หัวใจรักเร้นวิญญาณ
-
เขียนโดย ไอรินรดาดาว
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.36 น.
13 ตอน
3 วิจารณ์
7,436 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 19.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่ 6 ความร่วงโรย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อุ๊บ…อ๊อก…”
ชาลิสาใช้มือปิดปากวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ท่ามกลางความตกใจของเหล่าแม่บ้านคนรับใช้ บางคนยิ้มออกเพราะคิดว่าเป็นข่าวดี ที่บ้าน “รัตนบดินทร์” จะมีทายาทตัวน้อยในเร็ววันนี้
“คุณลิสาเป็นอะไรมากไหมคะ ให้หนูตามหมอให้ไหมคะ”
สาวใช้คนหนึ่งตามเข้าไปลูบหลังให้กับเธอ
“ไม่เป็นไรจ้า ขอบใจนะ พักหน่อยก็หาย”
ชาลิสาเดินไปที่อ่างล้างหน้า หลังจากบ้วนปากและพรมน้ำบนใบหน้าสวยของเธอเสร็จ เธอต้องตกใจที่สีหน้าของเธอดูแย่ลง ผิวและริมฝีปากสุกอิ่มของเธอดูซีดเซียว แล้วไหนจะรอยดำใต้ตานั่นอีก เธอเอามือลูบใบหน้าเบาๆ และชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ
“คุณผู้หญิงคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
สาวใช้อีกคนด้านนอกตะโกนบอกเธอ
“จ้า เดี๋ยวฉันไป”
ชาลิสารีบจัดผมเผ้าหน้าตาและเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย ก่อนที่จะเดินออกไปยังห้องรับแขก ที่มีชายหนุ่มหล่อเหลา คนเดิมที่เคยพบเธอที่สวน
“สวัสดีค่ะ มาหาคุณจักรใช่ไหมคะ?” เธอเอ่ยถามและชวนแขกนั่งพัก ชายหนุ่มโค้งศรีษะเล็กน้อยก่อนที่จะนั่งลง
“ผมชินกฤตครับ อยากพบคุณจักรวาลเป็นการด่วน ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่หรือเปล่าครับ?”
ชินกฤตเริ่มการสนทนา แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็มองเห็นและสัมผัสได้ว่า หญิงสาวคู่สนทนาอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยปกตินัก เธอดูไม่สดใสเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ยังคงความน่ามองสำหรับเขาอยู่เสมอ
“ไม่นะคะ คุณจักรเขาไม่ได้กลับมาบ้านค่ะ มีอะไรจะฝากไว้ไหมคะ?”
น้ำเสียงของเธอดูอิดโรยเล็กน้อย
“งั้นผมขออนุญาตรอเขาที่นี่นะครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมของว่างให้นะคะ ขอตัวเดี๋ยวค่ะ”
ชาลิสายิ้มให้คู่สนทนาก่อนที่จะลุกไปยังห้องนั่งเล่น เธอหยิบโทรศัพท์โทรหาจักรวาล
“ไม่มีสัญญาณตอบรับ….”
ชาลิสารู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตั้งแต่คบกับเขา เขาไม่เคยที่จะปิดเครื่องเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คุณผู้หญิงจะให้เสิร์ฟกาแฟหรือน้ำผลไม้ดีคะ?”
สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาถามหญิงสาว ชาลิสาหันไปตอบเบาๆ
“น้ำผลไม้ก่อนจ้า ถ้าค่ำกว่านี้ค่อยเสิร์ฟกาแฟเพิ่มนะ”
ชาลิสาตอบยิ้มๆ ขณะที่สาวใช้ยิ้มหัวเราะคิกคัก
“มีอะไรเหรอ หน้าฉันเป็นอะไรหรือเปล่า”
ชาลิสาเอามือจับหน้า เพราะเธอรู้สึกกังวลกับอาการป่วยของเธออยู่บ้าง
“เปล่าค่าาาา คือ….พวกเราคิดว่า คุณชาลิสากำลังจะมีข่าวดี”
สาวใช้ทำหน้าทะเล้นแซวหญิงสาวเบาๆ
“อะไรนะ? พวกเธอนี่…”
เธอขำพวกสาวใช้ พลางถอนหายใจและมองค้อนพวกเธอ แต่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่รู้จักและคบเป็นแฟนกับจักรวาล พวกเขาทั้งสองไม่เคยมีอะไรกันสักครั้ง
“ฉันไม่สบายเองแหละ…ป่ะ เตรียมของว่างให้แขกกันได้แล้ว”
ชาลิสาเดินนำสาวใช้เข้าครัว
หลังจากการเสิร์ฟของว่างได้ไม่นาน สักพักคนที่พวกเขารอคอยก็มาถึง จักรวาลที่เดินอย่างอ่อนล้าก็ก้าวเข้ามาในเขตคฤหาสน์
“คุณจักร”
ชินกฤตเรียกเจ้านายพร้อมกับยืนขึ้นด้วยความร้อนใจ เขารีบเดินเข้าไปหาจักรวาลพร้อมยื่นเอกสารตัวปัญหาให้จักรวาลดู
ชาลิสาที่แอบมองทั้งสองก็สังเกตเห็นสีหน้าของจักรวาลที่ดูไม่สู้ดีนัก ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสองคุยกันเบาๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สักพักชินกฤตก็ขอตัวกลับออกไป
“นายเอาไปด้วย อย่าให้คนที่บ้านฉันเห็น”
จักรวาลส่งกระดาษปึกนั้นคืนแก่ลูกน้องหนุ่ม จักรวาลนั่งลงเงียบๆ ด้วยความเครียดจนชาลิสาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปนวดไหล่ให้เขา
“งานเป็นไงบ้าง ตาจักร หมู่นี้แม่ไม่เห็นเล่าอะไรที่บริษัทให้ฟังเลย”
เพชรีเอ่ยขึ้นขณะที่ทุกคนอยู่โต๊ะอาหารสำหรับมื้อค่ำ
“ก็... เรื่อยๆ ครับแม่”
“เหรอ…แล้วเมื่อไหร่จะพาหนูลิสาเขาไปทำงานด้วยล่ะ ยังไม่ได้เปิดตัวนายหญิงคนใหม่ของบริษัทเลยนี่”
“ก็…ไว้อะไรๆ มันลงตัวก่อนครับแม่ นี่ยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลยนะครับ”
เจ้าตัวตอบแกมขำ ทำเอาชาลิสาต้องยิ้มไปด้วย
“หนูลิสาล่ะ ว่ายังไงจ๊ะ อยากไปพักผ่อนที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
เพชรีหันมาคุยกับหญิงสาวบ้าง มันช่วยให้เธอลดความรู้สึกเกร็งในการร่วมโต๊ะทานอาหารเป็นอย่างมาก
“ค่ะ ลิสาตามใจพี่จักรน่ะค่ะ ลิสาไปได้หมดค่ะ”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเรียบง่าย ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง แต่ไม่มีใครสังเกตบ้างว่าชาลิสามีสีหน้าผิดปกติ แววตาของเธอดูอิดโรยเพราะรู้สึกไม่สบายทั้งวัน
“เหนื่อยไหมคะวันนี้?”
ชาลิสานวดไหล่ให้สามีหลังจากที่เธอช่วยแม่บ้านดูแลห้องครัวเสร็จ จักรวาลที่นั่งนิ่งในห้องของเขาต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีมือเล็กๆ มาบีบเบาๆ ที่ไหล่ของเขา
“อ้อ…ไม่หรอกจ้า แค่นี้พี่ชิวๆ”
“พี่คิดยังไงคะ กับเรื่องฮันนีมูนของเรา”
เธอนั่งลงข้างเขา ทั้งสองจับมือและมองตากัน
“ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปก็ได้นะคะ ลิสาไม่รีบ”
“จ้ะ…”
จักรวาลตอบสั้นๆ เขามองดวงหน้าของเธอสักพัก ก็ค่อยๆ เคลื่อนจมูกไปหอมแก้มของเธอเบาๆ ชาลิสาพยายามจะหอมเขาคืนบ้าง แต่จักรวาลกลับใช้มือดันใบหน้าของเธอออกห่าง
“พี่คะ ได้โปรดเถอะ…อย่าห่างเหินกันนักเลย เราแต่งงานกันแล้วนะ”
“พี่เข้าใจ แต่…ให้เวลาพี่อีกสักนิดนะ คนสวยของพี่”
เขาหลบตาของหญิงสาว มือของเขากุมมือของหญิงสาวเอาไว้ ความรู้สึกของเธอตอนนี้คือเศร้าหรือดีใจกันนะ มันยากจะบรรยายเหลือเกิน
หญิงสาวก้มหน้ามองดูมือกุมกันเอาไว้ แม้เธอจะผิดหวังที่จักรวาลปฏิเสธที่จะสานสัมพันธ์กับเธอให้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ แม้เธอจะไม่เข้าใจแต่เธอก็ทำใจได้ เพราะเธอรักทุกอย่างที่เป็นเขา
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ลิสาเข้าใจค่ะ”
ลิสาขอตัวไปอาบน้ำ คืนนั้นเธอนอนห่มผ้าคนเดียวและหันหลังให้กับจักรวาล ภายใต้ความมืดหลังดับไฟ เธอนอนลืมตาคิดไปต่างๆ นาๆ จนกระทั่งทนความอิดโรยของร่างกายไม่ไหวจนหลับไป
“มาสิ…มากับฉัน”
“ฉันคิดถึงนายมากนะ”
“ถ้านายรักฉันจริง นายต้องทำเพื่อฉันได้….”
คืนนั้นชาลิสาได้ยินเสียงแว่วๆ ราวกับตัวเองฝันไป คล้ายเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เสียงที่เธอได้ยินเป็นทั้งเสียงของผู้ชาย ผู้หญิง มันเลือนรางจนแทบจะจับใจความเรื่องราวไม่ได้
ชาลิสาตื่นนอนด้วยความงัวเงียและอ่อนเพลียอย่างเป็นที่สุด เธอควานไปรอบตัวเธอก็สัมผัสกับชายหนุ่ม จักรวาลก็ยังหลับสนิทอยู่ข้างๆ หญิงสาว
เธอหันไปดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเช้า จากนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“อาจจะเป็นแม่บ้านก็ได้…”
เธอคิดได้ดังนั้นก็ยันตัวลุกขึ้นแบกศีรษะอันหนักอึ้ง ราวกับว่าเมื่อคืนเธอดื่มเครื่องดื่มมึนเมามาอย่างหนัก
“คุณคะ”
เมื่อชาลิสาเปิดประตูก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินลงบันได เธอเดินโซเซตามบุคคลปริศนาคนนั้น
“คุณคะ คุณมาหาใครหรือ….”
โครม!!!! ขณะนี้ร่างกายของชาลิสาได้ลงบันไดถึงชั้นล่างสุดเป็นที่เรียบร้อย ผมของเธอยาวสยาย กระจายราบไปกับพื้น ตาของเธอเบิกโพลง และภาพทุกอย่างกำลังค่อยๆ มืดลง……….
………………………………….
มาถึงตอนนี้ชีวิตของลิสาไม่ได้จบนะคะท่านผู้อ่าน แต่มันกำลังจะเริ่มต้นค่ะ เรื่องราวก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ติดตามกันเยอะๆ นะคะ
+1 หัวใจ หรือ +1 ไล้ค์ ใจผู้เขียนก็ฟูแล้วจ้า ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ
ชาลิสาใช้มือปิดปากวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ท่ามกลางความตกใจของเหล่าแม่บ้านคนรับใช้ บางคนยิ้มออกเพราะคิดว่าเป็นข่าวดี ที่บ้าน “รัตนบดินทร์” จะมีทายาทตัวน้อยในเร็ววันนี้
“คุณลิสาเป็นอะไรมากไหมคะ ให้หนูตามหมอให้ไหมคะ”
สาวใช้คนหนึ่งตามเข้าไปลูบหลังให้กับเธอ
“ไม่เป็นไรจ้า ขอบใจนะ พักหน่อยก็หาย”
ชาลิสาเดินไปที่อ่างล้างหน้า หลังจากบ้วนปากและพรมน้ำบนใบหน้าสวยของเธอเสร็จ เธอต้องตกใจที่สีหน้าของเธอดูแย่ลง ผิวและริมฝีปากสุกอิ่มของเธอดูซีดเซียว แล้วไหนจะรอยดำใต้ตานั่นอีก เธอเอามือลูบใบหน้าเบาๆ และชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ
“คุณผู้หญิงคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
สาวใช้อีกคนด้านนอกตะโกนบอกเธอ
“จ้า เดี๋ยวฉันไป”
ชาลิสารีบจัดผมเผ้าหน้าตาและเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย ก่อนที่จะเดินออกไปยังห้องรับแขก ที่มีชายหนุ่มหล่อเหลา คนเดิมที่เคยพบเธอที่สวน
“สวัสดีค่ะ มาหาคุณจักรใช่ไหมคะ?” เธอเอ่ยถามและชวนแขกนั่งพัก ชายหนุ่มโค้งศรีษะเล็กน้อยก่อนที่จะนั่งลง
“ผมชินกฤตครับ อยากพบคุณจักรวาลเป็นการด่วน ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่หรือเปล่าครับ?”
ชินกฤตเริ่มการสนทนา แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็มองเห็นและสัมผัสได้ว่า หญิงสาวคู่สนทนาอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยปกตินัก เธอดูไม่สดใสเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ยังคงความน่ามองสำหรับเขาอยู่เสมอ
“ไม่นะคะ คุณจักรเขาไม่ได้กลับมาบ้านค่ะ มีอะไรจะฝากไว้ไหมคะ?”
น้ำเสียงของเธอดูอิดโรยเล็กน้อย
“งั้นผมขออนุญาตรอเขาที่นี่นะครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมของว่างให้นะคะ ขอตัวเดี๋ยวค่ะ”
ชาลิสายิ้มให้คู่สนทนาก่อนที่จะลุกไปยังห้องนั่งเล่น เธอหยิบโทรศัพท์โทรหาจักรวาล
“ไม่มีสัญญาณตอบรับ….”
ชาลิสารู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตั้งแต่คบกับเขา เขาไม่เคยที่จะปิดเครื่องเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คุณผู้หญิงจะให้เสิร์ฟกาแฟหรือน้ำผลไม้ดีคะ?”
สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาถามหญิงสาว ชาลิสาหันไปตอบเบาๆ
“น้ำผลไม้ก่อนจ้า ถ้าค่ำกว่านี้ค่อยเสิร์ฟกาแฟเพิ่มนะ”
ชาลิสาตอบยิ้มๆ ขณะที่สาวใช้ยิ้มหัวเราะคิกคัก
“มีอะไรเหรอ หน้าฉันเป็นอะไรหรือเปล่า”
ชาลิสาเอามือจับหน้า เพราะเธอรู้สึกกังวลกับอาการป่วยของเธออยู่บ้าง
“เปล่าค่าาาา คือ….พวกเราคิดว่า คุณชาลิสากำลังจะมีข่าวดี”
สาวใช้ทำหน้าทะเล้นแซวหญิงสาวเบาๆ
“อะไรนะ? พวกเธอนี่…”
เธอขำพวกสาวใช้ พลางถอนหายใจและมองค้อนพวกเธอ แต่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่รู้จักและคบเป็นแฟนกับจักรวาล พวกเขาทั้งสองไม่เคยมีอะไรกันสักครั้ง
“ฉันไม่สบายเองแหละ…ป่ะ เตรียมของว่างให้แขกกันได้แล้ว”
ชาลิสาเดินนำสาวใช้เข้าครัว
หลังจากการเสิร์ฟของว่างได้ไม่นาน สักพักคนที่พวกเขารอคอยก็มาถึง จักรวาลที่เดินอย่างอ่อนล้าก็ก้าวเข้ามาในเขตคฤหาสน์
“คุณจักร”
ชินกฤตเรียกเจ้านายพร้อมกับยืนขึ้นด้วยความร้อนใจ เขารีบเดินเข้าไปหาจักรวาลพร้อมยื่นเอกสารตัวปัญหาให้จักรวาลดู
ชาลิสาที่แอบมองทั้งสองก็สังเกตเห็นสีหน้าของจักรวาลที่ดูไม่สู้ดีนัก ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสองคุยกันเบาๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สักพักชินกฤตก็ขอตัวกลับออกไป
“นายเอาไปด้วย อย่าให้คนที่บ้านฉันเห็น”
จักรวาลส่งกระดาษปึกนั้นคืนแก่ลูกน้องหนุ่ม จักรวาลนั่งลงเงียบๆ ด้วยความเครียดจนชาลิสาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปนวดไหล่ให้เขา
“งานเป็นไงบ้าง ตาจักร หมู่นี้แม่ไม่เห็นเล่าอะไรที่บริษัทให้ฟังเลย”
เพชรีเอ่ยขึ้นขณะที่ทุกคนอยู่โต๊ะอาหารสำหรับมื้อค่ำ
“ก็... เรื่อยๆ ครับแม่”
“เหรอ…แล้วเมื่อไหร่จะพาหนูลิสาเขาไปทำงานด้วยล่ะ ยังไม่ได้เปิดตัวนายหญิงคนใหม่ของบริษัทเลยนี่”
“ก็…ไว้อะไรๆ มันลงตัวก่อนครับแม่ นี่ยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลยนะครับ”
เจ้าตัวตอบแกมขำ ทำเอาชาลิสาต้องยิ้มไปด้วย
“หนูลิสาล่ะ ว่ายังไงจ๊ะ อยากไปพักผ่อนที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
เพชรีหันมาคุยกับหญิงสาวบ้าง มันช่วยให้เธอลดความรู้สึกเกร็งในการร่วมโต๊ะทานอาหารเป็นอย่างมาก
“ค่ะ ลิสาตามใจพี่จักรน่ะค่ะ ลิสาไปได้หมดค่ะ”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเรียบง่าย ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง แต่ไม่มีใครสังเกตบ้างว่าชาลิสามีสีหน้าผิดปกติ แววตาของเธอดูอิดโรยเพราะรู้สึกไม่สบายทั้งวัน
“เหนื่อยไหมคะวันนี้?”
ชาลิสานวดไหล่ให้สามีหลังจากที่เธอช่วยแม่บ้านดูแลห้องครัวเสร็จ จักรวาลที่นั่งนิ่งในห้องของเขาต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีมือเล็กๆ มาบีบเบาๆ ที่ไหล่ของเขา
“อ้อ…ไม่หรอกจ้า แค่นี้พี่ชิวๆ”
“พี่คิดยังไงคะ กับเรื่องฮันนีมูนของเรา”
เธอนั่งลงข้างเขา ทั้งสองจับมือและมองตากัน
“ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปก็ได้นะคะ ลิสาไม่รีบ”
“จ้ะ…”
จักรวาลตอบสั้นๆ เขามองดวงหน้าของเธอสักพัก ก็ค่อยๆ เคลื่อนจมูกไปหอมแก้มของเธอเบาๆ ชาลิสาพยายามจะหอมเขาคืนบ้าง แต่จักรวาลกลับใช้มือดันใบหน้าของเธอออกห่าง
“พี่คะ ได้โปรดเถอะ…อย่าห่างเหินกันนักเลย เราแต่งงานกันแล้วนะ”
“พี่เข้าใจ แต่…ให้เวลาพี่อีกสักนิดนะ คนสวยของพี่”
เขาหลบตาของหญิงสาว มือของเขากุมมือของหญิงสาวเอาไว้ ความรู้สึกของเธอตอนนี้คือเศร้าหรือดีใจกันนะ มันยากจะบรรยายเหลือเกิน
หญิงสาวก้มหน้ามองดูมือกุมกันเอาไว้ แม้เธอจะผิดหวังที่จักรวาลปฏิเสธที่จะสานสัมพันธ์กับเธอให้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ แม้เธอจะไม่เข้าใจแต่เธอก็ทำใจได้ เพราะเธอรักทุกอย่างที่เป็นเขา
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ลิสาเข้าใจค่ะ”
ลิสาขอตัวไปอาบน้ำ คืนนั้นเธอนอนห่มผ้าคนเดียวและหันหลังให้กับจักรวาล ภายใต้ความมืดหลังดับไฟ เธอนอนลืมตาคิดไปต่างๆ นาๆ จนกระทั่งทนความอิดโรยของร่างกายไม่ไหวจนหลับไป
“มาสิ…มากับฉัน”
“ฉันคิดถึงนายมากนะ”
“ถ้านายรักฉันจริง นายต้องทำเพื่อฉันได้….”
คืนนั้นชาลิสาได้ยินเสียงแว่วๆ ราวกับตัวเองฝันไป คล้ายเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เสียงที่เธอได้ยินเป็นทั้งเสียงของผู้ชาย ผู้หญิง มันเลือนรางจนแทบจะจับใจความเรื่องราวไม่ได้
ชาลิสาตื่นนอนด้วยความงัวเงียและอ่อนเพลียอย่างเป็นที่สุด เธอควานไปรอบตัวเธอก็สัมผัสกับชายหนุ่ม จักรวาลก็ยังหลับสนิทอยู่ข้างๆ หญิงสาว
เธอหันไปดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเช้า จากนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“อาจจะเป็นแม่บ้านก็ได้…”
เธอคิดได้ดังนั้นก็ยันตัวลุกขึ้นแบกศีรษะอันหนักอึ้ง ราวกับว่าเมื่อคืนเธอดื่มเครื่องดื่มมึนเมามาอย่างหนัก
“คุณคะ”
เมื่อชาลิสาเปิดประตูก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินลงบันได เธอเดินโซเซตามบุคคลปริศนาคนนั้น
“คุณคะ คุณมาหาใครหรือ….”
โครม!!!! ขณะนี้ร่างกายของชาลิสาได้ลงบันไดถึงชั้นล่างสุดเป็นที่เรียบร้อย ผมของเธอยาวสยาย กระจายราบไปกับพื้น ตาของเธอเบิกโพลง และภาพทุกอย่างกำลังค่อยๆ มืดลง……….
………………………………….
มาถึงตอนนี้ชีวิตของลิสาไม่ได้จบนะคะท่านผู้อ่าน แต่มันกำลังจะเริ่มต้นค่ะ เรื่องราวก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ติดตามกันเยอะๆ นะคะ
+1 หัวใจ หรือ +1 ไล้ค์ ใจผู้เขียนก็ฟูแล้วจ้า ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ