เอาผัวไปเทิร์น

-

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.11 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,690 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 10.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) คลื่นใต้น้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
บทที่ 4 คลื่นใต้น้ำ
 
 
                        ‘อาโรจน์คะ หมิงมีเรื่องขอปรึกษา ไม่ทราบว่าอาโรจน์ว่างมั้ยคะ’
 
                        ‘มาสิ อารอทานข้าวที่บ้าน สะดวกวันไหนก็เข้ามาได้เลย’
 
 
                        พิมลดาลภัสก้าวขาลงจากรถสปอร์ตสีแดง รองเท้าส้นเข็มไม่ต่ำกว่าสี่นิ้วนั่นก็เป็นสีแดงตัดกับชุดเดรสแขนกุดคอระบายสีดำสนิท ขับให้ผิวขาวจัดดูโดดเด่นดุจนางพญา ใบหน้าได้รับการศัลยกรรมจนสวยตามพิมนิยม
 
                        ร่างสูงเพรียวเดินผ่านลานน้ำพุหน้าคฤหาสน์เข้าไปด้านใน คนดูแลออกมาต้อนรับไปยังห้องรับแขกทางปีกขวาของอาคาร
                        เธอไม่ได้สนใจคนเหล่านั้น แม้แต่ตอนที่ยกของว่างเข้ามาเสิร์ฟ
 
                        “คุณท่านกำลังลงมาค่ะคุณหมิง” แม่บ้านอาวุโสที่คอยดูแลอาคารฝั่งนี้แจ้งความคืบหน้า เพราะรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบรอโดยไร้จุดหมาย และจะเกรี้ยวกราดทันทีที่ไม่ได้ดังใจ
 
                        ใครจะกล้าขัดใจหลานสาวเจ้าของบ้าน
 
                        พิมลดาลภัสนั่งไขว่ห้างทำตัวตามสบาย ไม่คิดแตะของว่างตรงหน้า หุ่นเพรียวบางของเธอไม่ใช่ได้มาด้วยการกิน แต่เกิดจากการเลือกกิน
 
                        เสียงไม้เท้ากระทบหินอ่อนดังแว่ว พิมลดาลภัสรีบวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะกระจก ลุกเข้าไปประคองชายสูงวัย
 
                        เวโรจน์เป็นน้องชายของพ่อเธอ ปีนี้อายุก็เจ็ดสิบห้าแล้ว แต่เป็นคนแก่ที่ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี มีแค่โรคความดันกับเรื่องปวดข้อปวดเข่าตามประสา ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงใด ถือเป็นลาภอันประเสริฐของแท้
 
                        แม้เธอจะไม่ชอบวิสินี แต่เวโรจน์ถือเป็นอาที่เธอเคารพเสมอมาตั้งแต่พ่อเสียไปตอนเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตหรูหราของเธอไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย หากแต่เป็นคนแก่ตรงหน้าเธอคนนี้ประเคนให้
 
                        “อาโรจน์ยังดูแข็งแรงนะคะ หมิงไม่ได้มาหานานเลย”
 
                        “แก่แล้ว ขาแข้งไม่ค่อยดีเหมือนเก่า”
 
                        “อะไรกันคะ แค่ถือไม้เท้าเอง ยังหนุ่มอยู่เลยค่ะ นี่ถ้าให้หมิงวิ่งแข่งแบบเมื่อก่อนต้องขอยอมแพ้เลยนะคะ” พิมลดาลภัสหัวเราะเอาใจ
 
                        “วันนี้จะมาประจบคนแก่เรื่องอะไร” เวโรจน์รู้ทัน
 
                        “อาโรจน์ก็...หมิงไม่ได้มาเอาอะไรหรอกค่ะ คุณอาให้มาเยอะแล้ว แต่พอดีช่วงนี้หมิงได้ยินข่าวซุบซิบก็ไม่ค่อยสบายใจเลยอยากมาปรึกษาอาโรจน์ค่ะ”
 
                        คราวนี้เวโรจน์หันมองหน้าหลานสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้าง รอฟังอย่างให้ความสนใจ
 
                        “เอ่อ...แค่ข่าวซุบซิบนะคะ อาโรจน์ห้ามโมโหไป” หญิงสาวพูดดักไว้ก่อนเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอา
 
                        “อืม” เมื่อเวโรจน์พยักหน้ารับรู้ เธอก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มเล่า
 
                        “ข่าวพี่วุ้นค่ะ อาโรจน์จำผู้ชายที่พี่วุ้นไปเก็บมาเมื่อหลายปีก่อนได้มั้ยคะ ตอนนี้วงในซุบซิบกันว่านายคนนี้ไปนอนกับไฮโซไม่ซ้ำหน้า ทำเสียชื่อถึงพี่วุ้นเลยนะคะ”
 
                        “เกี่ยวกับสินีตรงไหน” เขาถามเสียงเรียบ
 
                        “จะไม่เกี่ยวได้ไงคะอาโรจน์ ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่วุ้นคั่วนายคนนี้ เอ้ย! คบนายคนนี้อยู่ตั้งหลายปี อาโรจน์ให้แต่งงานกับคุณนรินทร์พี่วุ้นก็ไม่ยอมแต่งไงคะ”
 
                        “สินีเค้าโตแล้วอาให้เค้าตัดสินใจเอาเอง”
 
                        “แต่งานนี้ซุบซิบกันดังเชียวนะคะ ไม่งั้นหมิงไม่มาปรึกษาคุณอาหรอกค่ะ”
 
                        “อาควรทำยังไง”
 
                        “หมิงไม่กล้าตัดสินใจแทนอาโรจน์หรอกค่ะ แต่ถ้าถาม...หมิงว่าเราควรจัดการเขี่ยนายคนนี้ออกจากชีวิตพี่วุ้นได้แล้วนะคะ”
 
                        ไม่ใช่ว่าสิ่งที่พิมลดาลภัสพูดเวโรจน์ไม่เคยคิด เขาไม่เข้าใจลูกสาวของตัวเองด้วยซ้ำว่ากำลังคิดอะไรถึงได้ไปคว้าคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาในชีวิต ถึงเขาจะไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้น แต่ข่าวที่ได้รู้มานานก็ทำให้เชื่อได้ว่า นายเตชินอะไรนั่นมาเกาะลูกสาวของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
 
                        แต่เหตุผลคืออะไรเขาก็ไม่แน่ใจนัก รู้แต่ว่าวิสินีไม่ใช่คนหัวอ่อนไม่ทันคน ออกจะแกมโกงเสียด้วยซ้ำ เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่เคยถามไถ่หรือก้าวก่ายถึงเรื่องส่วนตัว
 
                        แต่เมื่อสองปีก่อนลูกชายเจ้าสัวอนันต์ติดต่อขอให้วิสินีแต่งงานด้วย ผลที่ได้คือผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต้องหันหลังให้กัน แม้ไม่ได้ทะเลาะแต่ก็เข้าหน้ากันไม่ติด
 
                        ‘วุ้นสี่สิบแล้วนะคะ ตัดสินใจเองได้ว่าจะใช้ชีวิตกับใคร’
 
                        ‘พ่อแค่เป็นห่วง อายุลูกก็ไม่น้อยแล้ว ไม่คิดจะลงหลักปักฐานบ้างหรือ’
 
                       ‘วุ้นมีความสุขแบบนี้ค่ะ’
 
                        แบบไหนนั้นเวโรจน์ไม่กล้าคิด ได้แต่ถอนหายใจยอมแพ้ และไม่เคยถามไถ่เรื่องส่วนตัวของลูกสาวอีก มันก็จริงอย่างที่วิสินีพูด อายุก็ไม่น้อยแล้วถ้าไม่มีความสุขคนอย่างวิสินีไม่เริงร่าตามข่าวสังคมได้นานขนาดนี้หรอก
 
                        คนเป็นพ่อย่อมรู้นิสัยลูกดีที่สุด
                       
 
 
                        พิมลดาลภัสกลับไปได้พักใหญ่ เวโรจน์จึงให้พ่อบ้านคนสนิทต่อสายถึงวิสินี เขาชวนคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ทำเหมือนไม่รู้เรื่องซุบซิบอะไร แต่วิสินีเห็นความผิดปกติร้อยวันพันปีถ้าไม่มีเรื่องไม่สบายใจพ่อบังเกิดเกล้าจะไม่ติดต่อมา
 
                        “ป๊าไปได้ยินอะไรมาอีกคะ” เธอเข้าเรื่องทันที
 
                        เวโรจน์หัวเราะเมื่อลูกสาวรู้ทัน มันก็ไม่น่าแปลกเพราะทุกครั้งที่เขาต้องการคำตอบของทุกเรื่อง มันต้องได้รับการยืนยันจากปากของวิสินีเท่านั้น
 
                        “ผู้ชายของลูกสบายดีมั้ย”
 
                        คำถามนั้นทำให้วิสินีรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนคาบข่าวไปฟ้องพ่อของเธอ และไม่ต้องเดาให้เสียเวลาก็รู้ว่าใคร
 
                        หญิงสาวเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ข่มอารมณ์ที่ปะทุขึ้น ยกมือขึ้นเสยผมที่ลงมาปรกใบหน้าอย่างหงุดหงิด
 
                        “เตชินสบายดีค่ะ...แต่วุ้นไม่สบายใจนิดหน่อยก็ตรงที่มีคนอยากได้เขา แต่เขาไม่เล่นด้วยก็เลยสร้างข่าวเสียหายเอามาฟ้องป๊า ทำให้ป๊าของวุ้นไม่สบายใจไปอีกคน” เธอเลือกจะเอ่ยชื่อชายหนุ่มเข้าไปในบทสนทนา ให้พ่อรู้ว่าเธอจริงจังกับคนนี้
 
                        “ถ้าป๊าเชื่อจะโทรมาฟังจากปากวุ้นทำไม”
 
                        “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ ป๊าพักผ่อนนะคะ ไว้วุ้นกลับจากพักผ่อนแล้วจะพาเขาเข้าไปพบค่ะ”
 
                        เวโรจน์กดวางสาย ดวงตานิ่งลึกคิดไตร่ตรองบางอย่าง วิสินีไม่เคยพาผู้ชายคนไหนเข้าบ้านแต่กลับจะพาคนที่มีแต่ข่าวฉาวเข้ามาพบ ถ้ามองในแง่ดีเตชินต้องมีอะไรดีสักอย่างวิสินีถึงคิดจะจริงจัง แต่ถ้าแย่จนเขารับไม่ได้มันก็มีบางวิธีให้รับมือ ก็ต้องรอดูกันต่อไป
 
 
                        วิสินีแทบจะโยนโทรศัพท์ในมือทิ้งทะเล ดีที่เตชินเดินเข้ามาทันได้ยินเขาจึงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
 
                        “น้องสาวคุณก่อเรื่องเหรอ” เขาถามแต่คิดว่ารู้คำตอบ
 
                        “อืม...โทรไปฟ้องป๊า คงแค้นที่เธอไม่เล่นด้วย” วิสินีหน้าง้ำ คิ้วแทบจะชนกัน เธอไม่พอใจ และคิดว่าครั้งนี้คงไม่ปล่อยผ่าน ถ้าไม่จัดการให้อีกฝ่ายรู้ตัวเสียบ้าง
 
                        “ผมไม่ใช่พระยาเทครัวนี่” เขาแย้งขึ้นทันที “ถ้าคุณไม่สั่ง...ผมก็ไม่นอนกับใครมั่วหรอกนะ” เตชินไล้นิ้วลงบนแก้มนุ่มนิ่มของหญิงสาว เขาไม่อยากให้เธอต้องเสียอารมณ์กับเรื่องไร้สาระพวกนี้
 
                        “อย่าใส่ใจเลย เรามาฮันนีมูนกันอยู่นะ” เขาพูดอย่างเอาใจ อยากให้เธอหัวเราะ
 
                        วิสินีเงยหน้ามองคนพูด สีหน้าจริงจัง เธอยังไม่หายโมโหลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่คอยจองล้างจองผลาญมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น พ่อเธอชุบเลี้ยงงูเห่าไว้กัดลูกตัวเองแท้ ๆ
 
                        เวรกำ
 
                        “ไม่ใช่สักหน่อย...คนอย่างวิสินีถ้าจะเลือกสถานที่ฮันนีมูน มันต้องเป็นข่าวใหญ่ให้คนอิจฉาไปสามวันแปดวันสิ”
 
                        เตชินหัวเราะ ไม่คิดว่าเรื่องของญาติคนนี้จะทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไปได้ แต่เท่าที่เคยเห็นพิมลดาลภัสมาเธอก็ไม่ธรรมดา เหมือนกองไฟที่อยู่ใกล้ใครก็ต้องร้อนรุ่ม
 
                        เป็นผู้หญิงที่ไม่น่าเข้าใกล้แม้แต่น้อย
 
                        เขายอมรับนะว่าพิมลดาลภัสเป็นคนสวย มีเสน่ห์ แต่ถ้ารู้จักนิสัยแล้วละก็...ควรระวังตัว
 
                        ริษยา ชอบเอาชนะ ดูถูกคนที่ต่ำกว่า
 
                        เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่งไม่น่าสนใจหรือต้องให้ความสำคัญกับเธออีก   
 
 
 
 
***************
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา