ชะตาพารัก
-
1) โชคชะตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในช่วงวัยสิบสามปีของผม ผมได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันหมอนั่นเดินเข้ามาทักทายผมในระหว่างที่ผมกำลังทำความสะอาดลานทางเข้าสถานสงเคราะห์ ซึ่งมันคือบ้านที่ผมอาศัยอยู่ตั้งแต่ผมเกิดมาครับ
หมอนั่นแต่งตัวดูดีดูมีฐานะร่ำรวยเนื้อตัวขาวสะอาดสะอ้านจนตัวผมที่พอลองมองสำรวจตัวเองกับรู้สึกอับอายในความต่างของเราสองคน ความห่างชั้นของพวกเรานั้นมันช่างมากมายเหลือเกินครับ
ทำไมถึงได้เกิดมาต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้นะ นั่นคือสิ่งที่ผมได้คิดอยู่ในเวลานั้น
" นายน่ะ มีคนจับจองหรือยัง "
คำถามแรกที่หมอนั่นเข้ามาถามผม ผมที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรกับคนแปลกหน้าอย่างผมกันแน่ ผมก็ได้แต่ยืนมองหน้าโดยที่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขากลับไป
ผมเดินเว้นระยะห่างออกมาจากหมอนั่นเล็กน้อยและหันทำความสะอาดลานทางเข้าของผมต่อตามเดิม
" โอเครไม่ต้องตอบก็ได้ เอาเป็นว่าฉันถูกใจนายเข้าให้แล้วฉัน….ขอเลือกนายก็แล้วกันนะ นายชื่ออะไร…. "
ไนท์ที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็ได้แต่สงสัยในเจตนาของเด็กชายแปลกหน้าด้านหน้าเขา แต่ถึงจะไม่เข้าใจไนท์ก็ยังตอบกลับตามมารยาทตามที่พี่เลี้ยงได้เฝ้าสอนเขามา
" ไนท์ครับ " ตอบเสียงเรียบ
" นายรออยู่ตรงนี้นะไนท์ รอนะ รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะห้ามหนีไปไหนเด็ดขาดเดี๋ยวฉันกลับมา "
พูดจบเด็กชายก็รีบวิ่งแล่นไปหาผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าที่รื่นรมย์ใจ เด็กชายแต่งตัวดูดีพูดคุยบางอย่างกับผู้เป็นพ่อ ไม่นานนักชายรูปร่างสูงใหญ่สายตาเฉียบคมดูมีภูมิฐานมาดคุณชายก็ได้เดินตรงเข้ามาหาไนท์ที่กำลังยืนทำความสะอาดของเขาอยู่
" เป็นไงครับฟาร์ ผมเลือกเขาได้ไหม " เด็กชายยังคงมองไนท์ด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับอย่างกับได้เห็นเพชรเม็ดงามตรงหน้าของเขา
" มันก็ได้อยู่หรอก แต่...เขาเป็นผู้ชายนะอีธาน ลูกแน่ใจแล้วงั้นหรอ แน่ใจแล้วใช่ไหม "
" ครับ ผมแน่ใจ " ผู้เป็นพ่อชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแต่เมื่อได้เห็นแววตาที่ดูเอาจริงเอาจังคู่นั้นของลูกชายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาและต้องยอมรับมันแต่โดยดี
ฉันต้องยอมรับการตัดสินใจที่แสนสำคัญในครั้งนี้ของลูกชายซินะ ฟาร์ได้แต่มองเข้าไปในดวงตาอันเด็ดเดี่ยวของลูกชายคู่ใสแจ๋วตรงหน้า
" ลูกไม่สามารถเปลี่ยนใจได้อีกแล้วนะ ลูกรู้ใช่ไหม " ฟาร์ได้หันถามย้ำกับลูกชายของเขาอีกครั้งหนึ่ง
" ครับผมแน่ใจ "
นั่นคือการพบเจอกันครั้งแรกของอีธานและไนท์ผู้ที่ถูกโชคชะตากำหนดไว้ให้มีชะตาร่วมกัน
ปัจจุบัน
" นายกำลังทำอะไร ฉันบอกไว้แล้วไม่ใช่หรือไงว่าเรามีนัดไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันน่ะ " เสียงพูดกึ่งตำหนิกึ่งงอนเพื่อนสนิทที่มักจะลืมนัดของเขาได้ตลอดเวลาทำให้อีธานหนุ่มรูปหล่อมาดคุณชายได้มีสีหน้าที่บึ้งตึงไม่พอใจ
" ฉันมีงานต้องทำความสะอาดต่อจะให้ออกไปข้างนอกเที่ยวเล่นกับนายมันไม่ได้หรอกนะอีธาน " ไนท์พูดไปทำความสะอาดแจกันไป
" เรื่องทำความสะอาดมันไม่ได้สำคัญอะไร ก็ให้แม่บ้านเขาทำแทนไปดิ "
" ฉันอยากทำความสะอาดด้วยตัวของฉันเอง และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้รับนัดของนายตั้งแต่แรกหนิ เพราะฉะนั้นฉันขอไม่ไปนะ " พูดจบไนท์ก็เลี่ยงเดินไปทำความสะอาดที่โต๊ะอีกด้านหนึ่งต่อ
" เฮ้ย มันอะไรกันนักกันหนากับอีแค่เรื่องทำความสะอาดเนี่ย ฉันบอกว่าไม่ต้องทำก็ไม่ต้องทำซิวะ "
เสียงที่เริ่มบอกให้รู้ว่าอีธานนั้นกำลังไม่พอใจกับการหมางเมินของเพื่อนสนิททำให้คนรับใช้ทั้งสามคนที่กำลังถูพื้นห้องอยู่ใกล้ๆ ต้องรีบปลีกตัวออกไปจากห้องอย่างรีบเร่ง
" นายเป็นลูกชายของท่านฟาร์ ส่วนฉันเป็นเด็กที่ถูกท่านฟาร์รับเลี้ยงไว้ นายยังจะมาถามฉันอีกหรอว่าฉันทำแบบนี้ไปทำไมน่ะอีธาน " ไนด์พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาต่ออีธาน
" จะรับมาเลี้ยงหรือยังไงฉันไม่สน ฉันสนแค่ว่านายคือคนที่ฉันได้เลือกแล้วเท่านั้น "
" นายก็พูดแบบนี้มาตลอด คนที่ถูกเลือกมันทำไมงั้นหรอ นายก็บอกฉันมาสักทีซิ " ไนท์หันตอกกลับอีธานด้วยคำพูดที่จริงจังกว่าครั้งไหน
อีธานได้แต่กัดเม้มปากแน่นไม่ตอบคำถามที่ไนท์ถามเขา เขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบเพราะมีเหตุผลมากมายที่อีธานคิดว่าถ้าเขาได้พูดความจริงบางอย่างออกไปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไนท์มันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปและไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก
" นั่นไง นายก็เงียบเหมือนเคย " สายตาจ้องมองใบหน้าที่เรียบนิ่งที่เอาแต่ปิดปากไม่ยอมตอบอะไรกลับมาทำให้ไนท์รู้สึกถอดใจกับสิ่งที่อีธานพยายามทำให้เขานั้นต้องไขว้เขวและคิดมากมาตลอด
" แค่นายรู้ไว้ก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจมันหรอก " และนี้คือคำตอบเดียวที่ออกมาจากปากของอีธาน ลูกของผู้มีพระคุณของไนท์
" เลิกล้อเล่นได้แล้วฉันเบื่อฟังเรื่องพวกนี้ของนายแล้วอีธาน ฉันขอทำงานของฉันต่อเถอะ ส่วนนาย…..ลองไปหาคนที่เขาอยากไปกับนายดูซิ ฉันว่าหน้าจะมีเกลื่อนบริษัทนายเลยล่ะมั้ง " ไนท์หันกลับทำความสะอาดต่อโดยไม่สนใจหันมองใบหน้าที่กำลังเศร้าหมองลงด้านข้าง
อีธานเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ทิ้งไว้แค่เพียงความรู้สึกที่หวงแหนอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ยากจะได้ครอบครองมันไว้ในอ้อมแขน
“เฮ้อ…อะไรของหมอนั่นกันนะ” ไนท์ที่พอเห็นว่าอีธานเดินออกไปไกลก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ
ผมไม่เข้าใจอีธานเลยครับ ตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ที่นี่ก็นานหลายปีตั้งแต่ผมอายุสิบสามจนถึงตอนนี้ก็ยี่สิบห้าปีแล้ว อีธานมักจะบอกกับผมอยู่เสมอว่าผมนั้นเป็นคนที่เขาได้เลือกแล้ว และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจมันตลอดมา
ผมไม่เข้าใจในความหมายที่เขาบอกผมเลยด้วยซ้ำ ผมเองก็ลองถามเขาดูหลายครั้งแล้วนะครับว่าเขาหมายความว่ายังไง อะไรคือความหมายที่เขาต้องการจะสื่อกันแน่
แล้วก็นั่นแหละครับสิ่งที่ผมได้กลับมาคือการที่เขามักจะเงียบตอบผมเสมอเหมือนกับเมื่อสักครู่นี้
เฮ้อ อยากจะถอนหายใจมันวันละหลายพันรอบ เพื่อนสนิทของผมคนนี้ช่างเข้าใจยากเหลือเกินครับ
มันอะไรกันนะ?
หลังจากวันนั้นอีธานก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องของเขาตลอดและมักจะเรียกให้ผู้หญิงหน้าตาสะสวยเข้าไปทุกๆ ครึ่งชั่วโมงโดยผลัดเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันเข้าไปในแต่ละวัน
บางครั้งความเป็นเพื่อนของเราสองคนก็ไม่ได้แปลว่าเราสองคนจะสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาได้ทุกอย่าง บางสิ่งบางอย่างก็ยากเกินจะเข้าใจได้ สำหรับผม ผมบอกได้คำเดียวผมไม่เข้าใจอีธานเลยสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ดวงตาคมกริบของหมอนั่นนับวันเข้าสายตาที่เขาจ้องมองมายังผม มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย ไม่รู้ว่าอีธานเขาคิดอะไร ต้องการอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมมักสงสัยเวลาที่ผมสังเกตเห็นแววตาคู่นั้นของเขา
ปกติก็เข้าใจยากอยู่แล้ว ไม่รู้ทำไมยิ่งพวกเราเติบโตมากขึ้นเท่าไรผมกับหมอนั่นก็ยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้นเท่านั้น
" ออกไปให้พ้น " เสียงตวาดดังลั่นห้อง ทั่วทั้งคฤหาสน์ต่างพากันตกใจในเสียงที่รอดออกมานอกห้อง
" กรี๊ดด... " จู่ ๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็วิ่งหอบผ้าผ่อนออกมานอกห้องของอีธาน สีหน้าของเธอดูตื่นกลัวกับอะไรบางอย่างเป็นอย่างมาก
อีกแล้วซินะ…..ไนท์ได้แต่มองหญิงสาวที่วิ่งไม่คิดชีวิตออกจากคฤหาสน์อย่างเวทนาและสงสารผู้หญิงเหล่านั้นจับใจ
อีธานได้ไล่ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจออกนอกห้องอย่างไม่สนใจไยดีใครหน้าไหน สภาพของหญิงสาวที่ถูกไล่ออกมา นอกจากจะน่าสงสารพวกเธอยังมีร่องรอยฟกช้ำที่ขึ้นรอยสีม่วงตามเนื้อตัวของเธออีกด้วย
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ? อีธานทุบตีพวกเธองั้นหรอ
ไนท์ที่ทนเห็นผู้หญิงมากมายต่างเจ็บตัวก็ทนไม่ไหวไนท์ได้เดินเข้าไปในห้องของอีธานอย่างเดือดดาลไม่พอใจ
" อีธานนายทำเกินไปหรือเปล่า "
สภาพของอีธานที่ไนท์ได้เห็นเมื่อแรกที่เขาเข้าไปคือภาพที่อีธานกำลังนอนแผ่หล่าอยู่บนเตียงใหญ่ เสื้อไม่ได้ใส่ส่วนท่อนล่างนั้นก็คาดว่าไม่ได้สวมอะไรไว้เช่นกัน แต่ยังดีที่ยังมีผ้าห่มผืนหนาปิดมิดชิดส่วนล่างของเขาเอาไว้
" นายเข้ามาในนี้ทำไม ออกไปให้พ้น " อีธานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างที่ไนท์ไม่เคยได้ยินมาก่อน
" ฉันขอพูดอะไรก่อนออกไปละกัน นายมันทำเกินไปอีธาน พวกเธอก็มีพ่อมีแม่นายจะทำกับพวกเธอแบบนี้ไม่ได้ นายช่วยถนุถนอมพวกเธอหน่อยไม่ได้หรือไงแค่นี้นายคงทำได้ใช่ไหม "
" ออกไป " เสียงตวาดที่ดังขึ้นทำเอาไนท์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสะดุ้งตกใจ
" หัดฟังกันบ้างซิ ไหนนายบอกว่าฉันเป็นเพื่อนนายไงอีธาน เพื่อนก็ต้องรับฟังเพื่อนซิ นายเป็นคนพูดคำนี้เองไม่ใช่หรือไง ว่าหากว่าวันไหนฉันมีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็ให้บอกนายนายจะรับฟังเพื่อนอย่างฉันทุกอย่าง มันไม่จริงแล้วใช่ไหม " ไนท์พยายามควบคุมอารมณ์และใช้เหตุผลเข้าพูด แต่ทว่ามันกับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
" บอกให้ออกไปให้พ้น หูหนวกหรือไงวะ " น้ำเสียงตวาดที่ทำให้ไนท์ที่ยืนอยู่สะดุ้งตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
“อะ..อึ่ม....ได้ซิ” สีหน้าที่บอกออกมาว่าไนท์รู้สึกแย่กับสถานการณ์ตอนนี้ขนาดไหนนั้นทำให้เขาได้พูดสิ่งที่เขาเผลอคิดออกมา
" ฉันจะออกไปจากห้องของนายและก็จะออกไปจากที่นี่ด้วย " ไนท์พูดในขณะที่เขากำลังหันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากห้องของอีธาน
" ไม่ อย่าไป ฉัน…… " เสียงที่อ่อนแรงลงทำให้ไนท์ที่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้องไปนั้นหยุดมือก่อนจะหันกลับมองอีธาน
" ......... " อีธานลุกขึ้นนั่งและหันหน้ามองสบตากับไนท์ ใบหน้าของอีธานขาวซีดเหมือนกับคนขาดสารอาหารอะไรบางอย่าง
" ……ขอโทษที่เผลอหงุดหงิดใส่นายไป แล้วก็ขอโทษที่ทำกับพวกเธอไปแบบนั้นด้วย แต่…มันก็เป็นเพราะนายไม่ใช่รีไง " ไนท์เดินหมุนกลับทันทีที่ได้ยินในสิ่งที่อีธานได้พูดออกมาเสียงอันแผ่วเบา
อีธานที่ได้ลุกขึ้นนั่งจ้องมองไนท์อยู่ก่อนได้แต่มองไนท์ด้วยสายตาที่คล้ายต่อว่าอีกฝ่าย
" อะไร? " ฉันทำอะไรนายอีธาน
" ไนท์นายอาจไม่เคยรู้มาก่อนเพราะฉันไม่เคยต้องการให้นายต้องมารับรู้เรื่องราวของฉัน ครอบครัวของฉัน คนในตระกูลฉันแต่ว่าวันนี้ฉันคงต้องบอกนายแล้ว นายคงอยากจะรู้มันมาตลอดใช่ไหม งั้นนายก็ถามฉันมาซิ " อีธานมองหน้าไนท์ในขณะที่เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าดูจริงจังจนเดาทางไม่ออก
“ทำไมถึงทำกับพวกเธอแบบนั้น”
“เพราะอดกลั่นมานาน ฉันยั้งมือไม่ไหว” ตอบเสียงสั่นก่อนจะหลบสายตาของไนท์
" อดกลั้นอะไร " ไนท์ที่สงสัยได้ถามขึ้น
“……….” แล้วอีธานก็เงียบไปอีกครั้ง
“อีธาน ฉันถามนายอยู่” ไนท์เข่นเอาคำตอบจากอีธาน
“สิ่งนั้นน่ะ…ก็เพราะนายไง ไนท์” อีธานพูดด้วยแววตาที่เศร้าลงเล็กน้อย เขาที่หลีกเลี่ยงไม่ให้ไนท์รับรู้มาตลอดสิบสองปี ตอนนี้เขากำลังที่จะต้องเปิดเผยมันออกมาทั้งหมดและบอกความจริงกับไนท์
“เป็นเพราะฉัน เป็นไปได้ ได้ยังไง” บ้าน่า ทุกอย่างเพราะฉันงั้นหรอ หมอนี้เอาอะไรมาโทษผม
" ตอนนี้น่ะมันเป็นวัยที่ฉันควรที่จะได้นายมาครอบครองแล้ว แต่ฉันไม่อยากที่จะบังคับฝืนใจนายฉันถึงต้องใช้พวกผู้หญิงเหล่านั้นมาดับความอยากที่แทบบ้าคลั่งในแต่ละวันของฉัน แต่มันก็ยังไม่พอ ไม่พออยู่ดี เพราะพวกหล่อนไม่ใช่นายไงไนท์ นายรู้ไหมว่าฉันต้องการนายมากขนาดไหน " แววตาที่อีธานจ้องมองไปยังไนท์เป็นสายตาที่กำลังบอกออกไปว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกมานั้นมันคือเรื่องจริง
“ต้องการฉันทำไม” ไนท์ยังคงถามคำถามที่ค้างคาใจเขาอยู่
“นายคือคนที่ฉันชอบ ชอบมาตลอดไม่รู้เลยหรือไง ซื่อบื้อชะมัด…”
สิ่งที่ไนท์รับรู้นั้นทำให้ไนท์ได้แต่ยืนนิ่งคิดประมวลผลที่เขาพึ่งได้ยินมาอย่างไม่อยากเชื่อกับหูตัวเอง
อะไร? นั่นคือความหมายที่หมอนั่นพยายามบอกผมมาโดยตลอดหรอ แล้วอะไรคือการที่ผมนั้นสามารถช่วยดับความอยากของอีธานได้กันล่ะ
ผมเป็นผู้ชายนะ?
" อีธานฉันเป็นผู้ชายจะทำแบบนั้นกับนายได้ยังไง " ไนท์พยายามบอกอีธานด้วยท่าทางที่ดูสงบสติอารมณ์มากๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ที่จริงแล้วไนท์รู้สึกกระสับกระส่ายใจเป็นอย่างมาก
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเราสองคนเนี้ย……
" ฉันไม่สน ฉันสนแค่ว่านั่นเป็นนายไนท์ แค่นายคนเดียวที่ฉันต้องการ " เสียงแหบพร่าเล็กน้อยของอีธานทำให้ไนท์เผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความรู้สึกประหม่าป่นความสับสนกับเรื่องที่เขาได้ยิน
" ถ้านายยอมให้ฉันทำกับนายได้ พวกผู้หญิงเหล่านั้นก็จะไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป นายจะเอายังไงล่ะ ช่วยตัดสินใจตอนนี้ด้วยเพราะอีกสิบนาทีฉันจะไม่ทนอีกต่อไป รู้ใช่ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น "
สายตาเฉียบคมและดุดันจ้องมองไนท์ที่เดินถอยหลังยืนชิดติดประตูห้อง สายตาได้บ่งบอกกับคนตรงหน้าว่าเขานั้นจริงจังในสิ่งที่เขาพูดออกมามากขนาดไหน
" ฉัน....เอ่อ... "
" ผลจากสิ่งที่นายตอบจะกำหนดโชคชะตาของเรา ไนท์ "
โชคชะตางั้นหรอ
" โชคชะตาแบบไหน "
" ขึ้นอยู่กับนาย นายที่จะต้องเลือกมัน "
แล้วผมควรจะเลือกสิ่งไหนมันถึงจะถูกล่ะ?
หมอนั่นแต่งตัวดูดีดูมีฐานะร่ำรวยเนื้อตัวขาวสะอาดสะอ้านจนตัวผมที่พอลองมองสำรวจตัวเองกับรู้สึกอับอายในความต่างของเราสองคน ความห่างชั้นของพวกเรานั้นมันช่างมากมายเหลือเกินครับ
ทำไมถึงได้เกิดมาต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้นะ นั่นคือสิ่งที่ผมได้คิดอยู่ในเวลานั้น
" นายน่ะ มีคนจับจองหรือยัง "
คำถามแรกที่หมอนั่นเข้ามาถามผม ผมที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรกับคนแปลกหน้าอย่างผมกันแน่ ผมก็ได้แต่ยืนมองหน้าโดยที่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขากลับไป
ผมเดินเว้นระยะห่างออกมาจากหมอนั่นเล็กน้อยและหันทำความสะอาดลานทางเข้าของผมต่อตามเดิม
" โอเครไม่ต้องตอบก็ได้ เอาเป็นว่าฉันถูกใจนายเข้าให้แล้วฉัน….ขอเลือกนายก็แล้วกันนะ นายชื่ออะไร…. "
ไนท์ที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็ได้แต่สงสัยในเจตนาของเด็กชายแปลกหน้าด้านหน้าเขา แต่ถึงจะไม่เข้าใจไนท์ก็ยังตอบกลับตามมารยาทตามที่พี่เลี้ยงได้เฝ้าสอนเขามา
" ไนท์ครับ " ตอบเสียงเรียบ
" นายรออยู่ตรงนี้นะไนท์ รอนะ รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะห้ามหนีไปไหนเด็ดขาดเดี๋ยวฉันกลับมา "
พูดจบเด็กชายก็รีบวิ่งแล่นไปหาผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าที่รื่นรมย์ใจ เด็กชายแต่งตัวดูดีพูดคุยบางอย่างกับผู้เป็นพ่อ ไม่นานนักชายรูปร่างสูงใหญ่สายตาเฉียบคมดูมีภูมิฐานมาดคุณชายก็ได้เดินตรงเข้ามาหาไนท์ที่กำลังยืนทำความสะอาดของเขาอยู่
" เป็นไงครับฟาร์ ผมเลือกเขาได้ไหม " เด็กชายยังคงมองไนท์ด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับอย่างกับได้เห็นเพชรเม็ดงามตรงหน้าของเขา
" มันก็ได้อยู่หรอก แต่...เขาเป็นผู้ชายนะอีธาน ลูกแน่ใจแล้วงั้นหรอ แน่ใจแล้วใช่ไหม "
" ครับ ผมแน่ใจ " ผู้เป็นพ่อชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแต่เมื่อได้เห็นแววตาที่ดูเอาจริงเอาจังคู่นั้นของลูกชายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาและต้องยอมรับมันแต่โดยดี
ฉันต้องยอมรับการตัดสินใจที่แสนสำคัญในครั้งนี้ของลูกชายซินะ ฟาร์ได้แต่มองเข้าไปในดวงตาอันเด็ดเดี่ยวของลูกชายคู่ใสแจ๋วตรงหน้า
" ลูกไม่สามารถเปลี่ยนใจได้อีกแล้วนะ ลูกรู้ใช่ไหม " ฟาร์ได้หันถามย้ำกับลูกชายของเขาอีกครั้งหนึ่ง
" ครับผมแน่ใจ "
นั่นคือการพบเจอกันครั้งแรกของอีธานและไนท์ผู้ที่ถูกโชคชะตากำหนดไว้ให้มีชะตาร่วมกัน
ปัจจุบัน
" นายกำลังทำอะไร ฉันบอกไว้แล้วไม่ใช่หรือไงว่าเรามีนัดไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันน่ะ " เสียงพูดกึ่งตำหนิกึ่งงอนเพื่อนสนิทที่มักจะลืมนัดของเขาได้ตลอดเวลาทำให้อีธานหนุ่มรูปหล่อมาดคุณชายได้มีสีหน้าที่บึ้งตึงไม่พอใจ
" ฉันมีงานต้องทำความสะอาดต่อจะให้ออกไปข้างนอกเที่ยวเล่นกับนายมันไม่ได้หรอกนะอีธาน " ไนท์พูดไปทำความสะอาดแจกันไป
" เรื่องทำความสะอาดมันไม่ได้สำคัญอะไร ก็ให้แม่บ้านเขาทำแทนไปดิ "
" ฉันอยากทำความสะอาดด้วยตัวของฉันเอง และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้รับนัดของนายตั้งแต่แรกหนิ เพราะฉะนั้นฉันขอไม่ไปนะ " พูดจบไนท์ก็เลี่ยงเดินไปทำความสะอาดที่โต๊ะอีกด้านหนึ่งต่อ
" เฮ้ย มันอะไรกันนักกันหนากับอีแค่เรื่องทำความสะอาดเนี่ย ฉันบอกว่าไม่ต้องทำก็ไม่ต้องทำซิวะ "
เสียงที่เริ่มบอกให้รู้ว่าอีธานนั้นกำลังไม่พอใจกับการหมางเมินของเพื่อนสนิททำให้คนรับใช้ทั้งสามคนที่กำลังถูพื้นห้องอยู่ใกล้ๆ ต้องรีบปลีกตัวออกไปจากห้องอย่างรีบเร่ง
" นายเป็นลูกชายของท่านฟาร์ ส่วนฉันเป็นเด็กที่ถูกท่านฟาร์รับเลี้ยงไว้ นายยังจะมาถามฉันอีกหรอว่าฉันทำแบบนี้ไปทำไมน่ะอีธาน " ไนด์พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาต่ออีธาน
" จะรับมาเลี้ยงหรือยังไงฉันไม่สน ฉันสนแค่ว่านายคือคนที่ฉันได้เลือกแล้วเท่านั้น "
" นายก็พูดแบบนี้มาตลอด คนที่ถูกเลือกมันทำไมงั้นหรอ นายก็บอกฉันมาสักทีซิ " ไนท์หันตอกกลับอีธานด้วยคำพูดที่จริงจังกว่าครั้งไหน
อีธานได้แต่กัดเม้มปากแน่นไม่ตอบคำถามที่ไนท์ถามเขา เขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบเพราะมีเหตุผลมากมายที่อีธานคิดว่าถ้าเขาได้พูดความจริงบางอย่างออกไปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไนท์มันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปและไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก
" นั่นไง นายก็เงียบเหมือนเคย " สายตาจ้องมองใบหน้าที่เรียบนิ่งที่เอาแต่ปิดปากไม่ยอมตอบอะไรกลับมาทำให้ไนท์รู้สึกถอดใจกับสิ่งที่อีธานพยายามทำให้เขานั้นต้องไขว้เขวและคิดมากมาตลอด
" แค่นายรู้ไว้ก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจมันหรอก " และนี้คือคำตอบเดียวที่ออกมาจากปากของอีธาน ลูกของผู้มีพระคุณของไนท์
" เลิกล้อเล่นได้แล้วฉันเบื่อฟังเรื่องพวกนี้ของนายแล้วอีธาน ฉันขอทำงานของฉันต่อเถอะ ส่วนนาย…..ลองไปหาคนที่เขาอยากไปกับนายดูซิ ฉันว่าหน้าจะมีเกลื่อนบริษัทนายเลยล่ะมั้ง " ไนท์หันกลับทำความสะอาดต่อโดยไม่สนใจหันมองใบหน้าที่กำลังเศร้าหมองลงด้านข้าง
อีธานเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ทิ้งไว้แค่เพียงความรู้สึกที่หวงแหนอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ยากจะได้ครอบครองมันไว้ในอ้อมแขน
“เฮ้อ…อะไรของหมอนั่นกันนะ” ไนท์ที่พอเห็นว่าอีธานเดินออกไปไกลก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ
ผมไม่เข้าใจอีธานเลยครับ ตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ที่นี่ก็นานหลายปีตั้งแต่ผมอายุสิบสามจนถึงตอนนี้ก็ยี่สิบห้าปีแล้ว อีธานมักจะบอกกับผมอยู่เสมอว่าผมนั้นเป็นคนที่เขาได้เลือกแล้ว และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจมันตลอดมา
ผมไม่เข้าใจในความหมายที่เขาบอกผมเลยด้วยซ้ำ ผมเองก็ลองถามเขาดูหลายครั้งแล้วนะครับว่าเขาหมายความว่ายังไง อะไรคือความหมายที่เขาต้องการจะสื่อกันแน่
แล้วก็นั่นแหละครับสิ่งที่ผมได้กลับมาคือการที่เขามักจะเงียบตอบผมเสมอเหมือนกับเมื่อสักครู่นี้
เฮ้อ อยากจะถอนหายใจมันวันละหลายพันรอบ เพื่อนสนิทของผมคนนี้ช่างเข้าใจยากเหลือเกินครับ
มันอะไรกันนะ?
หลังจากวันนั้นอีธานก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องของเขาตลอดและมักจะเรียกให้ผู้หญิงหน้าตาสะสวยเข้าไปทุกๆ ครึ่งชั่วโมงโดยผลัดเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันเข้าไปในแต่ละวัน
บางครั้งความเป็นเพื่อนของเราสองคนก็ไม่ได้แปลว่าเราสองคนจะสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาได้ทุกอย่าง บางสิ่งบางอย่างก็ยากเกินจะเข้าใจได้ สำหรับผม ผมบอกได้คำเดียวผมไม่เข้าใจอีธานเลยสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ดวงตาคมกริบของหมอนั่นนับวันเข้าสายตาที่เขาจ้องมองมายังผม มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย ไม่รู้ว่าอีธานเขาคิดอะไร ต้องการอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมมักสงสัยเวลาที่ผมสังเกตเห็นแววตาคู่นั้นของเขา
ปกติก็เข้าใจยากอยู่แล้ว ไม่รู้ทำไมยิ่งพวกเราเติบโตมากขึ้นเท่าไรผมกับหมอนั่นก็ยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้นเท่านั้น
" ออกไปให้พ้น " เสียงตวาดดังลั่นห้อง ทั่วทั้งคฤหาสน์ต่างพากันตกใจในเสียงที่รอดออกมานอกห้อง
" กรี๊ดด... " จู่ ๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็วิ่งหอบผ้าผ่อนออกมานอกห้องของอีธาน สีหน้าของเธอดูตื่นกลัวกับอะไรบางอย่างเป็นอย่างมาก
อีกแล้วซินะ…..ไนท์ได้แต่มองหญิงสาวที่วิ่งไม่คิดชีวิตออกจากคฤหาสน์อย่างเวทนาและสงสารผู้หญิงเหล่านั้นจับใจ
อีธานได้ไล่ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจออกนอกห้องอย่างไม่สนใจไยดีใครหน้าไหน สภาพของหญิงสาวที่ถูกไล่ออกมา นอกจากจะน่าสงสารพวกเธอยังมีร่องรอยฟกช้ำที่ขึ้นรอยสีม่วงตามเนื้อตัวของเธออีกด้วย
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ? อีธานทุบตีพวกเธองั้นหรอ
ไนท์ที่ทนเห็นผู้หญิงมากมายต่างเจ็บตัวก็ทนไม่ไหวไนท์ได้เดินเข้าไปในห้องของอีธานอย่างเดือดดาลไม่พอใจ
" อีธานนายทำเกินไปหรือเปล่า "
สภาพของอีธานที่ไนท์ได้เห็นเมื่อแรกที่เขาเข้าไปคือภาพที่อีธานกำลังนอนแผ่หล่าอยู่บนเตียงใหญ่ เสื้อไม่ได้ใส่ส่วนท่อนล่างนั้นก็คาดว่าไม่ได้สวมอะไรไว้เช่นกัน แต่ยังดีที่ยังมีผ้าห่มผืนหนาปิดมิดชิดส่วนล่างของเขาเอาไว้
" นายเข้ามาในนี้ทำไม ออกไปให้พ้น " อีธานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างที่ไนท์ไม่เคยได้ยินมาก่อน
" ฉันขอพูดอะไรก่อนออกไปละกัน นายมันทำเกินไปอีธาน พวกเธอก็มีพ่อมีแม่นายจะทำกับพวกเธอแบบนี้ไม่ได้ นายช่วยถนุถนอมพวกเธอหน่อยไม่ได้หรือไงแค่นี้นายคงทำได้ใช่ไหม "
" ออกไป " เสียงตวาดที่ดังขึ้นทำเอาไนท์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสะดุ้งตกใจ
" หัดฟังกันบ้างซิ ไหนนายบอกว่าฉันเป็นเพื่อนนายไงอีธาน เพื่อนก็ต้องรับฟังเพื่อนซิ นายเป็นคนพูดคำนี้เองไม่ใช่หรือไง ว่าหากว่าวันไหนฉันมีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็ให้บอกนายนายจะรับฟังเพื่อนอย่างฉันทุกอย่าง มันไม่จริงแล้วใช่ไหม " ไนท์พยายามควบคุมอารมณ์และใช้เหตุผลเข้าพูด แต่ทว่ามันกับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
" บอกให้ออกไปให้พ้น หูหนวกหรือไงวะ " น้ำเสียงตวาดที่ทำให้ไนท์ที่ยืนอยู่สะดุ้งตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
“อะ..อึ่ม....ได้ซิ” สีหน้าที่บอกออกมาว่าไนท์รู้สึกแย่กับสถานการณ์ตอนนี้ขนาดไหนนั้นทำให้เขาได้พูดสิ่งที่เขาเผลอคิดออกมา
" ฉันจะออกไปจากห้องของนายและก็จะออกไปจากที่นี่ด้วย " ไนท์พูดในขณะที่เขากำลังหันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากห้องของอีธาน
" ไม่ อย่าไป ฉัน…… " เสียงที่อ่อนแรงลงทำให้ไนท์ที่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้องไปนั้นหยุดมือก่อนจะหันกลับมองอีธาน
" ......... " อีธานลุกขึ้นนั่งและหันหน้ามองสบตากับไนท์ ใบหน้าของอีธานขาวซีดเหมือนกับคนขาดสารอาหารอะไรบางอย่าง
" ……ขอโทษที่เผลอหงุดหงิดใส่นายไป แล้วก็ขอโทษที่ทำกับพวกเธอไปแบบนั้นด้วย แต่…มันก็เป็นเพราะนายไม่ใช่รีไง " ไนท์เดินหมุนกลับทันทีที่ได้ยินในสิ่งที่อีธานได้พูดออกมาเสียงอันแผ่วเบา
อีธานที่ได้ลุกขึ้นนั่งจ้องมองไนท์อยู่ก่อนได้แต่มองไนท์ด้วยสายตาที่คล้ายต่อว่าอีกฝ่าย
" อะไร? " ฉันทำอะไรนายอีธาน
" ไนท์นายอาจไม่เคยรู้มาก่อนเพราะฉันไม่เคยต้องการให้นายต้องมารับรู้เรื่องราวของฉัน ครอบครัวของฉัน คนในตระกูลฉันแต่ว่าวันนี้ฉันคงต้องบอกนายแล้ว นายคงอยากจะรู้มันมาตลอดใช่ไหม งั้นนายก็ถามฉันมาซิ " อีธานมองหน้าไนท์ในขณะที่เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าดูจริงจังจนเดาทางไม่ออก
“ทำไมถึงทำกับพวกเธอแบบนั้น”
“เพราะอดกลั่นมานาน ฉันยั้งมือไม่ไหว” ตอบเสียงสั่นก่อนจะหลบสายตาของไนท์
" อดกลั้นอะไร " ไนท์ที่สงสัยได้ถามขึ้น
“……….” แล้วอีธานก็เงียบไปอีกครั้ง
“อีธาน ฉันถามนายอยู่” ไนท์เข่นเอาคำตอบจากอีธาน
“สิ่งนั้นน่ะ…ก็เพราะนายไง ไนท์” อีธานพูดด้วยแววตาที่เศร้าลงเล็กน้อย เขาที่หลีกเลี่ยงไม่ให้ไนท์รับรู้มาตลอดสิบสองปี ตอนนี้เขากำลังที่จะต้องเปิดเผยมันออกมาทั้งหมดและบอกความจริงกับไนท์
“เป็นเพราะฉัน เป็นไปได้ ได้ยังไง” บ้าน่า ทุกอย่างเพราะฉันงั้นหรอ หมอนี้เอาอะไรมาโทษผม
" ตอนนี้น่ะมันเป็นวัยที่ฉันควรที่จะได้นายมาครอบครองแล้ว แต่ฉันไม่อยากที่จะบังคับฝืนใจนายฉันถึงต้องใช้พวกผู้หญิงเหล่านั้นมาดับความอยากที่แทบบ้าคลั่งในแต่ละวันของฉัน แต่มันก็ยังไม่พอ ไม่พออยู่ดี เพราะพวกหล่อนไม่ใช่นายไงไนท์ นายรู้ไหมว่าฉันต้องการนายมากขนาดไหน " แววตาที่อีธานจ้องมองไปยังไนท์เป็นสายตาที่กำลังบอกออกไปว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกมานั้นมันคือเรื่องจริง
“ต้องการฉันทำไม” ไนท์ยังคงถามคำถามที่ค้างคาใจเขาอยู่
“นายคือคนที่ฉันชอบ ชอบมาตลอดไม่รู้เลยหรือไง ซื่อบื้อชะมัด…”
สิ่งที่ไนท์รับรู้นั้นทำให้ไนท์ได้แต่ยืนนิ่งคิดประมวลผลที่เขาพึ่งได้ยินมาอย่างไม่อยากเชื่อกับหูตัวเอง
อะไร? นั่นคือความหมายที่หมอนั่นพยายามบอกผมมาโดยตลอดหรอ แล้วอะไรคือการที่ผมนั้นสามารถช่วยดับความอยากของอีธานได้กันล่ะ
ผมเป็นผู้ชายนะ?
" อีธานฉันเป็นผู้ชายจะทำแบบนั้นกับนายได้ยังไง " ไนท์พยายามบอกอีธานด้วยท่าทางที่ดูสงบสติอารมณ์มากๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ที่จริงแล้วไนท์รู้สึกกระสับกระส่ายใจเป็นอย่างมาก
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเราสองคนเนี้ย……
" ฉันไม่สน ฉันสนแค่ว่านั่นเป็นนายไนท์ แค่นายคนเดียวที่ฉันต้องการ " เสียงแหบพร่าเล็กน้อยของอีธานทำให้ไนท์เผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความรู้สึกประหม่าป่นความสับสนกับเรื่องที่เขาได้ยิน
" ถ้านายยอมให้ฉันทำกับนายได้ พวกผู้หญิงเหล่านั้นก็จะไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป นายจะเอายังไงล่ะ ช่วยตัดสินใจตอนนี้ด้วยเพราะอีกสิบนาทีฉันจะไม่ทนอีกต่อไป รู้ใช่ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น "
สายตาเฉียบคมและดุดันจ้องมองไนท์ที่เดินถอยหลังยืนชิดติดประตูห้อง สายตาได้บ่งบอกกับคนตรงหน้าว่าเขานั้นจริงจังในสิ่งที่เขาพูดออกมามากขนาดไหน
" ฉัน....เอ่อ... "
" ผลจากสิ่งที่นายตอบจะกำหนดโชคชะตาของเรา ไนท์ "
โชคชะตางั้นหรอ
" โชคชะตาแบบไหน "
" ขึ้นอยู่กับนาย นายที่จะต้องเลือกมัน "
แล้วผมควรจะเลือกสิ่งไหนมันถึงจะถูกล่ะ?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ