แด่เธอ...สุดที่รัก
10.0
เขียนโดย littlepoint
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 21.59 น.
21 ตอน
1 วิจารณ์
10.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 01.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) ความรักสวยงามเสมอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"มีอะไรจะพูดกับกูวะ"
"มึงเคยบอกรักกายมันบ้างไหม" จริงสิเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวฉันมาก่อนเลย ฉันได้แต่ส่ายหน้ากลับไป
"บอกมันหน่อยก็ดีนะมึง มันจะได้ดีใจ"
"นี่มึงก็รู้เหรอ ว่ากายคิดยังไงกับกู"
"ก็มีแต่มึงแหละที่ไม่รู้ ถามจริงต้องให้คนบอกด้วยเหรอวะเรื่องแค่นี้ กายปฏิบัติกับมึงพิเศษกว่าใครมึงดูไม่ออกจริงหรอ"
"ก็ดูออก แต่จะให้กูคิดเป็นอื่นกูก็ทำไม่ได้จริงๆ"
"เปิดใจซะบ้าง อย่าเอาแค่คำว่าเพื่อนของพวกมึงมาเป็นกำแพงกั้นความสุขสิวะ"
"..."
"กูเข้าใจมึงเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ไอ้กายมันรักมึงคนเดียว รักถึงขั้นมันยอมเจ็บเพื่อให้มึงได้ลองศึกษาดูใจกับเจมส์เลยนะ"
"ยังไงนะ"
"พอมันเห็นว่ามึงมีใจให้เจมส์ และเจมส์ก็เป็นคนดีมันเลยถอยให้มึง มึงนี่ซื่อบื้อจริงๆ ไม่ใช่เจมส์คนแรกนะที่เข้าหามึงใครก็ตามที่เข้าหามึงมันขวางหมดทุกคนนั่นแหละ"
"แล้วมึงรู้ได้ไง ว่ามันถอยเพื่อให้กูกับเจมส์ได้ใกล้ชิดกัน"
"ก็...พูดแล้วก็อย่าด่ากูเยอะก็แล้วกัน คืนนั้นกูกับแฟนแอบเข้าร้านเหล้าแล้วก็เจอมันกินเหล้าอย่างกับอาบในวันเกิดมันเอง จากนั้นมันก็พล่ามเรื่องของมึงออกมาหมดจนกูรู้ทุกเรื่องนี่แหละ แล้วตลอดทางที่กูกับแฟนลากมันกลับบ้าน มันก็เรียกแต่ชื่อของมึงกับบอกกูซ้ำไปซ้ำมาว่าอย่าบอกมึงเรื่องที่มันเมาเละเทะในวันนี้" ในวันเกิดกายเหรอ คงเป็นวันนั้นที่เราลืมวันเกิดกายเราที่เข้าใจว่าวันนั้นเป็นวันที่มีความสุขที่สุดแท้ๆ แต่คนตรงหน้าฉันคนที่ฉันปรารถนาให้มีความสุขกลับกลายเป็นทุกข์มากที่สุด ฉันนี่มันโง่จริงๆ ไม่เคยรู้หรือเอะใจเลยด้วยซ้ำ
"เฮ้อ...จริงๆ ไอ้กายมันก็สั่งนักสั่งหนาว่าอย่าเล่า แต่ก็ถึงขั้นนี้แล้วมึงควรได้รู้ว่ากายมันรักและห่วงมึงมากแค่ไหน มันรักมึงจนถึงขั้นยอมเจ็บปวดไม่เอามึงมาครอบครองแต่ปล่อยให้มึงได้มีความสุขกับเจมส์ที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสองเดือน" ฟ้าพรั่งพรูคำพูดออกมาแบบไม่ติดขัดซักตอน
ตัวฉันเองไม่เคยรู้ว่ากายแอบรักฉันมากขนาดไหน และนานแค่ไหน ฟังแค่นี้ฉันยิ่งรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กายได้รับจากคนรอบข้างหนักขึ้น ฉันน่าจะเป็นคนที่รู้ใจกายแต่ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
"ไม่ใช่ความผิดของมึงหรอก ไอ้กายมันทำตัวเป็นพระเอกไร้สาระเองมันเลยต้องเจ็บเองไง ถ้ามันเชื่อกูสารภาพกับมึงแต่แรกป่านนี้พวกมึงอาจจะได้รักกันจริงๆ แบบไม่มีใครเข้ามาขวางก็ได้"
"..." ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อได้แต่นั่งฟังฝ่ายตรงข้ามพูดต่อไปเรื่อยๆ ในสมองก็ปรากฏภาพจำทั้งหลายเกี่ยวกับกายแบบไม่ขาดสาย ทั้งสมองทั้งหัวใจตอนนี้มันมีแต่ภาพของกายไม่มีคนอื่นเลยแม้แต่น้อย
"แต่ไอ้กายมันใจเสาะ มันบอกว่าชีวิตนี้มึงคือคนเดียวที่สำคัญกับมันที่สุด ถ้ามันบอกว่ามันคิดยังไงกับมึงแล้วมึงไม่เหมือนเดิมแบบนั้นมันรับไม่ได้"
"..." ถ้าฉันเปิดหูเปิดตาซะบ้างฉันคงเห็นค่าสิ่งที่กายทำให้ มากกว่าความรู้สึกเคยชิน ฉันนี่แย่ชะมัด
"ซึ่งเท่าที่กูเห็นการที่มันไม่ยอมบอกมึงแล้วปล่อยให้เจมส์เข้ามามีบทบาทในชีวิตมึง นั่นแหละคือสิ่งที่ฆ่ามันทางอ้อม"
"..."
"จริงๆ กูไม่อยากจะคิดแย่ๆ ขนาดที่ว่า โรคของกายที่เอาแต่ทรุดหนักอย่างรวดเร็วแบบนี้เป็นเพราะมันเครียด..."
"..."
"มึง...มึง.......แพรว"
ฟ้าเอามือมาเขย่าฉันแรงมากจนฉันได้สติ
"กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ได้ผิด ไม่มีใครผิดเลยทุกคนต่างก็รักมึงและอยากมอบสิ่งที่ดีให้มึง มึงไม่ต้องเครียด"
ทำไมเอาแต่คิดเองเออเองกันไปหมด ไม่เคยสนใจว่าฉันจะคิดยังไงบ้างเลยนะ ฉันจะไม่ยอมเสียซักวินาทีหลังจากนี้ ฉันจะไม่ยอมเสียมันอีกต่อไปแล้ว
แพรวลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว จนฟ้าที่นั่งดูดโกโก้ปั่นถึงขั้นผละออกจากโต๊ะด้วยความตกใจ
"กูต้องไปแล้ว"
"เอ้า ไปไวจังวะ"
"กู...ต้องไปหาคนที่กูรักสักที" พูดจบแพรวก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่รอฟังอีกฝ่าย
ฟ้าฉีกยิ้มกว้างและตะโกนไล่หลังไปโดยไม่สนใจว่านี่คือโรงพยาบาล "เออๆ รีบไปนะมึง ไปบอกมัน มันรอมึงทุกวัน รอให้มึงรักมันด้วยใจของมึงเอง" พนักงานต้อนรับของโรงพยาบาลหันมามองในเชิงดุเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรฟ้าไม่ได้ทั้งนั้น ฟ้าที่มองแพรววิ่งจากออกไป ได้แต่นึกในใจ 'ยอมรับตัวเองสักทีนะแพรว ถึงจะสายไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้บอกอีกฝ่ายไป กายกูช่วยมึงได้เท่านี้นะอย่างน้อยวาระสุดท้ายของมึงจะได้อยู่กับคนที่มึงรักและเขารักมึงจริงๆ สักที'
ฉันเปิดประตูเข้าไปแต่กลับพบความว่างเปล่าในห้อง กาย เจมส์ หายไปไหนกัน ฉันรีบวิ่งแบบคนบ้าเปิดประตูเพื่อดูในห้องน้ำก็ไม่มีออกไปนอกห้องวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ประจำชั้น พยาบาลที่เคาน์เตอร์ก็บอกว่าพึ่งมาเปลี่ยนกะเลยไม่ทราบว่าคนไข้ห้องนี้ไปไหน กาย อย่าเป็นอะไรไปนะ ใช่ ฉันต้องไปห้องฉุกเฉิน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหมอต้องพาไปที่ห้องฉุกเฉินแน่ ฉันเริ่มร้องไห้ออกมา ฉันคลาดกับกายจริงเหรอ กายต้องยังไม่เป็นอะไรสิ
หมับ!!!
"จะวิ่งไปไหนครับ" เสียงนั้นพูดขึ้นพร้อมมือที่คว้าเอวฉันไว้จนทำให้ฉันต้องหยุดวิ่งในทันที
"เจมส์ กาย...กาย แฮ่ก...แฮ่ก..."
"ช้าๆ กายทำไม"
"กายไม่อยู่ในห้องแล้ว ตอนนี้กายไปไหนก็ไม่รู้"
"ตั้งสติก่อนครับ แล้วเข้าห้องไปดูให้แน่ใจก่อน มานี่มา" เจมส์จับคอฉันแล้วดันให้เดินเข้าห้องไป
"อยู่มาจะ 3 อาทิตย์แล้ว ยังจะเข้าห้องผิดอยู่อีก"
ฉันรีบวิ่งเข้าไปหากายและกอดกายเอาไว้ ฉันนึกว่าจากกันไปแล้วซะอีก
"แพรวเป็นอะไร"
"ฮือออ....ฮือออ..."
"ไปเข้าห้องผิดมาแล้วไม่เจอใคร ตกใจวิ่งรอบชั้นเลย นี่กูไปลากเข้ามาให้เนี่ย" ฉันหันไปมองค้อนเจมส์หนึ่งที บางทีฉันก็สงสัยว่าสองคนนี้สลับร่างกันหรือเปล่า
กายลูบหัวฉันไว้ "มึงนี่ก็ออกไปไหนบ้างก็ได้กูยังไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก กูยังตายไม่ได้ยังไงกูก็ต้องรอมึง"
ฉันยังเอาหน้าซุกอกกายไว้แบบนั้นและร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบไม่เกรงใจเจมส์ที่ยืนมองอยู่
"กูไปละ ปลอบใจกันไปก็แล้วกัน" ก่อนไปเจมส์ก้มมาพูดกันฉันที่ยังกอดกายอยู่ "คุณเดินหลงห้องเองยังจะให้คนป่วยปลอบใจอีกนะ"
"อะไร...เป็นอะไร" ฉันยอมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมถามผู้ชายตรงหน้าว่า "ยังรักเราอยู่ไหม" ฉันตั้งใจที่จะใช้คำสุภาพถ้าเราจะขยับความสัมพันธ์จากเพื่อนไปเป็นแฟน
"พูดเพราะเชียว งั้นกู...เอ๊ย...เรา ไม่คุ้นเลยว่ะ จะลองพูดเพราะบ้าง" การมองฉันแล้วยิ้มให้แบบอ่อนโยน "รักสิ ก็รักมาตลอด"
"เราก็รักกาย" กายทำหน้าแบบไม่เชื่อในหูตัวเอง
"รัก..." กายยังไม่ทันพูดจบ อีกฝ่ายก็ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของกาย ไม่รู้เวลาดำเนินไปนานแค่ไหนแต่หัวใจของฉันกับกายเหมือนมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ใบหน้าที่ขาวซีดของกายกลับมามีสีชมพูจางๆ ฉันผละตัวเองออก แต่กายยังคงเอามือมากอดฉันไว้ หน้าของเราทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก มากเสียจนมองเห็นรายละเอียดใบหน้าของกันและกันได้อย่างชัดเจน ได้ยินยันเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของทั้งสองคน
ฉันพยายามจะเอาตัวออกจากกายเพราะเราอยู่นิ่งๆ แบบนี้มาหลายนาทีแล้ว แต่เหมือนอ้อมแขนของกายจะรัดแน่นกว่าเดิม
"อย่าออกแรงเยอะสิ ปล่อยเราได้แล้ว"
"ขออยู่แบบนี้อีกเดี๋ยวสิ" แล้วกายก็จุ๊บหน้าผากฉันแบบอ่อนโยน ฉันในวัย 17 ปี พึ่งเข้าใจคนรักกันว่าเป็นกันอย่างไรก็วันนี้เอง
"มึงเคยบอกรักกายมันบ้างไหม" จริงสิเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวฉันมาก่อนเลย ฉันได้แต่ส่ายหน้ากลับไป
"บอกมันหน่อยก็ดีนะมึง มันจะได้ดีใจ"
"นี่มึงก็รู้เหรอ ว่ากายคิดยังไงกับกู"
"ก็มีแต่มึงแหละที่ไม่รู้ ถามจริงต้องให้คนบอกด้วยเหรอวะเรื่องแค่นี้ กายปฏิบัติกับมึงพิเศษกว่าใครมึงดูไม่ออกจริงหรอ"
"ก็ดูออก แต่จะให้กูคิดเป็นอื่นกูก็ทำไม่ได้จริงๆ"
"เปิดใจซะบ้าง อย่าเอาแค่คำว่าเพื่อนของพวกมึงมาเป็นกำแพงกั้นความสุขสิวะ"
"..."
"กูเข้าใจมึงเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ไอ้กายมันรักมึงคนเดียว รักถึงขั้นมันยอมเจ็บเพื่อให้มึงได้ลองศึกษาดูใจกับเจมส์เลยนะ"
"ยังไงนะ"
"พอมันเห็นว่ามึงมีใจให้เจมส์ และเจมส์ก็เป็นคนดีมันเลยถอยให้มึง มึงนี่ซื่อบื้อจริงๆ ไม่ใช่เจมส์คนแรกนะที่เข้าหามึงใครก็ตามที่เข้าหามึงมันขวางหมดทุกคนนั่นแหละ"
"แล้วมึงรู้ได้ไง ว่ามันถอยเพื่อให้กูกับเจมส์ได้ใกล้ชิดกัน"
"ก็...พูดแล้วก็อย่าด่ากูเยอะก็แล้วกัน คืนนั้นกูกับแฟนแอบเข้าร้านเหล้าแล้วก็เจอมันกินเหล้าอย่างกับอาบในวันเกิดมันเอง จากนั้นมันก็พล่ามเรื่องของมึงออกมาหมดจนกูรู้ทุกเรื่องนี่แหละ แล้วตลอดทางที่กูกับแฟนลากมันกลับบ้าน มันก็เรียกแต่ชื่อของมึงกับบอกกูซ้ำไปซ้ำมาว่าอย่าบอกมึงเรื่องที่มันเมาเละเทะในวันนี้" ในวันเกิดกายเหรอ คงเป็นวันนั้นที่เราลืมวันเกิดกายเราที่เข้าใจว่าวันนั้นเป็นวันที่มีความสุขที่สุดแท้ๆ แต่คนตรงหน้าฉันคนที่ฉันปรารถนาให้มีความสุขกลับกลายเป็นทุกข์มากที่สุด ฉันนี่มันโง่จริงๆ ไม่เคยรู้หรือเอะใจเลยด้วยซ้ำ
"เฮ้อ...จริงๆ ไอ้กายมันก็สั่งนักสั่งหนาว่าอย่าเล่า แต่ก็ถึงขั้นนี้แล้วมึงควรได้รู้ว่ากายมันรักและห่วงมึงมากแค่ไหน มันรักมึงจนถึงขั้นยอมเจ็บปวดไม่เอามึงมาครอบครองแต่ปล่อยให้มึงได้มีความสุขกับเจมส์ที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสองเดือน" ฟ้าพรั่งพรูคำพูดออกมาแบบไม่ติดขัดซักตอน
ตัวฉันเองไม่เคยรู้ว่ากายแอบรักฉันมากขนาดไหน และนานแค่ไหน ฟังแค่นี้ฉันยิ่งรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กายได้รับจากคนรอบข้างหนักขึ้น ฉันน่าจะเป็นคนที่รู้ใจกายแต่ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
"ไม่ใช่ความผิดของมึงหรอก ไอ้กายมันทำตัวเป็นพระเอกไร้สาระเองมันเลยต้องเจ็บเองไง ถ้ามันเชื่อกูสารภาพกับมึงแต่แรกป่านนี้พวกมึงอาจจะได้รักกันจริงๆ แบบไม่มีใครเข้ามาขวางก็ได้"
"..." ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อได้แต่นั่งฟังฝ่ายตรงข้ามพูดต่อไปเรื่อยๆ ในสมองก็ปรากฏภาพจำทั้งหลายเกี่ยวกับกายแบบไม่ขาดสาย ทั้งสมองทั้งหัวใจตอนนี้มันมีแต่ภาพของกายไม่มีคนอื่นเลยแม้แต่น้อย
"แต่ไอ้กายมันใจเสาะ มันบอกว่าชีวิตนี้มึงคือคนเดียวที่สำคัญกับมันที่สุด ถ้ามันบอกว่ามันคิดยังไงกับมึงแล้วมึงไม่เหมือนเดิมแบบนั้นมันรับไม่ได้"
"..." ถ้าฉันเปิดหูเปิดตาซะบ้างฉันคงเห็นค่าสิ่งที่กายทำให้ มากกว่าความรู้สึกเคยชิน ฉันนี่แย่ชะมัด
"ซึ่งเท่าที่กูเห็นการที่มันไม่ยอมบอกมึงแล้วปล่อยให้เจมส์เข้ามามีบทบาทในชีวิตมึง นั่นแหละคือสิ่งที่ฆ่ามันทางอ้อม"
"..."
"จริงๆ กูไม่อยากจะคิดแย่ๆ ขนาดที่ว่า โรคของกายที่เอาแต่ทรุดหนักอย่างรวดเร็วแบบนี้เป็นเพราะมันเครียด..."
"..."
"มึง...มึง.......แพรว"
ฟ้าเอามือมาเขย่าฉันแรงมากจนฉันได้สติ
"กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ได้ผิด ไม่มีใครผิดเลยทุกคนต่างก็รักมึงและอยากมอบสิ่งที่ดีให้มึง มึงไม่ต้องเครียด"
ทำไมเอาแต่คิดเองเออเองกันไปหมด ไม่เคยสนใจว่าฉันจะคิดยังไงบ้างเลยนะ ฉันจะไม่ยอมเสียซักวินาทีหลังจากนี้ ฉันจะไม่ยอมเสียมันอีกต่อไปแล้ว
แพรวลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว จนฟ้าที่นั่งดูดโกโก้ปั่นถึงขั้นผละออกจากโต๊ะด้วยความตกใจ
"กูต้องไปแล้ว"
"เอ้า ไปไวจังวะ"
"กู...ต้องไปหาคนที่กูรักสักที" พูดจบแพรวก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่รอฟังอีกฝ่าย
ฟ้าฉีกยิ้มกว้างและตะโกนไล่หลังไปโดยไม่สนใจว่านี่คือโรงพยาบาล "เออๆ รีบไปนะมึง ไปบอกมัน มันรอมึงทุกวัน รอให้มึงรักมันด้วยใจของมึงเอง" พนักงานต้อนรับของโรงพยาบาลหันมามองในเชิงดุเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรฟ้าไม่ได้ทั้งนั้น ฟ้าที่มองแพรววิ่งจากออกไป ได้แต่นึกในใจ 'ยอมรับตัวเองสักทีนะแพรว ถึงจะสายไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้บอกอีกฝ่ายไป กายกูช่วยมึงได้เท่านี้นะอย่างน้อยวาระสุดท้ายของมึงจะได้อยู่กับคนที่มึงรักและเขารักมึงจริงๆ สักที'
ฉันเปิดประตูเข้าไปแต่กลับพบความว่างเปล่าในห้อง กาย เจมส์ หายไปไหนกัน ฉันรีบวิ่งแบบคนบ้าเปิดประตูเพื่อดูในห้องน้ำก็ไม่มีออกไปนอกห้องวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ประจำชั้น พยาบาลที่เคาน์เตอร์ก็บอกว่าพึ่งมาเปลี่ยนกะเลยไม่ทราบว่าคนไข้ห้องนี้ไปไหน กาย อย่าเป็นอะไรไปนะ ใช่ ฉันต้องไปห้องฉุกเฉิน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหมอต้องพาไปที่ห้องฉุกเฉินแน่ ฉันเริ่มร้องไห้ออกมา ฉันคลาดกับกายจริงเหรอ กายต้องยังไม่เป็นอะไรสิ
หมับ!!!
"จะวิ่งไปไหนครับ" เสียงนั้นพูดขึ้นพร้อมมือที่คว้าเอวฉันไว้จนทำให้ฉันต้องหยุดวิ่งในทันที
"เจมส์ กาย...กาย แฮ่ก...แฮ่ก..."
"ช้าๆ กายทำไม"
"กายไม่อยู่ในห้องแล้ว ตอนนี้กายไปไหนก็ไม่รู้"
"ตั้งสติก่อนครับ แล้วเข้าห้องไปดูให้แน่ใจก่อน มานี่มา" เจมส์จับคอฉันแล้วดันให้เดินเข้าห้องไป
"อยู่มาจะ 3 อาทิตย์แล้ว ยังจะเข้าห้องผิดอยู่อีก"
ฉันรีบวิ่งเข้าไปหากายและกอดกายเอาไว้ ฉันนึกว่าจากกันไปแล้วซะอีก
"แพรวเป็นอะไร"
"ฮือออ....ฮือออ..."
"ไปเข้าห้องผิดมาแล้วไม่เจอใคร ตกใจวิ่งรอบชั้นเลย นี่กูไปลากเข้ามาให้เนี่ย" ฉันหันไปมองค้อนเจมส์หนึ่งที บางทีฉันก็สงสัยว่าสองคนนี้สลับร่างกันหรือเปล่า
กายลูบหัวฉันไว้ "มึงนี่ก็ออกไปไหนบ้างก็ได้กูยังไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก กูยังตายไม่ได้ยังไงกูก็ต้องรอมึง"
ฉันยังเอาหน้าซุกอกกายไว้แบบนั้นและร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบไม่เกรงใจเจมส์ที่ยืนมองอยู่
"กูไปละ ปลอบใจกันไปก็แล้วกัน" ก่อนไปเจมส์ก้มมาพูดกันฉันที่ยังกอดกายอยู่ "คุณเดินหลงห้องเองยังจะให้คนป่วยปลอบใจอีกนะ"
"อะไร...เป็นอะไร" ฉันยอมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมถามผู้ชายตรงหน้าว่า "ยังรักเราอยู่ไหม" ฉันตั้งใจที่จะใช้คำสุภาพถ้าเราจะขยับความสัมพันธ์จากเพื่อนไปเป็นแฟน
"พูดเพราะเชียว งั้นกู...เอ๊ย...เรา ไม่คุ้นเลยว่ะ จะลองพูดเพราะบ้าง" การมองฉันแล้วยิ้มให้แบบอ่อนโยน "รักสิ ก็รักมาตลอด"
"เราก็รักกาย" กายทำหน้าแบบไม่เชื่อในหูตัวเอง
"รัก..." กายยังไม่ทันพูดจบ อีกฝ่ายก็ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของกาย ไม่รู้เวลาดำเนินไปนานแค่ไหนแต่หัวใจของฉันกับกายเหมือนมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ใบหน้าที่ขาวซีดของกายกลับมามีสีชมพูจางๆ ฉันผละตัวเองออก แต่กายยังคงเอามือมากอดฉันไว้ หน้าของเราทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก มากเสียจนมองเห็นรายละเอียดใบหน้าของกันและกันได้อย่างชัดเจน ได้ยินยันเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของทั้งสองคน
ฉันพยายามจะเอาตัวออกจากกายเพราะเราอยู่นิ่งๆ แบบนี้มาหลายนาทีแล้ว แต่เหมือนอ้อมแขนของกายจะรัดแน่นกว่าเดิม
"อย่าออกแรงเยอะสิ ปล่อยเราได้แล้ว"
"ขออยู่แบบนี้อีกเดี๋ยวสิ" แล้วกายก็จุ๊บหน้าผากฉันแบบอ่อนโยน ฉันในวัย 17 ปี พึ่งเข้าใจคนรักกันว่าเป็นกันอย่างไรก็วันนี้เอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ