สามี
8.0
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.13 น.
46 ตอน
2 วิจารณ์
17.06K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 09.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) พี่แนนยิ้มสวยสุด ๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสามี (21)
"แจงพี่วานหน่อยสิ" เสียงของผู้เป็นนายเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานหยุดยืนข้างโต๊ะทำงานของเลขา
"ค่ะพี่เจ" แจงรีบรับคำ
"ไปซื้อเสื้อขนาดตัวเท่าแนนมาให้หน่อย" เจสั่งการออกไปตามตรงดั่งที่ตั้งใจ จะให้แนนนั้นทำงานด้วยการใส่เสื้อที่ขาดวิ่นแบบนั้นทั้งวันได้อย่างไร เนื้อแขนขาว ๆ ที่โชว์หราคงไม่เป็นการดี
"เสื้อเหรอคะ?" แจงย้อนแย้งขึ้นอย่างสงสัยพรางส่งสายตามองหน้าผู้เป็นนายอย่างจับจ้อง
"อืม....พอดีเสื้อแนนขาดถ้าให้น้องใส่เสื้อแบบนั้นนั่งทำงานทั้งวันคงจะดูไม่ดี แจงไปหาซื้อมาให้น้องที" เจว่ากล่าวแม้ลึก ๆ จะรู้สึกเขินอาย เมื่อสายตาของเลขาสาวนั้นจ้องมองอย่างจับพิรุธและลอบยิ้มอ่อน
"พี่เจ......ฮั่นแน่" เเจงมองหน้าผู้เป็นนายพร้อมรอยยิ้ม พรางชี้นิ้วส่ายไปมาอย่างแซว ๆ
"อะไร ๆ รีบไปเร็ว ๆ จะได้มาทำงานต่อ" เจที่มีอาการเขินอายเมื่อเลขานั้นแซวจนต้องหาทางบ่ายเบี่ยงแก้เขิน
"ค่ะ ๆ .... ไปหามาประเคนเดี๋ยวนี้ค่ะเจ้านายสุดหล่อ" แจงพูดพร่ำพร้อมกับสะพายกระเป๋าใบโปรด
"รีบไปสิมามองหน้าพี่ทำไม?" เจย้อนถามเมื่อแจงนั้นเหมือนเตรียมตัวแล้วเสร็จแต่ยังจ้องมองหน้าเขาอยู่
"ไปยังไม่ได้ค่ะ...เงินไม่มาเลขาก้าวขาไม่ออกค่ะ" แจงแทรกขึ้นพร้อมกับแบมือยื่นตรงหน้าผู้เป็นนาย
"ขี้งกว่ะ" เจบ่นเบา ๆ อย่างเย้าแย่แต่ก็ล้วงหยิบเงินวางบนมือของแจงด้วยแบงก์สีเทา
"ได้ไงล่ะคะพี่เจ ซื้อของให้ผู้หญิงก็ต้องใช้เงินตัวเองสิคะ หญิงถึงจะประทับใจ" แจงพูดแซวอย่างแนะนำ
"แจงก็มาเบิกตามหลังก็ได้ไหม?" เจย้อนพรางส่ายหัวระอากับแม่เลขาตัวแสบ
"ตอนนี้แจงทรัพย์จางค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ไป ๆ พูดมากอยู่นั่น" เจรีบออกปากไล่ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน
จากที่ยิ้มแย้มเมื่อเดินย่างเข้ามายังสถานที่ทำงานส่วนตัว เจปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบ ใช้เพียงหางตามองไปยังหญิงสาวที่เล่นหยอกล้อกับลูกสาวอย่างสนุกสนาน สายตาเหลือบมองเห็นว่าแนนนั้นมองตามเขาตั้งแต่ที่เดินเข้ามายังห้องไปจนเจนั่งลงทำงานอย่างตั้งใจ
สิ่งที่สัมผัสได้ถึงแววตาที่มองมานั้น เหมือนดั่งเธออยากจะพูดคุยแต่ยังกระอักกระอวลที่จะพูดคุย เขาจึงไม่สนใจก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างตั้งใจ ไม่ขับไล่หรือบอกว่าเวลานี้เธอควรจะทำงาน เมื่อเขาพอใจแล้วกับการที่แนนนั้นนั่งเล่นอยู่ในห้องนี้เป็นเพื่อนลูกสาว
"พี่แนนขา..." เสียงแหลมใสของเด็กหญิงไอติมดังขึ้นจนทำให้แนนนั้นต้องหันเหสายตามาสนใจเธอ
"ว่าไงคะ?"
"พี่แนนเป็นอะไรไปเหรอคะ...ทำไมหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะ เล่นกับไอติมไม่สนุกเหรอ" เด็กหญิงที่เห็นสีหน้าแนนไม่สดใสดังเก่า จึงท้วงขึ้นตามประสาเมื่อสงสัยก็ถามตรง ๆ
"เปล่าค่ะ เล่นกับไอติมสนุกที่สุด"
"ไม่เห็นยิ้มเลย" เด็กหญิงเอ่ยทัก รอยยิ้มของแนนหายไปตั้งแต่ที่เธอนั้นโกหกผู้ชายตรงหน้า ด้วยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยากอธิบายเมื่อเขานั้นดูเฉยชา แต่ก็ไม่กล้าพอด้วยเธอนั้นเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงาน สิ่งที่ทำไปก็แค่ไม่อยากให้มีปัญหากับใครจนบานปลาย ด้วยนิสัยไม่ชอบสุงสิงกับใครให้มากความด้วยเรื่องเล็กน้อย...เธอจึงคิดโกหกเขา
"ยิ้มเท่านี้พอไหม?" แนนหันไปสนใจเด็กหญิง เธอฉีกยิ้มกว้างให้เด็กหญิงได้เห็น แม้จะทำด้วยความฝืน ๆ เพราะมีสิ่งที่กังวลอยู่ในใจ
"พี่แนนยิ้มสวยสุดๆ" เด็กหญิงที่ไร้เดียงสาเอ่ยปากชม
คนที่นั่งนิ่งก้มตาเมื่อได้ยินลูกสาวพูดขึ้นอย่างมีความสุข จนเขานั้นอดไม่ได้เลยที่จะเงยหน้าไปมอง สายตาคมจับจ้องมองหญิงสาวที่กำลังฉีกยิ้มอย่างเอาใจเด็กหญิง เขาอยากมองเธอแบบนี้ ยิ่งได้มองก็ยิ่งทำให้หัวใจชายที่อายุมากกว่าเต้นแรง ความสดใสของเธอที่เข้ากันได้กับลูกสาวยิ่งทำให้เจนั้นแทบไม่อยากจะละห่างสายตา การจ้องมองอยู่ชั่วครู่ไม่วางตา จนแนนที่รู้ตัวนั้นหันมามองทั้งที่ตัวเองยังคงยิ้มค้างจากการเล่นกับเด็กหญิงไอติม
ติ่ง เสียงข้อความจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังแจ้งเตือน หน้าจอข้อความบ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการนั้นมาถึงแล้ว เสื้อที่เขาไหว้วานใช้แจงไปซื้อให้เพื่อจะมอบมันให้แก่แนนได้สวมใส่
สองขายาวก้าวเดินออกจากห้องไป โดยที่แนนนั้นก็มองตามแผ่นหลังหนาจนลับตาไป เธอไม่สบายใจกับท่าทีเฉยชาเมินใส่เธอแบบนี้แม้รู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจ แต่การที่ถูกเขาจับได้ว่าโกหกมันทำให้เธอนั้นกังวลไม่น้อย ด้วยไม่รู้เช่นกันว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน แต่เธอไม่อยากให้เขามองเธอไม่ดี ทั้งที่เขาบอกว่าไม่ชอบคนที่โกหก...
"แจงพี่วานหน่อยสิ" เสียงของผู้เป็นนายเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานหยุดยืนข้างโต๊ะทำงานของเลขา
"ค่ะพี่เจ" แจงรีบรับคำ
"ไปซื้อเสื้อขนาดตัวเท่าแนนมาให้หน่อย" เจสั่งการออกไปตามตรงดั่งที่ตั้งใจ จะให้แนนนั้นทำงานด้วยการใส่เสื้อที่ขาดวิ่นแบบนั้นทั้งวันได้อย่างไร เนื้อแขนขาว ๆ ที่โชว์หราคงไม่เป็นการดี
"เสื้อเหรอคะ?" แจงย้อนแย้งขึ้นอย่างสงสัยพรางส่งสายตามองหน้าผู้เป็นนายอย่างจับจ้อง
"อืม....พอดีเสื้อแนนขาดถ้าให้น้องใส่เสื้อแบบนั้นนั่งทำงานทั้งวันคงจะดูไม่ดี แจงไปหาซื้อมาให้น้องที" เจว่ากล่าวแม้ลึก ๆ จะรู้สึกเขินอาย เมื่อสายตาของเลขาสาวนั้นจ้องมองอย่างจับพิรุธและลอบยิ้มอ่อน
"พี่เจ......ฮั่นแน่" เเจงมองหน้าผู้เป็นนายพร้อมรอยยิ้ม พรางชี้นิ้วส่ายไปมาอย่างแซว ๆ
"อะไร ๆ รีบไปเร็ว ๆ จะได้มาทำงานต่อ" เจที่มีอาการเขินอายเมื่อเลขานั้นแซวจนต้องหาทางบ่ายเบี่ยงแก้เขิน
"ค่ะ ๆ .... ไปหามาประเคนเดี๋ยวนี้ค่ะเจ้านายสุดหล่อ" แจงพูดพร่ำพร้อมกับสะพายกระเป๋าใบโปรด
"รีบไปสิมามองหน้าพี่ทำไม?" เจย้อนถามเมื่อแจงนั้นเหมือนเตรียมตัวแล้วเสร็จแต่ยังจ้องมองหน้าเขาอยู่
"ไปยังไม่ได้ค่ะ...เงินไม่มาเลขาก้าวขาไม่ออกค่ะ" แจงแทรกขึ้นพร้อมกับแบมือยื่นตรงหน้าผู้เป็นนาย
"ขี้งกว่ะ" เจบ่นเบา ๆ อย่างเย้าแย่แต่ก็ล้วงหยิบเงินวางบนมือของแจงด้วยแบงก์สีเทา
"ได้ไงล่ะคะพี่เจ ซื้อของให้ผู้หญิงก็ต้องใช้เงินตัวเองสิคะ หญิงถึงจะประทับใจ" แจงพูดแซวอย่างแนะนำ
"แจงก็มาเบิกตามหลังก็ได้ไหม?" เจย้อนพรางส่ายหัวระอากับแม่เลขาตัวแสบ
"ตอนนี้แจงทรัพย์จางค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ไป ๆ พูดมากอยู่นั่น" เจรีบออกปากไล่ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน
จากที่ยิ้มแย้มเมื่อเดินย่างเข้ามายังสถานที่ทำงานส่วนตัว เจปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบ ใช้เพียงหางตามองไปยังหญิงสาวที่เล่นหยอกล้อกับลูกสาวอย่างสนุกสนาน สายตาเหลือบมองเห็นว่าแนนนั้นมองตามเขาตั้งแต่ที่เดินเข้ามายังห้องไปจนเจนั่งลงทำงานอย่างตั้งใจ
สิ่งที่สัมผัสได้ถึงแววตาที่มองมานั้น เหมือนดั่งเธออยากจะพูดคุยแต่ยังกระอักกระอวลที่จะพูดคุย เขาจึงไม่สนใจก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างตั้งใจ ไม่ขับไล่หรือบอกว่าเวลานี้เธอควรจะทำงาน เมื่อเขาพอใจแล้วกับการที่แนนนั้นนั่งเล่นอยู่ในห้องนี้เป็นเพื่อนลูกสาว
"พี่แนนขา..." เสียงแหลมใสของเด็กหญิงไอติมดังขึ้นจนทำให้แนนนั้นต้องหันเหสายตามาสนใจเธอ
"ว่าไงคะ?"
"พี่แนนเป็นอะไรไปเหรอคะ...ทำไมหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะ เล่นกับไอติมไม่สนุกเหรอ" เด็กหญิงที่เห็นสีหน้าแนนไม่สดใสดังเก่า จึงท้วงขึ้นตามประสาเมื่อสงสัยก็ถามตรง ๆ
"เปล่าค่ะ เล่นกับไอติมสนุกที่สุด"
"ไม่เห็นยิ้มเลย" เด็กหญิงเอ่ยทัก รอยยิ้มของแนนหายไปตั้งแต่ที่เธอนั้นโกหกผู้ชายตรงหน้า ด้วยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยากอธิบายเมื่อเขานั้นดูเฉยชา แต่ก็ไม่กล้าพอด้วยเธอนั้นเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงาน สิ่งที่ทำไปก็แค่ไม่อยากให้มีปัญหากับใครจนบานปลาย ด้วยนิสัยไม่ชอบสุงสิงกับใครให้มากความด้วยเรื่องเล็กน้อย...เธอจึงคิดโกหกเขา
"ยิ้มเท่านี้พอไหม?" แนนหันไปสนใจเด็กหญิง เธอฉีกยิ้มกว้างให้เด็กหญิงได้เห็น แม้จะทำด้วยความฝืน ๆ เพราะมีสิ่งที่กังวลอยู่ในใจ
"พี่แนนยิ้มสวยสุดๆ" เด็กหญิงที่ไร้เดียงสาเอ่ยปากชม
คนที่นั่งนิ่งก้มตาเมื่อได้ยินลูกสาวพูดขึ้นอย่างมีความสุข จนเขานั้นอดไม่ได้เลยที่จะเงยหน้าไปมอง สายตาคมจับจ้องมองหญิงสาวที่กำลังฉีกยิ้มอย่างเอาใจเด็กหญิง เขาอยากมองเธอแบบนี้ ยิ่งได้มองก็ยิ่งทำให้หัวใจชายที่อายุมากกว่าเต้นแรง ความสดใสของเธอที่เข้ากันได้กับลูกสาวยิ่งทำให้เจนั้นแทบไม่อยากจะละห่างสายตา การจ้องมองอยู่ชั่วครู่ไม่วางตา จนแนนที่รู้ตัวนั้นหันมามองทั้งที่ตัวเองยังคงยิ้มค้างจากการเล่นกับเด็กหญิงไอติม
ติ่ง เสียงข้อความจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังแจ้งเตือน หน้าจอข้อความบ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการนั้นมาถึงแล้ว เสื้อที่เขาไหว้วานใช้แจงไปซื้อให้เพื่อจะมอบมันให้แก่แนนได้สวมใส่
สองขายาวก้าวเดินออกจากห้องไป โดยที่แนนนั้นก็มองตามแผ่นหลังหนาจนลับตาไป เธอไม่สบายใจกับท่าทีเฉยชาเมินใส่เธอแบบนี้แม้รู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจ แต่การที่ถูกเขาจับได้ว่าโกหกมันทำให้เธอนั้นกังวลไม่น้อย ด้วยไม่รู้เช่นกันว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน แต่เธอไม่อยากให้เขามองเธอไม่ดี ทั้งที่เขาบอกว่าไม่ชอบคนที่โกหก...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ