เจ้าหญิงของฉัน
-
เขียนโดย POPENGL
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.
27 ตอน
36 วิจารณ์
11.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) แม่กำปองหนาวมาก Pt.2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั้งสองคันแล่นออกจากบริเวณน้ำตกแม่กำปองออกสู่ถนนเส้นหลักมุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้าน แต่ตอนนี้ใบหม่อนกลับบิดคันเร่งมากกว่าเดิมเพราะตอนนี้อาการหิวเริ่มเข้ามารบกวนแล้ว อยากไปให้ถึงหมู่บ้านให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้หาซื้อของกินมากินแก้หิว...
“<<พี่ป๊อป หนูซิ่งแล้วนะ เกาะแน่นๆ ล่ะ>>” หญิงสาวกำชับคนที่นั่งซ้อนท้าย
“<<คร้าบแม่ อย่าเหวี่ยงรถแบบพี่นะเว้ย เดี๋ยวพี่ร่วงเอาไม่รู้ด้วยนะ>>”
ทั้งสองขี่มอเตอร์ไซค์แล่นมาเรื่อยๆ ตามทางจนมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเห็นบรรดานักท่องเที่ยวแน่นขนัดไปหมดตลอดสองข้างทางจนแทบจะหาที่ว่างให้แทรกตัวไปไม่ได้
“<<แน่นไปหมดเลยอ่ะพี่ป๊อป แล้วหนูจะได้กินอะไรไหมเนี่ย>>”
“<<เอาน่าใบหม่อน งั้นหาที่จอดรถก่อนดีไหม เดี๋ยวเดินเข้าไปกัน ขืนขี่เข้าไปแบบนี้ชนเขาตายแหงๆ>>”
ใบหม่อนยอมทำตามคำของพี่ชายด้วยการหักเลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดใกล้ๆ กับทางเข้าหมู่บ้าน หลังจากดับเครื่องและจอดรถเสร็จ ทั้งสามพากันเดินฝ่าฝูงชนที่แน่นขนัดไปตามทางอย่างยากลำบากไม่น้อย จากอากาศที่หนาวจัดๆ กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาในทันทีเมื่อเดินมาเรื่อยๆ จนถึงใจกลางหมู่บ้าน ต่างคนต่างสอดส่ายสายตามองหาที่ว่างจนไม่มีแม้แต่อารมณ์จะคุยเล่น แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มเมื่อเขายกกล้องเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบสลับกับหันไปถ่ายผู้ร่วมทริปทั้งสอง
ทั้งสองสาวเริ่มทนหิวไม่ไหวรีบเดินหาร้านที่ว่างพอจะมีที่นั่งบ้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาไม่ได้สักที ใบหม่อนหันไปชำเลืองมองพี่ชายตัวเองที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเก็บรูปอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดใจไม่น้อย
“<<พี่ป๊อปหยุดถ่ายรูปสักทีได้ไหม ช่วยหาร้านหน่อยเหอะ>>”
“นั่นสิป๊อป เค้าหิวจะแย่แล้วนะ” คราวนี้พัชรถือหางว่าที่น้องสะใภ้
บังเอิญป๊อปยกกล้องไปที่ร้านไส้อั่วแม่นิ่มพอดี กำลังเล็งเข้าไปข้างใน สังเกตเห็นข้างในร้านกำลังว่างอยู่เพราะคนเริ่มทะยอยออกไปบ้างแล้ว มือหนารีบลดกล้องลง หันไปบอกกับคนโมโหหิวทั้งสอง
“แวะร้านนี้ไหมล่ะ กำลังว่างพอดี”
ป๊อปเอื้อมมือคว้าข้อมือเล็กของใบหม่อนให้เดินตาม ขณะที่พัชรรีบเดินตามมาติดๆ แต่ก็ต้องฝ่าฝูงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่สักพักจนเข้าไปข้างในร้านได้ในที่สุด
ทั้งสามเลือกที่จะนั่งด้านในสุดของร้าน มองเห็นบรรยากาศอันร่มครึ้มชัดเจนเมื่อมองไปนอกหน้าต่าง เห็นกระแสน้ำในลำธารไหลเอื่อยๆ ดูเพลินตาจนทั้งสองสาวลืมอาการโมโหหิวไปเสียสิ้น หลังจากนั่งพักจนพอหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามหันกลับมาอ่านเมนูอาหารที่ติดไว้บนโต๊ะก่อนออกปากสั่งกับพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรออยู่
ไส้อั่วจานใหญ่ ลาบหมูคั่วแบบภาคเหนือ ส้มตำปูปลาร้า ไก่ย่างและข้าวเหนียวกระติ๊บใหญ่ร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยถูกนำมาเสิร์ฟถึงที่พร้อมกับน้ำดื่มที่ถูกนำมาเสิร์ฟต่อท้ายหลังจากนั้นไม่นาน
ใบหม่อนเริ่มลงมือละเลียดอาหารที่อยู่ตรงหน้าทันทีด้วยอาการหิวโหยจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้แต่สมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่วางไว้ข้างๆ ที่ปกติเจ้าตัวมักจะเล่นทุกครั้งแม้แต่เวลากินข้าว แต่ครั้งนี้สาวเจ้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว
ป๊อปหันไปสบตากับคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรู้กันว่าคิดอะไรอยู่ก่อนหันกลับไปมองน้องสาวคนสวยของตัวเองกำลังตั้งหน้าตั้งตาละเลียดไส้อั่วอันเป็นเมนูหลักอย่างเอร็ดอร่อย อดที่จะแซวไม่ได้ด้วยความเป็นห่วง
“<<ค่อยๆ กินก็ได้ใบหม่อน เดี๋ยวติดคอ>>”
“<<ก็มันหิวนี่นาพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนพูดทั้งที่ยังเคี้ยวเต็มปากอยู่
“ไม่พอสั่งอีกได้นะจ๊ะน้องใบหม่อน” พัชรเปรยขึ้นมา ทำท่าจะหันไปเรียกพนักงานเสิร์ฟแต่กลับถูกคนกินจุห้ามไว้
“พอก่อนค่ะพี่พัชร แค่นี้หนูก็กินไม่หมดแล้วเนี่ย”
“จ้า ฮิๆ ถ้าไม่อิ่มบอกน้า เดี๋ยวพี่สั่งให้”
ระหว่างรับประทานอาหารอยู่เพลินๆ ป๊อปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดกล้อง เก็บภาพบรรยากาศรอบๆ และเก็บภาพสองสาวที่กำลังละเลียดอาหารตรงหน้าไว้ บังเอิญใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมาพอดี ดวงตากลมโตคู่สวยมองดุใส่
“<<ไม่ต้องมาถ่ายรูปเลยพี่ป๊อป กินไป>>”
สุดท้ายแล้ว ไส้อั่วในจานหมดก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนกับข้าวอื่นๆ เริ่มพร่องลงเรื่อยๆ ด้วยอาการหิวของทั้งสาม โดยเฉพาะใบหม่อนที่รอบนี้เจริญอาหารเป็นพิเศษ หลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันจนอิ่มหนำสำราญพร้อมกับชมลำธารที่ไหลเอื่อยๆ ตรงหลังร้านแล้ว ป๊อปหันไปยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟมาเก็บเงินพร้อมกับหยิบเงินสดที่ติดตัวมารอไว้พร้อม คราวนี้ใบหม่อนควักเงินตัวเองมาสมทบด้วย
“<<พี่ป๊อป นี่เอาไป หนูจ่ายด้วย>>”
แบงก์ร้อยสองใบจากมือของหญิงสาวถูกยื่นให้กับคนทำหน้าที่จ่ายเงิน ป๊อปไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวได้จึงเอาไปรวมกับเงินของตัวเองกับแฟนสาวที่เตรียมรอไว้ ไม่ลืมที่จะให้ทิปกับทางร้านด้วย แต่ก่อนกลับออกไป มีคนติดใจรสชาติของไส้อั่วร้านที่ดังที่สุดในแม่กำปองจนอดใจไม่ไหวต้องซื้ออีกสองขีดเผื่อไว้กินมื้อเย็นด้วย
ทั้งสามพากันเดินออกมาเผชิญกับบรรดาผู้คนมากมายที่มาเยือนหมู่บ้านจนแน่นขนัดไปหมด บรรยากาศรอบข้างเริ่มอบอุ่นขึ้นจนใบหม่อนต้องถอดสูทคืนให้คนเป็นพี่ชาย
ป๊อปยื่นมือมารับสูทจากหญิงสาวก่อนพับไว้และเอาพาดบ่าไว้เฉยๆ ขาทั้งสองข้างก้าวตามสองสาวที่เดินนำหน้าฝ่าฝูงชนที่มากันอย่างล้นหลามไปตามเส้นทางข้างหน้า เมื่อเห็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ทั้งสองสาวรีบเดินตรงรี่เข้าไปโพสท่าให้ชายหนุ่มลั่นชัตเตอร์บันทึกภาพไว้ บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มแอบถ่ายรูปทีเผลอของแต่ละคนไว้ โดยเฉพาะแฟนสาวที่เขาตั้งใจจะเก็บภาพทุกอิริยาบถไว้
“<<พี่ป๊อปถ่ายหนูบ้างสิ เอาแต่ถ่ายพี่พัชรอยู่นั่นแหละ ทำไม หนูไม่สวยเหมือนพี่พัชรเหรอไง>>” ใบหม่อนเริ่มตัดพ้อคนเป็นพี่ชายเมื่อเห็นว่าเอาแต่ถ่ายว่าที่พี่สะใภ้
ได้ผลเมื่อป๊อปยอมหันมาถ่ายรูปเจ้าตัวแต่โดยดี ถือโอกาสโพสท่าสวยๆ พร้อมกับโปรยยิ้มหวาน ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มกว้างจนสุดเผยให้เห็นฟันเหล็กครบทุกซี่ ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิสู้กล้องของคนตรงหน้า คราวนี้ป๊อปกดชัตเตอร์รัวๆ เช่นเดียวกับตอนเก็บภาพแฟนสาวของตัวเองเมื่อก่อนหน้านี้ เห็นรอยยิ้มสดใสแล้วเหมือนมีแรงกระตุ้นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาอยากจะเก็บภาพน้องสาวคนนี้ไปเรื่อยๆ อีก
“ป๊อป ถ่ายไว้เยอะๆ น้า น้องใบหม่อนยิ้มสวยมากเลย” พัชรเริ่มยุขึ้นมาบ้าง
ชายหนุ่มแกล้งหันกล้องมาทำท่าจะถ่ายคนยุส่ง แต่นิ้วเจ้ากรรมกลับกดชัตเตอร์ไปแบบไม่ได้ตั้งใจเลยได้ภาพใบหน้าเหวอๆ ของคนยุจนได้ เมื่อเห็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้วทำให้เขากลั้นขำแทบจะไม่อยู่ ขณะที่คนโดนถ่ายรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มราวลูกตำลึงสุก ทางด้านใบหม่อนเมื่อเห็นรูปถ่ายฝีมือพี่ชายเมื่อสักครู่ถึงกับทนไม่ไหวระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ยิ่งทำให้คนโดนถ่ายยิ่งออกอาการอายมากขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งเดินผ่านใจกลางหมู่บ้านยิ่งมีร้านรวงต่างๆ กับแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูปมากมายถึงแม้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่ให้เดินก็ตาม
ใบหม่อนเริ่มมีอาการเซ็งเมื่อทนรอคิวอันยาวเหยียดไม่ไหว ตั้งใจจะหาของกินเล่นระหว่างทางไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะยังอิ่มอยู่และมีไส้อั่วอีกสองขีดให้กินเล่นระหว่างทางก็ตาม แต่กลับเจอแต่ผู้คนที่นั่งเบียดเสียดเต็มไปหมดจนแทบไม่มีที่ว่างให้เข้าไปหาซื้อได้เลยแม้แต่น้อย
ป๊อปคอยมองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ถึงแม้จะกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเก็บรูปก็ตาม แต่ตอนนี้อดไม่ได้แล้วที่จะเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างเงียบเชียบ
“<<ใบหม่อนเป็นอะไร พี่เห็นเราทำหน้าเซ็ง>>”
“<<ตอนนี้หนูเริ่มหงุดหงิดแล้วอ่ะ คนเยอะจนหนูไม่ได้อะไรแล้วเนี่ย>>”
“<<เอาน่าๆ พี่เองก็กะเวลาผิดมาช่วงคนเยอะซะได้ พี่ขอโทษนะใบหม่อน>>”
“<<ไม่มีอะไรหรอกพี่ป๊อปอ่ะ คิดมาก หนูแค่เซ็งเฉยๆ>>” หญิงสาวคลี่ยิ้มน้อยๆ เผื่อว่าจะทำให้คนเป็นห่วงสบายใจขึ้นบ้าง “<<หนูแค่หงุดหงิดแป๊ปเดียวก็หายแล้ว ไม่ใช่พี่ป๊อปนะที่คิดมากอ่ะ>>”
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นไปจับจุกเหนือกระหม่อมของหญิงสาวโยกไปโยกมา แต่นั่นทำให้คนโดนหยอกต้องมองค้อนใส่
“<<พี่ป๊อปอย่าเล่นผมหนูสิ โน่น พี่พัชรก็มัดจุกเหมือนหนูทำไมไม่ไปเล่นผมพี่พัชรบ้างล่ะ>>” ใบหม่อนบุ้ยหน้าไปทางว่าที่พี่สะใภ้ที่เดินอยู่ใกล้ๆ
“<<ฮื้ม ก็เวลาเรามัดจุกมันมีเสน่ห์อะไรบางอย่างที่ชวนให้พี่จับเล่นนี่>>” ป๊อปพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “<<แต่ถ้าเป็นแฟนพี่น่ะเหรอ อื้ม…>>” ป๊อปกลอกตามองบนทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพัก ค่อยๆ หันไปขโมยหอมแก้มของแฟนสาวเสียดื้อๆ
“อ๊าย ตายแล้ว” เสียงหวานอุทานออกมาเมื่อจู่ๆ ถูกขโมยหอมแก้มแบบไม่ทันตั้งตัวท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านตลอดสองข้างทาง “ป๊อป ขโมยหอมแก้มเขาอีกแล้วนะ ไม่อายคนอื่นบ้างเหรอไงห๊า!!!” พูดไปหน้าแดงไป ยังมีอาการอับอายอยู่
ใบหม่อนอาศัยจังหวะที่พี่ชายขโมยหอมแก้มว่าที่พี่สะใภ้จัดการเก็บรูปด้วยสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินในมือและส่งให้กับครอบครัวผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวอย่างรวดเร็ว แอบยิ้มร้ายเมื่อกดส่งรูปเสร็จ ‘พี่ป๊อปไม่รอดแน่ หนูส่งรูปให้แม่ดูแล้วน้า คริๆ’
“<<ทำอะไรเหรอใบหม่อน>>”
สาวเจ้าหุบยิ้มแทบจะไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงทุ้มลอยลมของพี่ชาย พยายามปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้ปกติที่สุดก่อนหันไปมองใบหน้าคร้ามที่กำลังยิ้มแหยๆ หันไปทางว่าที่พี่สะใภ้ที่กำลังหน้าแดงเพราะอาการเขินที่มองมาด้วยสายตาที่ไม่ต่างจากฝ่ายชาย กลีบปากเรียวสวยคลี่ยิ้มแหยๆ เหมือนกัน ทำให้ตอนนี้เริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว
“<<ก็ไม่มีอะไรนี่ พี่ป๊อปอ่ะคิดมาก>>” ใบหม่อนยักไหล่ขึ้น แกล้งทำเฉไฉ
“เหรอจ๊ะน้องใบหม่อน พี่เห็นนะว่าเราแอบถ่ายตอนพี่โดนจูบอ่ะ” คราวนี้พัชรแกล้งว่าให้ว่าที่น้องสะใภ้ตัวดีบ้าง
“<<แอบส่งรูปให้พ่อแม่กับแม่คุณดูล่ะสิ>>” ป๊อปเอื้อมมือมาโยกจุกเหนือศีรษะหญิงสาวอีกรอบ แกล้งทำเป็นส่งสายตาคาดคั้นใส่ทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่ได้นึกโกรธเคืองน้องสาวเลยแม้แต่น้อย
“<<พี่ป๊อปเล่นผมหนูอีกแล้วน้า>>” หญิงสาวแกะมือหนาที่จับจุกเหนือศีรษะตัวเองออก “<<ใช่ หนูส่งรูปให้ที่บ้านดูเองแหละ>>”
นัยน์ตาสองชั้นหลบละสายตาจากใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ของน้องสาวตัวดีหันไปสบตากับคนที่ตัวเองเพิ่งขโมยจูบที่ส่งสายตาตอบกลับมาอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แอบชำเลืองมองหน้าของหญิงสาวที่กำลังพยายามเก็บอาการอยู่ เห็นดวงตากลมโตคู่สวยกำลังไหวระริกด้วยความรู้สึกผิด จากเดิมที่คิดจะแกล้งเอาคืนน้องสาวแต่เมื่อเห็นแบบนี้แล้วยังไงก็แกล้งไม่ลง
“<<อืมๆ พี่ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะใบหม่อน ไม่เป็นไรนะคะ>>”
ป๊อปปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนลงกว่าเดิม หันไปส่งสายตาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างกับพัชรที่หันมาคลี่ยิ้มหวานให้ ลืมความรู้สึกโกรธและอายไปหมดแล้ว...
“น้องใบหม่อนจ๊ะ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทมากเลยนะจ๊ะรู้ไหม เกิดไปถ่ายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ล่ะ เขาจะคิดยังไงล่ะจ๊ะ”
พัชรสวมบทแม่อบรมว่าที่น้องสะใภ้ตัวดีด้วยน้ำเสียงหวานน่าฟังแฝงความเยือกเย็นจนคนโดนอบรมเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา รู้ทันทีว่าพี่ชายไม่กล้าแม้แต่จะอบรมเองเพราะแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากขนาดไหน จึงให้ว่าที่พี่สะใภ้เป็นคนอบรมแทน
“หนูขอโทษนะคะ พี่ป๊อป พี่พัชร” ใบหม่อนยกมือไหว้ขอโทษพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ
“<<อืมใบหม่อน พี่ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าจะถ่ายรูปพวกพี่จูบกันน่ะ>>” ป๊อปยื่นมือมาบีบมือเล็กของหญิงสาวเชิงปลอบใจ “<<แต่คราวหลังให้สุ้มให้เสียงกันด้วยสิ จะได้ออกมาท่าสวยๆ หน่อย ฮิๆ>>”
“ป๊อป!!!” เสียงหวานแหวใส่ มือเล็กฟาดท่อนแขนแกร่งอย่างเต็มรักพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษ
“พอๆ เที่ยวต่อๆ เดี๋ยวเย็นแล้วกลับถึงที่พักมืดไม่รู้ด้วยนะ” สุดท้ายป๊อปก็ต้องตัดบทเองก่อนที่เรื่องจะแดงไปมากกว่านี้
ทั้งสามพากันเดินเที่ยวต่อถึงแม้จะต้องฝ่าฝูงคนที่ยิ่งทวีความหนาแน่นมากขึ้น มองไปตามร้านรวงต่างๆ ตลอดสองข้างทางยังคงแน่นขนัดจนแทบจะไม่มีที่ให้แทรกตัวเข้าไป ได้แต่เฝ้ามองดูอยู่ด้านนอกเท่านั้น และตอนนี้ไส้อั่วจากร้านแม่นิ่มทั้งสองขีดในมือของใบหม่อนค่อยๆ พร่องลงจนหมดถุงหลังจากเดินเที่ยวไปละเลียดไส้อั่วแสนอร่อยไป และช็อตหญิงสาวละเลียดไส้อั่วตอนเดินเที่ยวก็ไม่พ้นสายตาผ่านกล้องของชายหนุ่มจนได้ แต่คราวนี้เขาเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนสีดำทำหน้าที่เก็บภาพแทน แอบเอาคืนเล็กๆ ด้วยการส่งรูปตอนสาวเจ้ากำลังอ้าปากเขมือบไส้อั่วผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวไปยังกล่องแชตของผู้เป็นแม่
‘ต้องทำโทษหน่อย น้องสาวหน้ากลมตัวแสบของพี่’ ป๊อปแอบต่อให้ในใจ
“<<พี่ป๊อป! แอบส่งรูปหนูให้แม่ดูเหรอ>>” ใบหม่อนหันมาแว้ดใส่พี่ชายทันทีที่เห็นข้อความจากผู้เป็นแม่ผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียว
“<<ฮึๆๆ>>” ป๊อปหัวเราะในลำคอ ลอบยิ้มร้ายใส่ “<<แหมทีเราแอบถ่ายตอนพวกพี่จูบกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย ก็หยวนๆ ให้พี่หน่อยน่า>>”
ใบหม่อนถึงกับหน้าแดงขึ้นมา ทั้งโกรธทั้งอายในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังคนทำหน้าทะเล้นไม่หยุด
“<<ไม่ต้องมาแกล้งหนูเลยนะพี่ป๊อป>>”
“<<เอาน่าๆ พี่ขอโทษๆ ไปๆ หาอะไรกินกันดีกว่า พี่ดูออกว่าเราไม่อิ่มหรอก ฮึๆ>>”
หญิงสาวลอบมองดุใส่หนึ่งทีก่อนหันไปชวนว่าที่พี่สะใภ้เดินช็อปปิ้งด้วยกันตามประสาผู้หญิง ปล่อยให้ป๊อปเดินตามหลังอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นอากาศธาตุ จะมีบทบาทก็ต่อเมื่อเป็นคนจ่ายเงินเท่านั้น แต่ใบหม่อนก็ไม่ใจร้ายกับพี่ชายจนเกินไปเมื่อยอมควักเงินตัวเองช่วยจ่ายเป็นครั้งคราว สารพัดเมนูเด็ดจากร้านรวงต่างๆ ในหมู่บ้านถูกทั้งสองสาวชิมช็อปหมดจนคนทำหน้าที่จ่ายเงินอดเป็นห่วงไม่ได้ สารพัดเมนูต่างๆ ที่ทั้งสองสาวซื้อไว้สำหรับอาหารมื้อเย็นถูกนำมายัดใส่มือของชายหนุ่มจนเต็มแทบไม่มีมือว่างให้ถือแล้วในตอนนี้ เว้นแต่ของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ใบหม่อนถือไปกินไประหว่างทางเท่านั้น...
“พัชร ช่วยเราถือบ้างก็ดีนะ เต็มมือแล้วเนี่ย” ป๊อปหันไปออกปากกับแฟนสาว
“ก็ไม่บอกเค้านี่ ไม่งั้นเค้าช่วยถือไปแล้ว คริๆ” พัชรแกล้งเล่นแง่ใส่ก่อนยื่นมือเล็กขาวราวลำเทียนมารับของจากแฟนหนุ่ม
.....................................................................
ตกเย็น
มอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั้งสองคันถูกส่งคืนให้กับร้านเช่าหลังจากจบทริปของวันนี้ลง ทั้งสามพากันเดินกลับมาจนถึงที่พักในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ทันทีที่ประตูห้องเปิด ร่างสูงระหงของใบหม่อนรีบโดดผึงไปบนนอนแผ่บนเตียงทันทีหลังจากเหนื่อยจากการเดินช็อปปิ้งมาตลอดทั้งวัน บรรดาอาหารมื้อเย็นที่ทั้งสองสาวซื้อติดมือมาถูกวางไว้บนโต๊ะ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนอิริยาบถตามมุมต่างๆ ในห้อง เว้นแต่ป๊อปที่เดินหลีกออกไปสูดอากาศเย็นนอกระเบียงพร้อมกับกล้องถ่ายรูปในมือที่เตรียมพร้อมรอเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็นวันนี้
ป๊อปยืนทอดอารมณ์ดูวิวหมู่บ้านหน้าระเบียงท่ามกลางสายลมหนาวพัดผ่านมาปะทะร่าง มองเห็นดวงอาทิตย์ลูกกลมสีแดงฉานค่อยๆ เคลื่อนผ่านมวลเมฆลอยต่ำลงๆ ไม่รอช้ารีบยกกล้องขึ้นมา นัยน์ตาสองชั้นหลบมองผ่านช่องโฟกัสพร้อมใช้มือหมุนปรับเลนส์ตรงหน้าช้าๆ บรรจงกดชัตเตอร์บันทึกภาพตรงหน้า
{{แชะ}}
นิ้วมือหนากดชัตเตอร์ย้ำลงไปอีกจนได้สักสามสี่รูปไว้เผื่อเลือก ค่อยๆ ละสายตาจากกล้องเงยขึ้นมามองภาพตรงหน้า เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินตัดกับแสงจากดวงอาทิตย์แล้วทำให้อดที่จะเก็บภาพไม่ได้อีก นิ้วมือหนากดชัตเตอร์เก็บภาพที่เห็นตรงหน้าอีกสองถึงสามรูป...
ระหว่างนั้นพัชรกับใบหม่อนเดินออกมาดูพระอาทิตย์ตกริมระเบียงบ้าง เห็นชายหนุ่มยืนยกกล้องเก็บรูปอยู่สักพักหนึ่ง คราวนี้พัชรค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าคร้ามของคนรัก ก่อนกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“ป๊อป ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินเหรอ”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมาหาเจ้าของเสียงหวานที่กระซิบข้างหูเมื่อสักครู่ เห็นใบหน้าขาวสวยของคนรักส่งยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ และน้องสาวสุดน่ารักส่งยิ้มหวานอยู่ข้างหลังคนรักของเจ้าตัว
“อ้าว มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย กำลังเก็บภาพเพลินๆ เลย” ป๊อปแกล้งว่าให้คนรักไม่จริงจังนัก ก่อนลงโทษด้วยการหอมแก้มขาวละเอียดนุ่มๆ ของหญิงสาวหนึ่งที
พัชรถึงกับหน้าแดงร้อนวูบวาบหลังจากถูกคนรักหอมแก้ม คราวนี้เจ้าตัวถือโอกาสเอาคืนด้วยการหอมแก้มสากของคนรักบ้าง และนั่นทำให้คนที่ต้องห่างไกลคู่รักอย่างใบหม่อนรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันทีที่ภาพเหตุการณ์ตรงหน้า สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแกล้งทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น
‘อย่าให้ถึงทีหนูบ้างนะพี่ป๊อป พี่พัชร ฮึ่ม’ ใบหม่อนอดชำเลืองมองค้อนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
จากที่ทั้งสองกอดกันกลมผลัดกันหอมแก้มเติมความหวานโดยมีพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางหุบเขาและหมู่บ้านแม่กำปองเป็นฉากหลัง ร่างบางของหญิงสาวผละออกมาจากอ้อมกอดของคนรักเดินออกมาพิงกับระเบียง ท่อนแขนหนาของชายหนุ่มตวัดโอบเอวคอดไว้หลวมๆ ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเคราโน้มลงไปจูบบนเรือนผมนุ่มลื่นสีดำขลับของหญิงสาวผู้เป็นที่รักอย่างละมุน จากความรู้สึกเร่าร้อนในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอบอุ่นละมุนละไมอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะทำให้อีกคนต้องอิจฉาตาร้อนไปมากกว่านี้ทั้งสองต่างรีบผละออกจากกันเปลี่ยนเป็นยืนเกาะระเบียงคนละมุมใกล้ๆ กัน
ป๊อปแอบชำเลืองมองน้องสาวที่ยืนเกาะระเบียงอยู่ใกล้ๆ กัน แอบเห็นสายตาที่เหมือนกับจะบอกอะไรบางอย่างให้รับรู้ ว่าแล้วสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดโหมดกล้องเตรียมจะถ่ายรูปหญิงสาว แต่ทว่าดวงตากลมโตคู่สวยปรายตามองค้อนใส่จังหวะเดียวกับที่เขากดชัตเตอร์พอดี...
“<<พี่ป๊อปไม่ต้องมาถ่ายรูปหนูเลย>>” ใบหม่อนว่าเสียงดุใส่ จะหันหน้าหลบแต่ไม่ทันแล้ว “<<เหม็นความรัก เชอะ>>” พูดจบใบหน้าสวยหวานเริ่มบูดบึ้งงอง้ำบ่งบอกอาการเซ็งให้เห็น
ป๊อปหันไปส่งสายตากับแฟนสาวก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หันกลับมาหาคนเหม็นความรักอีกครั้ง เอื้อมมือขึ้นไปจับจุกเหนือกระหม่อมของคนหน้ามุ่ยโยกไปมาเบาๆ “<<คิดถึงโบ้ล่ะสิหืม>>”
“<<เลิกเล่นผมหนูได้แล้วน้า>>” ใบหม่อนแกะมือของพี่ชายออก “<<ช่างเหอะพี่ป๊อป แค่หนูหมั่นไส้ที่พวกพี่กอดกันเฉยๆ เห็นแล้วจะอ้วก แบร่>>” แลบลิ้นหลอกใส่พี่ชายก่อนกลับมาหัวเราะได้อีกครั้งหนึ่ง
“น้องใบหม่อนจ๊ะ ถ้าเหม็นความรักไม่วีดีโอคอลหาโบ้ล่ะจ๊ะ คริๆ” พัชรออกปากถามขึ้นมา ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ
ใบหม่อนส่ายหน้าไปมา ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม “ไม่ดีกว่าพี่พัชร นี่หนูมาเที่ยวกับพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ของหนูนี่นา แฟนหนูค่อยคุยเมื่อไหร่ก็ได้”
“<<จริงเหรอ>>” ป๊อปถามสวนขึ้นมาทันที มองออกว่าน้องสาวตัวเองคิดอะไรอยู่
หญิงสาวแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของพี่ชาย หันไปคุยกับว่าที่พี่สะใภ้ต่อ “ช่างเถอะพี่พัชร มาๆ ถ่ายรูปกันดีกว่า” ว่าแล้วหันไปออกคำสั่งกับพี่ชาย “<<พี่ป๊อป ถ่ายรูปให้หนูหน่อย>>”
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกยื่นมาให้กับชายหนุ่มพร้อมกับเปิดโหมดกล้องรอไว้พร้อม ป๊อปชำเลืองมองด้านหลังที่ตอนนี้พระอาทิตย์หล่นตุบดับสนิทไปแล้ว แต่ยังพอมีแสงจากท้องฟ้าผสมกับแสงไฟในยามค่ำคืนภายในหมู่บ้านระยิบระยับเป็นฉากหลัง นิ้วมือหนาเปิดโหมดกลางคืนทันทีพร้อมกับลั่นชัตเตอร์ให้กับสองสาวที่แข่งกันส่งยิ้มให้กล้องในตอนนี้
“พัชร เราขอถ่ายน้องเราหน่อย”
เจ้าของร่างบางเดินหลีกออกจากเฟรมกล้องมาอยู่ด้านหลังของคนรักที่กำลังสวมวิญญาณตากล้องมืออาชีพอยู่ ปล่อยให้คนบ้ากล้องได้โพสท่าสวยๆ ให้ชายหนุ่มได้ถ่ายรูปอย่างเต็มที่ รูปแล้วรูปเล่าที่ถ่ายออกมาอย่างสุดฝีมือเท่าที่เขาจะทำได้ แอบหวังในใจลึกๆ ว่าน้องสาวคนนี้จะชอบรูปที่ตัวเองตั้งใจถ่ายให้ทุกรูป...
“<<พี่ป๊อป มาถ่ายรูปกับหนู>>” เสียงใสออกปากชวนให้คนเป็นตากล้องมาถ่ายรูปด้วยกัน “พี่พัชรถ่ายรูปให้หนูกับพี่ป๊อปหน่อยค่า”
สมาร์ทโฟนเครื่องเดิมถูกส่งให้กับแฟนสาวก่อนถูกแรงดึงจากคนตัวเล็กกว่าให้เข้าไปยืนคู่กัน “<<พี่ป๊อปมานี่มา เร็ว>>” ร่างสูงใหญ่ลอยหวือไปตามแรงดึงจนแทบตั้งตัวไม่ทัน
“<<เบาๆ ก็ได้ใบหม่อน เดี๋ยวพี่หงายหลังตกระเบียงขึ้นมาจะว่าไงล่ะ>>” ป๊อปหันไปเอ่ยปรามน้องสาวเบาๆ ไม่ได้ดุอะไร แต่ว่า...
“<<น้องขอโทษน้า>>” ใบหม่อนรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อถูกพี่ชายปราม แค่จะดึงให้พี่ชายมาถ่ายรูปด้วยกันแค่นั้น
“<<ไหนน้องสาวพี่เป็นคนไม่คิดอะไรไง แต่ทำไมคราวนี้คิดมากได้ล่ะคะหืม>>”
ป๊อปย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงกว่าเดิม เอื้อมมือไปจับจุกเล็กๆ เหนือกระหม่อมของหญิงสาวโยกไปมาเป็นเชิงปลอบใจ “<<มาๆ ไหนบอกอยากถ่ายรูปกับพี่ไงล่ะ ยิ้มหน่อยน่า นะๆ>>”
“<<เลิกเล่นผมหนูได้แล้วน้าพี่ป๊อป หนูไม่คิดมากก็ได้>>” เสียงใสเอ่ยกระเง้ากระงอดก่อนคลี่ยิ้มหวานให้อีกฝ่ายเห็น
ร่างสูงระหงโน้มตัวเข้าหาคนตัวใหญ่ ทำท่าเอียงคอคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟันจนพวงแก้มนุ่มปริออกเผยให้เห็นลักยิ้มชัดเจน ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิ ชูนิ้วมือทั้งสองข้างสู้กล้องเต็มที่ ผิดกับป๊อปที่ได้แต่ยืนทื่อทำหน้าตายเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
“ป๊อปยิ้มหน่อยสิ” เสียงหวานของตากล้องเอ่ยขึ้นมา
ใบหม่อนแอบชำเลืองมองหน้าของพี่ชายก่อนหันกลับมายิ้มสู้กล้องอีกรอบ รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าคร้ามผุดขึ้นพร้อมกับนิ้วมือเรียวสวยของตากล้องสาวสวยกดชัตเตอร์ลงไปในที่สุด...
สารพัดท่าทางที่หญิงสาวโพสสู้กล้องคู่กับคนเป็นพี่ชายที่เอาแต่ยืนทื่อเป็นตอไม้ มีเพียงแต่แกล้งเติมเขาให้ด้านหลังศีรษะสวยได้รูปของคนบ้ากล้องเท่านั้น จนมาถึงรูปสุดท้ายก่อนถึงเวลาอาหารเย็น
“<<พี่ป๊อป หนูอยากขี่หลังพี่ป๊อปอ่า>>” ใบหม่อนได้ทีอ้อนขอพี่ชายทันทีเมื่อมาถึงรูปสุดท้าย “<<นะๆๆๆๆ พี่ป๊อป>>”
คนโดนอ้อนถึงกับทำสีหน้าเบ้อย่างบอกไม่ถูก แอบกังวลใจถึงกระดูกต้นคอของตัวเองระคนกับความรู้สึกอายเพราะตอนนี้อายุอานามไม่ใช่เด็กๆ ทั้งคู่แล้ว บวกกับคะเนในใจแล้วว่าน้องสาวตัวเองคงมีน้ำหนักตัวเยอะอยู่ไม่ใช่น้อย “<<จะดีเหรอใบหม่อน นี่เราอายุก็ยี่สิบหกแล้วนะ จะมาขี่คอพี่เป็นเด็กๆ ได้เหรอ>>”
“<<ขอหน่อยน่าพี่ป๊อป นะๆๆๆๆ>>” ใบหม่อนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เริ่มถองเข้าที่ต้นแขนของพี่ชาย
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยท่าทางหนักใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะหนักใจแค่ไหนแต่สำหรับน้องสาวคนนี้แล้ว เขาพร้อมที่จะยอมให้ทุกอย่าง ร่างสูงใหญ่ย่อตัวลงเตรียมพร้อม “<<มา ค่อยๆ ขึ้น ระวังด้วยเดี๋ยวพี่เซขึ้นมาล้มทั้งคู่เลยนะ>>”
ร่างสูงระหงค่อยๆ ก้าวขาอย่างระมัดระวังไม่ให้พี่ชายตัวเองเสียหลักล้มลงไป ขาทั้งสองข้างสอดระหว่างท่อนแขนหนาของพี่ชาย ค่อยๆ แนบตัวลงไปกับแผนหลังแกร่งที่เต็มไปด้วยไออุ่นที่เจ้าตัวเรียกหา มือทั้งสองข้างตวัดโอบรอบอกแกร่งไว้ โน้มใบหน้าสวยหวานที่กำลังฉีกยิ้มแก้มปริจนเห็นลักยิ้มชัดเจนแนบกับใบหน้าคร้ามของพี่ชายที่เหลือบตากลับมามองอย่างเป็นห่วง
ความรู้สึกในใจของป๊อปในตอนนี้เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งยังเด็กและยังอยู่บ้านที่สุพรรณฯ อีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับเหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน ทุกครั้งที่เขาพาน้องสาวคนนี้ออกไปเล่นข้างนอก น้องสาวมักจะขอขี่หลังเขาแทบจะทุกครั้ง และถ้าวันไหนที่เขาปฏิเสธ น้องสาวคนนี้มักร้องไห้จ้าจนเขาต้องใจอ่อนยอมตามในที่สุด... ภาพตัดมาที่เวลานี้ที่เขายืนประคองตัวให้น้องสาวได้ขี่หลังอีกครั้งในวัยที่พ้นเบญจเพสและตัวเองอายุเลยเลขสามมาแล้วหนึ่งปีเต็ม
{{แชะ}}
ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าถูกบันทึกลงในหน่วยความจำของสมาร์ทโฟนเครื่องหรู เป็นภาพหญิงสาวเจ้าของเครื่องกำลังขี่หลังคนเป็นพี่ชายส่งยิ้มหวานสู้กล้อง ขณะที่คนโดนขี่หลังหันหน้าไปมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังฉีกยิ้มสว่างไสวอย่างเป็นห่วงอยู่ในใจ กลัวว่าสาวเจ้าจะพลัดตกจากหลังตัวเองลงไป
“สวยมากเลยป๊อป น้องใบหม่อน” พัชรอดที่จะออกปากบอกให้คนรักและว่าที่น้องสะใภ้รับรู้ไม่ได้เมื่อเห็นผลงานที่ตัวเองถ่ายไปเมื่อสักครู่ รู้สึกประทับใจในความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ไม่หายถึงแม้จะรู้จักกันมานานเป็นสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
ป๊อปย่อตัวลงอีกครั้งเพื่อส่งให้น้องสาวลงจากหลังของตัวเอง อดเป็นห่วงไม่ได้กลัวว่าสาวเจ้าจะสะดุดล้มลงไป ร่างสูงระหงก้าวออกจากแผ่นหลังของคนเป็นพี่ชายอย่างง่ายๆ ก่อนย่อตัวลง
“<<พี่ป๊อป ลุกขึ้นได้แล้ว>>” หญิงสาวยื่นมือเล็กมาดึงท่อนแขนของพี่ชายให้ลุกขึ้นมา
ร่างสูงลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ยกมือขึ้นบีบพวงแก้มนุ่มของหญิงสาวเป็นเชิงหยอกล้อหนึ่งที “<<นี่ น้ำหนักตัวไม่ใช่น้อยๆ นะเรา ไม่ใช่ทำพี่ปวดหลังขึ้นมานะเว้ย>>” แกล้งพูดแบบไม่จริงจังนัก เพราะเวลาที่สาวเจ้าขึ้นขี่หลังตัวเองจริงๆ กลับไม่รู้สึกเมื่อยเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่รู้สึกเหมือนมีลูกตุ้มเหล็กสองลูกมาวางไว้บนแผ่นหลังของตัวเองเท่านั้น
“<<พี่ป๊อปอ่ะ แค่หนูอยากขี่หลังพี่เหมือนตอนเด็กๆ อีกครั้งนี่นา>>” ใบหม่อนยอกย้อนใส่ ทำหน้ามู่ทู่แสดงความรู้สึกผิดหลังจากถูกอีกฝ่ายแกล้งว่าให้ ไม่รู้ว่าพี่ชายแกล้งหยอกเล่นเท่านั้น
ป๊อปถึงกับยิ้มไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางสำนึกผิดของน้องสาว รู้สึกหวิวๆ ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก รีบเฉลยในทันที
“<<พี่อำเล่นน่าใบหม่อน ไหนบอกไม่คิดมากไงคะ>>”
นิ้วมือหนาเกลี่ยไปบนพวงแก้มป่องของหญิงสาวอย่างเอ็นดู นัยน์ตาสองชั้นหลบมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่กำลังแสดงความรู้สึกสับสนให้เห็น ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มกว้างบ่งบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าไม่มีอะไรในใจจริงๆ นอกจากแกล้งหยอกเท่านั้น
“<<พี่ป๊อปอ่ะ ชอบแกล้งหนู>>” ใบหม่อนว่าให้ไม่จริงจังนักก่อนยกมือขึ้นปัดมือของพี่ชายออกจากใบหน้าตัวเอง หันไปหาว่าที่พี่สะใภ้ที่ยืนถือสมาร์ทโฟนของเจ้าตัวรอถ่ายรูปอยู่ “พี่พัชรถ่ายรูปกับพี่ป๊อปไหมคะ เดี๋ยวหนูถ่ายให้”
พัชรปรายตามองไปทางแฟนหนุ่มที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ แอบประเมินในใจเล็กน้อยก่อนหันไปให้คำตอบกับว่าที่น้องสะใภ้ “ได้เลยจ้ะน้องใบหม่อน” “มาป๊อป ตั้งแต่มาเที่ยวนี่เค้ายังไม่ได้ถ่ายรูปกับป๊อปเลย”
คนตัวใหญ่ยอมทำตามคำขอของแฟนสาวอย่างว่าง่าย ยิ่งได้เข้าใกล้เรือนร่างบอบบางขาวกระจ่างใสส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ยิ่งทำให้เขาอยากจะอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ไปอีกนาน ท่อนแขนใหญ่โอบตวัดรอบเอวคอดเพรียวบางของหญิงสาวกอดไว้หลวมๆ รากับกลัวว่าหญิงสาวจะหายไป...
“<<พี่ป๊อป พี่พัชร พร้อมแล้วน้า>>”
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ แนบหน้าใกล้กับแฟนสาวที่กำลังฉีกยิ้มกว้างให้ว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าที่กดชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจไว้ คราวนี้ใบหม่อนเริ่มยุพี่ชายให้หอมแก้มว่าที่พี่สะใภ้ตอนถ่ายรูปบ้าง
“<<พี่ป๊อป ไม่คิดจะหอมแก้มหรือจูบพี่พัชรหน่อยเหรอ หนูอยากถ่ายช็อตนี้อ่า>>”
พัชรหันมาชำเลืองมองใบหน้าคร้ามที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยสายตาดุๆ เชิงปรามไม่ให้คนรักทำตามคำยุ แอบตวัดสายตาค้อนใส่คนยุหนึ่งที
“ป๊อปไม่ต้องทำตามที่น้องใบหม่อนบอกเลยนะ” พัชรว่าเสียงลอดไรฟันใส่พร้อมกับส่งสายตาคาดโทษ กลบเกลื่อนความรู้สึกต้องการในใจลึกๆ ของตัวเอง
“ฮึๆ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ ตอบรับ และแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายของหญิงสาว บรรจงประทับรอยจูบลงบนพวงแก้มนุ่มฝากรสหวานให้อีกฝ่ายได้สัมผัส
พัชรหลับตาลงซึมซับรสจูบอันแสนหวานของคนรักที่ประทับลงบนแก้มขวาของตัวเอง พร้อมกับจังหวะที่ว่าที่น้องสะใภ้กดชัตเตอร์เก็บภาพพอดี ไม่อยากให้ความรู้สึกนี้จากไปเลย จนเมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกมาแล้ว ต่างคนต่างส่งสายตาบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ตอนนี้ความรู้สึกอับอายได้มลายหายไปหมดแล้ว มีเพียงความรู้สึกอยากจะหยุดเวลาให้อยู่กับที่นานๆ เท่านั้น...
.............................................................................
ทั้งสามนั่งล้อมวงทานอาหารมื้อค่ำที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเดินเที่ยวในหมู่บ้านช่วงบ่ายบนแคร่ไม้ไผ่นอกระเบียงท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดผ่านมาปะทะไม่หยุดจนทำให้อาหารเย็นชืดลงอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ความหิวเริ่มจู่โจมเข้ามาจนต่างคนต่างไม่สนว่าอาหารจะเย็นชืดจนไม่น่ากินแค่ไหน ขอเพียงแค่ให้อิ่มท้องก่อน
ใบหม่อนลงมือละเลียดอาหารมื้อเย็นอย่างเอร็ดอร่อย กินไปเล่นสมาร์ทโฟนไปอย่างเพลิดเพลินจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แม้แต่พี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ที่นั่งกินไปป้อนไปอยู่ข้างๆ สาวเจ้าก็ทำเสมือนว่าเป็นอากาศธาตุที่พัดผ่านไปเท่านั้น
ป๊อปลงมือทานอาหารอันเย็นชืดไปป้อนให้คนรักกินไปเรื่อยๆ แต่แอบชำเลืองมองคนเป็นน้องสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาละเลียดอาหารมื้อค่ำที่มีทั้งไส้อั่ว ลาบคั่ว ไก่ย่าง หมูทอด และข้าวเหนียวอันเย็นชืดอยู่ แอบคลี่ยิ้มบางๆ อย่างเอ็นดู หันกลับไปหาคนรักที่กำลังมองมาเหมือนกับรออะไรบางอย่างอยู่ รู้ตัวอีกที ข้าวเหนียวปั้นย่อมๆ จิ้มลาบคั่วพอดีคำยังคามือตัวเองอยู่ รีบป้อนเข้าปากเรียวเล็กของคนรักอย่างรวดเร็วจน...
“ป๊อปค่อยๆ ป้อนสิ เค้าเคี้ยวไม่ทัน” พัชรบ่นเสียงอู้อี้ พลางมองจิกตาใส่อย่างขัดใจ
ชายหนุ่มหัวเราะแก้เขินเมื่อโดนว่าให้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นแสดงความรู้สึกผิดให้อีกฝ่ายได้เห็น แต่อดไม่ได้ที่จะแอบหันไปมองคนเป็นน้องสาวอีกรอบ
พัชรชำเลืองมองใบหน้าคร้ามของคนรักอย่างแปลกใจ แล้วก็ได้คำตอบเมื่อมองไปทางว่าที่น้องสะใภ้ที่กำลังก้มหน้าก้มตาละเลียดอาหารมื้อเย็นตรงหน้าไปเล่นมือถือไปอย่างเพลิดเพลิน รู้ทันทีว่าคนรักของเจ้าตัวแอบเป็นห่วงน้องสาวของเขาอยู่ไม่น้อย
“เค้าว่าป๊อปกินของป๊อปก่อนดีกว่าน้า ไม่ต้องห่วงน้องใบหม่อนหรอก น้องใบหม่อนกินจุจะตาย คริๆ”
“ก็เพราะน้องสาวเรากินจุน่ะสิเราถึงเป็นห่วง พอล้อเข้าก็บอกว่าอ้วนอีก” ป๊อปสวนกลับมาทันควัน “หรือพัชรกลัวอ้วนล่ะ ฮิๆ” พูดจบมือหนายื่นมาทำท่าจะจับพวงแก้มใส แต่สาวเจ้าเบี่ยงหน้าหลบทันก่อน
พัชรย่นจมูกขึ้นอย่างขัดใจเมื่อจู่ๆ แฟนหนุ่มหันกลับมาล้อเลียนตัวเองซะอย่างนั้น “ปากเสียนะป๊อป ผู้หญิงเขาไม่ชอบหรอกที่โดนว่าอ้วนอ่ะ” เสียงหวานแหวใส่พร้อมกับฟาดที่ท่อนแขนใหญ่เบาๆ หนึ่งที
อาหารมื้อค่ำพร่องลงอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของใบหม่อน ไส้อั่วในจานหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นานนักพร้อมกับเศษกระดูกไก่กองพะเนินในถุง เหลือเพียงแต่ลาบคั่วกับข้าวเหนียวอันเย็นชืดก้นถุงเท่านั้น ป๊อปได้แต่ชำเลืองมองคนเป็นน้องสาวที่เริ่มทำท่าเหมือนจะอิ่ม กำลังให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือเท่านั้น หันไปมองหน้าคนรักด้วยสายตาประเมินก่อนหันกลับมาจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อจนหมดในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก...
ป๊อปใช้เวลาก่อนนอนหมดไปกับการดูรูปที่ตัวเองถ่ายไว้ตลอดทั้งวันผ่านหน้าจอหลังกล้องถ่ายรูปคู่มือหลังจากอาบน้ำคู่กับแฟนสาวที่นอนอยู่เล่นสมาร์ทโฟนอยู่เคียงข้าง นัยน์ตาสองชั้นหลบมองรูปถ่ายฝีมือตัวเองอย่างประเมิน เมื่อเจอรูปที่ถ่ายออกมาไม่ชัดหรือมุมไม่ได้ ไม่ลังเลที่จะกดลบทันที หลังจากไล่คัดเลือกรูปไปสักพักหนึ่งเริ่มมีอาการเบื่อจึงวางกล้องลงบนหัวเตียง หยิบสมาร์ทโฟนสีดำคู่กายขึ้นมาดูโซเชียลส่วนตัวไปเรื่อยๆ พลันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ของคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เห็นสาวเจ้ากำลังดูคลิปตลกอยู่ จังหวะเดียวกับร่างบางนอนตะแคงหันหลังให้ทำให้หน้าจอสมาร์ทโฟนหันมาอยู่ในระดับสายตาของชายหนุ่มพอดี เมื่อเห็นคลิปแล้วทำให้เขาอดที่จะหัวเราะตามไม่ได้...
เสียงหัวเราะกรีดแหลมสูงชวนปวดประสาทดังแว่วมาจากเบื้องหลัง ทำให้คนที่นอนตะแคงอยู่ต้องหันกลับมาหา คิ้วเรียวสวยบนใบหน้าขาวกระจ่างใสขมวดมุ่นเข้าหากันพร้อมกับส่งสายตาสงสัยปนระอา กลีบปากเรียวเล็กเริ่มถามขึ้นมา
“ป๊อปขำอะไรเนี่ยหืม”
“อ้าว ก็ขำคลิปที่พัชรดูอยู่ไงล่ะ” ป๊อปแกล้งทำหน้าตายใส่ แต่ปากยังยิ้มกระตุกอยู่
พัชรกลอกตามองขึ้นไปข้างบนก่อนกลับมาสบตากับคนรักอีกรอบ “แต่เค้าเกลียดเสียงหัวเราะป๊อปมากเลยอ่ะ เลิกหัวเราะแบบนี้ได้ไหม ได้ยินแล้วปวดประสาท”
“ฮึๆ ได้ๆๆ” ป๊อปปรับเสียงของตัวเองกลับมาเป็นปกติ แต่ปากหยักได้รูปกลับคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิม
หญิงสาวไม่พูดอะไรต่ออีก เพียงแต่พลิกตัวให้อยู่ในท่านอนหงาย มือเล็กตะแคงหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือมาทางคนตัวใหญ่ให้ดูคลิปที่เปิดอยู่ไปด้วยกัน ต่างคนต่างหัวเราะคิกคักให้กันเบาๆ เมื่อถึงฉากตลก หลังจากคลิปจบลงต่างคนต่างแยกย้ายกันไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือของตัวเองต่อ
ชายหนุ่มเริ่มอัพรูปถ่ายฝีมือตัวเองลงในโซเชียลมีเดียส่วนตัวพร้อมกับคำแคปชั่นบรรยายสั้นๆ ตามสไตล์ นิ้วมือหนาเขี่ยไปบนหน้าจอไล่อ่านโพสต์ต่างๆ จากบรรดาเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ปล่อยให้คนนอนอยู่ข้างๆ ใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวไป จนเวลาผ่านไปไม่นานนัก ประตูห้องน้ำถูกเปิดขึ้นพร้อมกับร่างสูงระหงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาสวยเดินออกไปตากผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ในมือที่นอกระเบียง เรือนผมยาวสลวยถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเพราะยังเปียกอยู่
“<<พี่ป๊อปทำอิหยัง>>” เสียงใสเอ่ยถามคนตัวใหญ่ที่กำลังนอนเค้เก้เขี่ยสมาร์ทโฟนในมืออยู่
ร่างสูงระหงหย่อนตัวลงนั่งขอบเตียงข้างๆ ที่ชายหนุ่มนอนอยู่ ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปใกล้ๆ ใบหน้าคร้ามที่กำลังเพ่งมองหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือ บังเอิญนัยน์ตาสองชั้นหลบเงยขึ้นมาสบตากับหญิงสาว ปากหยักภายใต้หนวดเครารกครึ้มยกยิ้มขึ้น
“<<มีอะไรเหรอใบหม่อน พี่อัพรูปในเฟซอยู่>>”
“<<เหรอ อย่าลืมส่งรูปให้หนูด้วยล่ะ และรูปที่หนูกินไส้อั่วห้ามอัพนะ เข้าใจไหม>>”
ใบหม่อนออกปากกำชับคนเป็นพี่ชายพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ดวงตากลมโตคู่สวยมองอย่างคาดคั้น คอยดูว่าพี่ชายจะตอบอะไรมา
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินน้องสาวกำชับหนักแน่น นิ้วมือหนาเลื่อนไปเปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวเข้าไปที่กล่องแชตของหญิงสาว ก่อนที่จะกดอัพรูปที่เขาถ่ายไว้ร่วมๆ ร้อยกว่ารูปส่งให้ และรูปที่หญิงสาวทำหน้าเหวอตอนกินไส้อั่วกลางหมู่บ้านก็ถูกส่งตามไปด้วย
“<<เอ้า พี่ส่งให้แล้วนะใบหม่อน>>”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินที่วางไว้บนเตียงอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวผุดลุกขึ้นเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองพร้อมกับหมอนหนึ่งใบติดมือมาด้วย ก่อนเดินกลับมาที่เตียงของพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้อีกครั้ง
“<<พี่ป๊อป พี่พัชร หนูขอนอนด้วยคนสิ>>”
ทั้งสองหันมามองหน้าหญิงสาวพร้อมกันราวกับนัดหมายกันมา โดยเฉพาะพัชรที่ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามส่งไปให้ว่าที่น้องสะใภ้ได้รับรู้ ขณะที่คนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปยังไงก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“<<มาสิ จะนอนตรงไหนล่ะ เบียดหน่อยนะ>>”
ใบหม่อนเอื้อมมือไปวางหมอนแทรกกลางระหว่างพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ ร่างสูงระหงก้าวขึ้นบนเตียงพร้อมกับทอดตัวลงนอนคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ เป็นคำตอบให้รู้เลยว่าเจ้าตัวจะนอนตรงไหนบนเตียงในค่ำคืนนี้
“พี่พัชรขา หนูขอนอนกับพี่ชายของหนูหน่อยน้า” หญิงสาวหันไปขออนุญาตกับพัชร
พัชรคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับพยักหน้าอนุญาตกับว่าที่น้องสะใภ้ “ได้เลยจ้า น้องใบหม่อนมานอนด้วยก็ดีเหมือนกัน จะได้กันไม่ให้พี่ป๊อปมารบกวนพี่ไง คริๆ”
สองสาวพร้อมใจกันส่งเสียงหัวเราะคิกคักพร้อมกับปรายตามองคนตัวใหญ่อย่างรู้กัน โดยเฉพาะใบหม่อนทำท่ายักคิ้วหลิ่วตาใส่เหมือนกับจะเยาเย้ย
“<<โอ๋ๆ พี่ป๊อป ไม่เป็นไรน้า คืนนี้นอนกับน้องไง น้องไม่ได้นอนกับพี่ป๊อปตั้งนานแล้วน้า คริๆ>>” เสียงใสเอ่ยกับคนเป็นพี่ชายก่อนส่งเสียงหัวเราะทิ้งท้าย
จู่ๆ ป๊อปลุกเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งของเตียงที่แฟนสาวนอนอยู่แบบไม่ลังเล ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปจุ๊บบนพวงแก้มนุ่มขาวละเอียดหนึ่งทีทั้งที่ยังนอนอยู่
ใบหน้าของหญิงสาวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกตำลึงสุกพร้อมอาการร้อนผะผ่าวฉาบทาไปทั่วหน้า หัวใจเริ่มเต้นระรัวถี่ขึ้นเมื่อถูกขโมยจุ๊บแก้มเบาๆ แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาคู่สวยหันไปชำเลืองมองคนขี้หื่นที่ตอนนี้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะชนกันแล้ว
“ป๊อปขโมยจูบเค้าอีกแล้วนะ” เสียงหวานว่าให้ไม่จริงจังนัก กลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้
คนตัวใหญ่คลี่ยิ้มกว้างขึ้นมา ค่อยๆ ถอยใบหน้าตัวเองออกห่างเว้นระยะให้พอหายใจได้สะดวก ขืนยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากกว่านี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ “พัชร เราคบกันมาสิบสองปีแล้วนะ จะอายทำไมล่ะ ฮิๆ” พูดจบแล้วร่างสูงใหญ่รีบพาตัวเองกลับไปยังที่นอนของตัวเองทันที
“น้องใบหม่อนดูพี่ป๊อปเขาสิ ขี้หื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ เลย” พัชรหันไปประท้วงกับว่าที่น้องสะใภ้
“<<พี่ป๊อปนี่น้า...>>” ใบหม่อนถึงกับส่ายศีรษะไปมาอย่างอิดหนาระอาใจ “<<หนูไม่คิดเลยนะว่าพี่ชายหนูจะเป็นคนขี้หื่นแบบนี้>>”
“<<อ้าวๆๆ ก็แฟนพี่นี่ แหมอิจฉาตาร้อนอ่ะดิ ฮิๆ>>” คนโดนพาดพิงสวนกลับมาอย่างรู้ทัน
“<<ไม่ต้องมาพูดเลย ไว้ถึงทีหนูบ้างเถอะ ชิ>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดอย่างงอนๆ เมื่อถูกพี่ชายจี้จุดเข้าให้
เวลาผ่านเลยไปราวๆ เกือบสี่ทุ่ม
ป๊อปเริ่มสังเกตกิริยาท่าทางของน้องสาวที่เริ่มพูดช้าลง ยกมือขึ้นปิดปากที่กำลังหาวหวอดๆ ไม่หยุด ดวงตากลมโตคู่สวยเริ่มหรี่ลงทำท่าจะปิดแหล่มิปิดแหล่ ชำเลืองมองไปทางแฟนสาวที่เริ่มทำท่าจะง่วงนอนตามไปด้วยอีกคนก่อนหันกลับมามองหน้าน้องสาวตัวเองที่ตอนนี้ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
“<<หลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>” ป๊อปก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ
ร่างสูงใหญ่ลุกจากที่นอนตัวเองเดินอ้อมไปหาแฟนสาวที่กำลังจะนอนหลับตามไปด้วยอีกคน เห็นดวงตาคู่สวยเริ่มหรี่ลงแต่ยังชำเลืองมองมาทางเขา กลีบปากเรียวสวยผุดยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ พยายามกระเถิบตัวลุกขึ้นเพื่อให้คนรักส่งเข้านอนได้ถนัด
“เค้าง่วงแล้วอ่ะป๊อป” เสียงหวานเอ่ยกับชายคนรักอย่างแผ่วเบา
ป๊อปไม่พูดอะไรนอกจากคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับส่งสายตาบอกรักให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ กับใบหน้าสวยหวานจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ และลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาว เขาเลือกที่จะบอกลาด้วยการประทับริมฝีปากหยักภายใต้หนวดเครารกครึ้มบนหน้าผากโค้งมนสวยได้รูปอย่างนุ่มนวล...
พัชรค่อยๆ หลับตารับรสจูบอันแสนหวานที่แฟนหนุ่มฝากไว้บนหน้าผากโค้งมน เมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกแล้ว เจ้าตัวไม่รีรอที่จะบอกรักตอบด้วยการประทับรอยจูบบนแก้มสากหนึ่งทีก่อนค่อยๆ หย่อนตัวลงเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา...
ชายหนุ่มนั่งมองหน้าคนที่เขารักมากที่สุดทั้งสองที่กำลังนอนหลับอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อยู่ในใจ ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินไปปิดไฟห้องจนมืดสนิท ร่างสูงใหญ่กลับมาที่เตียงอีกครั้ง ค่อยๆ ทอดตัวลงนอนเหยียดเคียงข้างร่างสูงระหงของคนเป็นน้องสาวเข้าสู่ภวังค์ในที่สุด...
ป๊อปเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึก มองไปรอบๆ เห็นเพียงแต่ความมืดและได้ยินแต่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากสองสาวที่นอนอยู่ด้วยกันเท่านั้น เขาใช้สายตาที่เริ่มชินกับความมืดมองลงไป เห็นท่อนแขนเรียวยื่นมาก่ายบนลำตัวเขาราวกับเป็นหมอนข้างใบใหญ่ให้กอดเสียอย่างนั้น ยังไม่พอ ขาเรียวสวยยกขึ้นมาก่ายช่วงสะโพกอีก ทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวมากเพราะกลัวว่าน้องสาวจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน
‘พี่จำได้นะว่าตอนเด็กๆ ถ้าเรานอนกับพี่ทีไรเราชอบกอดพี่เหมือนหมอนข้างทุกทีเลย’
เขานึกในใจขึ้นมาพร้อมกับหันไปชำเลืองมองหญิงสาวที่กำลังพ่นลมหายใจสม่ำเสมอให้เขาได้ยินในระยะใกล้ ปากหยักคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนส่ายศีรษะทุยขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมองเบาๆ กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า...
“<<พี่ป๊อป หนูซิ่งแล้วนะ เกาะแน่นๆ ล่ะ>>” หญิงสาวกำชับคนที่นั่งซ้อนท้าย
“<<คร้าบแม่ อย่าเหวี่ยงรถแบบพี่นะเว้ย เดี๋ยวพี่ร่วงเอาไม่รู้ด้วยนะ>>”
ทั้งสองขี่มอเตอร์ไซค์แล่นมาเรื่อยๆ ตามทางจนมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเห็นบรรดานักท่องเที่ยวแน่นขนัดไปหมดตลอดสองข้างทางจนแทบจะหาที่ว่างให้แทรกตัวไปไม่ได้
“<<แน่นไปหมดเลยอ่ะพี่ป๊อป แล้วหนูจะได้กินอะไรไหมเนี่ย>>”
“<<เอาน่าใบหม่อน งั้นหาที่จอดรถก่อนดีไหม เดี๋ยวเดินเข้าไปกัน ขืนขี่เข้าไปแบบนี้ชนเขาตายแหงๆ>>”
ใบหม่อนยอมทำตามคำของพี่ชายด้วยการหักเลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดใกล้ๆ กับทางเข้าหมู่บ้าน หลังจากดับเครื่องและจอดรถเสร็จ ทั้งสามพากันเดินฝ่าฝูงชนที่แน่นขนัดไปตามทางอย่างยากลำบากไม่น้อย จากอากาศที่หนาวจัดๆ กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาในทันทีเมื่อเดินมาเรื่อยๆ จนถึงใจกลางหมู่บ้าน ต่างคนต่างสอดส่ายสายตามองหาที่ว่างจนไม่มีแม้แต่อารมณ์จะคุยเล่น แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มเมื่อเขายกกล้องเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบสลับกับหันไปถ่ายผู้ร่วมทริปทั้งสอง
ทั้งสองสาวเริ่มทนหิวไม่ไหวรีบเดินหาร้านที่ว่างพอจะมีที่นั่งบ้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาไม่ได้สักที ใบหม่อนหันไปชำเลืองมองพี่ชายตัวเองที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเก็บรูปอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดใจไม่น้อย
“<<พี่ป๊อปหยุดถ่ายรูปสักทีได้ไหม ช่วยหาร้านหน่อยเหอะ>>”
“นั่นสิป๊อป เค้าหิวจะแย่แล้วนะ” คราวนี้พัชรถือหางว่าที่น้องสะใภ้
บังเอิญป๊อปยกกล้องไปที่ร้านไส้อั่วแม่นิ่มพอดี กำลังเล็งเข้าไปข้างใน สังเกตเห็นข้างในร้านกำลังว่างอยู่เพราะคนเริ่มทะยอยออกไปบ้างแล้ว มือหนารีบลดกล้องลง หันไปบอกกับคนโมโหหิวทั้งสอง
“แวะร้านนี้ไหมล่ะ กำลังว่างพอดี”
ป๊อปเอื้อมมือคว้าข้อมือเล็กของใบหม่อนให้เดินตาม ขณะที่พัชรรีบเดินตามมาติดๆ แต่ก็ต้องฝ่าฝูงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่สักพักจนเข้าไปข้างในร้านได้ในที่สุด
ทั้งสามเลือกที่จะนั่งด้านในสุดของร้าน มองเห็นบรรยากาศอันร่มครึ้มชัดเจนเมื่อมองไปนอกหน้าต่าง เห็นกระแสน้ำในลำธารไหลเอื่อยๆ ดูเพลินตาจนทั้งสองสาวลืมอาการโมโหหิวไปเสียสิ้น หลังจากนั่งพักจนพอหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามหันกลับมาอ่านเมนูอาหารที่ติดไว้บนโต๊ะก่อนออกปากสั่งกับพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรออยู่
ไส้อั่วจานใหญ่ ลาบหมูคั่วแบบภาคเหนือ ส้มตำปูปลาร้า ไก่ย่างและข้าวเหนียวกระติ๊บใหญ่ร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยถูกนำมาเสิร์ฟถึงที่พร้อมกับน้ำดื่มที่ถูกนำมาเสิร์ฟต่อท้ายหลังจากนั้นไม่นาน
ใบหม่อนเริ่มลงมือละเลียดอาหารที่อยู่ตรงหน้าทันทีด้วยอาการหิวโหยจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้แต่สมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่วางไว้ข้างๆ ที่ปกติเจ้าตัวมักจะเล่นทุกครั้งแม้แต่เวลากินข้าว แต่ครั้งนี้สาวเจ้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว
ป๊อปหันไปสบตากับคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรู้กันว่าคิดอะไรอยู่ก่อนหันกลับไปมองน้องสาวคนสวยของตัวเองกำลังตั้งหน้าตั้งตาละเลียดไส้อั่วอันเป็นเมนูหลักอย่างเอร็ดอร่อย อดที่จะแซวไม่ได้ด้วยความเป็นห่วง
“<<ค่อยๆ กินก็ได้ใบหม่อน เดี๋ยวติดคอ>>”
“<<ก็มันหิวนี่นาพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนพูดทั้งที่ยังเคี้ยวเต็มปากอยู่
“ไม่พอสั่งอีกได้นะจ๊ะน้องใบหม่อน” พัชรเปรยขึ้นมา ทำท่าจะหันไปเรียกพนักงานเสิร์ฟแต่กลับถูกคนกินจุห้ามไว้
“พอก่อนค่ะพี่พัชร แค่นี้หนูก็กินไม่หมดแล้วเนี่ย”
“จ้า ฮิๆ ถ้าไม่อิ่มบอกน้า เดี๋ยวพี่สั่งให้”
ระหว่างรับประทานอาหารอยู่เพลินๆ ป๊อปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดกล้อง เก็บภาพบรรยากาศรอบๆ และเก็บภาพสองสาวที่กำลังละเลียดอาหารตรงหน้าไว้ บังเอิญใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมาพอดี ดวงตากลมโตคู่สวยมองดุใส่
“<<ไม่ต้องมาถ่ายรูปเลยพี่ป๊อป กินไป>>”
สุดท้ายแล้ว ไส้อั่วในจานหมดก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนกับข้าวอื่นๆ เริ่มพร่องลงเรื่อยๆ ด้วยอาการหิวของทั้งสาม โดยเฉพาะใบหม่อนที่รอบนี้เจริญอาหารเป็นพิเศษ หลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันจนอิ่มหนำสำราญพร้อมกับชมลำธารที่ไหลเอื่อยๆ ตรงหลังร้านแล้ว ป๊อปหันไปยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟมาเก็บเงินพร้อมกับหยิบเงินสดที่ติดตัวมารอไว้พร้อม คราวนี้ใบหม่อนควักเงินตัวเองมาสมทบด้วย
“<<พี่ป๊อป นี่เอาไป หนูจ่ายด้วย>>”
แบงก์ร้อยสองใบจากมือของหญิงสาวถูกยื่นให้กับคนทำหน้าที่จ่ายเงิน ป๊อปไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวได้จึงเอาไปรวมกับเงินของตัวเองกับแฟนสาวที่เตรียมรอไว้ ไม่ลืมที่จะให้ทิปกับทางร้านด้วย แต่ก่อนกลับออกไป มีคนติดใจรสชาติของไส้อั่วร้านที่ดังที่สุดในแม่กำปองจนอดใจไม่ไหวต้องซื้ออีกสองขีดเผื่อไว้กินมื้อเย็นด้วย
ทั้งสามพากันเดินออกมาเผชิญกับบรรดาผู้คนมากมายที่มาเยือนหมู่บ้านจนแน่นขนัดไปหมด บรรยากาศรอบข้างเริ่มอบอุ่นขึ้นจนใบหม่อนต้องถอดสูทคืนให้คนเป็นพี่ชาย
ป๊อปยื่นมือมารับสูทจากหญิงสาวก่อนพับไว้และเอาพาดบ่าไว้เฉยๆ ขาทั้งสองข้างก้าวตามสองสาวที่เดินนำหน้าฝ่าฝูงชนที่มากันอย่างล้นหลามไปตามเส้นทางข้างหน้า เมื่อเห็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ทั้งสองสาวรีบเดินตรงรี่เข้าไปโพสท่าให้ชายหนุ่มลั่นชัตเตอร์บันทึกภาพไว้ บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มแอบถ่ายรูปทีเผลอของแต่ละคนไว้ โดยเฉพาะแฟนสาวที่เขาตั้งใจจะเก็บภาพทุกอิริยาบถไว้
“<<พี่ป๊อปถ่ายหนูบ้างสิ เอาแต่ถ่ายพี่พัชรอยู่นั่นแหละ ทำไม หนูไม่สวยเหมือนพี่พัชรเหรอไง>>” ใบหม่อนเริ่มตัดพ้อคนเป็นพี่ชายเมื่อเห็นว่าเอาแต่ถ่ายว่าที่พี่สะใภ้
ได้ผลเมื่อป๊อปยอมหันมาถ่ายรูปเจ้าตัวแต่โดยดี ถือโอกาสโพสท่าสวยๆ พร้อมกับโปรยยิ้มหวาน ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มกว้างจนสุดเผยให้เห็นฟันเหล็กครบทุกซี่ ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิสู้กล้องของคนตรงหน้า คราวนี้ป๊อปกดชัตเตอร์รัวๆ เช่นเดียวกับตอนเก็บภาพแฟนสาวของตัวเองเมื่อก่อนหน้านี้ เห็นรอยยิ้มสดใสแล้วเหมือนมีแรงกระตุ้นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาอยากจะเก็บภาพน้องสาวคนนี้ไปเรื่อยๆ อีก
“ป๊อป ถ่ายไว้เยอะๆ น้า น้องใบหม่อนยิ้มสวยมากเลย” พัชรเริ่มยุขึ้นมาบ้าง
ชายหนุ่มแกล้งหันกล้องมาทำท่าจะถ่ายคนยุส่ง แต่นิ้วเจ้ากรรมกลับกดชัตเตอร์ไปแบบไม่ได้ตั้งใจเลยได้ภาพใบหน้าเหวอๆ ของคนยุจนได้ เมื่อเห็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้วทำให้เขากลั้นขำแทบจะไม่อยู่ ขณะที่คนโดนถ่ายรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มราวลูกตำลึงสุก ทางด้านใบหม่อนเมื่อเห็นรูปถ่ายฝีมือพี่ชายเมื่อสักครู่ถึงกับทนไม่ไหวระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ยิ่งทำให้คนโดนถ่ายยิ่งออกอาการอายมากขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งเดินผ่านใจกลางหมู่บ้านยิ่งมีร้านรวงต่างๆ กับแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูปมากมายถึงแม้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่ให้เดินก็ตาม
ใบหม่อนเริ่มมีอาการเซ็งเมื่อทนรอคิวอันยาวเหยียดไม่ไหว ตั้งใจจะหาของกินเล่นระหว่างทางไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะยังอิ่มอยู่และมีไส้อั่วอีกสองขีดให้กินเล่นระหว่างทางก็ตาม แต่กลับเจอแต่ผู้คนที่นั่งเบียดเสียดเต็มไปหมดจนแทบไม่มีที่ว่างให้เข้าไปหาซื้อได้เลยแม้แต่น้อย
ป๊อปคอยมองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ถึงแม้จะกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเก็บรูปก็ตาม แต่ตอนนี้อดไม่ได้แล้วที่จะเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างเงียบเชียบ
“<<ใบหม่อนเป็นอะไร พี่เห็นเราทำหน้าเซ็ง>>”
“<<ตอนนี้หนูเริ่มหงุดหงิดแล้วอ่ะ คนเยอะจนหนูไม่ได้อะไรแล้วเนี่ย>>”
“<<เอาน่าๆ พี่เองก็กะเวลาผิดมาช่วงคนเยอะซะได้ พี่ขอโทษนะใบหม่อน>>”
“<<ไม่มีอะไรหรอกพี่ป๊อปอ่ะ คิดมาก หนูแค่เซ็งเฉยๆ>>” หญิงสาวคลี่ยิ้มน้อยๆ เผื่อว่าจะทำให้คนเป็นห่วงสบายใจขึ้นบ้าง “<<หนูแค่หงุดหงิดแป๊ปเดียวก็หายแล้ว ไม่ใช่พี่ป๊อปนะที่คิดมากอ่ะ>>”
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นไปจับจุกเหนือกระหม่อมของหญิงสาวโยกไปโยกมา แต่นั่นทำให้คนโดนหยอกต้องมองค้อนใส่
“<<พี่ป๊อปอย่าเล่นผมหนูสิ โน่น พี่พัชรก็มัดจุกเหมือนหนูทำไมไม่ไปเล่นผมพี่พัชรบ้างล่ะ>>” ใบหม่อนบุ้ยหน้าไปทางว่าที่พี่สะใภ้ที่เดินอยู่ใกล้ๆ
“<<ฮื้ม ก็เวลาเรามัดจุกมันมีเสน่ห์อะไรบางอย่างที่ชวนให้พี่จับเล่นนี่>>” ป๊อปพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “<<แต่ถ้าเป็นแฟนพี่น่ะเหรอ อื้ม…>>” ป๊อปกลอกตามองบนทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพัก ค่อยๆ หันไปขโมยหอมแก้มของแฟนสาวเสียดื้อๆ
“อ๊าย ตายแล้ว” เสียงหวานอุทานออกมาเมื่อจู่ๆ ถูกขโมยหอมแก้มแบบไม่ทันตั้งตัวท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านตลอดสองข้างทาง “ป๊อป ขโมยหอมแก้มเขาอีกแล้วนะ ไม่อายคนอื่นบ้างเหรอไงห๊า!!!” พูดไปหน้าแดงไป ยังมีอาการอับอายอยู่
ใบหม่อนอาศัยจังหวะที่พี่ชายขโมยหอมแก้มว่าที่พี่สะใภ้จัดการเก็บรูปด้วยสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินในมือและส่งให้กับครอบครัวผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวอย่างรวดเร็ว แอบยิ้มร้ายเมื่อกดส่งรูปเสร็จ ‘พี่ป๊อปไม่รอดแน่ หนูส่งรูปให้แม่ดูแล้วน้า คริๆ’
“<<ทำอะไรเหรอใบหม่อน>>”
สาวเจ้าหุบยิ้มแทบจะไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงทุ้มลอยลมของพี่ชาย พยายามปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้ปกติที่สุดก่อนหันไปมองใบหน้าคร้ามที่กำลังยิ้มแหยๆ หันไปทางว่าที่พี่สะใภ้ที่กำลังหน้าแดงเพราะอาการเขินที่มองมาด้วยสายตาที่ไม่ต่างจากฝ่ายชาย กลีบปากเรียวสวยคลี่ยิ้มแหยๆ เหมือนกัน ทำให้ตอนนี้เริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว
“<<ก็ไม่มีอะไรนี่ พี่ป๊อปอ่ะคิดมาก>>” ใบหม่อนยักไหล่ขึ้น แกล้งทำเฉไฉ
“เหรอจ๊ะน้องใบหม่อน พี่เห็นนะว่าเราแอบถ่ายตอนพี่โดนจูบอ่ะ” คราวนี้พัชรแกล้งว่าให้ว่าที่น้องสะใภ้ตัวดีบ้าง
“<<แอบส่งรูปให้พ่อแม่กับแม่คุณดูล่ะสิ>>” ป๊อปเอื้อมมือมาโยกจุกเหนือศีรษะหญิงสาวอีกรอบ แกล้งทำเป็นส่งสายตาคาดคั้นใส่ทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่ได้นึกโกรธเคืองน้องสาวเลยแม้แต่น้อย
“<<พี่ป๊อปเล่นผมหนูอีกแล้วน้า>>” หญิงสาวแกะมือหนาที่จับจุกเหนือศีรษะตัวเองออก “<<ใช่ หนูส่งรูปให้ที่บ้านดูเองแหละ>>”
นัยน์ตาสองชั้นหลบละสายตาจากใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ของน้องสาวตัวดีหันไปสบตากับคนที่ตัวเองเพิ่งขโมยจูบที่ส่งสายตาตอบกลับมาอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แอบชำเลืองมองหน้าของหญิงสาวที่กำลังพยายามเก็บอาการอยู่ เห็นดวงตากลมโตคู่สวยกำลังไหวระริกด้วยความรู้สึกผิด จากเดิมที่คิดจะแกล้งเอาคืนน้องสาวแต่เมื่อเห็นแบบนี้แล้วยังไงก็แกล้งไม่ลง
“<<อืมๆ พี่ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะใบหม่อน ไม่เป็นไรนะคะ>>”
ป๊อปปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนลงกว่าเดิม หันไปส่งสายตาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างกับพัชรที่หันมาคลี่ยิ้มหวานให้ ลืมความรู้สึกโกรธและอายไปหมดแล้ว...
“น้องใบหม่อนจ๊ะ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทมากเลยนะจ๊ะรู้ไหม เกิดไปถ่ายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ล่ะ เขาจะคิดยังไงล่ะจ๊ะ”
พัชรสวมบทแม่อบรมว่าที่น้องสะใภ้ตัวดีด้วยน้ำเสียงหวานน่าฟังแฝงความเยือกเย็นจนคนโดนอบรมเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา รู้ทันทีว่าพี่ชายไม่กล้าแม้แต่จะอบรมเองเพราะแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากขนาดไหน จึงให้ว่าที่พี่สะใภ้เป็นคนอบรมแทน
“หนูขอโทษนะคะ พี่ป๊อป พี่พัชร” ใบหม่อนยกมือไหว้ขอโทษพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ
“<<อืมใบหม่อน พี่ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าจะถ่ายรูปพวกพี่จูบกันน่ะ>>” ป๊อปยื่นมือมาบีบมือเล็กของหญิงสาวเชิงปลอบใจ “<<แต่คราวหลังให้สุ้มให้เสียงกันด้วยสิ จะได้ออกมาท่าสวยๆ หน่อย ฮิๆ>>”
“ป๊อป!!!” เสียงหวานแหวใส่ มือเล็กฟาดท่อนแขนแกร่งอย่างเต็มรักพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษ
“พอๆ เที่ยวต่อๆ เดี๋ยวเย็นแล้วกลับถึงที่พักมืดไม่รู้ด้วยนะ” สุดท้ายป๊อปก็ต้องตัดบทเองก่อนที่เรื่องจะแดงไปมากกว่านี้
ทั้งสามพากันเดินเที่ยวต่อถึงแม้จะต้องฝ่าฝูงคนที่ยิ่งทวีความหนาแน่นมากขึ้น มองไปตามร้านรวงต่างๆ ตลอดสองข้างทางยังคงแน่นขนัดจนแทบจะไม่มีที่ให้แทรกตัวเข้าไป ได้แต่เฝ้ามองดูอยู่ด้านนอกเท่านั้น และตอนนี้ไส้อั่วจากร้านแม่นิ่มทั้งสองขีดในมือของใบหม่อนค่อยๆ พร่องลงจนหมดถุงหลังจากเดินเที่ยวไปละเลียดไส้อั่วแสนอร่อยไป และช็อตหญิงสาวละเลียดไส้อั่วตอนเดินเที่ยวก็ไม่พ้นสายตาผ่านกล้องของชายหนุ่มจนได้ แต่คราวนี้เขาเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนสีดำทำหน้าที่เก็บภาพแทน แอบเอาคืนเล็กๆ ด้วยการส่งรูปตอนสาวเจ้ากำลังอ้าปากเขมือบไส้อั่วผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวไปยังกล่องแชตของผู้เป็นแม่
‘ต้องทำโทษหน่อย น้องสาวหน้ากลมตัวแสบของพี่’ ป๊อปแอบต่อให้ในใจ
“<<พี่ป๊อป! แอบส่งรูปหนูให้แม่ดูเหรอ>>” ใบหม่อนหันมาแว้ดใส่พี่ชายทันทีที่เห็นข้อความจากผู้เป็นแม่ผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียว
“<<ฮึๆๆ>>” ป๊อปหัวเราะในลำคอ ลอบยิ้มร้ายใส่ “<<แหมทีเราแอบถ่ายตอนพวกพี่จูบกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย ก็หยวนๆ ให้พี่หน่อยน่า>>”
ใบหม่อนถึงกับหน้าแดงขึ้นมา ทั้งโกรธทั้งอายในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังคนทำหน้าทะเล้นไม่หยุด
“<<ไม่ต้องมาแกล้งหนูเลยนะพี่ป๊อป>>”
“<<เอาน่าๆ พี่ขอโทษๆ ไปๆ หาอะไรกินกันดีกว่า พี่ดูออกว่าเราไม่อิ่มหรอก ฮึๆ>>”
หญิงสาวลอบมองดุใส่หนึ่งทีก่อนหันไปชวนว่าที่พี่สะใภ้เดินช็อปปิ้งด้วยกันตามประสาผู้หญิง ปล่อยให้ป๊อปเดินตามหลังอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นอากาศธาตุ จะมีบทบาทก็ต่อเมื่อเป็นคนจ่ายเงินเท่านั้น แต่ใบหม่อนก็ไม่ใจร้ายกับพี่ชายจนเกินไปเมื่อยอมควักเงินตัวเองช่วยจ่ายเป็นครั้งคราว สารพัดเมนูเด็ดจากร้านรวงต่างๆ ในหมู่บ้านถูกทั้งสองสาวชิมช็อปหมดจนคนทำหน้าที่จ่ายเงินอดเป็นห่วงไม่ได้ สารพัดเมนูต่างๆ ที่ทั้งสองสาวซื้อไว้สำหรับอาหารมื้อเย็นถูกนำมายัดใส่มือของชายหนุ่มจนเต็มแทบไม่มีมือว่างให้ถือแล้วในตอนนี้ เว้นแต่ของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ใบหม่อนถือไปกินไประหว่างทางเท่านั้น...
“พัชร ช่วยเราถือบ้างก็ดีนะ เต็มมือแล้วเนี่ย” ป๊อปหันไปออกปากกับแฟนสาว
“ก็ไม่บอกเค้านี่ ไม่งั้นเค้าช่วยถือไปแล้ว คริๆ” พัชรแกล้งเล่นแง่ใส่ก่อนยื่นมือเล็กขาวราวลำเทียนมารับของจากแฟนหนุ่ม
.....................................................................
ตกเย็น
มอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั้งสองคันถูกส่งคืนให้กับร้านเช่าหลังจากจบทริปของวันนี้ลง ทั้งสามพากันเดินกลับมาจนถึงที่พักในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ทันทีที่ประตูห้องเปิด ร่างสูงระหงของใบหม่อนรีบโดดผึงไปบนนอนแผ่บนเตียงทันทีหลังจากเหนื่อยจากการเดินช็อปปิ้งมาตลอดทั้งวัน บรรดาอาหารมื้อเย็นที่ทั้งสองสาวซื้อติดมือมาถูกวางไว้บนโต๊ะ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนอิริยาบถตามมุมต่างๆ ในห้อง เว้นแต่ป๊อปที่เดินหลีกออกไปสูดอากาศเย็นนอกระเบียงพร้อมกับกล้องถ่ายรูปในมือที่เตรียมพร้อมรอเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็นวันนี้
ป๊อปยืนทอดอารมณ์ดูวิวหมู่บ้านหน้าระเบียงท่ามกลางสายลมหนาวพัดผ่านมาปะทะร่าง มองเห็นดวงอาทิตย์ลูกกลมสีแดงฉานค่อยๆ เคลื่อนผ่านมวลเมฆลอยต่ำลงๆ ไม่รอช้ารีบยกกล้องขึ้นมา นัยน์ตาสองชั้นหลบมองผ่านช่องโฟกัสพร้อมใช้มือหมุนปรับเลนส์ตรงหน้าช้าๆ บรรจงกดชัตเตอร์บันทึกภาพตรงหน้า
{{แชะ}}
นิ้วมือหนากดชัตเตอร์ย้ำลงไปอีกจนได้สักสามสี่รูปไว้เผื่อเลือก ค่อยๆ ละสายตาจากกล้องเงยขึ้นมามองภาพตรงหน้า เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินตัดกับแสงจากดวงอาทิตย์แล้วทำให้อดที่จะเก็บภาพไม่ได้อีก นิ้วมือหนากดชัตเตอร์เก็บภาพที่เห็นตรงหน้าอีกสองถึงสามรูป...
ระหว่างนั้นพัชรกับใบหม่อนเดินออกมาดูพระอาทิตย์ตกริมระเบียงบ้าง เห็นชายหนุ่มยืนยกกล้องเก็บรูปอยู่สักพักหนึ่ง คราวนี้พัชรค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าคร้ามของคนรัก ก่อนกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“ป๊อป ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินเหรอ”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมาหาเจ้าของเสียงหวานที่กระซิบข้างหูเมื่อสักครู่ เห็นใบหน้าขาวสวยของคนรักส่งยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ และน้องสาวสุดน่ารักส่งยิ้มหวานอยู่ข้างหลังคนรักของเจ้าตัว
“อ้าว มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย กำลังเก็บภาพเพลินๆ เลย” ป๊อปแกล้งว่าให้คนรักไม่จริงจังนัก ก่อนลงโทษด้วยการหอมแก้มขาวละเอียดนุ่มๆ ของหญิงสาวหนึ่งที
พัชรถึงกับหน้าแดงร้อนวูบวาบหลังจากถูกคนรักหอมแก้ม คราวนี้เจ้าตัวถือโอกาสเอาคืนด้วยการหอมแก้มสากของคนรักบ้าง และนั่นทำให้คนที่ต้องห่างไกลคู่รักอย่างใบหม่อนรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันทีที่ภาพเหตุการณ์ตรงหน้า สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแกล้งทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น
‘อย่าให้ถึงทีหนูบ้างนะพี่ป๊อป พี่พัชร ฮึ่ม’ ใบหม่อนอดชำเลืองมองค้อนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
จากที่ทั้งสองกอดกันกลมผลัดกันหอมแก้มเติมความหวานโดยมีพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางหุบเขาและหมู่บ้านแม่กำปองเป็นฉากหลัง ร่างบางของหญิงสาวผละออกมาจากอ้อมกอดของคนรักเดินออกมาพิงกับระเบียง ท่อนแขนหนาของชายหนุ่มตวัดโอบเอวคอดไว้หลวมๆ ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเคราโน้มลงไปจูบบนเรือนผมนุ่มลื่นสีดำขลับของหญิงสาวผู้เป็นที่รักอย่างละมุน จากความรู้สึกเร่าร้อนในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอบอุ่นละมุนละไมอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะทำให้อีกคนต้องอิจฉาตาร้อนไปมากกว่านี้ทั้งสองต่างรีบผละออกจากกันเปลี่ยนเป็นยืนเกาะระเบียงคนละมุมใกล้ๆ กัน
ป๊อปแอบชำเลืองมองน้องสาวที่ยืนเกาะระเบียงอยู่ใกล้ๆ กัน แอบเห็นสายตาที่เหมือนกับจะบอกอะไรบางอย่างให้รับรู้ ว่าแล้วสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดโหมดกล้องเตรียมจะถ่ายรูปหญิงสาว แต่ทว่าดวงตากลมโตคู่สวยปรายตามองค้อนใส่จังหวะเดียวกับที่เขากดชัตเตอร์พอดี...
“<<พี่ป๊อปไม่ต้องมาถ่ายรูปหนูเลย>>” ใบหม่อนว่าเสียงดุใส่ จะหันหน้าหลบแต่ไม่ทันแล้ว “<<เหม็นความรัก เชอะ>>” พูดจบใบหน้าสวยหวานเริ่มบูดบึ้งงอง้ำบ่งบอกอาการเซ็งให้เห็น
ป๊อปหันไปส่งสายตากับแฟนสาวก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หันกลับมาหาคนเหม็นความรักอีกครั้ง เอื้อมมือขึ้นไปจับจุกเหนือกระหม่อมของคนหน้ามุ่ยโยกไปมาเบาๆ “<<คิดถึงโบ้ล่ะสิหืม>>”
“<<เลิกเล่นผมหนูได้แล้วน้า>>” ใบหม่อนแกะมือของพี่ชายออก “<<ช่างเหอะพี่ป๊อป แค่หนูหมั่นไส้ที่พวกพี่กอดกันเฉยๆ เห็นแล้วจะอ้วก แบร่>>” แลบลิ้นหลอกใส่พี่ชายก่อนกลับมาหัวเราะได้อีกครั้งหนึ่ง
“น้องใบหม่อนจ๊ะ ถ้าเหม็นความรักไม่วีดีโอคอลหาโบ้ล่ะจ๊ะ คริๆ” พัชรออกปากถามขึ้นมา ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ
ใบหม่อนส่ายหน้าไปมา ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม “ไม่ดีกว่าพี่พัชร นี่หนูมาเที่ยวกับพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ของหนูนี่นา แฟนหนูค่อยคุยเมื่อไหร่ก็ได้”
“<<จริงเหรอ>>” ป๊อปถามสวนขึ้นมาทันที มองออกว่าน้องสาวตัวเองคิดอะไรอยู่
หญิงสาวแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของพี่ชาย หันไปคุยกับว่าที่พี่สะใภ้ต่อ “ช่างเถอะพี่พัชร มาๆ ถ่ายรูปกันดีกว่า” ว่าแล้วหันไปออกคำสั่งกับพี่ชาย “<<พี่ป๊อป ถ่ายรูปให้หนูหน่อย>>”
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกยื่นมาให้กับชายหนุ่มพร้อมกับเปิดโหมดกล้องรอไว้พร้อม ป๊อปชำเลืองมองด้านหลังที่ตอนนี้พระอาทิตย์หล่นตุบดับสนิทไปแล้ว แต่ยังพอมีแสงจากท้องฟ้าผสมกับแสงไฟในยามค่ำคืนภายในหมู่บ้านระยิบระยับเป็นฉากหลัง นิ้วมือหนาเปิดโหมดกลางคืนทันทีพร้อมกับลั่นชัตเตอร์ให้กับสองสาวที่แข่งกันส่งยิ้มให้กล้องในตอนนี้
“พัชร เราขอถ่ายน้องเราหน่อย”
เจ้าของร่างบางเดินหลีกออกจากเฟรมกล้องมาอยู่ด้านหลังของคนรักที่กำลังสวมวิญญาณตากล้องมืออาชีพอยู่ ปล่อยให้คนบ้ากล้องได้โพสท่าสวยๆ ให้ชายหนุ่มได้ถ่ายรูปอย่างเต็มที่ รูปแล้วรูปเล่าที่ถ่ายออกมาอย่างสุดฝีมือเท่าที่เขาจะทำได้ แอบหวังในใจลึกๆ ว่าน้องสาวคนนี้จะชอบรูปที่ตัวเองตั้งใจถ่ายให้ทุกรูป...
“<<พี่ป๊อป มาถ่ายรูปกับหนู>>” เสียงใสออกปากชวนให้คนเป็นตากล้องมาถ่ายรูปด้วยกัน “พี่พัชรถ่ายรูปให้หนูกับพี่ป๊อปหน่อยค่า”
สมาร์ทโฟนเครื่องเดิมถูกส่งให้กับแฟนสาวก่อนถูกแรงดึงจากคนตัวเล็กกว่าให้เข้าไปยืนคู่กัน “<<พี่ป๊อปมานี่มา เร็ว>>” ร่างสูงใหญ่ลอยหวือไปตามแรงดึงจนแทบตั้งตัวไม่ทัน
“<<เบาๆ ก็ได้ใบหม่อน เดี๋ยวพี่หงายหลังตกระเบียงขึ้นมาจะว่าไงล่ะ>>” ป๊อปหันไปเอ่ยปรามน้องสาวเบาๆ ไม่ได้ดุอะไร แต่ว่า...
“<<น้องขอโทษน้า>>” ใบหม่อนรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อถูกพี่ชายปราม แค่จะดึงให้พี่ชายมาถ่ายรูปด้วยกันแค่นั้น
“<<ไหนน้องสาวพี่เป็นคนไม่คิดอะไรไง แต่ทำไมคราวนี้คิดมากได้ล่ะคะหืม>>”
ป๊อปย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงกว่าเดิม เอื้อมมือไปจับจุกเล็กๆ เหนือกระหม่อมของหญิงสาวโยกไปมาเป็นเชิงปลอบใจ “<<มาๆ ไหนบอกอยากถ่ายรูปกับพี่ไงล่ะ ยิ้มหน่อยน่า นะๆ>>”
“<<เลิกเล่นผมหนูได้แล้วน้าพี่ป๊อป หนูไม่คิดมากก็ได้>>” เสียงใสเอ่ยกระเง้ากระงอดก่อนคลี่ยิ้มหวานให้อีกฝ่ายเห็น
ร่างสูงระหงโน้มตัวเข้าหาคนตัวใหญ่ ทำท่าเอียงคอคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟันจนพวงแก้มนุ่มปริออกเผยให้เห็นลักยิ้มชัดเจน ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิ ชูนิ้วมือทั้งสองข้างสู้กล้องเต็มที่ ผิดกับป๊อปที่ได้แต่ยืนทื่อทำหน้าตายเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
“ป๊อปยิ้มหน่อยสิ” เสียงหวานของตากล้องเอ่ยขึ้นมา
ใบหม่อนแอบชำเลืองมองหน้าของพี่ชายก่อนหันกลับมายิ้มสู้กล้องอีกรอบ รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าคร้ามผุดขึ้นพร้อมกับนิ้วมือเรียวสวยของตากล้องสาวสวยกดชัตเตอร์ลงไปในที่สุด...
สารพัดท่าทางที่หญิงสาวโพสสู้กล้องคู่กับคนเป็นพี่ชายที่เอาแต่ยืนทื่อเป็นตอไม้ มีเพียงแต่แกล้งเติมเขาให้ด้านหลังศีรษะสวยได้รูปของคนบ้ากล้องเท่านั้น จนมาถึงรูปสุดท้ายก่อนถึงเวลาอาหารเย็น
“<<พี่ป๊อป หนูอยากขี่หลังพี่ป๊อปอ่า>>” ใบหม่อนได้ทีอ้อนขอพี่ชายทันทีเมื่อมาถึงรูปสุดท้าย “<<นะๆๆๆๆ พี่ป๊อป>>”
คนโดนอ้อนถึงกับทำสีหน้าเบ้อย่างบอกไม่ถูก แอบกังวลใจถึงกระดูกต้นคอของตัวเองระคนกับความรู้สึกอายเพราะตอนนี้อายุอานามไม่ใช่เด็กๆ ทั้งคู่แล้ว บวกกับคะเนในใจแล้วว่าน้องสาวตัวเองคงมีน้ำหนักตัวเยอะอยู่ไม่ใช่น้อย “<<จะดีเหรอใบหม่อน นี่เราอายุก็ยี่สิบหกแล้วนะ จะมาขี่คอพี่เป็นเด็กๆ ได้เหรอ>>”
“<<ขอหน่อยน่าพี่ป๊อป นะๆๆๆๆ>>” ใบหม่อนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เริ่มถองเข้าที่ต้นแขนของพี่ชาย
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยท่าทางหนักใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะหนักใจแค่ไหนแต่สำหรับน้องสาวคนนี้แล้ว เขาพร้อมที่จะยอมให้ทุกอย่าง ร่างสูงใหญ่ย่อตัวลงเตรียมพร้อม “<<มา ค่อยๆ ขึ้น ระวังด้วยเดี๋ยวพี่เซขึ้นมาล้มทั้งคู่เลยนะ>>”
ร่างสูงระหงค่อยๆ ก้าวขาอย่างระมัดระวังไม่ให้พี่ชายตัวเองเสียหลักล้มลงไป ขาทั้งสองข้างสอดระหว่างท่อนแขนหนาของพี่ชาย ค่อยๆ แนบตัวลงไปกับแผนหลังแกร่งที่เต็มไปด้วยไออุ่นที่เจ้าตัวเรียกหา มือทั้งสองข้างตวัดโอบรอบอกแกร่งไว้ โน้มใบหน้าสวยหวานที่กำลังฉีกยิ้มแก้มปริจนเห็นลักยิ้มชัดเจนแนบกับใบหน้าคร้ามของพี่ชายที่เหลือบตากลับมามองอย่างเป็นห่วง
ความรู้สึกในใจของป๊อปในตอนนี้เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งยังเด็กและยังอยู่บ้านที่สุพรรณฯ อีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับเหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน ทุกครั้งที่เขาพาน้องสาวคนนี้ออกไปเล่นข้างนอก น้องสาวมักจะขอขี่หลังเขาแทบจะทุกครั้ง และถ้าวันไหนที่เขาปฏิเสธ น้องสาวคนนี้มักร้องไห้จ้าจนเขาต้องใจอ่อนยอมตามในที่สุด... ภาพตัดมาที่เวลานี้ที่เขายืนประคองตัวให้น้องสาวได้ขี่หลังอีกครั้งในวัยที่พ้นเบญจเพสและตัวเองอายุเลยเลขสามมาแล้วหนึ่งปีเต็ม
{{แชะ}}
ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าถูกบันทึกลงในหน่วยความจำของสมาร์ทโฟนเครื่องหรู เป็นภาพหญิงสาวเจ้าของเครื่องกำลังขี่หลังคนเป็นพี่ชายส่งยิ้มหวานสู้กล้อง ขณะที่คนโดนขี่หลังหันหน้าไปมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังฉีกยิ้มสว่างไสวอย่างเป็นห่วงอยู่ในใจ กลัวว่าสาวเจ้าจะพลัดตกจากหลังตัวเองลงไป
“สวยมากเลยป๊อป น้องใบหม่อน” พัชรอดที่จะออกปากบอกให้คนรักและว่าที่น้องสะใภ้รับรู้ไม่ได้เมื่อเห็นผลงานที่ตัวเองถ่ายไปเมื่อสักครู่ รู้สึกประทับใจในความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ไม่หายถึงแม้จะรู้จักกันมานานเป็นสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
ป๊อปย่อตัวลงอีกครั้งเพื่อส่งให้น้องสาวลงจากหลังของตัวเอง อดเป็นห่วงไม่ได้กลัวว่าสาวเจ้าจะสะดุดล้มลงไป ร่างสูงระหงก้าวออกจากแผ่นหลังของคนเป็นพี่ชายอย่างง่ายๆ ก่อนย่อตัวลง
“<<พี่ป๊อป ลุกขึ้นได้แล้ว>>” หญิงสาวยื่นมือเล็กมาดึงท่อนแขนของพี่ชายให้ลุกขึ้นมา
ร่างสูงลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ยกมือขึ้นบีบพวงแก้มนุ่มของหญิงสาวเป็นเชิงหยอกล้อหนึ่งที “<<นี่ น้ำหนักตัวไม่ใช่น้อยๆ นะเรา ไม่ใช่ทำพี่ปวดหลังขึ้นมานะเว้ย>>” แกล้งพูดแบบไม่จริงจังนัก เพราะเวลาที่สาวเจ้าขึ้นขี่หลังตัวเองจริงๆ กลับไม่รู้สึกเมื่อยเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่รู้สึกเหมือนมีลูกตุ้มเหล็กสองลูกมาวางไว้บนแผ่นหลังของตัวเองเท่านั้น
“<<พี่ป๊อปอ่ะ แค่หนูอยากขี่หลังพี่เหมือนตอนเด็กๆ อีกครั้งนี่นา>>” ใบหม่อนยอกย้อนใส่ ทำหน้ามู่ทู่แสดงความรู้สึกผิดหลังจากถูกอีกฝ่ายแกล้งว่าให้ ไม่รู้ว่าพี่ชายแกล้งหยอกเล่นเท่านั้น
ป๊อปถึงกับยิ้มไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางสำนึกผิดของน้องสาว รู้สึกหวิวๆ ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก รีบเฉลยในทันที
“<<พี่อำเล่นน่าใบหม่อน ไหนบอกไม่คิดมากไงคะ>>”
นิ้วมือหนาเกลี่ยไปบนพวงแก้มป่องของหญิงสาวอย่างเอ็นดู นัยน์ตาสองชั้นหลบมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่กำลังแสดงความรู้สึกสับสนให้เห็น ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มกว้างบ่งบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าไม่มีอะไรในใจจริงๆ นอกจากแกล้งหยอกเท่านั้น
“<<พี่ป๊อปอ่ะ ชอบแกล้งหนู>>” ใบหม่อนว่าให้ไม่จริงจังนักก่อนยกมือขึ้นปัดมือของพี่ชายออกจากใบหน้าตัวเอง หันไปหาว่าที่พี่สะใภ้ที่ยืนถือสมาร์ทโฟนของเจ้าตัวรอถ่ายรูปอยู่ “พี่พัชรถ่ายรูปกับพี่ป๊อปไหมคะ เดี๋ยวหนูถ่ายให้”
พัชรปรายตามองไปทางแฟนหนุ่มที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ แอบประเมินในใจเล็กน้อยก่อนหันไปให้คำตอบกับว่าที่น้องสะใภ้ “ได้เลยจ้ะน้องใบหม่อน” “มาป๊อป ตั้งแต่มาเที่ยวนี่เค้ายังไม่ได้ถ่ายรูปกับป๊อปเลย”
คนตัวใหญ่ยอมทำตามคำขอของแฟนสาวอย่างว่าง่าย ยิ่งได้เข้าใกล้เรือนร่างบอบบางขาวกระจ่างใสส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ยิ่งทำให้เขาอยากจะอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ไปอีกนาน ท่อนแขนใหญ่โอบตวัดรอบเอวคอดเพรียวบางของหญิงสาวกอดไว้หลวมๆ รากับกลัวว่าหญิงสาวจะหายไป...
“<<พี่ป๊อป พี่พัชร พร้อมแล้วน้า>>”
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ แนบหน้าใกล้กับแฟนสาวที่กำลังฉีกยิ้มกว้างให้ว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าที่กดชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจไว้ คราวนี้ใบหม่อนเริ่มยุพี่ชายให้หอมแก้มว่าที่พี่สะใภ้ตอนถ่ายรูปบ้าง
“<<พี่ป๊อป ไม่คิดจะหอมแก้มหรือจูบพี่พัชรหน่อยเหรอ หนูอยากถ่ายช็อตนี้อ่า>>”
พัชรหันมาชำเลืองมองใบหน้าคร้ามที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยสายตาดุๆ เชิงปรามไม่ให้คนรักทำตามคำยุ แอบตวัดสายตาค้อนใส่คนยุหนึ่งที
“ป๊อปไม่ต้องทำตามที่น้องใบหม่อนบอกเลยนะ” พัชรว่าเสียงลอดไรฟันใส่พร้อมกับส่งสายตาคาดโทษ กลบเกลื่อนความรู้สึกต้องการในใจลึกๆ ของตัวเอง
“ฮึๆ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ ตอบรับ และแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายของหญิงสาว บรรจงประทับรอยจูบลงบนพวงแก้มนุ่มฝากรสหวานให้อีกฝ่ายได้สัมผัส
พัชรหลับตาลงซึมซับรสจูบอันแสนหวานของคนรักที่ประทับลงบนแก้มขวาของตัวเอง พร้อมกับจังหวะที่ว่าที่น้องสะใภ้กดชัตเตอร์เก็บภาพพอดี ไม่อยากให้ความรู้สึกนี้จากไปเลย จนเมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกมาแล้ว ต่างคนต่างส่งสายตาบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ตอนนี้ความรู้สึกอับอายได้มลายหายไปหมดแล้ว มีเพียงความรู้สึกอยากจะหยุดเวลาให้อยู่กับที่นานๆ เท่านั้น...
.............................................................................
ทั้งสามนั่งล้อมวงทานอาหารมื้อค่ำที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเดินเที่ยวในหมู่บ้านช่วงบ่ายบนแคร่ไม้ไผ่นอกระเบียงท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดผ่านมาปะทะไม่หยุดจนทำให้อาหารเย็นชืดลงอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ความหิวเริ่มจู่โจมเข้ามาจนต่างคนต่างไม่สนว่าอาหารจะเย็นชืดจนไม่น่ากินแค่ไหน ขอเพียงแค่ให้อิ่มท้องก่อน
ใบหม่อนลงมือละเลียดอาหารมื้อเย็นอย่างเอร็ดอร่อย กินไปเล่นสมาร์ทโฟนไปอย่างเพลิดเพลินจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แม้แต่พี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ที่นั่งกินไปป้อนไปอยู่ข้างๆ สาวเจ้าก็ทำเสมือนว่าเป็นอากาศธาตุที่พัดผ่านไปเท่านั้น
ป๊อปลงมือทานอาหารอันเย็นชืดไปป้อนให้คนรักกินไปเรื่อยๆ แต่แอบชำเลืองมองคนเป็นน้องสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาละเลียดอาหารมื้อค่ำที่มีทั้งไส้อั่ว ลาบคั่ว ไก่ย่าง หมูทอด และข้าวเหนียวอันเย็นชืดอยู่ แอบคลี่ยิ้มบางๆ อย่างเอ็นดู หันกลับไปหาคนรักที่กำลังมองมาเหมือนกับรออะไรบางอย่างอยู่ รู้ตัวอีกที ข้าวเหนียวปั้นย่อมๆ จิ้มลาบคั่วพอดีคำยังคามือตัวเองอยู่ รีบป้อนเข้าปากเรียวเล็กของคนรักอย่างรวดเร็วจน...
“ป๊อปค่อยๆ ป้อนสิ เค้าเคี้ยวไม่ทัน” พัชรบ่นเสียงอู้อี้ พลางมองจิกตาใส่อย่างขัดใจ
ชายหนุ่มหัวเราะแก้เขินเมื่อโดนว่าให้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นแสดงความรู้สึกผิดให้อีกฝ่ายได้เห็น แต่อดไม่ได้ที่จะแอบหันไปมองคนเป็นน้องสาวอีกรอบ
พัชรชำเลืองมองใบหน้าคร้ามของคนรักอย่างแปลกใจ แล้วก็ได้คำตอบเมื่อมองไปทางว่าที่น้องสะใภ้ที่กำลังก้มหน้าก้มตาละเลียดอาหารมื้อเย็นตรงหน้าไปเล่นมือถือไปอย่างเพลิดเพลิน รู้ทันทีว่าคนรักของเจ้าตัวแอบเป็นห่วงน้องสาวของเขาอยู่ไม่น้อย
“เค้าว่าป๊อปกินของป๊อปก่อนดีกว่าน้า ไม่ต้องห่วงน้องใบหม่อนหรอก น้องใบหม่อนกินจุจะตาย คริๆ”
“ก็เพราะน้องสาวเรากินจุน่ะสิเราถึงเป็นห่วง พอล้อเข้าก็บอกว่าอ้วนอีก” ป๊อปสวนกลับมาทันควัน “หรือพัชรกลัวอ้วนล่ะ ฮิๆ” พูดจบมือหนายื่นมาทำท่าจะจับพวงแก้มใส แต่สาวเจ้าเบี่ยงหน้าหลบทันก่อน
พัชรย่นจมูกขึ้นอย่างขัดใจเมื่อจู่ๆ แฟนหนุ่มหันกลับมาล้อเลียนตัวเองซะอย่างนั้น “ปากเสียนะป๊อป ผู้หญิงเขาไม่ชอบหรอกที่โดนว่าอ้วนอ่ะ” เสียงหวานแหวใส่พร้อมกับฟาดที่ท่อนแขนใหญ่เบาๆ หนึ่งที
อาหารมื้อค่ำพร่องลงอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของใบหม่อน ไส้อั่วในจานหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นานนักพร้อมกับเศษกระดูกไก่กองพะเนินในถุง เหลือเพียงแต่ลาบคั่วกับข้าวเหนียวอันเย็นชืดก้นถุงเท่านั้น ป๊อปได้แต่ชำเลืองมองคนเป็นน้องสาวที่เริ่มทำท่าเหมือนจะอิ่ม กำลังให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือเท่านั้น หันไปมองหน้าคนรักด้วยสายตาประเมินก่อนหันกลับมาจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อจนหมดในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก...
ป๊อปใช้เวลาก่อนนอนหมดไปกับการดูรูปที่ตัวเองถ่ายไว้ตลอดทั้งวันผ่านหน้าจอหลังกล้องถ่ายรูปคู่มือหลังจากอาบน้ำคู่กับแฟนสาวที่นอนอยู่เล่นสมาร์ทโฟนอยู่เคียงข้าง นัยน์ตาสองชั้นหลบมองรูปถ่ายฝีมือตัวเองอย่างประเมิน เมื่อเจอรูปที่ถ่ายออกมาไม่ชัดหรือมุมไม่ได้ ไม่ลังเลที่จะกดลบทันที หลังจากไล่คัดเลือกรูปไปสักพักหนึ่งเริ่มมีอาการเบื่อจึงวางกล้องลงบนหัวเตียง หยิบสมาร์ทโฟนสีดำคู่กายขึ้นมาดูโซเชียลส่วนตัวไปเรื่อยๆ พลันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ของคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เห็นสาวเจ้ากำลังดูคลิปตลกอยู่ จังหวะเดียวกับร่างบางนอนตะแคงหันหลังให้ทำให้หน้าจอสมาร์ทโฟนหันมาอยู่ในระดับสายตาของชายหนุ่มพอดี เมื่อเห็นคลิปแล้วทำให้เขาอดที่จะหัวเราะตามไม่ได้...
เสียงหัวเราะกรีดแหลมสูงชวนปวดประสาทดังแว่วมาจากเบื้องหลัง ทำให้คนที่นอนตะแคงอยู่ต้องหันกลับมาหา คิ้วเรียวสวยบนใบหน้าขาวกระจ่างใสขมวดมุ่นเข้าหากันพร้อมกับส่งสายตาสงสัยปนระอา กลีบปากเรียวเล็กเริ่มถามขึ้นมา
“ป๊อปขำอะไรเนี่ยหืม”
“อ้าว ก็ขำคลิปที่พัชรดูอยู่ไงล่ะ” ป๊อปแกล้งทำหน้าตายใส่ แต่ปากยังยิ้มกระตุกอยู่
พัชรกลอกตามองขึ้นไปข้างบนก่อนกลับมาสบตากับคนรักอีกรอบ “แต่เค้าเกลียดเสียงหัวเราะป๊อปมากเลยอ่ะ เลิกหัวเราะแบบนี้ได้ไหม ได้ยินแล้วปวดประสาท”
“ฮึๆ ได้ๆๆ” ป๊อปปรับเสียงของตัวเองกลับมาเป็นปกติ แต่ปากหยักได้รูปกลับคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิม
หญิงสาวไม่พูดอะไรต่ออีก เพียงแต่พลิกตัวให้อยู่ในท่านอนหงาย มือเล็กตะแคงหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือมาทางคนตัวใหญ่ให้ดูคลิปที่เปิดอยู่ไปด้วยกัน ต่างคนต่างหัวเราะคิกคักให้กันเบาๆ เมื่อถึงฉากตลก หลังจากคลิปจบลงต่างคนต่างแยกย้ายกันไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือของตัวเองต่อ
ชายหนุ่มเริ่มอัพรูปถ่ายฝีมือตัวเองลงในโซเชียลมีเดียส่วนตัวพร้อมกับคำแคปชั่นบรรยายสั้นๆ ตามสไตล์ นิ้วมือหนาเขี่ยไปบนหน้าจอไล่อ่านโพสต์ต่างๆ จากบรรดาเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ปล่อยให้คนนอนอยู่ข้างๆ ใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวไป จนเวลาผ่านไปไม่นานนัก ประตูห้องน้ำถูกเปิดขึ้นพร้อมกับร่างสูงระหงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาสวยเดินออกไปตากผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ในมือที่นอกระเบียง เรือนผมยาวสลวยถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเพราะยังเปียกอยู่
“<<พี่ป๊อปทำอิหยัง>>” เสียงใสเอ่ยถามคนตัวใหญ่ที่กำลังนอนเค้เก้เขี่ยสมาร์ทโฟนในมืออยู่
ร่างสูงระหงหย่อนตัวลงนั่งขอบเตียงข้างๆ ที่ชายหนุ่มนอนอยู่ ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปใกล้ๆ ใบหน้าคร้ามที่กำลังเพ่งมองหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือ บังเอิญนัยน์ตาสองชั้นหลบเงยขึ้นมาสบตากับหญิงสาว ปากหยักภายใต้หนวดเครารกครึ้มยกยิ้มขึ้น
“<<มีอะไรเหรอใบหม่อน พี่อัพรูปในเฟซอยู่>>”
“<<เหรอ อย่าลืมส่งรูปให้หนูด้วยล่ะ และรูปที่หนูกินไส้อั่วห้ามอัพนะ เข้าใจไหม>>”
ใบหม่อนออกปากกำชับคนเป็นพี่ชายพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ดวงตากลมโตคู่สวยมองอย่างคาดคั้น คอยดูว่าพี่ชายจะตอบอะไรมา
ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินน้องสาวกำชับหนักแน่น นิ้วมือหนาเลื่อนไปเปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวเข้าไปที่กล่องแชตของหญิงสาว ก่อนที่จะกดอัพรูปที่เขาถ่ายไว้ร่วมๆ ร้อยกว่ารูปส่งให้ และรูปที่หญิงสาวทำหน้าเหวอตอนกินไส้อั่วกลางหมู่บ้านก็ถูกส่งตามไปด้วย
“<<เอ้า พี่ส่งให้แล้วนะใบหม่อน>>”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินที่วางไว้บนเตียงอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวผุดลุกขึ้นเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองพร้อมกับหมอนหนึ่งใบติดมือมาด้วย ก่อนเดินกลับมาที่เตียงของพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้อีกครั้ง
“<<พี่ป๊อป พี่พัชร หนูขอนอนด้วยคนสิ>>”
ทั้งสองหันมามองหน้าหญิงสาวพร้อมกันราวกับนัดหมายกันมา โดยเฉพาะพัชรที่ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามส่งไปให้ว่าที่น้องสะใภ้ได้รับรู้ ขณะที่คนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปยังไงก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“<<มาสิ จะนอนตรงไหนล่ะ เบียดหน่อยนะ>>”
ใบหม่อนเอื้อมมือไปวางหมอนแทรกกลางระหว่างพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ ร่างสูงระหงก้าวขึ้นบนเตียงพร้อมกับทอดตัวลงนอนคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ เป็นคำตอบให้รู้เลยว่าเจ้าตัวจะนอนตรงไหนบนเตียงในค่ำคืนนี้
“พี่พัชรขา หนูขอนอนกับพี่ชายของหนูหน่อยน้า” หญิงสาวหันไปขออนุญาตกับพัชร
พัชรคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับพยักหน้าอนุญาตกับว่าที่น้องสะใภ้ “ได้เลยจ้า น้องใบหม่อนมานอนด้วยก็ดีเหมือนกัน จะได้กันไม่ให้พี่ป๊อปมารบกวนพี่ไง คริๆ”
สองสาวพร้อมใจกันส่งเสียงหัวเราะคิกคักพร้อมกับปรายตามองคนตัวใหญ่อย่างรู้กัน โดยเฉพาะใบหม่อนทำท่ายักคิ้วหลิ่วตาใส่เหมือนกับจะเยาเย้ย
“<<โอ๋ๆ พี่ป๊อป ไม่เป็นไรน้า คืนนี้นอนกับน้องไง น้องไม่ได้นอนกับพี่ป๊อปตั้งนานแล้วน้า คริๆ>>” เสียงใสเอ่ยกับคนเป็นพี่ชายก่อนส่งเสียงหัวเราะทิ้งท้าย
จู่ๆ ป๊อปลุกเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งของเตียงที่แฟนสาวนอนอยู่แบบไม่ลังเล ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปจุ๊บบนพวงแก้มนุ่มขาวละเอียดหนึ่งทีทั้งที่ยังนอนอยู่
ใบหน้าของหญิงสาวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกตำลึงสุกพร้อมอาการร้อนผะผ่าวฉาบทาไปทั่วหน้า หัวใจเริ่มเต้นระรัวถี่ขึ้นเมื่อถูกขโมยจุ๊บแก้มเบาๆ แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาคู่สวยหันไปชำเลืองมองคนขี้หื่นที่ตอนนี้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะชนกันแล้ว
“ป๊อปขโมยจูบเค้าอีกแล้วนะ” เสียงหวานว่าให้ไม่จริงจังนัก กลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้
คนตัวใหญ่คลี่ยิ้มกว้างขึ้นมา ค่อยๆ ถอยใบหน้าตัวเองออกห่างเว้นระยะให้พอหายใจได้สะดวก ขืนยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากกว่านี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ “พัชร เราคบกันมาสิบสองปีแล้วนะ จะอายทำไมล่ะ ฮิๆ” พูดจบแล้วร่างสูงใหญ่รีบพาตัวเองกลับไปยังที่นอนของตัวเองทันที
“น้องใบหม่อนดูพี่ป๊อปเขาสิ ขี้หื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ เลย” พัชรหันไปประท้วงกับว่าที่น้องสะใภ้
“<<พี่ป๊อปนี่น้า...>>” ใบหม่อนถึงกับส่ายศีรษะไปมาอย่างอิดหนาระอาใจ “<<หนูไม่คิดเลยนะว่าพี่ชายหนูจะเป็นคนขี้หื่นแบบนี้>>”
“<<อ้าวๆๆ ก็แฟนพี่นี่ แหมอิจฉาตาร้อนอ่ะดิ ฮิๆ>>” คนโดนพาดพิงสวนกลับมาอย่างรู้ทัน
“<<ไม่ต้องมาพูดเลย ไว้ถึงทีหนูบ้างเถอะ ชิ>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดอย่างงอนๆ เมื่อถูกพี่ชายจี้จุดเข้าให้
เวลาผ่านเลยไปราวๆ เกือบสี่ทุ่ม
ป๊อปเริ่มสังเกตกิริยาท่าทางของน้องสาวที่เริ่มพูดช้าลง ยกมือขึ้นปิดปากที่กำลังหาวหวอดๆ ไม่หยุด ดวงตากลมโตคู่สวยเริ่มหรี่ลงทำท่าจะปิดแหล่มิปิดแหล่ ชำเลืองมองไปทางแฟนสาวที่เริ่มทำท่าจะง่วงนอนตามไปด้วยอีกคนก่อนหันกลับมามองหน้าน้องสาวตัวเองที่ตอนนี้ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
“<<หลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>” ป๊อปก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ
ร่างสูงใหญ่ลุกจากที่นอนตัวเองเดินอ้อมไปหาแฟนสาวที่กำลังจะนอนหลับตามไปด้วยอีกคน เห็นดวงตาคู่สวยเริ่มหรี่ลงแต่ยังชำเลืองมองมาทางเขา กลีบปากเรียวสวยผุดยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ พยายามกระเถิบตัวลุกขึ้นเพื่อให้คนรักส่งเข้านอนได้ถนัด
“เค้าง่วงแล้วอ่ะป๊อป” เสียงหวานเอ่ยกับชายคนรักอย่างแผ่วเบา
ป๊อปไม่พูดอะไรนอกจากคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับส่งสายตาบอกรักให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ กับใบหน้าสวยหวานจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ และลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาว เขาเลือกที่จะบอกลาด้วยการประทับริมฝีปากหยักภายใต้หนวดเครารกครึ้มบนหน้าผากโค้งมนสวยได้รูปอย่างนุ่มนวล...
พัชรค่อยๆ หลับตารับรสจูบอันแสนหวานที่แฟนหนุ่มฝากไว้บนหน้าผากโค้งมน เมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกแล้ว เจ้าตัวไม่รีรอที่จะบอกรักตอบด้วยการประทับรอยจูบบนแก้มสากหนึ่งทีก่อนค่อยๆ หย่อนตัวลงเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา...
ชายหนุ่มนั่งมองหน้าคนที่เขารักมากที่สุดทั้งสองที่กำลังนอนหลับอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อยู่ในใจ ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินไปปิดไฟห้องจนมืดสนิท ร่างสูงใหญ่กลับมาที่เตียงอีกครั้ง ค่อยๆ ทอดตัวลงนอนเหยียดเคียงข้างร่างสูงระหงของคนเป็นน้องสาวเข้าสู่ภวังค์ในที่สุด...
ป๊อปเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึก มองไปรอบๆ เห็นเพียงแต่ความมืดและได้ยินแต่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากสองสาวที่นอนอยู่ด้วยกันเท่านั้น เขาใช้สายตาที่เริ่มชินกับความมืดมองลงไป เห็นท่อนแขนเรียวยื่นมาก่ายบนลำตัวเขาราวกับเป็นหมอนข้างใบใหญ่ให้กอดเสียอย่างนั้น ยังไม่พอ ขาเรียวสวยยกขึ้นมาก่ายช่วงสะโพกอีก ทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวมากเพราะกลัวว่าน้องสาวจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน
‘พี่จำได้นะว่าตอนเด็กๆ ถ้าเรานอนกับพี่ทีไรเราชอบกอดพี่เหมือนหมอนข้างทุกทีเลย’
เขานึกในใจขึ้นมาพร้อมกับหันไปชำเลืองมองหญิงสาวที่กำลังพ่นลมหายใจสม่ำเสมอให้เขาได้ยินในระยะใกล้ ปากหยักคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนส่ายศีรษะทุยขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมองเบาๆ กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ