เจ้าหญิงของฉัน

-

เขียนโดย POPENGL

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.

  27 ตอน
  36 วิจารณ์
  11.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) วันเกิดของเจ้าหญิง Pt.2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันนี้ใบหม่อนตื่นเช้าเป็นพิเศษถึงแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม เพราะวันนี้ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง ถึงแม้จะตื่นแล้วแต่ร่างสูงระหงยังคงนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ มือเล็กเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่วางไว้บนหัวเตียงขึ้นมาดู แต่แล้วก็ต้องตกใจเล็กๆ เมื่อบรรดาข้อความในแชตของแอพพลิเคชั่นสีเขียว เสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กส่วนตัวดังขึ้นรัวถี่ๆ ล้วนแต่เป็นข้อความอวยพรวันเกิดจากบรรดาเพื่อนๆ ทะยอยส่งเข้ามาไม่หยุดในตอนนี้

หญิงสาวทะยอยตอบข้อความที่ส่งมารัวๆ ทั้งทางไลน์และเฟซบุ๊ก จนนิ้วมือเล็กทั้งสองข้างแทบจะหงิกเพราะต้องพิมพ์ตอบจนแทบจะไม่ทัน เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าตัววางสมาร์ทโฟนไว้ที่หัวเตียงตามเดิมก่อนลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนราวเข้าห้องน้ำไป

ขณะเดียวกัน ป๊อปกับพัชรช่วยกันเตรียมของสำหรับใส่บาตรที่ลงไปซื้อด้วยกันตั้งแต่เช้ามืดทั้งสามชุดที่เคาน์เตอร์หลังครัวใส่ถุงพลาสติกไว้พร้อม ระหว่างรอเจ้าของวันเกิดออกมา ป๊อปกับแฟนสาวถือโอกาสนั่งจิบกาแฟพูดคุยกระหนุงกระหนิงกันไปเรื่อยๆ

“ป๊อปคิดไว้ยังว่าจะพาน้องใบหม่อนไปไหน” พัชรเริ่มเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“พาไปเซ็นทรัลเวิลด์ดีไหมล่ะ” ชายหนุ่มย้อนถามแฟนสาว ปากหยักคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มเล็กๆ “หรือจะไปดิเอ็มควอเทียร์ดี”

“ไปเซ็นทรัลเวิลด์สิ ตอนนี้แอปเปิ้ลสโตร์เปิดใหม่แล้วนี่นา เผื่อป๊อปอยากพาน้องใบหม่อนไปดูอะไรที่นั่นบ้าง” พัชรรีบให้คำตอบแบบไม่ลังเล เสียงหวานน่าฟังเริ่มบ่งบอกถึงอาการตื่นเต้น

ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของแฟนสาวที่พูกตรงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดไว้ทุกอย่าง “อื้ม พัชรรู้ใจเราเลย คิดอยู่ว่าจะซื้อแอปเปิ้ลวอชให้เป็นของขวัญน่ะ ไม่รู้น้องเราจะชอบไหม”

พูดจบร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นเดินอ้อมไปทางด้านหลังเจ้าของร่างบาง ค่อยๆ โน้มหน้าลงจุ๊บพวงแก้มขาวละเอียดหนึ่งที อาการร้อนวูบวาบเมื่อถูกขโมยหอมแก้มแล่นปราดไปทั่วใบหน้าของหญิงสาว หัวใจดวงน้อยเต้นรัวถี่ๆ จนตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“อีกแล้วนะป๊อป มาขโมยหอมแก้มเค้าเนี่ย” พัชรว่าให้ไม่จริงจังนัก

“ก็ให้รางวัลหน่อยไงล่ะที่รัก ขิๆๆ” คนขโมยจูบย้อนให้หน้าตาเฉย ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย ว่าแล้วใบหน้าคร้ามโน้มลงทำท่าจะขโมยหอมแก้มอีกครั้ง แต่คราวนี้ฝ่ายสาวเจ้าไม่ยอม มือเล็กเริ่มยกขึ้นผลักใบหน้าของคนรักไปไกลๆ

ร่างสูงระหงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนขาห้าส่วนปลายขาดรุ่ยตามสมัยนิยม ผมยาวสลวยถูกเกล้ามวยสูงเผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานหยาดเยิ้มที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ ดูน่ารักสดใสสมวัยพาตัวเองออกมาจากห้อง เดินตรงเข้าไปหาพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ที่ตอนนี้กำลังหยอกล้อกันอยู่ จนสาวเจ้าต้องส่งเสียงกระแอม

“<<อะแฮ่ม พี่ป๊อปทำอะไรพี่พัชรอ่ะ>>” พูดจบสาวเจ้าฉีกยิ้มกว้าง ทำหน้าทำตาล้อเลียนใส่

ทั้งสองต่างหันมาพร้อมกันราวกับนัดกันมา ฝ่ายคนเป็นพี่ชายได้แต่ยิ้มบางๆ แก้เก้อ ส่วนว่าที่พี่สะใภ้ได้ที่เปิดฉากฟ้อง

“น้องใบหม่อนจ๊ะ พี่ชายของเราขโมยหอมแก้มพี่ จัดการให้พี่หน่อยสิ”

ใบหม่อนไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่หัวเราะแก้เขิน รู้อยู่ว่าพี่ชายตัวเองเป็นคนแบบไหน “<<พี่ป๊อปนี่น้า ชอบแกล้งคนอื่นจังเลย เดี๋ยวเหอะ ฟ้องแม่คุณแน่>>” ไม่พูดเปล่า นิ้วมือเล็กชี้ตรงมาที่หน้าของอีกฝ่ายด้วย ดวงตากลมโตคู่สวยมองดุใส่

แทนที่จะสำนึกผิด ป๊อปกลับพูดตัดบทเสียดื้อๆ พร้อมกับทำหน้าตายใส่ “<<ไปใบหม่อน ไปใส่บาตรกัน>>”

“<<จ้าพี่ป๊อป>>” เสียงใสตอบกลับมาพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้

ทั้งสามต่างหยิบของใส่บาตรที่จัดเตรียมไว้คนละชุดจากเคาน์เตอร์หน้าโต๊ะกินข้าว แยกย้ายกันไปเตรียมตัวใส่รองเท้าตรงชั้นวางใกล้ประตูห้อง ขณะที่ชายหนุ่มหยิบรีโมตกุญแจรถส่วนตัวและกระเป๋าสตางค์ก่อนเดินไปสมทบกับน้องสาวและคนรักที่ยืนรออยู่…

รถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำขับโดยป๊อปกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าออกสู่ถนนใหญ่ในยามเช้าวันเสาร์ที่การจราจรไม่ค่อยคับคั่งมากนักเมื่อเทียบกับวันธรรมดา ครั้งนี้เขาเลือกที่จะขับรถให้ช้าลงกว่าที่เคยขับเล็กน้อยเพราะรู้ว่าน้องสาวมักจะกลัวทุกครั้งเวลาที่ตัวเองขับเร็ว และวันนี้ยังมีแฟนสาวมานั่งด้วยอีก ยิ่งทำให้ต้องระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม

“<<พี่ป๊อปจะพาหนูไปไหนเนี่ย แค่รอใส่บาตรหน้าคอนโดฯ ก็พอแล้วมั้งพี่>>” ใบหม่อนเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากนั่งมาได้สักพัก นึกสงสัยในใจไม่น้อยว่าพี่ชายตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงต้องขับรถพาออกมาข้างนอกแบบนี้

“นั่นสิป๊อป ไม่ต้องขับรถออกมาให้เปลืองน้ำมันเล่นก็ได้มั้ง” พัชรว่าเสริมขึ้นมา

“ก็พาไปวัดไง” เสียงเข้มเอ่ยสำเนียงกรุงเทพฯ ออกมา “ไหนๆ แล้วไปใส่บาตรที่วัดเลย ไม่ต้องรอพระนานด้วย”

“<<หูยพี่ป๊อปอ่ะ ทำไมต้องพาไปวัดด้วยอ่ะ หนูเข้าวัดแล้วร้อนนะ คริๆ>>” เสียงใสพูดติดตลก แต่แฝงความรู้สึกจริงๆ ไว้ เพราะรู้ตัวว่าไม่ค่อยชอบไปวัดสักเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น

ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเครารกครึ้มคลี่ยิ้มขึ้น หัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อได้ยินคำตอบจากปากน้องสาว “<<เฮ้ย เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราตามแม่คุณไปทำบุญที่วัดไม่เห็นร้อนนะ เป็นตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ฮิๆ>>”

แม้แต่พัชรยังอดขำกับเหตุผลของว่าที่น้องสะใภ้ไม่ได้ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างพี่น้องคู่นี้ชัดเจน อดแปลกใจไม่ได้ว่าแฟนหนุ่มเป็นคนชอบเที่ยววัดและเข้าวัดทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ว่าที่น้องสะใภ้คนนี้กลับไม่ชอบเข้าวัดเสียอย่างนั้น

“<<ก็หนูไม่ค่อยชอบเที่ยววัดเหมือนพี่ป๊อปนี่นา ไปแล้วไม่อินเท่าไหร่อ่ะ>>” ใบหม่อนว่าเสียงกระเง้ากระงอด ทำหน้ามู่ทู่ออกอาการเซ็งเล็กๆ

“<<เอาน่าๆ ลองไปสักครั้งไม่เห็นจะเป็นไรเลย>>” ป๊อปพูดตัดบทน้องสาว รู้ตัวอีกทีขับรถเข้ามาในซอยจนถึงประตูหน้าวัดที่หมายตรงหน้า

ณ วัดมัชฌันติการาม (วัดน้อย)

เสียงเครื่องยนต์ดีเซลหยุดคำรามลง พัชรเปิดประตูหลังลงมาก่อนพร้อมกับหยิบชุดใส่บาตรทั้งสามติดมือมา แจกจ่ายให้กับคนรักและว่าที่น้องสะใภ้ก่อนพากันเดินไปยังลานหน้าโบสถ์ไม่ไกลจากรถมากนัก ท่ามกลางผู้คนอื่นๆ ที่มารอใส่บาตรยามเช้าวันนี้เช่นกัน

ทั้งสามต่างคนต่างยกของขึ้นจบอธิษฐาน โดยเฉพาะเจ้าของวันเกิดอย่างใบหม่อนที่ยืนจบของอธิษฐานนานกว่าคนอื่น กระทั่งพระผู้เฒ่ารูปหนึ่งเดินอุ้มบาตรจากกุฏิที่อยู่ไม่ไกลนักด้วยอากัปกิริยาที่ดูน่าเลื่อมใสผ่านมา และก็เป็นหน้าที่ของป๊อปที่ต้องนิมนต์

“นิมนต์ครับหลวงตา”

พระผู้เฒ่าหยุดเดินก่อนหันมาเปิดฝาบาตร สองพี่น้องกับหนึ่งคนรักพร้อมใจกันจบของอธิษฐานอีกครั้ง ก่อนหลีกทางให้ใบหม่อนใส่บาตรก่อน หลังจากนั้นป๊อปกับพัชรต่างกุมมือใส่บาตรกันและกันจนเสร็จ พระผู้เฒ่ายืนแผ่เมตตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนเดินจากไป...

ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจหลังจากได้ทำบุญใส่บาตรรับวันคล้ายวันเกิดปีที่ยี่สิบหกพร้อมกับพี่ชายแท้ๆ กับว่าที่พี่สะใภ้ผุดขึ้นมาในหัวใจดวงน้อยของหญิงสาว นึกขอบคุณพี่ชายของตัวเองที่ลงทุนขับรถพามาใส่บาตรถึงวัด แม้ตอนแรกเจ้าตัวจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่เมื่อมาจริงๆ แล้วกลับรู้สึกถึงได้ความสงบร่มเย็นในแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

ป๊อปสังเกตอากัปกิริยาของน้องสาวอยู่เงียบๆ ปากหยักลอบยิ้มบางๆ ก่อนหันไปส่งสายตากับแฟนสาวที่หันมาสบตาด้วยกันพอดี ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กันอย่างรู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“<<พี่ป๊อป วัดเงียบมากเลยอ่า อยากอยู่ที่นี่นานๆ จัง>>” ใบหม่อนเริ่มชวนพี่ชายคุย

“<<อ้าวไหนบอกเข้าวัดแล้วร้อนไง>>” ป๊อปแกล้งตีหน้าตายย้อนถามกลับไป แอบหัวเราะเบาๆ ทิ้งท้าย

“<<พี่ป๊อปอ่ะ!!>>” ใบหม่อนทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ มือเล็กตีไปที่ท่อนแขนแกร่งเบาๆ “<<ก็แค่บอกว่าวัดนี้เงียบดีเฉยๆ ป่ะ ยังไงหนูก็ไม่ชอบเข้าวัดมากเหมือนเดิมแหละ ชิ>>”

“น้องใบหม่อนจ๊ะ บางทีถ้าเราเครียดๆ หลบมาหาความสงบในวัด ได้ทำบุญได้ไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิ พี่ว่าแบบนี้ไม่เลวเลยนะ” พัชรว่าเสริมขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มให้

“<<ทีนี้รู้ยังล่ะว่าทำไมพี่ถึงพามาใส่บาตรที่วัด>>” ป๊อปเอ่ยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับหัวเราะในลำคอ มือหนาเอื้อมขึ้นไปโยกมวยผมเหนือศีรษะของหญิงสาวอย่างเอ็นดู

“<<จ้า>>” ใบหม่อนทำเสียงล้อเลียน ดวงตากลมโตคู่สวยมองจิกใส่ “<<อย่าเล่นผมหนู>>”

ป๊อปรีบปล่อยมือจากมวยผมเหนือศีรษะของหญิงสาว อดขำไม่ได้กับกิริยาท่าทางของอีกฝ่ายที่เพิ่งทำเสียงล้อเลียนเขาเมื่อสักครู่ แต่ก่อนที่สติจะหลุดไปมากกว่านี้ เขากลับตัดบท...

“<<อื้ม กลับกันเถอะบุษบง วันนี้เราอยากไปไหนบอกพี่เลย เดี๋ยวพาไป>>” ป๊อปแกล้งเรียกชื่อจริงของน้องสาว

“<<ย่ะ ธนเดช>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดพร้อมกับแลบลิ้นหลอกใส่ ก่อนเดินหลีกไปยังประตูฝั่งข้างเบาะคนขับ

ทั้งสามกลับขึ้นรถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำคันงามอีกครั้ง เสียงเครื่องยนต์ดีเซลใต้ฝากระโปรงดังกระหึ่มขึ้นพร้อมกับทำหน้าที่พาตัวถังอันใหญ่โตออกจากวัดไป...

                                                ...............................................................................

“<<ใบหม่อนจะกินอะไรรองท้องก่อนไหม>>”

ป๊อปเอ่ยถามน้องสาวหลังจากกลับมาถึงห้องไม่นานนัก ขณะเดียวกันพัชรเข้าไปล้างมือล้างเท้าในห้องน้ำก่อนเดินออกมาที่มุมทำครัวท้ายห้อง เตรียมทำอาหารเช้าให้สองพี่น้องและตัวเองกิน

“<<กินสิพี่ป๊อป>>” เสียงใสเอ่ยตอบอย่างเนือยๆ ไม่แม้แต่หันมาสบตากับพี่ชาย ยังจดจ่ออยู่กับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือ

“<<อืมๆ รอพี่พัชรแป๊ปนะ เช้านี้กินข้าวฝีมือพี่พัชรกันนะใบหม่อนหน้ากลม ฮิๆ>>”

ใบหม่อนถึงกับกลอกตามองบนพร้อมกับย่นจมูกขึ้นอย่างอิดหนาระอาใจกับพี่ชายคนนี้ไม่น้อย “<<พี่ป๊อป มีสักวันไหมที่จะไม่ล้อหนูหน้ากลมเนี่ย>>”

“<<ฮิๆ ก็เราหน้ากลมจริงเปล่าล่ะ ฮิๆ>>” ป๊อปย้อนให้พลางกลั้วหัวเราะเบาๆ

ใบหม่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ ดวงตากลมโตคู่สวยละจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูหันมามองดุใส่คนทำหน้าทะเล้นก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือเหมือนเดิม ที่จริงไม่ได้รู้สึกโกรธพี่ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย มากสุดก็รู้สึกอายที่ถูกล้อแค่นั้น อายมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโตแล้ว ถึงแม้ตัวเองจะติดพี่ชายมากแค่ไหนก็ตาม

จานอาหารเช้าประกอบด้วยไข่ดาว ไส้กรอกทอด หมูทอดพร้อมข้าวสวยทั้งสามจานถูกจัดเรียงบนโต๊ะกินข้าวด้วยฝีมือแม่ครัวรับเชิญและผู้เป็นเจ้าของห้อง ส่งกลิ่นหอมฉุยโชยมาเตะจมูกของคนที่ติดโทรศัพท์มือถือจนเจ้าตัวต้องกลืนน้ำลาย

“<<ใบหม่อน มาๆ มากินข้าวก่อน>>”

ร่างสูงระหงลุกจากโซฟาใหญ่กลางห้องมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ ปกติแล้ววันไหนที่ว่าที่พี่สะใภ้มาหญิงสาวมักไปนั่งข้างๆ เสมอ แต่วันนี้เจ้าตัวกลับเลือกที่จะนั่งข้างๆ พี่ชาย

“หอมจังเลยอ่ะพี่พัชร” เสียงใสเอ่ยชมเชยกับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า

คนลงมือทำกับข้าวมื้อนี้แทบจะตัวลอยเมื่อได้รับคำชมจากปากว่าที่น้องสะใภ้ กลีบปากเรียวสวยคลี่ยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณมากจ้าน้องใบหม่อน เช้านี้กินไปก่อนเนอะ ในตู้เย็นป๊อปไม่มีอะไรเลย มีแต่หมูกับไข่ นี่ไส้กรอกพี่ซื้อติดรถมาด้วยเมื่อคืนนะ ไม่งั้นก็กินแค่หมูกับไข่ไปแล้ว คริๆ”

ป๊อปถึงกับหน้าชาเมื่อได้ยินคำของแฟนสาว ยอมรับผิดในใจที่ตัวเองเอาแต่บ้างานมาตลอดสี่ห้าวันที่ผ่านมาจนไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ไปซื้ออะไรมาติดตู้เย็นเพิ่มอีกเลย มีเพียงแต่ไข่แผงใหญ่ที่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเท่านั้น

“<<พี่ป๊อปนะพี่ป๊อป เอาแต่บ้างาน ไม่ยอมไปจ่ายตลาดเลย>>” ใบหม่อนได้ทีว่าให้คนเป็นพี่ชาย ถือว่าเป็นการเอาคืนที่โดนล้อไปด้วย

“<<ขอโทษก๊าบ!>>” ป๊อปพนมมือไหว้ประหลกๆ ไปทางคนที่เพิ่งต่อว่าเมื่อสักครู่

ใบหม่อนถึงกับส่ายศีรษะไปมา พยายามกลั้นหัวเราะแต่เอาไม่อยู่เมื่อกับข้าวที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปากพุ่งออกมา เมื่อเห็นพี่ชายทำท่าตลกๆ ใส่

“ตายแล้วน้องใบหม่อน เช็ดหน้าพี่ป๊อปเขาด้วยนะ ดูสิ กับข้าวกระเด็นใส่หน้าพี่ป๊อปแล้ว” พัชรเอ่ยปรามว่าที่น้องสะใภ้

“ฮ่าๆๆๆ ก็มันขำจริงๆ นี่นาพี่พัชร หนูกลั้นไม่อยู่จริงๆ น้า” ใบหม่อนตอบทั้งที่ยังหัวเราะไม่หยุด สักพักกระดาษชำระม้วนใหญ่กลางโต๊ะถูกดึงขึ้นและนำไปเช็ดบนใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราของคนเป็นพี่ชายด้วยตัวเอง

อาหารมื้อเช้าถูกจัดการจนหมดลงในเวลาไม่นานนัก คราวนี้ใบหม่อนใช้สิทธิ์ในฐานะเจ้าของวันเกิดใช้ให้พี่ชายล้างจานให้ด้วยซะเลย

“<<พี่ป๊อป ล้างจานให้หนูหน่อยสิ>>”

“<<แหม ใช้พี่นะใช้พี่ หึๆ>>” ป๊อปแกล้งแซว จริงๆ เต็มใจทำให้อยู่แล้ว

ร่างสูงระหงเดินกลับไปนั่งที่โซฟาใหญ่กลางห้องอีกครั้งพร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาเล่นต่อ ส่วนใหญ่หมดไปกับการตอบข้อความอวยพรวันเกิดที่บรรดาเพื่อนๆ ส่งมาให้ ขณะที่ป๊อปทำหน้าที่ล้างจานทั้งสามใบจนเสร็จในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ก่อนพาตัวเองเดินไปหาคนรักที่ตอนนี้ถือวิสาสะเปิดไอแม็คของตัวเองเล่นโดยไม่บอกกล่าว

“พัชรทำอะไร” ป๊อปโน้มหน้าลงไปใกล้ๆ ใบหูเล็กขาวสะอาดของแฟนสาว แกล้งพูดกรอกหูใส่

“อ๊ายตายแล้ว ตกใจหมดเลย” พัชรร้องเสียงหลงด้วยอาการตกใจ “อีตาบ้า มาพูดใส่หูเค้าอยู่ได้”

“ฮิๆ นี่วันหยุดนะ ยังจะทำงานอีก”

“ก็ เมื่อคืนทำงานค้างไว้ยังไม่เสร็จเลย” เสียงหวานเอ่ยตอบอย่างรู้สึกผิด จริงอย่างที่แฟนหนุ่มพูดทุกอย่าง

ป๊อปเดินไปหยิบเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าว ยกมานั่งลงข้างๆ ร่างบอบบางของคนรัก ใบหน้าคร้ามโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยหวานรูปไข่ของแฟนสาวเหมือนกับที่เคยทำมาในครั้งก่อน “เอาน่าพัชร วันนี้วันหยุด ไม่รีแล็กซ์หน่อยเหรอ”

จู่ๆ เสียงใสจากคนที่นั่งโซฟากลางห้องพูดสวนขึ้นมาแบบไม่ต้องคิด “<<ไม่ต้องไปว่าพี่พัชรเขาเลยนะ แล้วทีพี่ป๊อปเอาแต่บ้างานจนอดนอนสามสี่คืนล่ะ >>”

คราวนี้พัชรระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นแฟนหนุ่มทำหน้าจ๋อยเมื่อถูกน้องสาวสุดที่รักว่าให้ ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเคยทำงานอดนอนติดๆ กันหลายคืน แต่ด้วยวัยล่วงเลยมาเข้าเลขสามแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“จริงรึเปล่าเนี่ยป๊อป” พัชรแกล้งถามเสียงยานคาง

“จริง” ป๊อปตอบเสียงอ่อยๆ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเพราะสิ่งที่น้องสาวเขาว่าให้นั้นจริงทุกอย่าง

สมาร์ทโฟนเครื่องหรูของใบหม่อนส่งเสียงดังขึ้นพร้อมกับรูปของคนที่โทร.หาโชว์ขึ้นบนหน้าจอ นิ้วมือเล็กรีบกดรับทันทีแบบไม่ลังเลเมื่อรู้ว่าใครโทร.มา

ใบหม่อน : [[<<ฮัลโหลสวัสดีจ้าแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะใบหม่อน หลานรักของแม่คุณ ขอให้หนูเจริญๆ ยิ่งขึ้นนะลูก ไม่เจ็บไม่จน ไม่อดไม่อยาก ไม่ลำบากนะลูกนะ>>]]

หยาดน้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำอวยพรจากคนในครอบครัวที่ตัวเองรักมากที่สุด ถึงแม้วันนี้จะห่างไกลกันแค่ไหน แต่หัวใจไม่เคยห่างไกลกันเลย

ใบหม่อน : [[<<ขอบคุณจ้าแม่คุณจ๋า แม่คุณสบายดีนะจ๊ะ>>]]

แม่คุณ : [[<<สบายดีจ้าหนู ใบหม่อนตอนนี้เป็นไงบ้างลูก งานการเป็นไงบ้างจ๊ะ>>]]

ใบหม่อน : [[<<งานเหรอ ก็ดีจ้าแม่คุณจ๋า ตอนนี้หนูเพิ่งทำได้เดือนกว่าๆ เอง ยังไม่พ้นทดลองงานเลย แม่คุณรู้ไหมจ๊ะ หนูร้องไห้ตั้งแต่วันแรกที่หนูไปทำงานเลย โดน ผ.อ.ตำหนิเรื่องแต่งตัว แถมลามมาแขวะรถหนูอีก ถึงวันนี้หนูยังโดนตำหนิอยู่เลยจ้าแม่คุณจ๋า>>]]

แม่คุณ : [[<<โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะลูกนะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้มั้งนะ แม่คุณเชื่อว่าหลานรักคนนี้เก่งอยู่แล้วลูก เดี๋ยวก็ผ่านไปนะลูกนะ>>]]

ใบหม่อน : [[<<ขอบคุณจ้าแม่คุณ ตอนนี้หนูไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ คิดแค่ว่าช่างมัน เลิกงานหนูก็กลับห้องมาอยู่กับพี่ป๊อปแหละจ้ะแม่คุณจ๋า>>]]

แม่คุณ : [[<<ฮึๆ ดีแล้วจ้าหลานรัก ว่าแต่อยู่กับไอ้หมาเป็นไงบ้างล่ะ เห็นอีหนูแม่เอ็งเล่าให้ฟังนี่ว่าไอ้หมาเอาแต่บ้างานจนอดหลับอดนอน>>]]

ใบหม่อน : [[<<พี่ป๊อปช่วงนี้เอาแต่บ้างานจริงๆ จ้า เอาแต่ทำงานๆ จนไม่สนใจน้องนุ่งบ้างเลย เนี่ยดูสิ หนูต้องอยู่เป็นเพื่อนพี่ป๊อปแทบทุกคืนเลย ทั้งชงนมอุ่นให้กินทั้งเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าให้ นี่แม่คุณจ๋า พี่ป๊อปยังชอบแกล้งหนูเหมือนเดิมเลยน้า ชอบล้อเลียนหนูด้วย ตั้งแต่หนูลงไปอยู่ด้วยพี่ป๊อปล้อหน้าหนูทุกวันเลยจ้า>>]]

ใบหม่อนถือโอกาสฟ้องแม่คุณเรื่องวีรกรรมที่พี่ชายสุดที่รักทำไว้กับตัวเองเสียเลย เผื่อแม่คุณจะจัดการพี่ชายคนนี้ได้

แม่คุณ : [[<<ฮ่าๆ นี่ไอ้หมากล้าแกล้งหลานรักของแม่คุณขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนี่ไอ้หมาอยู่ไหมลูก แม่คุณอยากคุยด้วยหน่อย>>]]

ใบหม่อน : [[<<จ้าแม่คุณ รอแป๊ปน้า>>]]

พูดจบร่างสูงระหงลุกจากโซฟาเดินตรงไปหาพี่ชายที่นั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ข้างๆ ว่าที่พี่สะใภ้ สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกยื่นมาให้

“<<พี่ป๊อป แม่คุณจะคุยกับพี่ป๊อปด้วย>>”

ปากหยักได้รูปผุดยิ้มน้อยๆ ก่อนรับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของน้องสาวมาแนบกับหูตัวเอง ก่อนลุกขึ้นเดินหลีกไปแถวๆ ระเบียงที่อยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก

ป๊อป : [[<<สวัสดีครับแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<จ้าไอ้หมา หลานรักของแม่คุณ ได้ข่าวว่าช่วงนี้เอาแต่ทำงานจนอดหลับอดนอนเลยเหรอ แม่หนูเล่าให้แม่คุณฟังหมดแล้วนะ>>]]

ป๊อป : [[<<ใช่ครับแม่คุณ ก็งานด่วนนี่ครับ เจอลูกค้างี่เง่าจะรีบเอางานให้ได้ภายในอาทิตย์นึง ผมก็ต้องรีบปั่นสิครับ>>]]

แม่คุณ : [[<<ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกไอ้หมา แต่หนูน่ะดูแลตัวเองบ้างสิ อายุก็จะสามสิบเอ็ดแล้วนะ ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่จะอดหลับอดนอนได้หลายๆ วันใช่ไหมล่ะ เนี่ยใบหม่อนเขาก็บ่นกับแม่คุณเพราะเขาเป็นห่วงหนูนะ น้องเขาบอกเขาเตือนอะไรก็เชื่อน้องเขาบ้าง พวกหนูมีกันสองคนพี่น้องนะไอ้หมา>>]]

ป๊อป : [[<<ผมขอโทษจริงๆ ครับที่เอาแต่ทำงานจนไม่สนใจน้องเลย ยังไงก็ขอบคุณแม่คุณมากนะครับที่เตือนผม>>]]

แม่คุณ : [[<<เออลูก นี่แม่คุณฝากดูแลใบหม่อนด้วยนะลูกนะ ยังไงมีกันสองคนพี่น้องก็ต้องดูแลกันไป น้องเขาจะดื้อบ้างอะไรบ้างหนูก็อย่าคิดมากนะลูกนะ อ้อ อย่าแกล้งน้องบ่อยล่ะ เนี่ยใบหม่อนฟ้องแม่คุณหมดแล้ว ฮิๆ>>]]

ป๊อป : [[<<ก็น้องสาวผมน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้จะไม่ให้ผมแกล้งได้ไงล่ะครับ เรื่องใบหม่อนแม่คุณไม่ต้องห่วงนะครับ ยังไงผมดูแลน้องเต็มที่เท่าที่ผมจะทำได้อยู่แล้ว ทะเลาะกันยังไงก็ไม่มีปัญหาหรอกครับแม่คุณ เพราะว่า…>>]]

แม่คุณ : [[<<เพราะหนูยอมน้องทุกครั้งเลยใช่ไหมไอ้หมา แม่คุณเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วนะ ทะเลาะกันทีไรหนูก็ยอมใบหม่อนตลอดเลย ดีแล้วลูก แต่ถ้าใบหม่อนทำอะไรผิดไปบ้าง หนูก็ต้องคอยตักเตือนบ้าง เพราะบางทีนิสัยของใบหม่อนน่ะดื้อจะตายไป>>]]

ป๊อป : [[<<ผมรู้นิสัยน้องดีอยู่แล้วครับแม่คุณ ดื้อทั้งคู่เลย ฮิๆ>>]]

แม่คุณ : [[<<วันเกิดน้องปีนี้ไอ้หมาจะทำอะไรให้ล่ะน้องล่ะลูก>>]]

ป๊อป : [[<<ผมว่าจะพาน้องไปช็อปปิ้งหน่อยครับ เนี่ยเมื่อเช้าผมก็เพิ่งพาน้องไปใส่บาตรมา วันนี้แฟนผมมาด้วยนะครับแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<จริงเหรอลูก ไอ้หมารีบๆ แต่งเมียได้แล้วนะลูกนะ แม่คุณอยากอุ้มเหลนบ้าง>>]]

ป๊อป : [[<<ไม่นานเกินรอแน่ครับแม่คุณ ผมขอเก็บเงินอีกสักหน่อยครับ  ฮิๆ>>]]

แม่คุณ : [[<<จ้า ยังไงขอให้หนูโชคดีมีชัย ทำอะไรสำเร็จ ไม่อดไม่อยาก ไม่ลำบาก ไม่เจ็บไม่จนนะหลานรักของแม่คุณ แม่คุณฝากดูแลใบหม่อนด้วยนะลูกนะ ฝากบอกหนูพัชรด้วยนะลูกนะว่าแม่คุณก็คิดถึงเหมือนกัน อยากได้หลานสะใภ้คนนี้จะแย่แล้วนะไอ้หมา>>]]

ป๊อป : [[<<ครับแม่คุณ เดี๋ยวแม่คุณคุยกับใบหม่อนต่อนะครับ>>]]

ประจวบเหมาะกับเจ้าตัวกำลังเดินกลับมาหาน้องสาวที่ตอนนี้พาตัวเองมานั่งคุยกับแฟนสาวของตัวเองพอดี มือหนายื่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินคืนให้กับเจ้าของ

ใบหม่อน : [[<<จ๋าแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<ยังไงแม่คุณขอให้หลานรักทั้งสองมีความสุขมากๆ นะลูกนะ แค่นี้นะลูกนะ>>]]

ใบหม่อน : [[<<จ้า>>]]

รอยยิ้มกว้างๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวหลังจากจบบทสนทนากับผู้อาวุโสในครอบครัวที่เจ้าตัวรักมากที่สุด มัวแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนรู้ตัวอีกที เห็นใบหน้าคร้ามของพี่ชายตัวเองยื่นเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

“<<ตกใจ!!! พี่ป๊อปมาแกล้งหนูทำไมเนี่ย>>” ใบหม่อนร้องเสียงหลง

“<<อ้าว เห็นยิ้มไม่หุบตั้งแต่วางสายแม่คุณนี่ ก่อนเอามาให้พี่คุยไปฟ้องอะไรแม่คุณล่ะหืม>>”

ป๊อปพูดกลั้วหัวเราะ มือหนาเอื้อมขึ้นไปโยกมวยผมกลางศีรษะของหญิงสาวเล่น

“<<อย่าเล่นผมหนูพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนว่าให้อีกหนึ่งที มือเล็กทั้งสองข้างยกท่อนแขนข้างที่กำลังจับมวยผมเหนือศีรษะตัวเองออก “<<หนูฟ้องหมดแหละว่าพี่ชอบแกล้งหนู ชิ>>”

“<<อืม ฟ้องไปเถอะ ยังไงพี่ก็แกล้งเราอยู่ดี ฮิๆๆ>>” ป๊อปยังคงทำท่าทะเล้นใส่น้องสาวไม่หยุด “<<งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพาบุษบงไปเที่ยวฉลองวันเกิดกัน ฮ่าๆ>>” พูดจบร่างสูงรีบเดินออกห่างเจ้าของชื่อที่เรียกเมื่อสักครู่ ขืนอยู่ต่อมีหวังต้องโดนอะไรสักอย่างแน่ “ไปพัชร ไปอาบน้ำด้วยกันนี่” ไม่ลืมจะหันไปออกปากชวนแฟนสาวให้ไปอาบน้ำด้วยกัน

“<<ไปเลยนะพี่ป๊อป เดี๋ยวเหอะ!>>” ใบหม่อนว่าไล่หลังคนที่เพิ่งเดินจากไป จากอารมณ์ดีๆ อยู่ก็ต้องมาอารมณ์เสียเพราะพี่ชายตัวดีคนนี้ไปซะได้...

                                                                .............................................................................

ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนขากระบอกเล็กเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง มองไปรอบๆ พบเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้เงาเจ้าของวันเกิดที่ตอนนี้เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เช่นกัน เขากลับเข้าไปในห้องนอนตัวเองอีกรอบหนึ่ง ระหว่างนั้นคนรักของเขากำลังแต่งตัวอยู่

“อ้าวป๊อป กลับมาอีกทำไมอ่ะ เค้ากำลังแต่งตัวอยู่ ห้ามแอบมองนะ” พัชรเอ่ยปรามแฟนหนุ่มที่ตอนนี้กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง

“ฮื้ม ไม่มองหรอก เห็นตอนอาบน้ำด้วยกันหมดแล้วนี่ เห็นมาเป็นสิบปีแล้วด้วย ฮิๆๆ” ป๊อปพูดติดตลก แต่ยอมทำตามด้วยการหันหน้าหนีไปทางผนังห้อง เล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือต่อ

“อีตาบ้า หื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ เลย ชิ” เสียงหวานแหวใส่ มือเล็กขว้างผ้าเช็ดตัวลอยหวือไปคลุมถูกศีรษะทุยของเจ้าของห้องพอดี

ภาพตรงหน้าถูกตัดเหลือเพียงแต่ความมืดเมื่อจู่ๆ ผ้าเช็ดตัวที่ยังเปียกชุ่มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาคลุมหน้าเขาพอดี มือหนาหยิบผ้าเช็ดตัวออกจากหน้าตัวเอง วางผ้าเช็ดตัวลงพาดราวใกล้ๆ ที่ตัวเองนั่งอยู่

“นี่ยังชอบเขวี้ยงผ้าเช็ดตัวใส่หน้าเราไม่เปลี่ยนเลยนะ ฮึๆ”

เสียงเข้มกดต่ำลงพร้อมกับหัวเราะทิ้งท้าย นัยน์ตาสองชั้นหลบลอบมองเจ้าของร่างบางที่ตอนนี้ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อซีทรูคอกลมสีดำตัดกับผิวขาวละเอียดราวกับงาช้างกับกางเกงยีนขาม้าสีฟ้าสดใสตัวเดิมที่เจ้าตัวใส่มาเมื่อวาน ผมยาวสลวยสีดำขลับเปล่งประกายเงางามถูกหวีให้ตรงเรียบเว้าตรงปลายเล็กน้อย ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มหันมาสบตากับเจ้าตัว ยอมรับเลยว่าขนาดไม่ได้แต่งหน้ายังสวยได้ถึงขนาดนี้ ถ้าแต่งหน้าจะยิ่งสวยมากกว่าขนาดไหน

“ก็ป๊อปชอบแกล้งทำหื่นใส่เค้าทำไมอ่ะ” พัชรว่าให้แบบไม่จริงจังนัก “นี่วันเกิดน้องสาวทั้งที ไม่แต่งตัวให้มันดูดีกว่านี้หน่อยหรือไงหืม”

ป๊อปไม่พูดอะไรนอกจากคลี่ยิ้มอ่อนๆ เชิงยอมรับ ปกติแล้วตัวเองไม่ใช่คนแต่งตัวดีอะไรมากนัก แต่ครั้งนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวสุดที่รักของเขา ก็ต้องยอมตามที่คนรักของตัวเองบอก ขณะเดียวกัน พัชรถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบสูทสีเทาออกมายื่นให้กับอีกฝ่าย

“นี่ป๊อป ใส่ซะ แต่งตัวหล่อหน่อย น้องใบหม่อนจะได้ภูมิใจในตัวพี่ชายอย่างป๊อปไงล่ะ”

มือหนายื่นมาจะรับสูทจากมือของคนรัก แต่สาวเจ้ากลับชักสูทหนีออกซะอย่างนั้น “ป๊อป ลุกขึ้น เดี๋ยวเค้าใส่ให้”

คนตัวใหญ่ลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของคนรักทั้งที่ยังงงๆ อยู่ว่าคนรักของตัวเองจะเอายังไงกันแน่ แขนทั้งสองข้างยกขึ้นอย่างว่าง่าย และแล้วสูทสีเทาถูกสวมด้วยฝีมือของหญิงสาวพร้อมกับจัดทรงให้เรียบร้อยในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก

“อื้ม ป๊อปแต่งตัวแบบนี้ดูหล่อขึ้นเยอะเลย”

เสียงหวานเอ่ยอย่างจริงใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าใส่สูททับเสื้อยืดสีขาวข้างใน ยอมรับว่าเมื่อแฟนหนุ่มใส่สูทแล้วดูหล่อมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“อืม จริงอย่างที่พัชรว่าแหละ” เสียงเข้มเว้นเล็กน้อย “พัชรแต่งตัวเสร็จยังล่ะ เดี๋ยวใบหม่อนรอนานนะ”

“เสร็จแล้วล่ะป๊อป เค้าเคยแต่งหน้าที่ไหนล่ะหืม” พัชรย้อนให้พร้อมกับส่งยิ้มหวานทิ้งท้าย มือเล็กหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูกับกระเป๋าแบรนด์เนมคู่กายบรรจุของจุกจิกขึ้นมาสะพาย มืออีกข้างยื่นมาให้มือหนากุมไว้ก่อนพากันเดินออกไปที่ห้องกลางด้วยกัน

ร่างสูงระหงในชุดเสื้อชีฟองแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนห้าส่วนตัวเดิม ผมยาวสลวยยังถูกเกล้ามวยสูงเหมือนเดิมราวกับรู้ว่าพี่ชายตัวเองชอบให้เจ้าตัวเกล้ามวยผมแบบนี้ ใบหน้าสวยหวานแบบไทยแท้ถูกแต่งแต้มด้วยบลัชออนบางๆ บนพวงแก้มอวบอิ่มทั้งสองข้าง กลีบปากอวบอิ่มสวยถูกฉาบทาด้วยลิปสติกสีแดง แพขนตางอนถูกปัดด้วยมาสคาร่าเล็กน้อย ทอดตัวนั่งเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูรอพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้บนโซฟาใหญ่กลางห้อง

“<<ใบหม่อนมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย>>”

“<<หนูต้องถามพี่มากกว่าไหมว่าทำไมพี่เพิ่งออกมา หนูมานั่งรอตั้งนานแล้วนะ>>”

ใบหม่อนย้อนให้ไม่จริงจังนัก ปรายตามองค้อนใส่คนเป็นพี่ชายหนึ่งครั้งก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือต่อ

“<<อ่ะน่ะ วันนี้ใบหม่อนอยากไปไหนบอก เดี๋ยวพี่พาไป>>” ป๊อปเอ่ยถามเรื่องใหม่ ไม่ย้อนกลับไปเรื่องเดิมอีก ร่างสูงใหญ่หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ

“<<ไปเซ็นทรัลเวิลด์ดีไหมพี่ป๊อป หนูอยากไปเที่ยวแอปเปิ้ลสโตร์ด้วยอ่ะ>>” ใบหม่อนตอบกลับมาแบบไม่ต้องคิด ก่อนหันหน้ามาหาคนเป็นพี่ชาย แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเล็กๆ เมื่อเห็นพี่ชายตัวเองแต่งตัวภูมิฐานแปลกๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“<<อุ๊ย อะไรทำให้พี่ชายของหนูแต่งตัวหล่อได้ขนาดนี้เนี่ย>>”

ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาว นัยน์ตาสองชั้นหลบปรายตาเหลือบมองไปทางแฟนสาวที่ตอนนี้พาตัวเองมานั่งที่โซฟาอีกด้านหนึ่ง “<<ก็แฟนพี่จับพี่แต่งตัวแบบนี้น่ะสิ ฮิๆ เป็นไง หล่อไหมล่ะ>>”

“<<วันนี้พี่ชายหนูหล่อที่สุดเลย>>” เสียงใสตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี กลีบปากเรียวสวยคลี่ยิ้มกว้าง

“ก็วันนี้วันเกิดน้องใบหม่อนใช่ไหมคะ พี่เลยให้ป๊อปเขาแต่งตัวดีๆ หน่อยน่ะจ้ะ” พัชรเสริมขึ้นมา ก่อนส่งยิ้มให้กับว่าที่น้องสะใภ้

“อื้ม งั้นไปกันเถอะ ใบหม่อน พัชร นี่จะเก้าโมงแล้ว” ป๊อปเอ่ยปากขึ้นพร้อมกับทำท่าดูนาฬิกาบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของตัวเอง ทำท่าจะลุกไปหยิบรีโมตกุญแจรถส่วนตัวที่วางไว้บนโต๊ะทำงาน แต่กลับมีแรงดึงเบาๆ ที่แขนข้างซ้าย หันกลับไปมองเห็นมือเล็กทั้งสองข้างของใบหม่อนรั้งแขนของเขาไว้

“<<เดี๋ยวเอารถหนูไปนะพี่ป๊อป แต่พี่ป๊อปต้องเป็นคนขี่นะ>>”

พูดจบมือข้างหนึ่งปล่อยออกพร้อมกับหยิบรีโมตรถของตัวเองยัดใส่มือของอีกฝ่าย “<<พี่ป๊อปอย่าขี่ซิ่งนะ เข้าใจไหม>>”

“<<เข้าใจครับแม่>>” ป๊อปแกล้งพูดล้อเลียนหลังจากรับรีโมตรถของน้องสาวเสร็จ “<<เดี๋ยวจะค่อยๆ ขับเลยครับ ฮิๆ>>”

“<<พี่ป๊อปอ่ะ>>” ใบหม่อนว่าเสียงกระเง้ากระงอดพร้อมกับตีท่อนแขนแกร่งหนึ่งที “<<หนูพูดกับพี่ดีๆ น้า ทำไมต้องล้อเลียนหนูด้วย>>”

พัชรแทบจะกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นพี่น้องคู่นี้ทะเลาะกัน ก่อนทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามในเวลาต่อมา “ป๊อป น้องใบหม่อน งั้นไปกันเถอะจ้า”

ใบหม่อนกับป๊อปลุกขึ้นตามคำสั่งของบุคคลที่สามอย่างว่าง่าย ไม่ลืมที่จะหยิบสัมภาระทั้งกระเป๋าใส่ของจุกจิกสำหรับผู้หญิง สมาร์ทโฟน คีย์การ์ดเข้าออกคอนโดฯ ขณะที่ป๊อปแทบไม่ต้องเอาอะไรไปนอกจากสมาร์ทโฟน กระเป๋าสตางค์ และรีโมตรถของน้องสาวเท่านั้น

“พี่พัชรขา ถ่ายรูปหนูกับพี่ป๊อปให้หน่อยสิ นานๆ พี่ป๊อปเขาแต่งหล่อที” ใบหม่อนถือโอกาสออกปากขอให้ว่าที่พี่สะใภ้ถ่ายรูปให้ สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกยื่นส่งให้อีกฝ่าย

“ได้จ้า”

ป๊อปหันไปมองสองสาวที่อยู่ข้างหลังอย่างงงๆ แอบนึกในใจ ‘จะไปแล้วยังจะถ่ายรูปอีกนะ แหม่’

“<<พี่ป๊อปมาถ่ายรูปกับหนูนี่>>” ไม่พูดเปล่า ยังเอื้อมมือคว้าท่อนแขนแกร่งดึงตัวไปยืนข้างๆ ขณะที่พัชรเปิดโหมดกล้องในสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินรออยู่

ร่างสูงใหญ่ยืนข้างๆ ร่างระหงที่เตี้ยกว่าแค่ใบหู ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ มองไปทางแฟนสาวที่ยืนถ่ายรูปให้ ขณะที่ใบหม่อนทำท่าเอียงคอคลี่ยิ้มหวาน พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กกดปุ่มชัตเตอร์ หลังจากถ่ายเสร็จหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องสีน้ำเงินถูกหันไปหาคนที่อยู่ในรูปทั้งสอง...

“<<พี่ป๊อปไม่ยิ้มเลยอ่า>>” ใบหม่อนว่าด้วยน้ำเสียงแสดงอาการผิดหวังเล็กๆ แต่คนโดนเอ่ยถึงกลับหัวเราะขึ้นมา

“<<ฮิๆ ไปกันเถอเดี๋ยวหิวกลางทาง>>”

สิ้นเสียงพูดตัดบท ร่างสูงใหญ่รีบเดินปรี่ไปที่ชั้นวางรองเท้าใกล้ประตูทางเข้า มือหนาหยิบรองเท้าผ้าใบสีดำขาวลงมาวางที่พื้น ก้มตัวลงสวมถุงเท้าให้เรียบร้อยก่อนสวมมันอย่างรวดเร็ว ขณะที่ใบหม่อนสวมถุงเท้าสั้นมาตั้งแต่ในห้อง เพียงแค่สวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดของตัวเองเท่านั้น รอเพียงแต่แฟนสาวของเจ้าของห้องที่นั่งลงก้มตัวเลิกขากางเกงขึ้นสวมถุงเท้าและรองเท้าบูทหนังสีดำคู่โปรด และนั่นทำให้สองพี่น้องต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรอคอย

“<<รอพี่พัชรใส่รองเท้าก่อนนะใบหม่อน ฮิๆ>>” ปากพูดกับน้องสาว แต่แอบปรายตามองคนรักที่กำลังก้มตัวรูดซิปรองเท้าบูทอยู่

“<<จริงด้วยพี่ป๊อป หนูไม่ใส่หรอกบูทอ่ะ ร้อนขาแถมใส่ยากอีก คริๆ>>” ใบหม่อนตอบกลับคนเป็นพี่ชายอย่างรู้ทัน

พัชรเงยหน้าขึ้นมาหลังจากสวมรองเท้าเสร็จ เห็นสองพี่น้องกำลังหัวเราะคิกคักให้กัน รู้เลยว่ากำลังล้อเลียนตัวเองอยู่ ดวงตาคู่สวยส่งค้อนใส่ทั้งคู่ก่อนพูดตัดบท

“ไปกันเถอะจ้ะป๊อป น้องใบหม่อน เดี๋ยวหิวกลางทางไม่รู้นะ”

                                                                ..............................................................................

รถเก๋งคันเล็กสีดำขับโดยป๊อปแล่นไปบนทางด่วนตามกระแสการจราจรที่ค่อนข้างโล่ง นัยน์ตาสองชั้นหลบมองทางข้างหน้า มือทั้งสองข้างหักพวงมาลัยมุดหลบรถที่ขับช้ากว่า นิ้วมือหนากดแพดเดิลชิฟต์สั่งเปลี่ยนเกียร์พร้อมกับเร่งความเร็วแซงรถที่ขับช้ากว่าข้างหน้า ความเร็วบนหน้าปัดตอนนี้ทะลุเกิน 110 ไปแล้ว แต่ตอนนี้นายสารถีจำเป็นเริ่มออกอาการหงุดหงิดเมื่อเจอน้ำหนักพวงมาลัยที่เบากว่ารถของตัวเองหลายเท่าตัวจนต้องใช้สมาธิในการควบคุมรถมากกว่าเดิม

ใบหม่อนยังไม่รู้ตัวว่าพี่ชายเริ่มขับรถเร็ว จนว่าที่พี่สะใภ้อย่างพัชรเหลือบไปเห็นตัวเลขความเร็วบนหน้าปัทม์หลังพวงมาลัย มือเล็กเอื้อมไปสะกิดเตือนนายสารถีที่กำลังเพลิดเพลินกับการเร่งความเร็วอยู่

“ป๊อปอย่าขับรถเร็วสิ”

“<<พี่ป๊อป หนูบอกว่าอย่าซิ่งๆ เข้าใจไหมเนี่ย>>” ใบหม่อนว่าให้พร้อมกับยื่นกำปั้นน้อยทุบเบาๆ ที่หัวไหล่ซ้ายของพี่ชายหนึ่งที

เท้าขวาของชายหนุ่มรีบถอนคันเร่งพร้อมกับแตะเบรกเบาๆ จนความเร็วลดลงเหลือ 90 พร้อมกับหักพวงมาลัยเข้าเลนกลางก่อนค่อยๆ เข้าเลนซ้ายสุดอย่างแนบเนียน นิ้วมือหนากดแพดเดิลชิฟต์เปลี่ยนเกียร์ลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลงแล่นตามหลังรถคันหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงทางลงอโศก-เพชรบุรี มือหนาหักพวงมาลัยพาให้รถเลี้ยวออกทางลงตามรถคันหน้าอย่างช้าๆ ออกสู่ถนนอโศก-เพชรบุรี แล่นตรงไปจนติดไฟแดงที่แยกอโศก-เพชรบุรีที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

สัญญาณไฟเขียวปรากฎขึ้นหลังจากนั้นประมาณนาทีเศษ มือซ้ายเลื่อนคันเกียร์ลงมาอยู่ในตำแหน่งให้รถเคลื่อนก่อนยกขึ้นกลับไปจับพวงมาลัยต่อ นิ้วมือขวากดแพดเดิลชิฟต์เปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นตามความเร็วรถ วันนี้การจราจรบนถนนอโศกไม่ติดขัดมากนักทำให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ จนมาติดไฟแดงเป็นเวลายาวนานอีกครั้งที่แยกอโศก นานจนทำให้นายสารถีออกอาการหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ขณะที่เจ้าของรถอย่างใบหม่อนยังเพลิดเพลินอยู่กับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมืออยู่

“จะติดนานไหมเนี่ยป๊อป” พัชรที่นั่งอยู่เบาะหลังเอ่ยขึ้นมา เห็นสีหน้าคนรักออกอาการหงุดหงิดแล้วชวนให้อดเป็นห่วงไม่ได้

“ไม่รู้สิพัชร” เสียงเข้มเว้นหายใจสักพัก “เราออกมาเก้าโมงครึ่งกว่าๆ นี่ก็สิบโมงแล้ว คงอีกสักพักนึงน่ะพัชร”

พัชรพยักหน้าเชิงตอบรับเบาๆ ก่อนหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาดูแอพกูเกิลแม็ป แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นเส้นสีแดงยาวตลอดถนนสุขุมวิทช่วงที่มุ่งสู่เพลินจิต ประจวบเหมาะกับสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี

ป๊อปรีบกดคันเร่งพร้อมกับสาวพวงมาลัยเลี้ยวขวาออกสู่ถนนสุขุมวิทที่ตอนนี้การจราจรหนาแน่นในแบบของวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังพอมีช่องให้แล่นผ่านไปได้ มือหนาหักพวงมาลัยพารถเก๋งคันเล็กเปลี่ยนเลนมุดไปมุดมาซอกซอนไปตามช่องว่างระหว่างคันรถอย่างคล่องแคล่วจนหลุดเข้าไปในช่องการจราจรพิเศษที่ประมาณรถหนาแน่นน้อยกว่าจนได้

“<<ใบหม่อนหิวไหม>>”

“………………………..” เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับ สาวเจ้ายังคงจดจ่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมืออยู่

ป๊อปถอนหายใจสั้นๆ อย่างระอาที่น้องสาวเอาแต่เล่นมือถือจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ก่อนถามย้ำอีกครั้งหนึ่งด้วยน้ำเสียงกระแทกมากกว่าเดิมเล็กน้อย

“<<ใบหม่อน>>”

“<<อะไรพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนย้อนให้ด้วยท่าทางหงุดหงิด ‘พี่ป๊อปนี่น้า กำลังคุยกับโบ้เพลินๆ เลย ชิ’

“<<หิวรึยังล่ะ ถึงแล้วจะกินอะไรก่อนไหม>>” เสียงเข้มปรับให้นิ่มนวลน่าฟังมากขึ้น หลังจากเมื่อกี้เผลอตะคอกไป

“<<หนูยังไม่หิวหรอกพี่ป๊อป>>”

“<<ทนอีกนิดนะใบหม่อน แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว>>”

ป๊อปเอ่ยกับน้องสาวอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาสองชั้นหลบมองทางข้างหน้าที่เต็มไปด้วยยวดยานพาหนะจนติดนิ่งสนิทมาพักหนึ่งแล้ว

“<<อย่าคิดมากน่าพี่ป๊อป นี่มาถ่ายรูปกับหนูดีกว่าน้า>>” ใบหม่อนเอ่ยปลอบใจนายสารถี ก่อนหันไปชวนว่าที่พี่สะใภ้ที่นั่งอยู่เบาะหลัง “<<พี่พัชรมาถ่ายรูปกับหนูด้วย>>”

สิ้นเสียงชวน ใบหม่อนยกสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือที่เปิดโหมดกล้องหน้า ขณะเดียวกันป๊อปหันไปมองกล้องพร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ ตามปกตินิสัย มีเพียงเจ้าของกล้องกับว่าที่พี่สะใภ้ที่ยิ้มกว้างสุดริมฝีปาก นิ้วโป้งเล็กกดชัตเตอร์ถ่ายหนึ่งทีก่อนจัดการอัพลงไอจีส่วนตัว

การจราจรข้างหน้ากลับมาเคลื่อนตัวได้อีกครั้งอย่างช้าๆ จนเวลาผ่านไปราวๆ ห้านาทีเศษ ป๊อปค่อยๆ เลี้ยวรถออกสู่ถนนราชปรารภ รีบชิดเข้าเลนซ้ายให้เร็วที่สุดเพราะถึงที่หมายข้างหน้าแล้ว...

                                                                ..................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา