สามี
8.0
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.13 น.
46 ตอน
2 วิจารณ์
17.12K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 09.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) ร้องไห้เป็นเพื่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสามี(39)
(คบกันไหม?)
คำนี้ที่ยังดังก้องกระหึ่มอยู่ในหูตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะขับรถ สายตาคมเข้มของชายหนุ่มพรางหันมามองในบางจังหวะ เพราะสายตาต้องมองถนนไปด้วย...แต่สิ่งที่อยู่ในใจเขาก็อยากรีบพูดเช่นกัน
"พี่เจ~~" หญิงสาวเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่คิดว่าคำขอนี้จะได้ยินในเวลาอันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน สายตาหวานมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดา บางคราก็เหมือนจะซาบซึ้งแต่ในบางครั้งก็เหมือนเศร้าสร้อย ความรู้สึกของแววตาที่ชายหนุ่มนั้นสัมผัสได้
"แนนไม่โอเคใช่ไหม?" ชายหนุ่มที่บังคับพวงมาลัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนหมดหวัง สีหน้าที่แสดงออกมานั้นมีรอยยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ฝืน ๆ
"พี่เจ...คือว่า....." หญิงสาวนั่งก้มหน้าคำพูดที่อยู่ในลำคอมันไม่สามารถกลั่นกรองออกมาได้ แม้ความรู้สึกข้างในของเธอมันจะรู้สึกดีไม่น้อยกับการขอคบหาที่ได้ยิน
"อย่างที่เคยบอกความรู้สึกแนนไป พี่ยังยืนยันคำเดิมนะ" ชายหนุ่มพูดบอกพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่บริเวณที่พักของหญิงสาว
.....เด็กหญิงที่นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเธอหันมองหน้าสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน แต่ก็ตั้งใจที่จะฟังเงียบ ๆ โดยไม่แทรกแต่อย่างใด แม้จะสงสัยอยู่ก็ตามที
"แนนไม่ใช่คนอย่างที่พี่เจเห็นตอนนี้หรอกนะคะ....แนนไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่สักนิด....แนนคงไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปจับพี่เจหรอกค่ะ" เสียงเงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า บรรยายความรู้สึกข้างในที่เธอนั้นมี เมื่อชีวิตที่เธอเป็นนั้นไม่มีสิ่งใดคู่ควรกับชายที่นั่งเคียงข้างแม้แต่น้อย
"อะไรที่แนนบอกไม่คู่ควร ฐานะ? หน้าตาทางสังคม? หรืออะไรที่แนนเอามาตัดสินพี่..." ชายหนุ่มจอดรถยนต์สนิทแล้วหันมาย้อนถามหญิงสาว ที่ตอนนี้สีหน้าเศร้าหมองดวงตากลมสวยเริ่มสั่นระริก
"พี่แนนอย่าร้องไห้ค่ะ...คูมพ่อยังไม่ได้ดุเลยนะคะ" เด็กหญิงไอติมที่นั่งเงียบมองผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นคุยกันด้วยท่าทางจริงจัง เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเริ่มเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาว ดวงตาที่เริ่มแดงดั่งคนกำลังจะร้องไห้
"เปล่าค่ะน้องไอติม....พี่แนนไม่ได้ร้องไห้" หญิงสาวไม่สนใจในสิ่งที่ชายหนุ่มย้อนถาม เมื่อมีเสียงเล็ก ๆ ดังแทรกขึ้นจึงสนใจเด็กหญิงมากกว่า เพราะว่าเธอนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกันกับคำถามของเขา
"น้องไอติมพ่อขอคุยกับพี่แนนหน่อยนะคะ" ผู้เป็นพ่อบอกกล่าวลูกสาว เมื่อตอนนี้เขาต้องการความจริงจังเพราะสิ่งที่อยู่ในใจมันล้นอกออกมาแล้วจนไม่อาจเก็บกั้น
.....เด็กหญิงเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อว่ากล่าว เธอขยับตัวเองย้ายไปนั่งที่เบาะหลังอย่างว่าง่าย ไร้การงอแงใด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อและน้ำเสียงพูดที่เข้มจริงจัง เธอได้แต่นั่งนิ่งมองผู้ใหญ่ทั้งสองจ้องหน้ากันแต่ยังไม่มีใครพูดอะไร
"อะไรที่แนนตัดสินว่าไม่คู่ควรกับพี่อย่างนั้นเหรอ....แนนบอกพี่ได้ไหม?" ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัย เอียงตัวเล็กน้อยให้ถนัดที่จะมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ดวงตาของเธอสั่นระริกเหมือนจะร้องไห้ แต่ยังเก็บกั้นอาการไว้อย่างพยายาม
"แนน...แนนกลัวคนมองพี่ไม่ดี หากแนนคบกับพี่ภาพลักษณ์ของพี่อาจจะหมองหม่นเพราะคนแบบแนนก็ได้" หญิงสาวให้เหตุผลในสิ่งที่เธอคิด แต่กับเขานั้นไม่ใช่สักนิด เขาไม่เคยคิดเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกกาย เขายึดมั่นสิ่งที่อยู่ในใจและความรู้สึกที่มีต่อกัน ขอแค่รักกัน รักลูกสาวของเขาและยอมรับผู้ชายลูกติดเช่นเขาได้เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว
"แนนพี่จริงจังนะ.....พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นสักนิด.....อ๋อ พี่เข้าใจแล้วล่ะ สิ่งที่แนนพูดออกมาแท้จริงแล้วคงรับผู้ชายลูกติดมีตำหนิแบบพี่ไม่ได้สินะ...." ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยและตัดพ้อตัวเอง ผู้ชายมีตำหนิแถมมีลูกติดเช่นเขาสาวแรกรุ่นที่ไหนจะมาเหลียวแล
"ไม่ใช่นะคะ....แนนไม่ได้คิดแบบนั้น" หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตระหนก เมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะตัดพ้อความรู้สึก ในใจของเธอก็รู้สึกไม่ต่างกันกับเขา เธอมีใจให้เช่นกันด้วยความรู้สึกที่มีแต่แรกเริ่มแค่ไม่กล้าแสดงออกมาด้วยเจียมตนว่าไม่คู่ควรกับเขา เพราะเธอนั้นด้อยค่า เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนเติบโตมาพอที่จะหาเลี้ยงและส่งตัวเองเรียนได้นั้นลำบากแทบขาดใจ แต่ด้วยความใฝ่ดีและสอบชิงทุนได้ เธอจึงได้เรียนในระดับปริญญา ทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดหรือเวลาเลิกจากฝึกงานเลี้ยงชีพ
"พี่ก็ไม่ได้คิดแบบที่แนนพูดเช่นกัน" ชายหนุ่มย้อนแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม เอี้ยวตัวนั่งมองตรงไม่สบตาหรือมองหน้าเธอ เมื่อเขานั้นเหมือนจะสิ้นหนทางเพราะเธอนั้นเอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้
"พี่เจ อึก ฮึก....แนน อึก แนนไม่มีพ่อแม่...แนนโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แนนไม่ได้มีค่าคู่ควรกับพี่เลยสักนิด" น้ำเสียงเศร้าเคล้าเสียงสะอื้นไห้ น้ำตาพร้อมรินไหลเสมอชีวิตที่เธอประสบพบเจอทำให้ไม่สามารถเก็บกั้น....เธอชอบชายหนุ่มตรงหน้าเช่นกันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ..... แต่คำว่าไม่คู่ควรมันสะกิดให้เธอนั้นย้ำเตือนตัวเองว่าเธอกับเขานั้นแตกต่างกัน....ชายหนุ่มที่ได้ยินน้ำเสียงผิดแปลกไปจำต้องหันมามอง เขามองเธอด้วยแววตาที่ต้องการปลอบประโลม สิ่งที่เธอบอกเล่ามาทำให้หัวใจของเขานั้นสั่นระรัว และน้ำเสียงร้องไห้ น้ำตาที่รินไหลทำให้เขาอยากจะกอดปลอบ
....สองแขนแกร่งไม่รีรอต่อการกระทำ หัวใจมันสั่งว่าให้โอบกอดหญิงตรงหน้าที่ร้องไห้มือปิดหน้าด้วยความเศร้า ฝ่ามือหนาลูบหลังหญิงสาวอย่างแผ่วเบา เป็นสัมผัสของการปกป้องที่อบอุ่นหัวใจ มันยิ่งทำให้หญิงสาวนั้นร้องไห้หนักด้วยความซาบซึ้ง
"พี่ไม่เคยตำหนิชีวิตใครว่าเป็นยังไง....สิ่งที่พี่ใช้ตัดสินนั้นคือหัวใจ พี่ใช้หัวใจมองคนที่รักไม่ใช่ดวงตา...พี่จะไม่บังคับให้แนนตอบรับตอนนี้ แต่อย่าเพิ่งปฏิเสธพี่ได้ไหมครับ" ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวพร้อมพูดสาธยายความรู้สึกลึก ๆ ข้างใน ละกอดจากหญิงสาวพร้อมกับนิ้วมือลูบเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ ดวงตาสองคู่มองกันด้วยความหวั่นไหว หัวใจก็เต้นแรงอย่างไม่อาจหักห้ามความรู้สึกได้เมื่อสองใจนั้นตรงกัน
"งืออออ ฮืออออ งื้ออออ" อยู่ ๆ เสียงแหลมเล็กก็ร้องขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่กำลังซึ้งใจหันมามองด้วยความตกใจ
"น้องไอติมหนูเป็นอะไรลูก....ร้องไห้ทำไมคะ?" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามกับอาการของลูกสาวตัวกลม
"พี่แนนร้องไห้ค่ะคูมพ่อ...อึก ฮึก ฮือออ" เด็กหญิงบอกกล่าว
"แล้วยังไง พ่อไม่เข้าใจ?"
"กลัวพี่แนนไม่มีเพื่อน น้องไอติมเลยร้องไห้เป็นเพื่อนพี่แนนค่ะ อึก ฮึก" เด็กหญิงคลายความสงสัยให้แก่ผู้ใหญ่ทั้งสองที่จ้องมองมาทางเธออย่างรอคำตอบ
((ฮ่าฮ่า...อึก ฮึก...คิก คิก ฮ่า))
คำตอบที่ได้ยินทำให้ทั้งเขาและเธอรวมถึงเจ้าของเสียงร้องไห้หัวเราะร่ากับความเดียงสาของเด็กหญิงที่แสนจะน่ารัก
"คบกับพี่นะครับ" เมื่อหัวเราะจนพอใจและเด็กหญิงมีรอยยิ้ม ชายหนุ่มจึงหันหน้ากลับมาแล้วเอ่ยร้องขอต่อหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นละมุนเหลือแสน
"อืม" หญิงสาวตอบรับทั้งน้ำตาด้วยความเต็มใจและซาบซึ้งอย่างมาก คำพูดที่หนักแน่นความอบอุ่นละมุนที่เขาแสดงต่อเธอมันทำให้อคติในใจนั้นมลายหายไป
"ขอบคุณนะครับ...ที่ไม่รังเกียจผู้ชายลูกติดอย่างพี่" ชายหนุ่มโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความดีใจ กอดแน่นเพื่อให้เธอนั้นสัมผัสได้ถึงหัวใจของเขาที่มี
"รักกัน ๆ ....น้องไอติมกอดด้วยค่ะ" เด็กหญิงที่หยุดร้องไห้กระโจนกอดคอผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความประสา ไม่รู้ความหมายของการโอบกอดนี้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมความรักนี้
"น้องไอติมเรียกแม่แนนสิ" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มของความปลื้มใจ
"เย้ ๆ เรียกแม่แนนได้แล้ว.....คูมแม่แนนขา"
(คบกันไหม?)
คำนี้ที่ยังดังก้องกระหึ่มอยู่ในหูตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะขับรถ สายตาคมเข้มของชายหนุ่มพรางหันมามองในบางจังหวะ เพราะสายตาต้องมองถนนไปด้วย...แต่สิ่งที่อยู่ในใจเขาก็อยากรีบพูดเช่นกัน
"พี่เจ~~" หญิงสาวเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่คิดว่าคำขอนี้จะได้ยินในเวลาอันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน สายตาหวานมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดา บางคราก็เหมือนจะซาบซึ้งแต่ในบางครั้งก็เหมือนเศร้าสร้อย ความรู้สึกของแววตาที่ชายหนุ่มนั้นสัมผัสได้
"แนนไม่โอเคใช่ไหม?" ชายหนุ่มที่บังคับพวงมาลัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนหมดหวัง สีหน้าที่แสดงออกมานั้นมีรอยยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ฝืน ๆ
"พี่เจ...คือว่า....." หญิงสาวนั่งก้มหน้าคำพูดที่อยู่ในลำคอมันไม่สามารถกลั่นกรองออกมาได้ แม้ความรู้สึกข้างในของเธอมันจะรู้สึกดีไม่น้อยกับการขอคบหาที่ได้ยิน
"อย่างที่เคยบอกความรู้สึกแนนไป พี่ยังยืนยันคำเดิมนะ" ชายหนุ่มพูดบอกพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่บริเวณที่พักของหญิงสาว
.....เด็กหญิงที่นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเธอหันมองหน้าสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน แต่ก็ตั้งใจที่จะฟังเงียบ ๆ โดยไม่แทรกแต่อย่างใด แม้จะสงสัยอยู่ก็ตามที
"แนนไม่ใช่คนอย่างที่พี่เจเห็นตอนนี้หรอกนะคะ....แนนไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่สักนิด....แนนคงไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปจับพี่เจหรอกค่ะ" เสียงเงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า บรรยายความรู้สึกข้างในที่เธอนั้นมี เมื่อชีวิตที่เธอเป็นนั้นไม่มีสิ่งใดคู่ควรกับชายที่นั่งเคียงข้างแม้แต่น้อย
"อะไรที่แนนบอกไม่คู่ควร ฐานะ? หน้าตาทางสังคม? หรืออะไรที่แนนเอามาตัดสินพี่..." ชายหนุ่มจอดรถยนต์สนิทแล้วหันมาย้อนถามหญิงสาว ที่ตอนนี้สีหน้าเศร้าหมองดวงตากลมสวยเริ่มสั่นระริก
"พี่แนนอย่าร้องไห้ค่ะ...คูมพ่อยังไม่ได้ดุเลยนะคะ" เด็กหญิงไอติมที่นั่งเงียบมองผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นคุยกันด้วยท่าทางจริงจัง เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเริ่มเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาว ดวงตาที่เริ่มแดงดั่งคนกำลังจะร้องไห้
"เปล่าค่ะน้องไอติม....พี่แนนไม่ได้ร้องไห้" หญิงสาวไม่สนใจในสิ่งที่ชายหนุ่มย้อนถาม เมื่อมีเสียงเล็ก ๆ ดังแทรกขึ้นจึงสนใจเด็กหญิงมากกว่า เพราะว่าเธอนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกันกับคำถามของเขา
"น้องไอติมพ่อขอคุยกับพี่แนนหน่อยนะคะ" ผู้เป็นพ่อบอกกล่าวลูกสาว เมื่อตอนนี้เขาต้องการความจริงจังเพราะสิ่งที่อยู่ในใจมันล้นอกออกมาแล้วจนไม่อาจเก็บกั้น
.....เด็กหญิงเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อว่ากล่าว เธอขยับตัวเองย้ายไปนั่งที่เบาะหลังอย่างว่าง่าย ไร้การงอแงใด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อและน้ำเสียงพูดที่เข้มจริงจัง เธอได้แต่นั่งนิ่งมองผู้ใหญ่ทั้งสองจ้องหน้ากันแต่ยังไม่มีใครพูดอะไร
"อะไรที่แนนตัดสินว่าไม่คู่ควรกับพี่อย่างนั้นเหรอ....แนนบอกพี่ได้ไหม?" ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัย เอียงตัวเล็กน้อยให้ถนัดที่จะมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ดวงตาของเธอสั่นระริกเหมือนจะร้องไห้ แต่ยังเก็บกั้นอาการไว้อย่างพยายาม
"แนน...แนนกลัวคนมองพี่ไม่ดี หากแนนคบกับพี่ภาพลักษณ์ของพี่อาจจะหมองหม่นเพราะคนแบบแนนก็ได้" หญิงสาวให้เหตุผลในสิ่งที่เธอคิด แต่กับเขานั้นไม่ใช่สักนิด เขาไม่เคยคิดเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกกาย เขายึดมั่นสิ่งที่อยู่ในใจและความรู้สึกที่มีต่อกัน ขอแค่รักกัน รักลูกสาวของเขาและยอมรับผู้ชายลูกติดเช่นเขาได้เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว
"แนนพี่จริงจังนะ.....พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นสักนิด.....อ๋อ พี่เข้าใจแล้วล่ะ สิ่งที่แนนพูดออกมาแท้จริงแล้วคงรับผู้ชายลูกติดมีตำหนิแบบพี่ไม่ได้สินะ...." ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยและตัดพ้อตัวเอง ผู้ชายมีตำหนิแถมมีลูกติดเช่นเขาสาวแรกรุ่นที่ไหนจะมาเหลียวแล
"ไม่ใช่นะคะ....แนนไม่ได้คิดแบบนั้น" หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตระหนก เมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะตัดพ้อความรู้สึก ในใจของเธอก็รู้สึกไม่ต่างกันกับเขา เธอมีใจให้เช่นกันด้วยความรู้สึกที่มีแต่แรกเริ่มแค่ไม่กล้าแสดงออกมาด้วยเจียมตนว่าไม่คู่ควรกับเขา เพราะเธอนั้นด้อยค่า เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนเติบโตมาพอที่จะหาเลี้ยงและส่งตัวเองเรียนได้นั้นลำบากแทบขาดใจ แต่ด้วยความใฝ่ดีและสอบชิงทุนได้ เธอจึงได้เรียนในระดับปริญญา ทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดหรือเวลาเลิกจากฝึกงานเลี้ยงชีพ
"พี่ก็ไม่ได้คิดแบบที่แนนพูดเช่นกัน" ชายหนุ่มย้อนแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม เอี้ยวตัวนั่งมองตรงไม่สบตาหรือมองหน้าเธอ เมื่อเขานั้นเหมือนจะสิ้นหนทางเพราะเธอนั้นเอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้
"พี่เจ อึก ฮึก....แนน อึก แนนไม่มีพ่อแม่...แนนโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แนนไม่ได้มีค่าคู่ควรกับพี่เลยสักนิด" น้ำเสียงเศร้าเคล้าเสียงสะอื้นไห้ น้ำตาพร้อมรินไหลเสมอชีวิตที่เธอประสบพบเจอทำให้ไม่สามารถเก็บกั้น....เธอชอบชายหนุ่มตรงหน้าเช่นกันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ..... แต่คำว่าไม่คู่ควรมันสะกิดให้เธอนั้นย้ำเตือนตัวเองว่าเธอกับเขานั้นแตกต่างกัน....ชายหนุ่มที่ได้ยินน้ำเสียงผิดแปลกไปจำต้องหันมามอง เขามองเธอด้วยแววตาที่ต้องการปลอบประโลม สิ่งที่เธอบอกเล่ามาทำให้หัวใจของเขานั้นสั่นระรัว และน้ำเสียงร้องไห้ น้ำตาที่รินไหลทำให้เขาอยากจะกอดปลอบ
....สองแขนแกร่งไม่รีรอต่อการกระทำ หัวใจมันสั่งว่าให้โอบกอดหญิงตรงหน้าที่ร้องไห้มือปิดหน้าด้วยความเศร้า ฝ่ามือหนาลูบหลังหญิงสาวอย่างแผ่วเบา เป็นสัมผัสของการปกป้องที่อบอุ่นหัวใจ มันยิ่งทำให้หญิงสาวนั้นร้องไห้หนักด้วยความซาบซึ้ง
"พี่ไม่เคยตำหนิชีวิตใครว่าเป็นยังไง....สิ่งที่พี่ใช้ตัดสินนั้นคือหัวใจ พี่ใช้หัวใจมองคนที่รักไม่ใช่ดวงตา...พี่จะไม่บังคับให้แนนตอบรับตอนนี้ แต่อย่าเพิ่งปฏิเสธพี่ได้ไหมครับ" ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวพร้อมพูดสาธยายความรู้สึกลึก ๆ ข้างใน ละกอดจากหญิงสาวพร้อมกับนิ้วมือลูบเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ ดวงตาสองคู่มองกันด้วยความหวั่นไหว หัวใจก็เต้นแรงอย่างไม่อาจหักห้ามความรู้สึกได้เมื่อสองใจนั้นตรงกัน
"งืออออ ฮืออออ งื้ออออ" อยู่ ๆ เสียงแหลมเล็กก็ร้องขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่กำลังซึ้งใจหันมามองด้วยความตกใจ
"น้องไอติมหนูเป็นอะไรลูก....ร้องไห้ทำไมคะ?" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามกับอาการของลูกสาวตัวกลม
"พี่แนนร้องไห้ค่ะคูมพ่อ...อึก ฮึก ฮือออ" เด็กหญิงบอกกล่าว
"แล้วยังไง พ่อไม่เข้าใจ?"
"กลัวพี่แนนไม่มีเพื่อน น้องไอติมเลยร้องไห้เป็นเพื่อนพี่แนนค่ะ อึก ฮึก" เด็กหญิงคลายความสงสัยให้แก่ผู้ใหญ่ทั้งสองที่จ้องมองมาทางเธออย่างรอคำตอบ
((ฮ่าฮ่า...อึก ฮึก...คิก คิก ฮ่า))
คำตอบที่ได้ยินทำให้ทั้งเขาและเธอรวมถึงเจ้าของเสียงร้องไห้หัวเราะร่ากับความเดียงสาของเด็กหญิงที่แสนจะน่ารัก
"คบกับพี่นะครับ" เมื่อหัวเราะจนพอใจและเด็กหญิงมีรอยยิ้ม ชายหนุ่มจึงหันหน้ากลับมาแล้วเอ่ยร้องขอต่อหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นละมุนเหลือแสน
"อืม" หญิงสาวตอบรับทั้งน้ำตาด้วยความเต็มใจและซาบซึ้งอย่างมาก คำพูดที่หนักแน่นความอบอุ่นละมุนที่เขาแสดงต่อเธอมันทำให้อคติในใจนั้นมลายหายไป
"ขอบคุณนะครับ...ที่ไม่รังเกียจผู้ชายลูกติดอย่างพี่" ชายหนุ่มโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความดีใจ กอดแน่นเพื่อให้เธอนั้นสัมผัสได้ถึงหัวใจของเขาที่มี
"รักกัน ๆ ....น้องไอติมกอดด้วยค่ะ" เด็กหญิงที่หยุดร้องไห้กระโจนกอดคอผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความประสา ไม่รู้ความหมายของการโอบกอดนี้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมความรักนี้
"น้องไอติมเรียกแม่แนนสิ" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มของความปลื้มใจ
"เย้ ๆ เรียกแม่แนนได้แล้ว.....คูมแม่แนนขา"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ