สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
40) ตลาด คน ประหลาด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความริมฝีปากนุ่มละมุนยื่นใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนฉันรู้สึกได้เลยว่าใบหน้ากำลังร้อนผ่าวเลือดในกายฉีดพล่านถวิลหารสรักอันดื่มด่ำนั้นอีกครั้ง
ทว่าในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มโนสำนึกก็พลิกกลับขึ้นมาเป็นฝ่ายชนะ
“ไม่เอาน่าเอก อย่าเล่นแบบนี้” ฉันเตือนด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังขึ้น หลังจากที่หักห้ามอารมณ์ชั่ววูบชั่วแล่นนั้นได้สำเร็จ พลางเบี่ยงหน้าหนีด้วยความเอียงอาย
ชานนท์ลืมตาโพลงขึ้นมาทันที
“อะ..อ้าวริณทำไมล่ะ?”
“โทษทีนะฉันว่ามันไม่เหมาะที่เราจะมาทำอะไรกันตรงนี้ ตอนนี้” ฉันให้เหตุผล เขาจึงยอมปล่อยมือวางแนบลำตัวแล้วตีสีหน้าสลด
“ก็ได้…” เขาเปรยเสียงอ่อย ก่อนจะทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ
“ฉันว่าเรารีบกลับบ้านกันเถอะ” แม้จะรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ก็ฉันกำลังทั้งเครียดและกังวลเรื่องของพ่ออยู่นี่นา คงไม่มีกะจิตกะใจจะมาสวีทหวานแหววกันในที่แบบนี้หรอก
“พวกเธอสองคนทำแบบนี้ได้ยังไงยะ!” เสียงของแก้วที่ดังแหวขึ้นมาทำให้เราสองคนแทบสะดุ้ง
เมื่อฉันหันไปมองก็พบว่าเพื่อนสาวตัวดีกำลังยืนเท้าสะเอวหอบแฮ่กๆ หน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงนั้น
‘รึว่าเธอจะเห็นเหตุการณ์เมื่อตะกี๊’
คิดแล้วก็กระดากอาย จนทำหน้าไม่ถูก
“ก็ๆๆๆ” ชานนท์พยายามเอ่ยปากอธิบายแต่ก็ลิ้นพันกันอยู่นั่นแหละ พูดไม่ออกสักที
แสงพลอยลดมือลงก่อนจะเดินก้าวฉับๆ ตรงรี่เข้ามา คิ้วบางเรียวได้รูปของเธอแทบจะเลื่อนเข้ามาชนกัน สีหน้างุ้มงอบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“นี่พวกเธอปล่อยให้ฉันผจญอยู่กับยัยแม่มดนั่นสองต่อสองได้ยังไงกันยะ ฉันน่ะเอ๋อรับประทานเลยรู้มั๊ย จู่ๆ ก็วิ่งพรวดพราดกันออกไปไม่เห็นหัวฉันเลยนะยะ” ยัยแก้วต่อว่าต่อขานด้วยความโมโห แต่ฉันกลับรู้สึกโล่งอกถึงกับแอบลอบถอนใจที่เธอไม่ได้เห็นภาพที่เราสองคนกำลังหยอกเอินกันอยู่
“โอ๋ๆ ฉันขอโทษอย่าโกรธอย่าเคืองฉันเลยนะ” ฉันจับไหล่เพื่อนแล้วเขย่าเบาๆ ง้องอนอีกฝ่ายด้วยรู้ดีว่าเพื่อนฉันคนนี้เป็นพวกโกรธง่ายหายเร็ว ง้อปุ๊บก็หายปั๊บ
“นะ คุณหนูแสงพลอยสุดสวย แสนดี น่ารัก” ฉันยอหน่อย ยัยแก้วก็แบะยิ้มออกมาแล้ว
“เออนี่ตอนที่ฉันวิ่งมาเจอทุ่งดอกไม้ด้วยส๊วยสวย” เธอชี้ชวนน้ำเสียงสดใสกลับคืนมาดังเดิม
“จริงเหรอแก้ว เธอไปเจอที่ไหน?” ฉันถามตาลุกวาวด้วยความสนอกสนใจ แต่ก็แอบทึ่งที่เห็นเพื่อนสาวตัวดีเปลี่ยนสีหน้าและอารมณ์ได้ไวมากจนเกือบลืมไปเลยว่าเมื่อสักครู่ ยัยแก้วยังเท้าสะเอวว่าฉันฉอดๆ อยู่หยกหยก
“ก็ตรงแถวๆ ตลาดนั่นแหละ มาเดี๋ยวฉันพาไปดู” พูดเสร็จแสงพลอยก็ลากแขนฉันให้วิ่งตามไป
“อ้าวเฮ้ยรอกันมั่งดิ” เอกร้องพร้อมกับวิ่งตามมาติดๆ ไปตามเส้นทางดินเปียกๆ กระทั่งพวกเรามาถึงตลาดนัดเล็กๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นตลาดในร่มที่มีการขึงผ้าใบสีมอๆ เก่าๆ ซีดๆ ผูกต่อๆ กันเป็นหลังคาเรียงรายไปเป็นทางยาว โดยแหวกช่องหลีกทางให้แสงสว่างลอดส่องเข้ามาได้เพียงน้อยนิด นอกจากความแปลกที่ว่าแล้ว ที่นี่พวกพ่อค้าแม่ค้าก็ยังนั่งขายของกันอย่างเงียบเชียบ!
ลูกค้าซึ่งเป็นพวกชาวบ้านทั้งหลายแหล่ต่างพูดคุยต่อรองราคากันด้วยการกระซิบกระซาบ…ผิดแผกจากตลาดนัดทั่วไปที่พ่อค้าแม่ค้ามักจะตะโกนแข่งกันเสียงดังวุ่นวาย อีกทั้งของที่ขายยังเป็นพวกข้าวปลาอาหารแห้ง ผักสด และผลไม้ ซะส่วนมาก
ชาวบ้านแต่ละคนต่างก็แต่งตัวด้วยโทนสีหม่นๆ สวมรองเท้าบูท และส่วนใหญ่ก็พกร่มสีดำติดตัวมาด้วย ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงฤดูร้อน พวกเขาเหล่านั้นมีพฤติกรรมแปลกๆ ที่เหมือนกันไปหมดราวกับถูกตั้งโปรแกรมไว้ นับวันลัทธินั่นก็ล้างสมองให้ผู้คนทำตัวประหลาดเข้าไปทุกทีๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ