Love more than...เพราะคุณเป็นมากกว่ารัก
-
เขียนโดย waradsadakorn
วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.07 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
1,899 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 17.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ความจริงที่ไม่อาจลืม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอรจิรายืนมองเพื่อนรักที่คว้าแก้วไวน์จากพนักงานบริการมาดื่มด้วยความรู้สึกสงสารเห็นใจเป็นที่สุด หญิงสาวต้องเข้มแข็งขนาดไหนกันนะในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ต้องอดทนและฝืนยิ้มให้กับโชคชะตาด้านความรักของตัวเองอย่างทรมาน มองดูคนที่เธอรักมากทั้งสองคนอยู่เคียงข้างกันมาตลอดแปดปี โดยไม่อาจบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกไปให้ใครฟังได้เลย
ในเมื่อผู้ชายที่บุญญิสารักดันมีเจ้าของ และที่สำคัญเจ้าของคนนั้นก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของเธอเอง
“โอเคไหมสา ฉันว่าเธอดื่มหนักเกินไปแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรอร ฉันไม่เป็นอะไร...” พยายามฝืนยิ้มให้เพื่อนทั้งที่น้ำตากำลังจะไหล มือยื่นออกไปหยิบแก้วไวน์จากพนักงานอีกครั้ง
ทว่า...
“พอแล้วสา” ดาราสาวหันไปมองรอบกายพร้อมกับจับมือของเพื่อนรักเอาไว้ ส่งสายตาให้พนักงานถอยห่างออกไป แล้วเอ่ยขึ้น “ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกกันดีกว่านะ”
อรจิราจูงมือบุญญิสาให้เดินตามออกเธอไปข้างนอก ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ขัดข้อง ดีเสียอีกเธอจะไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาข้างในนั้น เธออยากจะเดินออกมาแทบขาดใจ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจของทุกคน...
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ไม่มีใครแล้วนะสา ถ้าแกอยากจะร้องไห้ออกมา ก็ร้องได้เลย...ตรงนี้ ไหล่ฉันตรงนี้พร้อมรองรับน้ำตาของแกเสมอ” เสียงนุ่มนวลห่วงใยกล่าวกับเพื่อนรักที่เธอทราบดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเจ็บปวดแค่ไหน และกำลังพยายามอย่างหนักแค่ไหนที่จะลืมความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของตัวเอง
แววตาเศร้าระริกสั่นไหว มองสบตาเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่เธอสามารถเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังได้อย่างขอบคุณ ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ากอดดาราสาวพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้อย่างหนักออกมา
“ฉันสัญญานะอร ว่าฉันจะลืมเขาให้ได้” บอกเสียงสั่น “...แต่มันไม่ง่ายเลยอร มันไม่ง่ายจริงๆ”
มือเรียวลูบเรือนผมเพื่อนรักด้วยความห่วงใยและเข้าใจความรู้สึกของบุญญิสาเป็นอย่างดี มันใช่เรื่องง่ายที่ไหนกันเล่า...ลืมคนที่อยู่ในหัวใจมาตลอดชีวิต มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ “ไม่เป็นไรนะสา ตอนนี้ทำไม่ได้ยังไม่เป็นไร แกมีเวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมเขานะ...ไม่ต้องรีบร้อน ฉันเชื่อว่าสักวันแกต้องทำได้”
ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังกอดกันร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งนั้น หญิงสาวอีกคนที่เดินตามออกมาได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ทำให้เธอต้องรีบเดินหลบอยู่ในมุมหนึ่งทันที จากเดิมว่าจะเดินตามมาถามไถ่อาการพี่สาวว่าเป็นอะไรหรือเปล่า กลับกลายเป็นว่าตอนนี้กลับอยากรู้ว่าเหตุใดกันพี่สาวฝาแฝดของเธอถึงมีอาการเช่นนี้...ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยว่าบุญญิสามีชายในดวงใจอยู่แล้ว
“แล้วแกได้บอกทุกคนหรือยัง เรื่องที่แกจะไปทำงานที่นอร์เวย์น่ะ” อรจิราถามคนในอ้อมกอด
บุญญิสาเงยหน้าขึ้นมองสบตาอีกฝ่ายแล้วส่ายศีรษะเป็นคำตอบ “ยังเลย...ฉันว่าจะรอให้เสร็จสิ้นงานมงคลนี้ไปก่อนน่ะ ช่วงนี้ยังไม่อยากทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลอะไร พวกท่านกำลังมีความสุข”
“ในขณะที่เธอแบกความทุกข์เอาไว้คนเดียวอย่างนี้เนี่ยนะยัยสา ฉันล่ะไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ”
“มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรืออร...สมควรแล้วที่ฉันต้องเจ็บแบบนี้”
ดาราสาวรั้งร่างของเพื่อนรักเข้ามาสู่อ้อมกอดอีกครั้ง ส่งมอบความอบอุ่นผ่านการสัมผัสทางกายไปให้ด้วยความรักและห่วงใย ก่อนจะพูดเสียงเบาอย่างนุ่มละมุน “สองคนนั้นจะรู้บ้างไหมนะว่าความรักที่สวยงามของพวกเขา ได้สร้างความเจ็บช้ำหัวใจให้กับผู้หญิงคนหนึ่งจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยได้อีก”
“มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอกอร...ผิดที่ฉันเอง ผิดที่ฉันลืมเขาไม่ได้”
“เรื่องความรักไม่มีใครผิดใครถูกหรอกสา แกพยายามมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เก่งที่สุดแล้ว...จำไว้นะสา ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคนนี้จะอยู่เคียงข้างแกเสมอ”
“อื้อ...ขอบใจนะอร ขอบใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรหรอก แกคือเพื่อนรักของฉันเพียงคนเดียวนะ ฉันไม่มีทางทิ้งแกหรอก” บอกอย่างอ่อนโยนพลางดันร่างของบุญญิสาออกเล็กน้อย “เช็ดคราบน้ำตานะ แล้วเราเข้าไปข้างในกัน”
ไม่นานบุญญิสาและอรจิราก็เดินกลับเข้าไปในงาน ร่างบางในชุดราตรีสั้นสีน้ำเงินค่อยๆ เดินออกมาจากมุมที่ใช้หลบซ่อนตัว ตอนนี้เธอสับสนไปหมดแล้ว เธอควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ หญิงสาวไม่เคยรู้เลยว่าบุญญิสามีใจให้กับภูริภพ ไม่เคยรู้เลยว่าความรักของเขาและเธอจะทำให้ผู้เป็นพี่สาวต้องเจ็บปวดทรมานขนาดนี้ แน่นอนว่าเธอรักชายหนุ่มมาก แต่เธอก็รักพี่สาวของเธอมากเช่นกัน...
ในเมื่อผู้ชายที่บุญญิสารักดันมีเจ้าของ และที่สำคัญเจ้าของคนนั้นก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของเธอเอง
“โอเคไหมสา ฉันว่าเธอดื่มหนักเกินไปแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรอร ฉันไม่เป็นอะไร...” พยายามฝืนยิ้มให้เพื่อนทั้งที่น้ำตากำลังจะไหล มือยื่นออกไปหยิบแก้วไวน์จากพนักงานอีกครั้ง
ทว่า...
“พอแล้วสา” ดาราสาวหันไปมองรอบกายพร้อมกับจับมือของเพื่อนรักเอาไว้ ส่งสายตาให้พนักงานถอยห่างออกไป แล้วเอ่ยขึ้น “ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกกันดีกว่านะ”
อรจิราจูงมือบุญญิสาให้เดินตามออกเธอไปข้างนอก ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ขัดข้อง ดีเสียอีกเธอจะไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาข้างในนั้น เธออยากจะเดินออกมาแทบขาดใจ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจของทุกคน...
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ไม่มีใครแล้วนะสา ถ้าแกอยากจะร้องไห้ออกมา ก็ร้องได้เลย...ตรงนี้ ไหล่ฉันตรงนี้พร้อมรองรับน้ำตาของแกเสมอ” เสียงนุ่มนวลห่วงใยกล่าวกับเพื่อนรักที่เธอทราบดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเจ็บปวดแค่ไหน และกำลังพยายามอย่างหนักแค่ไหนที่จะลืมความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของตัวเอง
แววตาเศร้าระริกสั่นไหว มองสบตาเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่เธอสามารถเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังได้อย่างขอบคุณ ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ากอดดาราสาวพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้อย่างหนักออกมา
“ฉันสัญญานะอร ว่าฉันจะลืมเขาให้ได้” บอกเสียงสั่น “...แต่มันไม่ง่ายเลยอร มันไม่ง่ายจริงๆ”
มือเรียวลูบเรือนผมเพื่อนรักด้วยความห่วงใยและเข้าใจความรู้สึกของบุญญิสาเป็นอย่างดี มันใช่เรื่องง่ายที่ไหนกันเล่า...ลืมคนที่อยู่ในหัวใจมาตลอดชีวิต มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ “ไม่เป็นไรนะสา ตอนนี้ทำไม่ได้ยังไม่เป็นไร แกมีเวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมเขานะ...ไม่ต้องรีบร้อน ฉันเชื่อว่าสักวันแกต้องทำได้”
ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังกอดกันร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งนั้น หญิงสาวอีกคนที่เดินตามออกมาได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ทำให้เธอต้องรีบเดินหลบอยู่ในมุมหนึ่งทันที จากเดิมว่าจะเดินตามมาถามไถ่อาการพี่สาวว่าเป็นอะไรหรือเปล่า กลับกลายเป็นว่าตอนนี้กลับอยากรู้ว่าเหตุใดกันพี่สาวฝาแฝดของเธอถึงมีอาการเช่นนี้...ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยว่าบุญญิสามีชายในดวงใจอยู่แล้ว
“แล้วแกได้บอกทุกคนหรือยัง เรื่องที่แกจะไปทำงานที่นอร์เวย์น่ะ” อรจิราถามคนในอ้อมกอด
บุญญิสาเงยหน้าขึ้นมองสบตาอีกฝ่ายแล้วส่ายศีรษะเป็นคำตอบ “ยังเลย...ฉันว่าจะรอให้เสร็จสิ้นงานมงคลนี้ไปก่อนน่ะ ช่วงนี้ยังไม่อยากทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลอะไร พวกท่านกำลังมีความสุข”
“ในขณะที่เธอแบกความทุกข์เอาไว้คนเดียวอย่างนี้เนี่ยนะยัยสา ฉันล่ะไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ”
“มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรืออร...สมควรแล้วที่ฉันต้องเจ็บแบบนี้”
ดาราสาวรั้งร่างของเพื่อนรักเข้ามาสู่อ้อมกอดอีกครั้ง ส่งมอบความอบอุ่นผ่านการสัมผัสทางกายไปให้ด้วยความรักและห่วงใย ก่อนจะพูดเสียงเบาอย่างนุ่มละมุน “สองคนนั้นจะรู้บ้างไหมนะว่าความรักที่สวยงามของพวกเขา ได้สร้างความเจ็บช้ำหัวใจให้กับผู้หญิงคนหนึ่งจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยได้อีก”
“มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอกอร...ผิดที่ฉันเอง ผิดที่ฉันลืมเขาไม่ได้”
“เรื่องความรักไม่มีใครผิดใครถูกหรอกสา แกพยายามมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เก่งที่สุดแล้ว...จำไว้นะสา ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคนนี้จะอยู่เคียงข้างแกเสมอ”
“อื้อ...ขอบใจนะอร ขอบใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรหรอก แกคือเพื่อนรักของฉันเพียงคนเดียวนะ ฉันไม่มีทางทิ้งแกหรอก” บอกอย่างอ่อนโยนพลางดันร่างของบุญญิสาออกเล็กน้อย “เช็ดคราบน้ำตานะ แล้วเราเข้าไปข้างในกัน”
ไม่นานบุญญิสาและอรจิราก็เดินกลับเข้าไปในงาน ร่างบางในชุดราตรีสั้นสีน้ำเงินค่อยๆ เดินออกมาจากมุมที่ใช้หลบซ่อนตัว ตอนนี้เธอสับสนไปหมดแล้ว เธอควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ หญิงสาวไม่เคยรู้เลยว่าบุญญิสามีใจให้กับภูริภพ ไม่เคยรู้เลยว่าความรักของเขาและเธอจะทำให้ผู้เป็นพี่สาวต้องเจ็บปวดทรมานขนาดนี้ แน่นอนว่าเธอรักชายหนุ่มมาก แต่เธอก็รักพี่สาวของเธอมากเช่นกัน...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ