สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
54 วิจารณ์
21.53K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ฉัน…กลับมาแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ไม่นานนักพวกเราก็เดินตามอาสุบรรณจนมาถึงหน้าบ้านของฉัน
“นี่บ้านริณเหรอ” ชานนท์ปรารภออกมาเมื่อเห็นบ้านไม้ชั้นเดียวตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในรั้วหินก่อเตี้ยๆ โดยไม่มีประตูรั้วกั้น แสงนวลของดวงจันทร์ที่ส่องสว่างลงมากระทบตัวบ้านและต้นไม้ใหญ่สูงชะลูดเกือบเทียมหลังคาซึ่งถูกปลูกไว้เยื้องออกมาเล็กน้อยอยู่ข้างๆ ทอดยาวลงมาทำให้เกิดเป็นเงื้อมเงาประหลาดดูน่ากลัว ราวกับปีศาจร้ายกำลังกางกรงเล็บตะปบเหยื่อ ยามเมื่อลมพัดไหวให้กิ่งก้านโอนเอน
น่าแปลกที่คนในบ้านปิดไฟกันหมดแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันจะเดินทางมาถึงตอนย่ำค่ำ
‘เข้านอนกันหมดแล้วหรือนี่’ ฉันคิด
“แม่เลี้ยงเธอไม่อยู่เหรอริณ?” แก้วเอ่ยปากถามออกมาลอยๆ เจ้าตัวคงลืมไปว่าฉันเองก็เพิ่งมาถึงพร้อมกับเธอนั่นแหละ
“เอ...ตอนที่อาออกมาก็ยังเห็นบ้านนี้เปิดไฟอยู่นะ” อาสุบรรณพูดขึ้น “ลองเข้าไปเคาะประตูเรียกดู...อาคิดว่าคุณน้าไม่น่าจะออกไปไหนนะ”
“คุณน้าครับ!” ชานนท์ลองตะโกนเรียก แต่ไม่ทันไรคุณอาก็ยกนิ้วชี้ตั้งขึ้นจรดปลายจมูก
“ชูว์ เบาๆ สิ...คนที่นี่เขาไม่ชอบเสียงโหวกเหวกโวยวายกันหรอกนะ” เขาเตือน
เอกรีบยกสองมือปิดปากทันควัน
อาสุบรรณเคลื่อนร่างท้วมแต่ดูผึ่งผายเดินก้าวเท้าไปบนแผ่นหินที่ปูทอดยาวไปถึงขั้นบันไดและเฉลียงทางเดินบริเวณด้านหน้าของบ้าน ในมือมีไฟฉายกระบอกสีเงินขนาดใหญ่ชี้นำทางส่วนข้างหลังของเขาคือร่างของพวกเราทั้งสามคนที่เดินเกาะกันเป็นพรวน
มันเป็นความจริงที่ว่า ความมืดจะกระตุ้นต่อมความกลัวและจินตนาการอันพิสดารของเราให้เตลิดเปิดเปิงไปไกลได้อย่างง่ายดาย แค่เพียงเงาไม้วูบไหวก็สามารถทำให้หัวใจของฉันเต้นระทึกคึกโครมได้อย่างน่าประหลาด แม้ว่าจะอยู่ภายในอาณาเขตของบ้านที่ตัวเองเคยอยู่มาก่อนก็เถอะ
“ริณ บ้านของเธอน่ากลัวจัง” แก้วเปรยออกมาเสียงค่อยขณะที่เธอเดินลากกระเป๋าล้อลากเสียงดังแกรกๆ อยู่รั้งท้าย
“ขอโทษทีนะที่บ้านของฉันทำให้เธอกลัวน่ะ” ฉันกล่าวรู้สึกเสียหน้าอยู่นิดๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาแลเห็นสวนหย่อมที่แม่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดเอาไว้ เช่น แปลงกุหลาบขาว กระถางบัว กอดอกเข็ม ต้นพลูด่าง กาลังโช หรือกุหลาบหิน รวมไปถึงกล็อกซิเนียที่มีใบใหญ่หนาและดอกมีขนอ่อนๆ คล้ายกำมะหยี่มีทั้งสีแดง ม่วง ชมพูสด ที่เคยเบ่งบานกลีบดอกสวยอยู่ในกระถางเล็กๆ ซึ่งแขวนเกี่ยวอยู่บนไม้ระแนงสีขาวเตี้ยๆ นั้น บัดนี้ต่างพากันเหี่ยวเฉาโรยรา และมีวัชพืชสูงใหญ่ขึ้นมาแทรกแซม ดูรกระเกะระกะเต็มไปหมด
นึกตำหนิคุณน้าที่ปล่อยปละละเลยจนสภาพสวนหย่อมในตอนนี้ไม่เหลือเค้าความสวยงามน่ามองเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว
“นี่บ้านริณเหรอ” ชานนท์ปรารภออกมาเมื่อเห็นบ้านไม้ชั้นเดียวตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในรั้วหินก่อเตี้ยๆ โดยไม่มีประตูรั้วกั้น แสงนวลของดวงจันทร์ที่ส่องสว่างลงมากระทบตัวบ้านและต้นไม้ใหญ่สูงชะลูดเกือบเทียมหลังคาซึ่งถูกปลูกไว้เยื้องออกมาเล็กน้อยอยู่ข้างๆ ทอดยาวลงมาทำให้เกิดเป็นเงื้อมเงาประหลาดดูน่ากลัว ราวกับปีศาจร้ายกำลังกางกรงเล็บตะปบเหยื่อ ยามเมื่อลมพัดไหวให้กิ่งก้านโอนเอน
น่าแปลกที่คนในบ้านปิดไฟกันหมดแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันจะเดินทางมาถึงตอนย่ำค่ำ
‘เข้านอนกันหมดแล้วหรือนี่’ ฉันคิด
“แม่เลี้ยงเธอไม่อยู่เหรอริณ?” แก้วเอ่ยปากถามออกมาลอยๆ เจ้าตัวคงลืมไปว่าฉันเองก็เพิ่งมาถึงพร้อมกับเธอนั่นแหละ
“เอ...ตอนที่อาออกมาก็ยังเห็นบ้านนี้เปิดไฟอยู่นะ” อาสุบรรณพูดขึ้น “ลองเข้าไปเคาะประตูเรียกดู...อาคิดว่าคุณน้าไม่น่าจะออกไปไหนนะ”
“คุณน้าครับ!” ชานนท์ลองตะโกนเรียก แต่ไม่ทันไรคุณอาก็ยกนิ้วชี้ตั้งขึ้นจรดปลายจมูก
“ชูว์ เบาๆ สิ...คนที่นี่เขาไม่ชอบเสียงโหวกเหวกโวยวายกันหรอกนะ” เขาเตือน
เอกรีบยกสองมือปิดปากทันควัน
อาสุบรรณเคลื่อนร่างท้วมแต่ดูผึ่งผายเดินก้าวเท้าไปบนแผ่นหินที่ปูทอดยาวไปถึงขั้นบันไดและเฉลียงทางเดินบริเวณด้านหน้าของบ้าน ในมือมีไฟฉายกระบอกสีเงินขนาดใหญ่ชี้นำทางส่วนข้างหลังของเขาคือร่างของพวกเราทั้งสามคนที่เดินเกาะกันเป็นพรวน
มันเป็นความจริงที่ว่า ความมืดจะกระตุ้นต่อมความกลัวและจินตนาการอันพิสดารของเราให้เตลิดเปิดเปิงไปไกลได้อย่างง่ายดาย แค่เพียงเงาไม้วูบไหวก็สามารถทำให้หัวใจของฉันเต้นระทึกคึกโครมได้อย่างน่าประหลาด แม้ว่าจะอยู่ภายในอาณาเขตของบ้านที่ตัวเองเคยอยู่มาก่อนก็เถอะ
“ริณ บ้านของเธอน่ากลัวจัง” แก้วเปรยออกมาเสียงค่อยขณะที่เธอเดินลากกระเป๋าล้อลากเสียงดังแกรกๆ อยู่รั้งท้าย
“ขอโทษทีนะที่บ้านของฉันทำให้เธอกลัวน่ะ” ฉันกล่าวรู้สึกเสียหน้าอยู่นิดๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาแลเห็นสวนหย่อมที่แม่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดเอาไว้ เช่น แปลงกุหลาบขาว กระถางบัว กอดอกเข็ม ต้นพลูด่าง กาลังโช หรือกุหลาบหิน รวมไปถึงกล็อกซิเนียที่มีใบใหญ่หนาและดอกมีขนอ่อนๆ คล้ายกำมะหยี่มีทั้งสีแดง ม่วง ชมพูสด ที่เคยเบ่งบานกลีบดอกสวยอยู่ในกระถางเล็กๆ ซึ่งแขวนเกี่ยวอยู่บนไม้ระแนงสีขาวเตี้ยๆ นั้น บัดนี้ต่างพากันเหี่ยวเฉาโรยรา และมีวัชพืชสูงใหญ่ขึ้นมาแทรกแซม ดูรกระเกะระกะเต็มไปหมด
นึกตำหนิคุณน้าที่ปล่อยปละละเลยจนสภาพสวนหย่อมในตอนนี้ไม่เหลือเค้าความสวยงามน่ามองเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ