สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
54 วิจารณ์
21.52K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ไปด้วยคนนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“แก้วกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง แล้วก็แชทกะหนุ่มๆ อิอิ” เธอบอกอย่างอารมณ์ดี ขณะที่ฉันกลับรู้สึกเหมือนมีก้อนเมฆขมุกขมัวก่อตัวขึ้นในใจ
“อืม...แก้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องลับบ้าน พ่อกำลังป่วยหนักน่ะ” ฉันซึ่งกำลังยืนน้ำตารื้นอยู่ จำต้องบอกเธอไปตามตรง
“อ๊ะ…ตายจริงพ่อเธอเป็นอะไรเหรอริณ?” แก้วมีท่าทีตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น
“ขอโทษทีนะที่ฉันคงไปเที่ยวกับเธอไม่ได้” ฉันพูดเสียงอ่อน รู้สึกผิดที่ต้องผิดนัดกับเพื่อนทั้งๆ ที่ได้รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไปเดินเที่ยวห้างซื้ออุปกรณ์การเรียนด้วยกัน
“บ้า..ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เธอจะกลับมาวันไหนเหรอ?” แสงพลอยถาม
“ก็คงอยู่ที่นั่นสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ คงต้องอยู่ดูอาการพ่อด้วย ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแก้ว” อีกฝ่ายคงได้ยินเสียงอันสั่นเครือของฉัน จึงเอ่ยปลอบประโลม
“พ่อเธอคงไม่เป็นไรหรอกริณ อย่าเพิ่งคิดมากเลย”
“แต่ในจดหมายที่พ่อเขียนมา...มันทำให้ฉันกลัว” และแล้วหยดน้ำใสๆ ก็ไหลอาบแก้ม จิตใจของฉันในตอนนี้อ่อนแอเกินกว่าจะทำเป็นเข้มแข็งอยู่ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้ามาเรียนต่อในเมืองตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่เราสองพ่อลูกก็ไม่เคยห่างกัน พ่อมักจะส่งผ่านความห่วงใยมาทางปลายสายโทรศัพท์อยู่เสมอ จวบจนกระทั่งสองเดือนก่อนหน้านี้ ที่น้ำเสียงของพ่อแปรเปลี่ยนไป จนในวันนี้ พ่อเขียนจดหมายมาบอกฉันว่าท่านกำลังจะจากฉันไป นี่ฉันจะทำอย่างไรดี
“งั้น....ฉันมีแผนใหม่”
“เอ๋......แผนใหม่?” ฉันนึกสงสัยแต่ไม่ทันจะเอ่ยถาม แก้วก็ชิงพูดขึ้นมา
“งั้นให้ฉันไปเยี่ยมพ่อเธอด้วยสิ”
“เอ๋…แต่ว่า”
“ฉันเบื่อนั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้เจอเธอหลายวันฉันคงเหงาแย่ อีกอย่างฉันก็อยากอยู่เป็นกำลังใจให้เธอนะยัยริณ”
“แล้วที่บ้านเธอเค้าไม่....” ฉันรู้สึกอึดอัดใจที่จะเปิดประตูต้อนรับแสงพลอยให้เข้ามาในหมู่บ้านที่แม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึกอยากจะหลีกเร้นไปให้ไกล
“หายห่วงจ้ะที่นี่เค้าไม่มีใครสนใจชั้นหรอกน่า...แล้วตอนนี้ป๊ากับม๊าของฉันก็บินไปเที่ยวฮ่องกงอยู่ กว่าจะกลับก็โน่นอีกสองสามวัน ปล่อยให้เจ้หยก กับอาเฮงมันอยู่เฝ้าบ้านสองคนก็พอแล้วย่ะ”
“แต่ว่าหมู่บ้านของฉันมันกันดารนะ เธอคงอยู่ไม่ได้หรอก” คำพูดกันท่าของฉันดูเหมือนจะไม่มีผลต่อความตั้งใจของแก้ว เธอยังคงยืนยันที่จะไป
“ให้ฉันไปเถอะนะ นะ นะ” เสียงรบเร้าของเพื่อนสาวทำให้ฉันเกิดความรู้สึกลังเล และต้องเป็นฝ่ายจำยอมในที่สุด
“เรื่องตั๋วกับค่าเดินทางอ่ะเดี๋ยวฉันจัดการให้เองนะ ส่วนเธอก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าได้แล้วนะคะคุณริณ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปรับแล้วเราก็ไปท่ารถด้วยกันนะ โอเคตกลงตามนี้ ไหนบอกมาสิเพื่อนว่าบ้านเกิดของเธออยู่ที่ไหน........” เจ้าตัวกล่าวเสียงเจื้อยแจ้วมาตามสาย
เราคุยกันต่ออีกสักพัก แก้วถามเอาข้อมูลกับฉันเพื่อจะจองตั๋วรถทัวร์ให้ แม้จะพูดปฏิเสธไปหลายครั้งเรื่องค่ารถ แต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดันจะจัดการเอง และก่อนวางสายเธอก็พูดทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนาให้ฉันฉงนใจเล่นว่า
“ฉันขอชวนเพื่อนไปอีกคนนะ...อืมแค่นี้แหละบายแล้วคุยกันย่ะ”
“กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง แล้วก็แชทกะหนุ่มๆ อิอิ” เธอบอกอย่างอารมณ์ดี ขณะที่ฉันกลับรู้สึกเหมือนมีก้อนเมฆขมุกขมัวก่อตัวขึ้นในใจ
“อืม...แก้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องลับบ้าน พ่อกำลังป่วยหนักน่ะ” ฉันซึ่งกำลังยืนน้ำตารื้นอยู่ จำต้องบอกเธอไปตามตรง
“อ๊ะ…ตายจริงพ่อเธอเป็นอะไรเหรอริณ?” แก้วมีท่าทีตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น
“ขอโทษทีนะที่ฉันคงไปเที่ยวกับเธอไม่ได้” ฉันพูดเสียงอ่อน รู้สึกผิดที่ต้องผิดนัดกับเพื่อนทั้งๆ ที่ได้รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไปเดินเที่ยวห้างซื้ออุปกรณ์การเรียนด้วยกัน
“บ้า..ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เธอจะกลับมาวันไหนเหรอ?” แสงพลอยถาม
“ก็คงอยู่ที่นั่นสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ คงต้องอยู่ดูอาการพ่อด้วย ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแก้ว” อีกฝ่ายคงได้ยินเสียงอันสั่นเครือของฉัน จึงเอ่ยปลอบประโลม
“พ่อเธอคงไม่เป็นไรหรอกริณ อย่าเพิ่งคิดมากเลย”
“แต่ในจดหมายที่พ่อเขียนมา...มันทำให้ฉันกลัว” และแล้วหยดน้ำใสๆ ก็ไหลอาบแก้ม จิตใจของฉันในตอนนี้อ่อนแอเกินกว่าจะทำเป็นเข้มแข็งอยู่ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้ามาเรียนต่อในเมืองตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่เราสองพ่อลูกก็ไม่เคยห่างกัน พ่อมักจะส่งผ่านความห่วงใยมาทางปลายสายโทรศัพท์อยู่เสมอ จวบจนกระทั่งสองเดือนก่อนหน้านี้ ที่น้ำเสียงของพ่อแปรเปลี่ยนไป จนในวันนี้ พ่อเขียนจดหมายมาบอกฉันว่าท่านกำลังจะจากฉันไป นี่ฉันจะทำอย่างไรดี
“งั้น....ฉันมีแผนใหม่”
“เอ๋......แผนใหม่?” ฉันนึกสงสัยแต่ไม่ทันจะเอ่ยถาม แก้วก็ชิงพูดขึ้นมา
“งั้นให้ฉันไปเยี่ยมพ่อเธอด้วยสิ”
“เอ๋…แต่ว่า”
“ฉันเบื่อนั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้เจอเธอหลายวันฉันคงเหงาแย่ อีกอย่างฉันก็อยากอยู่เป็นกำลังใจให้เธอนะยัยริณ”
“แล้วที่บ้านเธอเค้าไม่....” ฉันรู้สึกอึดอัดใจที่จะเปิดประตูต้อนรับแสงพลอยให้เข้ามาในหมู่บ้านที่แม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึกอยากจะหลีกเร้นไปให้ไกล
“หายห่วงจ้ะที่นี่เค้าไม่มีใครสนใจชั้นหรอกน่า...แล้วตอนนี้ป๊ากับม๊าของฉันก็บินไปเที่ยวฮ่องกงอยู่ กว่าจะกลับก็โน่นอีกสองสามวัน ปล่อยให้เจ้หยก กับอาเฮงมันอยู่เฝ้าบ้านสองคนก็พอแล้วย่ะ”
“แต่ว่าหมู่บ้านของฉันมันกันดารนะ เธอคงอยู่ไม่ได้หรอก” คำพูดกันท่าของฉันดูเหมือนจะไม่มีผลต่อความตั้งใจของแก้ว เธอยังคงยืนยันที่จะไป
“ให้ฉันไปเถอะนะ นะ นะ” เสียงรบเร้าของเพื่อนสาวทำให้ฉันเกิดความรู้สึกลังเล และต้องเป็นฝ่ายจำยอมในที่สุด
“เรื่องตั๋วกับค่าเดินทางอ่ะเดี๋ยวฉันจัดการให้เองนะ ส่วนเธอก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าได้แล้วนะคะคุณริณ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปรับแล้วเราก็ไปท่ารถด้วยกันนะ โอเคตกลงตามนี้ ไหนบอกมาสิเพื่อนว่าบ้านเกิดของเธออยู่ที่ไหน........” เจ้าตัวกล่าวเสียงเจื้อยแจ้วมาตามสาย
เราคุยกันต่ออีกสักพัก แก้วถามเอาข้อมูลกับฉันเพื่อจะจองตั๋วรถทัวร์ให้ แม้จะพูดปฏิเสธไปหลายครั้งเรื่องค่ารถ แต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดันจะจัดการเอง และก่อนวางสายเธอก็พูดทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนาให้ฉันฉงนใจเล่นว่า
“ฉันขอชวนเพื่อนไปอีกคนนะ...อืมแค่นี้แหละบายแล้วคุยกันย่ะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ