แด่เธอ...สุดที่รัก

10.0

เขียนโดย littlepoint

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 21.59 น.

  21 ตอน
  1 วิจารณ์
  11.09K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 01.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) ทำตามหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แพรวยังต้องอยู่ในโรงพยาบาลต่ออีก 2 วัน ตามคำสั่งของแพทย์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพราะพ่อของกายได้จัดการค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้หมดแล้ว ตอนนี้แพรวแข็งแรงเกือบเป็นปกติ เรื่องสอบของโรงเรียนทั้งแพรวและเจมส์ได้รับอนุญาตให้ไปสอบย้อนหลังได้ เจมส์ขอตัวกลับไปที่พักของตัวเองแล้วจะมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น ส่วนแพรวเข้าไปหากายได้สักพักก็ค่อยๆ ออกจากห้องมาแบบเงียบๆ เพราะแพทย์ประจำตัวของกายยังไม่อยากให้มีคนเข้าไปในห้องพักของกายนานมากนักเนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อสูง และในขณะที่แพรวกำลังเดินออกมาเพื่อจะกลับไปที่ห้องของตัวเองก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลัง "หนูแพรว" บุรุษร่างสูงที่ถึงแม้จะมีอายุเข้าเลข 5 แล้วแต่ก็ยังดูดีกว่าคนในวัยเดียวกัน นั่นก็คือ 'พ่อของกาย'

"เป็นยังไงบ้างลูก พ่องานยุ่งมากเลยไม่ได้มาเยี่ยม" พ่อของกายทักทายแพรวแบบคุณลุงที่ใจดีคนหนึ่ง

"ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะขอบคุณนะคะเรื่องค่าใช้จ่าย หนูจะพยายามนำเงินมาจ่ายคืนนะคะ"

"ไม่เป็นไร พ่อยินดีช่วย ที่ผ่านมาเราก็เหมือนดูแลกายแทนพ่ออยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ให้พ่อช่วยเถอะถือว่าตอบแทน"

"ที่ผ่านมาหนูเต็มใจช่วยกายเอง หนูเกรงใจจริงๆ แล้วหนูจะหาเงินมาจ่ายให้ภายหลังนะคะ"

"ดื้อไม่เปลี่ยน มิน่าทำไมกายมันถึงได้ติดหนูนัก อะไรๆ ก็แพรวก่อนเสมอ นิสัยเหมือนกันจริงๆ"

"..." กายไม่เห็นจะติดเราสักนิด วันๆ เอาแต่หายหัว แถมป่วยหนักก็ให้เรามารู้เองไม่คิดจะบอกด้วยซ้ำ

"รู้อาการป่วยของกายแล้วใช่ไหม" 

"ทราบแล้วค่ะ" น้ำเสียงของแพรวดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

"พ่ออยากจะคุยกับแพรวเรื่องนี้ ไปนั่งพักผ่อนกินโกโก้ร้อนกับพ่อสักหน่อยได้ไหม"

 

ณ ร้านกาแฟ Mezzo ชั้น 1 ของโรงพยาบาลเมโย โกโก้ร้อนหนึ่งแก้วถูกนำมาวางตรงหน้าฉัน 

"หนูแพรวดื่มโกโก้ร้อนก่อนนะ" 

"ขอบคุณค่ะ" ฉันกล่าวขอบคุณพร้อมกับหยิบถ้วยโกโก้ขึ้นมาจิบแค่เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจของผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ฉันเองก็ยังกินอะไรไม่ลงเหมือนกัน

"อยากได้อะไรเพิ่มบอกลุงนะ หรือแพรวอยากเดินไปสั่งเองก็ได้เลย" ฉันยิ้มและพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ แต่ฉันรู้สึกว่าพ่อของกายคงมีอะไรมากกว่าที่จะคุยเรื่องอาการของกายแน่ๆ

"ขอเสียมารยาทนะคะ คุณลุงมีอะไรจะคุยกับหนูเป็นพิเศษหรือคะ คือหนูรู้สึกว่าคุณลุงอยากพูดอะไรบางอย่างกับหนู"

พ่อของกายยิ้มให้แพรวแบบเอ็นดูเด็กคนหนึ่ง

"หนูฉลาดมาก มองทุกคนออกหมด แล้วเคยมองลูกของลุงออกบ้างไหม" 

"ยังไงหรือคะ"

"มองออกไหมว่ากายคิดยังไงกับหนู" คำถามนี้หมายความว่าอะไรฉันเริ่มสงสัยหนักขึ้น แต่ก็ไม่มั้ง ไม่น่า... อย่า... บ้า... คิดอะไรอยู่เนี่ยแพรว กายมันคิดกับเราแบบนั้นจริงเหรอวะ กายมันก็เห็นเราเป็นแค่เพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้นแหละ

"คงไม่รู้สินะ"

"ค่ะ" ไม่อยากหน้าแตกเอาเป็นว่าไม่รู้ไว้ก่อนดีกว่า

"กายมันรักหนู ถึงพ่อกับกายจะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่ยังไงพ่อก็เลี้ยงมันมาพ่อรู้ดีว่าจริงๆ แล้วมันต้องการใคร"

ฉันได้แต่นั่งนิ่ง แทนที่จะรู้สึกใจเต้นแต่กลับขนลุกซะอย่างนั้น เหมือนมีสายฟ้าฟาดที่กลางหัวทำให้ทั้งร่างกายชาไปหมด ฉันตอนนี้ต้องรู้สึกยังไง สับสนไปหมดแล้ว

"คือว่า..." แต่ยังไงเราก็เห็นกายเป็นเพื่อนคนหนึ่งนะ ฉันว่าฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น

"หนูรู้สึกกับกายแบบไหนบอกพ่อได้ไหม" 

"คือ...หนูว่าหนูคิดกับกายแค่เพื่อนนะคะ"

พ่อของกายมองแพรวแบบไม่เข้าใจ

"แล้วถ้ากายจะไม่อยู่ที่นี่ พ่อจะพากายไปรักษาที่ต่างประเทศหนูจะว่ายังไง" ไม่นะ จะเอาไปต่างประเทศทำไมกัน

"คุณลุงแต่ว่าหมอที่นี่ก็เก่งนะคะ ให้กายอยู่ที่นี่เถอะค่ะ" ฉันรีบหาเหตุผลร้อยแปดเพื่อไม่ให้พ่อของกายพากายไปรักษาที่อื่น "หนูสัญญาว่าจะดูแลกายเอง คุณลุงไม่ต้องเสียเวลามาดูแลกายเลยก็ได้" ฉันทำได้ฉันดูแลกายได้แน่ๆ อย่าพาไปไหนเลย

"พ่อว่าอย่าดีกว่า พ่อคงต้องบอกกายให้เข้าใจ และพากายไปรักษาที่อื่น ที่ที่ไม่มีหนู เพราะไม่งั้นกายก็จะหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปเฝ้าดูหนูทำให้การรักษาไม่ราบรื่น พ่ออยากให้กายตัดใจจากหนูให้ได้"

ไม่นะ ไม่ได้เราปล่อยให้กายจากไปทั้งที่เป็นแบบนี้ไม่ได้ ขนาดไปโดยสภาพร่างกายแข็งแรงฉันยังใจจะขาดเลย เราจะไม่ปล่อยให้กายไปไหนอีก

"พ่ออยากเอากายไปเลย หนูว่า.. หนูคือ...คือหนู..." แบบนี้ทุกทีเลยฉันเริ่มเรียงประโยคสับสนไปหมด แถมน้ำตาบ้านี่ก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่อยากให้กายไปไหนเลย ไม่ได้จริงๆ ฉันอยากดูแลกายในเวลาแบบนี้ไม่อยากให้ไปไหนไกลเลย "อย่าไปเลยนะคะ" ฉันเริ่มอ้อนวอนทั้งน้ำตา โดยมีผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงหน้ายื่นกระดาษทิชชูมาซับน้ำตาฉันอย่างอ่อนโยน

"เฮ้อ~ พ่อเข้าใจละ หนูเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องนี่สินะ" พ่อทำสีหน้าตึงเครียด แต่ก็ฝืนยิ้มให้ฉัน "งั้นช่วยอยู่กับกายให้มากที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้ในตอนนี้ได้ไหม" ถึงฉันจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อของกายพูดไม่ครบ แต่ดูแล้วเหมือนอีกฝ่ายจะยอมให้กายรักษาตัวอยู่ที่นี่

"ช่วงนี้กายต้องได้รับคีโมบ่อยขึ้น และอาจจะต้องได้รับยาที่แรงขึ้น เพราะเป็นลูคีเมียชนิดเฉียบพลัน ถ้าเกิดการให้คีโมไม่ได้ผลก็จะต้องปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นลำดับต่อไป"

"..." ฉันตั้งใจฟังการรักษาที่พ่อของกายเล่าให้ฟัง

"ซึ่งผลของยา ก็มีตั้งแต่ผมร่วง กินอะไรไม่ได้ร่างกายซูบผอม และที่พ่อกลัวก็คือภาวะซึมเศร้า"

"ค่ะ" ทำไมเราฟังแล้วรู้สึกอ่อนแรงแบบนี้

"ที่ผ่านมา พอจะรู้สึกบ้างไหมว่ากายต้องการความรักมากกว่าคนทั่วไป"

ถ้าให้นึกย้อนจริงๆ ก็รู้สึกบ้างเหมือนที่ผ่านมากายจะขวางทุกคนที่คิดจะจีบ หรือเข้าใกล้ฉัน ทำเหมือนเด็กที่กลัวว่าความสำคัญตัวเองจะลดลงถ้าฉันไปให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่า ยกเว้นเจมส์ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าจะให้รู้สึกมากจริงๆ คงเป็นตอนที่ฉันลืมวันเกิดกาย

"ค่ะ พอจะดูออกค่ะ"

"นั่นแหละ พ่อกลัวมันคิดเยอะดูจากที่มันพยายามออกห่างจากหนู และวางแผนหลอกหนูเรื่องไปต่างประเทศ ส่วนหนึ่งก็เพราะมันไม่ชอบเป็นภาระของใคร" พ่อของกายรู้ทุกเรื่องของลูกเลยสินะ แค่ไม่ได้แสดงออกมาให้ใครเห็น

"ค่ะ" ฉันเข้าใจกายทุกอย่าง ถ้าเป็นฉันอาจจะไม่อยากให้กายรู้ก็ได้ว่าฉันป่วย ฉันเองก็ไม่อยากเป็นภาระของใครเหมือนกัน "ว่าแต่คุณลุงจะไม่พากายไปไหนแล้วใช่ไหมคะ" ฉันรีบทวงถามเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

"ตอนนี้ใช่ เฮ้อ~ ลุงคุยอะไรกับกายมันไม่ได้สักเรื่อง ยิ่งแม่ของกายนี่ยิ่งแล้วใหญ่ไม่รู้จะต่อต้านอะไรกันนักหนา แค่เห็นหน้าก็พานจะทะเลาะกันละ ยังไงช่วยอยู่กับมันหน่อยนะ เรื่องไปต่างประเทศพ่อจะชะลอออกไปก่อน"

"ค่ะ" 

หลังจากนั้นฉันกับพ่อของกายก็นั่งนิ่งๆ อีกสักพักก่อนที่ฝ่ายพ่อกายจะขอตัวออกไปประชุม 

"อีกนิดนะ"

"ค่ะ" มีเรื่องอะไรนะ

"มันอาจจะเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัว ถ้าเกิดหนูไม่ได้รักกายแบบที่กายเขารู้สึกกับหนูจริงๆ แล้วถ้าหนูรู้สึกชอบพอกับใครสักคน อย่าพึ่งคบกันตอนนี้ได้ไหม" ตอนนี้ทั้งสมองและจิตใจของฉันมันโล่งไปไหม คงไม่มีแรงจะไปคบหากับใครแน่หล่ะ

"ค่ะ" ทั้งบทสนทนาฉันแทบไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมให้พูดเป็นแค่คำว่า 'ค่ะ' เลย 

 

"เมื่อไหร่ไอ้ถุงนี่มันจะหมดเนี่ย" พอกายตื่นขึ้นมาก็มีปัญหากับถุงเลือดถุงยา สารพัดสายที่โยงเยงไปทั้งตัว

"น่าจะอีก 1 ชั่วโมงค่ะ คุณกาย"

"แต่ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วจริงๆ นะ ปล่อยผมไปเถอะคุณพยาบาลคนสวย" กายทำท่าทางออดอ้อนพยาบาล

"ไม่ได้ผลค่ะ"

"ผมต้องไปหาคนคนหนึ่ง จริงๆ นะ เธออาจจะรอผมอยู่"

"ไม่ต้องไปหรอกค่ะ เดี๋ยวเธอก็มา"

"ฮะ!!!" กายเด้งตัวลุงขึ้นนั่งบนเตียง แล้วด้วยความลุกเร็วก็แสดงอาการหน้ามืดออกมาให้พยาบาลต้องดุอีกตามเคย

"ก็บอกแล้วไงคะ ว่าจะลุกจะนั่งให้ช้ากว่านี้ คุณป่วยอยู่นะคะ"

"แบบนี้แพรวก็รู้เรื่องหมดแล้วสิ"

"ค่ะ อดใจรอสักแป๊บ เดี๋ยวเธอก็จะมาหาคุณ"

"ยังๆ ดูให้หน่อย ผมยังหล่ออยู่ไหม" ว่าแล้วกายก็ยื่นหน้าไปหาพยาบาล โดยอาการของพยาบาลในตอนนี้คือกลอกตามองบน แบบเอือมระอาเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องตรงหน้า "ถ้าตีกระจกให้แตกทุกบาน ก็คงหล่อค่ะ"

กายขมวดคิ้ว หมายความว่าไงวะ ว่าแล้วกายก็คว้ามือถือเปิดกล้องหน้าเพื่อเช็กสภาพตัวเอง ก็หล่ออยู่นะว่าไม่ได้ หล่อแบบซีดๆ ผอมๆ โคเรียสไตล์   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา