ยิ่งนึกถึงแขกพิเศษที่จะมาค้างคืนด้วยยิ่งตื่นเต้นเป็นพิเศษ

สักพักหนึ่ง สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำส่งเสียงเรียกเข้าพร้อมกับสั่นรัวๆ หน้าจอปรากฎภาพใบหน้าสวยหวานของคนที่คิดถึง นิ้วมือหนารีบสไลด์รับและยกขึ้นแนบหูอย่างรวดเร็ว

ป๊อป : [[ฮัลโหลพัชร ว่าไง]]

พัชร : [[ป๊อปอยู่ไหนแล้วอ่ะ นี่เค้ามาถึงคอนโดฯ ป๊อปแล้วน้า]]

ป๊อป : [[เราอยู่บนห้อง เดี๋ยวลงไปรับนะ]]

พัชร : [[จ้า ไม่ต้องรีบนะป๊อป เค้ารอได้ เนี่ยเค้าเพิ่งได้ที่จอดรถอ่ะ เจอกันนะคะที่รัก]]

หลังจากวางสายจากแฟนสาว คนตัวใหญ่ลุกจากโต๊ะทำงานเตรียมตัวลงไปรับคนรัก ไม่ลืมที่จะหันไปบอกกับน้องสาวก่อน

“<<ใบหม่อน เดี๋ยวพี่มานะ>>” เสียงเข้มเว้นเล็กน้อย “<<ลงไปรับพี่พัชรน่ะ>>”

ใบหม่อนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ขณะที่ป๊อปรีบคว้าคีย์การ์ดกับกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนเดินออกจากห้องไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องนัก นิ้วมือหนากดสั่งให้ลิฟต์พาตัวเองลงไปยังชั้นล่างสุด ในใจภาวนาให้ลิฟต์ลงไปเร็วๆ ไม่อยากให้คนที่ตัวเองคิดถึงต้องรอนาน รู้ตัวอีกทีลิฟต์พาเขาลงมายังชั้นล่างสุดแล้ว

ร่างสูงเดินออกมาจากลิฟต์ไปยังลานจอดรถในส่วนของบุคคลภายนอก สอดส่ายสายตามองหารถเก๋งคู่ใจของคนรักท่ามกลางรถหลายๆ คันที่จอดอยู่อย่างละลานตาไปหมด กระทั่งเห็นรถเก๋ง Honda Civic RS สีดำที่คุ้นตาจอดห่างออกไปไม่ไกลนัก เขารีบเดินเข้าไปหารถเก๋งเป้าหมาย เห็นร่างบางในชุดเสื้อซีทรูสีดำแขนยาว สวมกางเกงยีนขาม้าเอวต่ำคลุมทับรองเท้าบูทส้นสูงหนังสีดำกำลังก้มลงหยิบของจากเบาะหลังอยู่

ป๊อปนึกสนุก กะจะแกล้งให้แฟนสาวตกใจเล่นสักหน่อย เขาค่อยๆ เดินอ้อมผ่านรถอีกคันที่จอดอยูเคียงข้าง เดินไปยังท้ายรถของคนที่กำลังก้มลงหาของ ย่องเข้าไปยืนเคียงข้างอีกฝ่ายเงียบๆ ก่อนแกล้งยืนนิ่งๆ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนจากเรือนกายของอีกฝ่ายที่โชยมาเตะจมูกเขาอย่างจัง สักพักหนึ่ง ร่างบางเงยขึ้นมาพร้อมกับสัมภาระในมือพร้อมกับปิดประตูห้องโดยสารตอนหลัง ใบหน้าสวยหวานหันมาปะทะกับใบหน้าของคนที่กำลังคิดถึงเข้าอย่างจัง

“อ๊าย” หญิงสาวร้องเสียงหลงดังลั่นด้วยอาการตกใจ ไม่คิดว่าคนที่คิดถึงจะแกล้งกันได้ขนาดนี้ นึกหมั่นไส้ขึ้นมาในใจ และแล้ว….

“โอ๊ย!” ป๊อปถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเกิดอาการปวดหนึบๆ ที่เท้าขวา รีบก้มลงดู เห็นรองเท้าบูทหนังสีดำของคนรักเหยียบเหนือเท้าของเขาเต็มๆ

“นี่แน่ะ ชอบแกล้งเค้านักใช่ไหมป๊อป” พัชรว่าเสียงลอดไรฟันอย่างหมั่นไส้ก่อนชักเท้าออก ทิ้งความเจ็บปวดให้กับคนที่เพิ่งแกล้งเจ้าตัวให้ทรมานเล่นๆ ก่อนยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมและถุงกับข้าวให้กับคนขี้แกล้งคนนี้

“นี่ป๊อป ถือของให้เค้าด้วยเลย”

ป๊อปรับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กและถุงกับข้าวจากแฟนสาวแต่โดยดี ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่เขาเพิ่งแกล้งคนรักไปก่อนเดินนำอีกฝ่ายที่หอบกระเป๋าแม็คบุ๊คกับกระเป๋าใส่ของจุกจิกตามประสาผู้หญิงไปยังลิฟต์ที่อยู่ห่างออกไปอีกพอสมควร

“พัชร ซื้ออะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะเลยเนี่ย” ป๊อปอดสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นถุงกับข้าวในมือ

“ก็มื้อเย็นวันนี้ไงล่ะป๊อป เดี๋ยวไม่อิ่ม” เสียงหวานเอ่ยตอบคนรักพร้อมกับส่งยิ้มชวนละลายให้

“อื้ม พัชรมาก็ดีเลย วันนี้เราซื้อมะเขือมา น้องเราอยากกินตำมะเขือฝีมือพัชรน่ะวันนี้” ป๊อปได้ทีรีบไหว้วานให้คนรักตำส้มตำมะเขือให้น้องสาวของเขากินซะเลย

“จริงเหรอป๊อป” พัชรย้อนถามกลับมาด้วยอาการตื่นเต้นไม่น้อย “น้องใบหม่อนยังอยากกินส้มตำฝีมือเค้าเหรอ ได้สิเดี๋ยวเค้าตำให้ เอาให้แซบๆ เลยล่ะ สนไหมล่ะป๊อป”

“สนสิครับ ฝีมือที่รักทำทั้งทีจะปฏิเสธได้ไงล่ะหืม” เสียงเข้มย้อนกลับไป แอบยิ้มกรุ้มกริ่มเล็กๆ “เนี่ยรู้ไหม น้องเราตื่นเต้นใหญ่เลยล่ะพอเราบอกว่าพัชรจะมาค้างด้วย”

“จริงสิป๊อป” เสียงหวานเอ่ยอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตลุกวาวขึ้น “เค้าก็อยากเจอน้องใบหม่อนเหมือนกัน ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ”

“แหม พูดซะยังกับว่าไม่ได้เจอกันนานเลยนะพัชร” ป๊อปรีบสวนกลับไป เพราะจำได้ว่าเมื่อตอนที่น้องสาวลงมาเยี่ยม ก็ได้เจอกันด้วย “พัชรเพิ่งเจอกับน้องเราเมื่อสี่เดือนที่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“แหะๆ ก็เค้าลืมนี่นา” พัชรยิ้มแก้เขินเมื่อถูกแฟนหนุ่มย้อนให้

รู้ตัวอีกทีทั้งสองเดินมาถึงลิฟต์แล้ว นิ้วมือเล็กของหญิงสาวกดปุ่มสั่งการลิฟต์ให้คนรักที่ตอนนี้มือไม่ว่างทั้งสองข้าง เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ ลิฟต์พาทั้งสองมายังชั้นที่หมายแล้ว

“พัชร ถือถุงกับข้าวให้เราหน่อย เดี๋ยวหยิบคีย์การ์ดก่อน” ชายหนุ่มยื่นถุงกับข้าวให้กับคนรัก ก่อนล้วงมือหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทาบเซ็นเซอร์ พลันได้ยินเสียงประตูปลดล็อก มือใหญ่จับลูกบิดเปิดประตูเดินนำหน้าแฟนสาวเข้าไป

“ป๊อป เค้าฝากวางของหน่อย เค้าถอดรองเท้าก่อน” พัชรเอ่ยกับแฟนหนุ่มพร้อมกับส่งสัมภาระให้

“อืมๆ รู้ว่าถอดยากก็ยังจะใส่มาอีกนะรองเท้าบูทน่ะ” เสียงเข้มว่าให้แบบไม่จริงจังก่อนเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวก้มลงเลิกขากางเกงยีนขึ้น ปลดซิปถอดรองเท้าบูทหนังสีดำที่สวมอยู่ออกวางเคียงข้างรองเท้าผ้าใบคู่โปรดของเจ้าของห้อง ก่อนเดินตามไปหาคนรักในเวลาต่อมา อีกด้านหนึ่ง น้องสาวของเจ้าของห้องกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นอยู่ที่ครัวหลังเคาน์เตอร์ท้ายห้อง

“<<ใบหม่อน>>” ป๊อปออกปากเรียกคนที่กำลังเตรียมกับข้าวอยู่ “<<มาหาพี่หน่อย>>”

ใบหน้าสวยหวานบนโครงหน้ากลมกึ่งรูปไข่หันกลับมาตามเสียงเรียกของพี่ชาย ดวงตากลมโตคู่สวยมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “<<อิหยังพี่ป๊อป>>”  

พูดจบร่างสูงระหงในชุดอยู่บ้านพร้อมแขวนผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากเคาน์เตอร์หลังครัว มุ่งมาหาคนเป็นพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง

 “<<ใบหม่อน คืนนี้พี่พัชรจะมาค้างคืนกับพวกเราด้วย ดีใจไหม>>”

“<<ดีใจสิพี่ป๊อป>>” เสียงใสตอบอย่างร่าเริง ก่อนหันไปยกมือไหว้ว่าที่พี่สะใภ้ “สวัสดีค่ะพี่พัชร คิดถึงจังเลย หนูขอกอดหน่อยสิ” พูดจบกลีบปากอวบอิ่มสวยได้รูปคลี่ยิ้มจนสุดเผยให้เห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟัน ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิ บ่งบอกถึงอาการดีใจเป็นที่สุด

ดวงตาคู่สวยของผู้มาใหม่มองเจ้าของเสียงใสอย่างประเมินเล็กๆ รู้สึกได้ทันทีว่าน้องสาวของคนรักสวยขึ้นผิดหูผิดตาจากที่เจอกันเมื่อครั้งก่อน และวันนี้ยังเกล้ามวยผมอีก ทำให้ดูน่ารักกว่าเดิม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนรักถึงหวงน้องสาวคนนี้นัก

“ได้จ้าน้องใบหม่อน” เสียงหวานเอ่ยอนุญาต ทั้งสองต่างคนต่างสวมกอดกันด้วยอาการดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ป๊อปลอบมองไปยิ้มไปอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นน้องสาวกับคนรักกอดกัน หลังจากทั้งสองสาวผละออกจากกันแล้ว

“น้องใบหม่อนสวยขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะเนี่ย” พัชรอดออกปากชมคนตรงหน้าไม่ได้

“หูยพี่พัชรก็ชมเกินไป หนูก็เหมือนเดิมแหละพี่” ใบหม่อนออกอาการเขินหลังได้รับคำชม เริ่มพาดพิงถึงบุคคลที่สามอย่างพี่ชายแท้ๆ ของตัวเอง “พี่พัชรสวยกว่าหนูอีก ไม่งั้นพี่ป๊อปคงไม่หลงพี่พัชรหัวปักหัวปำขนาดนี้หรอกค่ะ”

คนโดนพาดพิงลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม ยอมรับตามคำที่น้องสาวเอ่ยถึง เพราะตั้งแต่คบกันมาถึงวันนี้ เป็นเวลาใกล้จะครบรอบสิบสองปีแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยิ่งทำให้เขาประทับใจทุกครั้งที่ได้เจอ ยิ่งคบกันนานยิ่งรักกันมากขึ้นจนไม่เคยคิดจะนอกใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่แล้วเสียงหัวใจของเขาเรียกร้องให้แสดงออกว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากขนาดไหน ใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราค่อยๆ ยื่นเข้าไปใกล้คนรัก ก่อนแอบประทับรอยจูบบนพวงแก้มนุ่มเบาๆ

พัชรถึงกับรู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้าทันทีที่โดนจูบจนหน้าแดง ยิ่งแฟนหนุ่มขโมยจูบต่อหน้าบุคคลที่สามก็ยิ่งทำให้อายมากกว่าเดิม เจ้าตัวจึงแสดงปฏิกิริยาตอบโต้กับคนรักด้วยการฟาดลงบนท่อนแขนแกร่งอย่างเต็มรัก

“โอ๊ย” ป๊อปถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเกิดอาการเจ็บร้อนวาบอย่างจัง

“นี่มาขโมยจูบเค้าแบบนี้ได้ไง ไม่อายน้องอายนุ่งบ้างเหรอไงห๊า!” เสียงหวานแหวใส่คนขโมยจูบ ดวงตากลมโตคู่สวยส่งค้อนให้อีกหนึ่งที ทำเอาคนขโมยจูบถึงกับหน้าชาดิก ใบหม่อนถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นพี่ชายออกอาการหงอถึงขนาดนี้

ในสายตาของใบหม่อนตั้งแต่จำความได้ ว่าที่พี่สะใภ้คนนี้ยิ่งสวยกว่าวันแรกที่เจอกัน กับเรือนร่างผอมบอบบางแต่เตี้ยกว่าเจ้าตัวพอสมควร ผิวขาวละเอียดราวงาช้างตัดกับผมยาวสลวยสีดำสนิท ใบหน้ารูปไข่เรียวยาวกับเครื่องหน้าสวยหวานหยาดเยิ้ม ดวงตากลมโตคู่สวยภายใต้ขนคิ้วบางๆ รับกับจมูกเล็กโด่งเชิดรั้น ริมฝีปากเรียวเล็กสวยได้รูป มองมุมไหนก็ดูดี ไม่แปลกใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้ครองใจพี่ชายแท้ๆ ของเจ้าตัวได้มาจนถึงทุกวันนี้

“พัชร เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ ร้อน พัชรอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวเราก่อนละกัน”

“จ้า ป๊อปไปอาบน้ำเถอะ”

พูดจบทั้งสองต่างฝ่ายต่างจุ๊บกันและกันโชว์หวานให้ใบหม่อนดูอีกหนึ่งครั้ง ร่างสูงเดินหลีกไปที่ห้องนอนเล็กใกล้ประตูทางเข้า ปล่อยให้คนรักได้อยู่กับน้องสาวของตัวเองต่อ

“พี่พัชรขา หนูอยากกินตำมะเขือฝีมือพี่พัชรแล้วสิ” ใบหม่อนได้ทีอ้อนว่าที่พี่สะใภ้เป็นการใหญ่ มือเล็กรีบคว้าท่อนแขนของอีกฝ่ายพาไปที่หลังครัวอย่างรวดเร็ว

“ได้สิจ๊ะน้องใบหม่อน เดี๋ยวพี่ล้างมือก่อนนะ” พัชรตอบรับแบบไม่ลังเล พลางถลกแขนเสื้อขึ้นเตรียมตัวทำส้มตำมะเขือสุดพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้แล้ว

สองสาวต่างช่วยกันเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นวันนี้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองคนละมุม แต่ระหว่างนั้นทั้งสองต่างพูดคุยกระจุกกระจิกตามประสาผู้หญิงด้วยกัน แต่หัวข้อสนทนาหลักวันนี้กลับกลายเป็นการรำลึกความหลังกันและกันและแอบพาดพิงบุคคลที่สามอย่างป๊อปด้วย

“พี่พัชรขา หนูอยากรู้ว่าพี่ป๊อปจีบพี่ติดได้ไงล่ะคะ”

“น้องใบหม่อนถามพี่เรื่องนี้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย” เสียงหวานย้อนกลับมาให้ เหลือบมองเห็นสายตาอ้อนวอนที่ว่าที่น้องสะใภ้ส่งมา ดวงตาคู่สวยของคนถูกถามกลอกขึ้นมองบน นึกอยู่สักพักก่อนให้คำตอบ

“ตอนนั้นพี่กับป๊อปเรียนปีสองน่ะ แต่อยู่คนละคณะ วันแรกที่พี่เจอพี่ชายของเรานะ ตอนนั้นเขาไว้ผมยาวมาก หนวดเคราอย่างดก หน้ายังกับโจรเลย แถมท่าทางติสต์ๆ อีก พี่เห็นครั้งแรกยังไงพี่ทำใจให้ชอบเลยไม่ได้จริงๆ” เสียงหวานเว้นเล็กน้อย ขณะที่ใบหม่อนยังคงตั้งใจฟังว่าที่พี่สะใภ้เล่าต่อ

“ตอนแรกๆ พี่ไม่ได้สนใจเขาเลย ถึงกับหนีด้วยซ้ำ แต่พี่ชายของน้องใบหม่อนก็ตามตื๊อพี่ตลอดนะ มีอะไรเขาก็ซื้อให้พี่ทุกครั้ง เจอกันทีไรเขาก็ทักทายพี่ทุกครั้ง ตามพี่แจจนพี่เคยว่าเขาไปหนักๆ ครั้งนึงเลย ตอนหลังพี่รู้มาตลอดว่าเขาไม่เคยไปจีบผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากพี่คนเดียว จนพี่เริ่มเห็นความจริงใจของเขาเลยตอบตกลงคบเป็นแฟนน่ะ พอคบกันแล้วพี่ยิ่งเห็นความจริงใจของพี่ชายของเราเลยล่ะ เขาจริงใจกับพี่มาก เขาดูแลพี่ดีมากเลย เวลาพี่มีปัญหาอะไรพี่ชายของน้องใบหม่อนคนนี้แหละที่อยู่ข้างพี่มาตลอด พี่คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ได้พี่ชายของน้องใบหม่อนเป็นแฟนน่ะ”

ใบหม่อนฟังไปนึกภาพตามไป ขณะที่มือทั้งสองข้างยังหั่นวัตถุดิบก่อนส่งให้ว่าที่พี่สะใภ้ลงมือตำต่อ เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ เจ้าตัวถือโอกาสแสดงความคิดเห็นบ้าง

“ตอนแรกๆ หนูยังไม่คิดเลยว่าพี่ชายของหนูจะได้แฟนแบบพี่พัชร จริงๆ พี่ชายหนูเป็นคนบื้อๆ มึนๆ ติสต์แตกบ่อยมาก ใจร้อน ขี้โมโห แถมทำอะไรไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวเลย หนูยอมรับเลยนะว่าหนูก็ปวดหัวกับพี่ชายของหนูมากเหมือนกัน ตั้งแต่พี่เขาคบกับพี่พัชรนี่ พี่ป๊อปเขาดีขึ้นเยอะเลยล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพี่พัชรด้วยไหมน้า”

กลีบปากเรียวเล็กผุดยิ้มน้อยๆ เมื่อฟังความเห็นของว่าที่น้องสะใภ้จบลง “ไม่หรอกมั้งน้องใบหม่อน พี่ชายของเราน่ะ เอาเข้าจริงเห็นบื้อๆ ติสต์ๆ อย่างนั้นน่ะ เวลาพี่ไม่สบายใจเรื่องอะไร พี่ชายของเราไม่เคยทิ้งพี่ไปไหนเลยนะ” พัชรเล่าไปลงมือตำส้มตำมะเขือไปอย่างอารมณ์ดี วันนี้เจ้าตัวตั้งใจทำให้สุดฝีมือเพื่อให้ว่าที่น้องสะใภ้ประทับใจที่สุด

ใบหม่อนยอมคล้อยตามคำของอีกฝ่าย นึกย้อนเหตุการณ์เมื่อครั้งยังเด็ก หากเจ้าตัวมีปัญหาอะไรหรือไม่สบายใจอะไร พี่ชายแท้ๆ อย่างป๊อปมักจะคอยดูแลอยู่เคียงข้างเสมอถึงแม้จะช่วยแก้ปัญหาไม่ได้มากนักก็ตาม แต่ไหนๆ แล้วขอแสดงความคิดเห็นต่ออีกสักหน่อย

“พี่พัชรอย่าถ่อมตัวสิคะ” เสียงใสว่าขึ้น กลีบปากอวบอิ่มผุดยิ้มบางๆ ทิ้งท้าย “ที่พี่ชายหนูเป็นคนรับผิดชอบมากขึ้น ใจเย็นขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็เพราะพี่พัชรด้วยแหละ พี่พัชรเชื่อหนูสิคะ คนเราถ้าไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคน เขาจะทำทำไมล่ะคะ”

พัชรพยักหน้าเบาๆ คล้อยตามคำของว่าที่น้องสะใภ้ แต่ไม่ลืมที่จะปรามเพราะรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลจริงๆ ที่คนรักยอมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะใคร

“น้องใบหม่อนรู้ไหม จริงๆ ที่พี่ชายของใบหม่อนเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ จริงอยู่ที่ทำเพื่อพี่ด้วย แต่ลึกๆ แล้ว เขาทำเพื่อเรานะคะ ป๊อปบอกกับพี่ตั้งแต่วันแรกที่คบกันแล้วว่าเขามีน้องสาวอยู่หนึ่งคน และเขาก็รักน้องสาวคนนี้มากด้วย”

พูดจบส้มตำมะเขือสูตรเด็ดถูกเทใส่จานด้วยฝีมือคนที่กำลังพูดอยู่ มือเล็กจับทัพพีเขี่ยๆ ลงบนจานอย่างคล่องแคล่วก่อนยกไปวางบนโต๊ะกินข้าวตรงหน้า ลอบมองว่าที่น้องสะใภ้ที่ยังคงทำหน้าที่หั่นผักอยู่ แอบเห็นสีหน้าที่คาดเดายากว่ากำลังคิดยังไง

หัวใจดวงน้อยของใบหม่อนเต้นระรัวเมื่อได้ฟังคำจากปากว่าที่พี่สะใภ้ อยู่ๆ น้ำตาใสๆ ไหลคลอพวงแก้มนุ่มของเจ้าตัวเสียแล้ว แต่ยังไม่เสียอาการจนลืมว่าตัวเองทำอะไรอยู่

“เมื่อคืนป๊อปเค้าไลน์ถามพี่เลยนะว่าจะซื้อแม็คบุ๊ครุ่นไหนให้ใบหม่อนดี เขาบอกเลยว่าอยากให้ใบหม่อนมีโน้ตบุ๊คดีๆ ใช้ไปเลยน่ะ พี่ก็ไม่ได้แนะนำเขาหรอก ย้อนถามเขาด้วยซ้ำว่าอยากซื้ออันไหนให้น่ะ”

“หนูเข้าใจแล้วค่ะพี่พัชร” ใบหม่อนตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้ “ตอนแรกหนูก็ไม่คิดว่าพี่ป๊อปเขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เพราะทำเพื่อหนูเลยนะ หนูเข้าใจว่าเป็นเพราะพี่พัชรมาตลอดเลย”

ระหว่างนั้นคนที่ถูกพาดพิงอย่างป๊อปเดินออกมาจากห้องหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกำลังจะเดินไปหาสองสาวที่กำลังทำครัวอยู่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองที่กำลังพูดถึงตัวเองอยู่ ด้วยความอยากรู้ว่าน้องสาวตัวดีกำลังนินทาอะไรให้คนรักของเขาฟังอยู่จึงเลือกที่จะยืนรอฟังเงียบๆ อยู่แถวๆ โต๊ะทำงานขณะที่อีกสองสาวยังไม่รู้ตัวเลยว่าบุคคลที่เป็นหัวข้อสนทนากำลังแอบฟังอยู่ในตอนนี้ และบทสนทนาที่เขาได้ยินเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตระหว่างเขากับคนรักแล้ว

“หนูเชื่อว่าพี่ป๊อปเป็นสามีที่ดีของพี่พัชรแน่ๆ เลย” ใบหม่อนพูดสรุปไปเทซุปหน่อไม้ที่ว่าที่พี่สะใภ้ซื้อมาใส่จานตรงหน้า แต่ยังส่งสายตาไปหาคนที่กำลังพูดด้วยอยู่ พูดจบสาวเจ้าคลี่ยิ้มจนสุดเผยให้เห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟัน

พัชรถึงกับหน้าแดงเมื่อได้ยินคำๆ นี้จากปากของว่าที่น้องสะใภ้ ขณะเดียวกัน คนที่ถูกพาดพิงเริ่มอดรนทนไม่ไหวเมื่อได้ยินที่ทั้งสองคุยกันทั้งหมด ค่อยๆ เดินย่องไปอย่างช้าๆ รอจังหวะที่คนรักของเขากำลังเผลอขโมยหอมแก้มไปหนึ่งที

ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คราวนี้คนโดนขโมยหอมแก้มยิ่งหน้าแดงกว่าเดิมเมื่อถูกสัมผัสที่คุ้นเคยกดลงบนพวงแก้มเปล่งปลั่ง ขณะที่ใบหม่อนถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อเห็นสีหน้าและกิริยาท่าทางของว่าที่พี่สะใภ้ตอนถูกพี่ชายของตัวเองขโมยหอมแก้มให้

“ตายแล้ว ป๊อปทำแบบนี้ได้ไง ไม่อายใบหม่อนบ้างเหรอ ทำอะไรเหมือนเด็กๆ ไปได้ โตแล้วนะป๊อป” พัชรแกล้งว่าให้แบบไม่จริงจังนัก ตอนนี้เจ้าตัวยิ่งเสียอาการจนแสดงออกทางใบหน้าสวยหวานที่แดงราวกับมะเขือเทศสุกยังคงร้อนฉ่าอยู่

“<<มาตั้งแต่พัชรบอกว่าพี่จะซื้อโน้ตบุ๊คให้ใบหม่อนแล้วล่ะ>>” ป๊อปเลี่ยงไปตอบคนเป็นน้องสาวแทน แอบลอบมองคนรักที่กำลังหน้าแดงเพราะอาการเขินอาย

“<<พี่ป๊อปอ่ะ เสียมารยาทมากเลยรู้ไหม มาแอบฟังคนอื่นคุยกันแบบนี้ได้ไงอ่า>>” ใบหม่อนได้ทีว่าให้กับคนเป็นพี่ชาย

“<<อะไรๆ พี่ไม่ได้แอบฟังนะ>>” เสียงเข้มเอ่ยตอบพร้อมทำหน้าเหรอหรา เอื้อมมือขึ้นไปเขย่ามวยผมของคนที่กำลังต่อว่าเขาอยู่หนึ่งที “<<พี่แค่ได้ยินเฉยๆ ฮิๆ>>”

“<<ไม่ต้องเลยนะพี่ป๊อป บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเล่นผมหนู>>” ใบหม่อนว่าเสียงกระเง้ากระงอด แกล้งทำเป็นมองดุพร้อมกับชี้นิ้วใส่หน้าคนเป็นพี่ชาย “<<หนูเห็นพี่ป๊อปยืนตรงโต๊ะทำงานนะ ยังจะมาบอกว่าไม่ได้แอบฟังอีก>>”

คราวนี้เป็นพัชรที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นพี่น้องคู่นี้โต้เถียงกันอย่างรู้ทัน แอบเอาใจช่วยว่าที่น้องสะใภ้เล็กๆ เพราะหมั่นไส้ที่คนรักชอบแอบขโมยหอมแก้มอยู่เรื่อย

“<<เออ พี่ขอโทษ>>” สุดท้ายแล้ว ป๊อปก็ต้องเป็นฝ่ายยอม กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องยอมลงให้กับน้องสาวสุดที่รักคนนี้ จำความได้ว่าเขายอมน้องสาวของเขาทุกครั้งเมื่อทะเลาะกัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำถูกหรือทำผิดก็ตาม ยังหาสาเหตุที่ทำให้เป็นแบบนี้ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้

“<<งั้นพี่ป๊อปช่วยพวกหนูทำกับข้าวเลย>>”

คราวนี้ใบหม่อนถือโอกาสออกคำสั่งกับพี่ชายที่แสนดีคนนี้ช่วยทำอาหารมื้อเย็นในครั้งนี้ด้วยซะเลย มีหรือที่คนเป็นพี่ชายจะไม่ยอม

“<<ครับแม่>>” เขาทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่งอย่างเต็มใจ ก่อนลงมือทำตามคำสั่งของน้องสาวสุดที่รักของเขาคนนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา