ระบบแห่งเกียรติยศ
-
เขียนโดย Zily7824
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 01.20 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
5,020 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564 01.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ราชา?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘เรารอมา 3 วันแล้ว…ท่านผู้ควบคุมทำไมถึงยังไม่มาพบเราอีก… ทั้งที่รู้ว่าเรามาถึงที่เมืองวูแล้ว? หรือว่าเราควรเดินทางไปพบเขาด้วยตัวเองดี…แต่ว่ามันอาจจะอันตรายเกินไปเพราะเรายังไม่รู้เจตนาของเขาในตอนนี้ เราเคยเห็นผู้ควบคุมแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อครั้งที่ไปทดสอบที่หอคอยแห่งเกียรติยศเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 ในครั้งนั้นเราจำได้ว่าผู้ควบคุมท่านนั้นก็มาทดสอบเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 เช่นเดียวกับเรา’ ชายชราผมสีขาวหนวดเคราตัดแต่งอย่างสวยงามผู้หนึ่งนั่งคิดด้วยความกังวล
หอคอยแห่งเกียรติยศนั้นมันเป็นสถานที่ทดสอบเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศ มันจะตั้งอยู่ในอาณาจักรระดับ 'F ขึ้นไปเท่านั้น…
อาณาจักรในทวีปวาเรนเซียทั้งหมดที่อยู่นอกเขตต้องห้ามเรียงลำดับจากต่ำไปสูงได้ดังนี้ F E D C B A S
ภายในพื้นที่รัศมีหนึ่งแสนกิโลเมตรห่างจากอาณาจักรไอซ์บลัดนั้น มีอาณาจักรน้อยใหญ่มากมาย พื้นที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าทุ่งร้างวาซา มันเป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งเพราะถูกกำแพงศักดิ์สิทธิ์ขวางกั้นไว้ มันมีข้อห้ามในการข้ามกำแพงบอกไว้ว่า'ผู้ไร้ตราที่มาจากภายนอกกำแพงไม่สามารถข้ามกำแพงศักดิ์สิทธิ์
ผู้คนของอาณาจักรทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ทุ่งร้างวาซา ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะไม่มีระดับการฝึกฝน ผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งที่สุดส่วนมากมีระดับการฝึกฝนระดับบิวท์เท่านั้น… เพราะทักษะระดับสูงสุดในทุ่งร้างวาซาคือทักษะระดับบิวท์ขั้นต่ำ 3 ดาว
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่แข็งแกร่งในทุ่งร้างวาซาพวกเขาจะสถาปนาตนเป็นกษัตริย์และก่อตั้งอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา อาณาจักรส่วนใหญ่นั้นเป็นมิตรต่อกันเพราะไม่มีผู้นำที่แข็งแกร่งโดดเด่นขึ้นมานานหลายหมื่นปีมาแล้ว ทำให้ไม่มีขั้วอำนาจที่ปกครองทุ่งร้างวาซาอย่างแท้จริง พวกเขาจึงทำข้อตกลงแบ่งพื้นที่กันสร้างอาณาจักรน้อยใหญ่ขึ้นมามากมายและอาศัยอยู่อย่างสงบสุข
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีพื้นที่กว้างมากมายของทุ่งร้างวาซากว่าร้อยละ 99 ให้จับจองแต่เพราะว่าพื้นที่พวกนั้นมีสัตว์ปีศาจยึดครองไปจนหมด จึงทำให้ยังไม่มีผู้คนที่สามารถเข้าไปยึดครองได้…
การที่ผู้คนจากทุ่งร้างวาซาจะได้รับตราแห่งเกียรติยศได้นั้น พวกเขาต้องผ่านการทดสอบวัดพลังระดับบิวท์ที่ทางเข้ากำแพงศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน หลังจากผ่านเกณฑ์แล้วพวกเข้าจึงจะสามารถเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ได้ จากนั้นพวกเขาถึงจะเดินทางไปรับการทดสอบที่หอคอยแห่งเกียรติยศในแต่ละเมืองเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศ
ผู้ที่อยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเขาไม่ค่อยให้การยอมรับผู้คนจากภายนอกกำแพงซักเท่่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ผู้คนภายนอกกำแพงที่เดินทางเข้ามามักจะอ่อนแอมาก พวกเขานั้นให้ความเคารพต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างมาก
ส่วนผู้คนภายนอกกำแพงที่เข้ามาทดสอบเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศสำเร็จแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่จะกลับออกไปนอกกำแพงเพื่อไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง
ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเลือกที่จะไม่เดินทางออกนอกกำแพง เพราะพื้นที่ทุ่งร้างวาซานั้นมีพลังเวทย์และพลังปราณต่ำกว่าภายในกำแพงทำให้ฝึกฝนได้ช้ากว่าอย่างมาก
อาณาจักรไอซ์บลัดถือว่าเป็นอาณาจักรที่มีประชากรมากที่สุดและพื้นที่กว้างมากที่สุดในทุ่งร้างวาซา อาณาจักรอื่นๆนั้นมีผู้คนแค่หนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสนกว่าคนเท่านั้นและพื้นที่ของอาณาจักรของพวกเขาไม่ได้กว้างขวางเหมือนกับอาณาจักรไอซ์บลัด มันแทบจะเรียกว่าอาณาจักรไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกเขาแค่รวมกลุ่มกันขึ้นมาและเรียกตัวเองว่าอาณาจักร ทุกอาณาจักรต้องสร้างกำแพงเพื่อรับมือกับเหล่าสัตว์ปีศาจ การจะเดินทางข้ามอาณาจักรในทุ่งร้างวาซานั้นทำได้ยากอย่างมาก ถ้าหากว่าผู้ฝึกฝนไม่แข็งแกร่งพอก็จะถูกฆ่าโดยสัตว์ปีศาจระหว่างทาง…
ผู้คนภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ล้วนบอกว่า อาณาจักรบริเวณนี้เสมือนอาณาจักรในนามเท่านั้น…เมื่อเทียบกับอาณาจักรที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงอย่างอาณาจักรระดับ'F ขึ้นไปที่อยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์แล้วความแข็งแกร่งนั้นต่างราวฟ้ากับเหว
การที่อาณาจักรจะผ่านเกณฑ์ประเมินขั้นต่ำของระดับ'F นั้นจะต้องมีประชากรที่ถือครองตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 อย่างน้อยหนึ่งพันคน…และในประวัติศาสตร์มันไม่เคยมีอาณาจักรที่อยู่ภายนอกกำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการประเมินแม้แต่อาณาจักรเดียว
ผู้ถือครองตรานั้นหายากอย่างมากในทุ่งร้างวาซา ขนาดที่ว่าอาณาจักรไอซ์บลัดที่มีประชากรมากที่สุดยังมีผู้ที่ถือครองตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 เพียง 12 คนเท่านั้น…
……
ผ่านไป 3 วันยูบินถึงได้ตัดสินใจเดินทางไปที่เมืองวู เขาได้ใช้กิซเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้
ก่อนการเดินทางเขาทำการส่งอัศวินของเขาทั้งหมดที่เหลือเข้าไปรออยู่ในมิติส่วนตัว หลังจากเดินทางใกล้ถึงเมืองวูแล้วเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในช่วงใกล้ที่จะถึงเมือง เขาเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางเป็นเดินเท้าเข้าเมืองแทนและให้กิซเข้าไปรอในมิติส่วนตัวเช่นกัน
เมืองวูนั้นล้อมรอบไปด้วยกำแพงที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับกำแพงรอบอาณาจักร รอบนอกกำแพงมีที่พักชั่วคราวของทหารมากมายพร้อมกับทหารมากมายที่อยู่บริเวณนั้น
‘ที่พักชั่วคราวมากมายพวกนี้คงเป็นทหารที่มากับราชางั้นสินะ’ยูบินคิดในใจ
เมื่อเขามาถึงหน้าประตูเมือง เขาได้จ่ายค่าเข้าเมืองกับทหารยามเป็นเงินทั้งหมด 1 เหรียญเงิน หลังจากที่เขาได้เดินผ่านประตูเข้าไป เขาได้พบกับอาคารบ้านเรือนมากมายที่ดูแปลกตาพวกมันแตกต่างจากโลกที่เขาเคยอยู่…
‘พวกมันดูคล้ายกับสิ่งปลูกสร้างในยุโรปยุคกลาง แต่ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่มาก’ยูบินคิด
ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมาบนถนน บรรยากาศคึกคักกว่าหมูบ้านทั้งสองก่อนหน้านี้มากนัก มีโซนตลาดที่ขายของหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ปีศาจ อาวุธชุดเกราะ อาหารการกินต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ ร้านค้าริมถนน ร้านขายยา
หลังจากที่เขาเดินสำรวจจนพอใจแล้ว เขาจึงเดินทางไปที่ปราสาทของบารอน… จากการสอบถามผู้คนในเมืองเขาใช้เวลาราว 30 นาทีก็เดินมาถึง ปราสาทนั้นตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง
ที่บริเวณนอกกำแพงปราสาทนั้นมีทหารและอัศวินยืนเฝ้ายามเต็มไปหมด เขาได้เดินเข้าไปหาอัศวินคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเขาปราสาท
“ข้าคือผู้ควบคุม มาเพื่อเข้าพบองค์ราชา'ฟาพิว เรดอส เจ้าจงแจ้งต่อองค์ราชาบอกว่าข้ามาถึงแล้ว”ยูบินพูดกับอัศวิน
อัศวินคนนั้นจ้องยูบินอยู่สักพัก เพราะเขาไม่แน่ใจว่ายูบินนั้นใช้ผู้ควบคุมที่หัวหน้าอัศวินเคยบอกเขาหรือไม่ ยูบินนั้นดูอายุน้อยเกินไปที่จะเป็นผู้ควบคุมได้
“ข้าน้อยขอเสียมารยาท หากว่าท่านเป็นผู้ควบคุมจริง โปรดท่านแสดงพลังเพื่อยืนยันตัวตนด้วยขอรับ”อัศวินปาโซพูดกับยูบินด้วนท่าทีนอบน้อม เขาไม่อยากมีปัญหาถ้าเกิดว่ายูบินนั้นเป็นผู้ควบคุมจริงๆ
“ไม่มีปัญหา”ยูบินพูดพร้อมกับเรียกเทลออกมา
หมีสีขาวสูงกว่า 6 เมตรปรากฏตัวขึ้นมาที่บริเวณด้านหน้าของอัศวินปาโซ
“หมีน้ำแข็ง!”อัศวินปาโซเผลอตะโกนออกมาเสียงดัง
เหล่าทหารและอัศวินทั้งหมดที่อยู่บริเวณนั้นต่างยืนอึ้ง พวกเขาไม่เคยเห็นใครเรียกสัตว์ปีศาจออกมาได้อย่างนี้มาก่อน พวกเขาเคยพบเพียงแค่นักฝึกสัตว์เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีอาชีพที่เหนือกว่านั้นที่เรียกว่าผู้ควบคุมสัตว์ปีศาจมาก่อน ทว่าก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาถึงเมืองวูนั้น พวกเขาถึงได้ทราบเรื่องผู้ควบคุมสัตว์ปีศาจ ที่เข้าช่วยเหลืออาณาจักรจากเหตุการณ์สัตว์ปีศาจที่รุกรานเข้ามากในเขตเหนือ หลังจากที่ตกตะลึงได้สักพักพวกเขาทั้งหมดได้คุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพยูบินทันที
“เชิญท่านผู้ควบคุมเข้าไปนั่งรอภายในปราสาทก่อนขอรับ”อัศวินปาโซตอบกลับพร้อมกลับนำทางยูบินเข้าไปด้านในปราสาท
หลังจากยูบินเดินผ่านไปสักพักพวกเขาถึงยืนขึ้น
“ชีวิตนี้ได้ข้ามีโอกาสได้พบผู้ควบคุมแล้ว ถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต…”ทหารหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ทหารและอัศวินทุกคนต่างชื่นชมยูบิน
จากนั้นอัศวินปาโซได้นำทางยูบินเข้าไปภายในปราสาท พวกเขาได้รอองค์ราชา’ฟาพิว เรดอส ที่ห้องรับรองภายในปราสาท
ผ่านไปสักพักขณะที่ยูบินนั่งรออยู่ในห้องรับรอง ได้้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าห้องรับรอง
ตึก ตึก ตึก
เอี๊ยด
ประตูห้องรับรองเปิดออกมา…
ชายชราผมสีขาวสวมใส่ชุดเกราะโลหะสีเงิน พร้อมกับมีตรารูปหัวมังกรสีขาวติดอยู่ที่หน้าอกด้านขวา เดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนผมสีดำหน้าตาคมเข้มสวมใส่ชุดเกราะโลหะสีน้ำเงินและมีตรารูปหัวมังกรสีขาวติดอยู่เช่นกัน ชายชราเดินเข้ามานั่งตรงข้ามยูบิน ส่วนชายชุดเกราะสีน้ำเงินยืนอยู่ด้านหลังด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“ยินดีที่ได้พบท่านผู้ควบคุม ข้าคือราชาของอาณาจักรไอซ์บลัดมีนามว่า’ฟาพิว เรดอส”เขาทักทายด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ยินดีที่ได้พบองค์ราชา'ฟาพิว เรดอส ข้า ยูบิน”ยูบินตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉยพร้อมกับใช้ทักษะ
‘ตรวจสอบ’ยูบินคิด
{ หน้าจอสีฟ้าโปร่งแสงปรากฏขึ้น }
[ ชื่อ : ฟาพิว เรดอส ]
[ อายุ : 198 ปี ]
[ เพศ : ชาย ]
[ เผ่า : มนุษย์]
[ พลังชีวิต : 7.9/7.9 ]
[ ความแข็งแกร่ง : 5.1]
[ ความว่องไว : 4.9 ]
[ พลังวิญญาณ : 0 ]
[ พลังเวทย์ : 0.015 ]
[ พลังปราณ : 0.044 ]
[ ระดับพลัง : บิวท์ขั้นที่ 3 (ปราณ) ผู้ไร้ตราขั้น 9 (เวทย์) ]
[ ทักษะ : ฝึกฝนปราณราชวงศ์ไอซ์บลัด(ระดับบิวท์ต่ำ 3 ดาว),ฝึกฝนเวทย์ราชวงศ์ไอซ์บลัด(ระดับทั่วไปขั้นสูง 3 ดาว) ทักษะ…]
[ข้อมูลเพิ่มเติม…]
…
[ ชื่อ : อาเมทิส ทารัส ]
[ อายุ : 81 ปี ]
[ เพศ : ชาย ]
[ เผ่า : มนุษย์ ]
[ พลังชีวิต : 6/6 ]
[ ความแข็งแกร่ง : 4.3]
[ ความว่องไว : 4.45 ]
[ พลังวิญญาณ : 0 ]
[ พลังเวทย์ : 0.011 ]
[ พลังปราณ : 0.038 ]
[ ระดับพลัง : บิวท์ขั้นที่ 2 (ปราณ) ผู้ไร้ตราขั้น 6 (เวทย์) ]
[ ทักษะ : ฝึกฝนปราณตะกูลอาเมทิส(ระดับบิวท์ขั้นต่ำ 2 ดาว),ฝึกฝนเวทย์ตระกูลอาเมทิส(ระดับทั่วไปขั้นกลาง 2 ดาว)]
[ข้อมูลเพิ่มเติม…]
…
‘ราชานี่แข็งแกร่งกว่าที่เราเอาคิดไว้ แต่ว่าทำไม่ค่าสถานะพวกเขาถึง…มากขนาดนี้!นี่มันยังใช่ผู้ฝึกฝนระดับบิวท์ขั้นต่ำอยู่อีกหรอว่ะเนี่ย การที่ค่าสถานะของพวกเขามากขนาดนี้ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับทักษะการฝึกฝนแล้ว หรือว่าจะเป็นเพราะตรารูปหัวมังกรนั่นกัน’ยูบินคิด จากนั้นเขาได้ใช้ทักษะตรวจสอบพร้อมกับจ้องมองไปที่ตรารูปหัวมังกรสีขาว
{ หน้าจอสีฟ้าโปร่งแสงปรากฏขึ้น }
ตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 ระดับ(F) ตราพลังปราณ ทำมาจากศิลาศักดิ์สิทธิ์สีขาว ผู้สร้างคือ’ทาริช คูทาฟ ช่างหลอมขั้น 2 ระดับต่ำ แห่งเมือง วาทูซ อาณาจักรราเร็น ระดับ(E)
[ที่ค่าสถานะของพวกเขาสูงกว่าระดับการฝึกฝนนั้นเพราะว่า พวกเขาเป็นผู้ถือครองตราแห่งเกียรติยศ ซึ่งตราแห่งเกียรติขั้น 1 นั้นจะแบ่งได้เป็นตราพลังปราณและตราพลังเวทย์ เผ่ามนุษย์โดยปรกตินั้นจะสามารถถือครองได้แค่หนึ่งตราเพียงเท่านั้นไม่อย่างงั้นร่างกายจะรับไม่ไหวนอกซะจากว่ามนุษย์ผู้นั้นจะฝึกฝนทักษะระดับสูงกว่า 5 ดาว มันมีแค่บางเผ่าพันธุ์เท่านั้นที่ถือครองได้มากว่าหนึ่งตราโดยกำเนิด ตราพลังปราณขั้น 1 (ระดับF)โดยปรกตินั้นจะทำให้ให้ผู้ถือครองมีพละกำลัง,ความว่องไวและพลังปราณขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม ส่วนตราพลังเวทย์(ระดับF)โดยปรกติจะทำให้ใช้ทักษะพลังเวทย์ได้รุนแรงขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมและเสริมเกราะป้องกันเวทย์ในตัว การที่ตราแห่งเกียรติยศนั้นจะมีพลังมากหรือน้อยนั้นมีสาเหตุสำคัญสองประการคือ หนึ่งยิ่งผู้สร้างตรานั้นเชี่ยวชาญมากเท่่าไหร่ตรายิ่งมีพลังมากเท่านั้น สองยิ่งตรานั้นทำมาจากวัสดุที่ดีเท่าไหร่มันจะยิ่งมอบพลังให้มากเท่านั้น ตราแต่ละขั้นมาระดับไล่จากพลังน้อยไปมากดังนี้ F E D C B A S SS SSS รับเหนือกว่า SSS ระบบไม่มีข้อมูล…]พร้อมกันนั้นได้มีเสียงระบบดังขึ้นในหัวของยูบิน
ในการออกล่าสังหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาออกล่าเองแค่ 3 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเขาได้ปล่อยให้อัศวินของเขาออกล่าแทน เขาได้เก็บตัวฝึกฝนหลายวันจนระดับการฝึกฝนพลังปราณและเวทย์ไปถึงระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 9 และ 3 เผื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดฝันขณะที่เข้าพบองค์ราชาเขาจะได้ตั้งรับได้ทันท่วงที แต่ราชานั้นกลับแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก…
“ที่ข้าเรียกท่านมาพบในวันนี้ก็เพื่อจะขอบคุณท่าน เรื่องที่ท่านช่วยเหลือประชาชนของข้าเอาไว้ ถ้าเกิดว่าท่านไม่ได้ไปอยู่ที่จุดนั้นและสังหารกลุ่มสัตว์ปีศาจคาริวที่ข้ามกำแพงเข้ามารุกรานเขตเหนือ พร้อมกับที่กองทัพของข้าต้องใช้เวลานานในการเดินทาง ความเสียหายที่อาณาจักรไอซ์บลัดได้รับคงคาดการณ์ไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจึงมีสิ่งที่จะตอบแทนท่าน ถึงมันอาจจะไม่ได้มีค่ามากมายสำหรับท่าน แต่ข้าหวังว่าท่านจะรับของเล็กๆน้อยๆนี่ไว้เพื่อแทนคำขอบคุณจากข้า”ราชาฟาพิว เรดอส พูด
ยูบินแทบไม่ได้ฟังที่ราชาเรดอสพูด เพราะเขากำลังทำความเข้าใจเสียงของระบบในหัวของเขา เขารู้แค่ว่าราชาเรดอสจะให้รางวัลเขาเพียงแค่นั้น…
“ข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน”ยูบินตอบกลับ
‘ของฟรีใครจะไม่เอา’เขาคิดในใจ
จากนั้นองค์ราชาฟาพิว เรดอสได้ยื่นเครื่องประดับมิติที่อยู่ในรูปสร้อยให้กับยูบิน
“ในสร้อยนี้มีคริสทัลปราณและเวทย์ระดับทั่วไปขั้นสูงอย่างละ 100 ก้อน หวังว่าท่านจะพอใจ”ราชาเรดอสพูด
‘อย่างละหนึ่งร้อยก้อน! ค่อยสมกับฐานะราชาขึ้นมาบ้าง’ยูบินตกตะลึง
“แค่นี้ไม่ได้มากมายสำหรับข้าเลยองค์ราชา แต่ที่ข้าช่วยเหลือประชาชนของท่านนั้นข้าเต็มใจที่จะทำเยี่ยงนั้นเอง ความจริงแล้วท่านไม่ต้องตอบแทนข้าก็ได้”ยูบินตอบกลับด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่ความจริงแล้วเขากำลังตื่นเต้นอย่างมาก…แต่แค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น
“จิตใจท่านช่างประเสริฐยิ่งนัก ข้าขอเป็นตัวแทนประชาชนของข้าทั้งหมดขอบคุณท่านจากใจจริง”ราชาฟาพิว เรดอส ยืนขึ้นพร้อมโค้งคำนับให้ยูบินอย่างสุภาพ
รางวัลพิเศษ : ท่านได้รับกับคำนับจากผู้สูงศักดิ์ระดับราชาของอาณาจักรระดับทั่วไปเป็นครั้งแรก แต้มแห่งเกียรติยศ + 1,000 แต้ม เปิดการใช้งานค่าสถานะพิเศษ(ความสูงศักดิ์)
ความสูงศักดิ์ + 1 แต้ม
ยูบินเผลอฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากหน้าต่างแจ้งเตือนที่ปรากฎขึ้นที่ด้านหน้าของเขา
องค์ราชานั้นกลับคิดว่ายูบินประทับใจเขาที่แสดงความขอบคุณ…
‘ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาน่าเคารพยิ่งกว่าเดิมได้นะ อาจจะเป็นเพราะคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ก็ได้…’ราชาเรดอสคิด
“ข้าขอเสียมารยาทถามคำถามสักคำ ต่อท่านได้หรือไม่”ราชาเรดอสพูดอย่างนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าสงสัยอะไรถามมาได้เลย”ยูบินตอบกลับ
“ท่านเป็นคนที่มาจากอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?”ราชาเรดอสพูด
‘อาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์คืออะไรกัน’ยูบินงุนงง
“ใช่ข้าไม่ได้มาจากที่นั่น ทำไมท่านถึงถามเช่นนี้ ? แล้วอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์คืออะไร”ยูบินตอบพร้อมกับถามกลับไป
‘เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่’ราชาเรดอสคิดในใจ
“ข้าก็แค่คาดเดาเพียงเท่านั้น ปรกติผู้คนที่มาจากภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะมีความสามารถระดับท่านได้ พวกเขาจะติดตราแห่งเกียรติยศพร้อมกับตราอาชีพ รวมถึงตราอื่นๆเพื่อบ่งบอกตัวตนของพวกเขา แต่ท่านนั้นไม่ได้ติดตราเหล่านั้น”ราชาเรดอสตอบกลับ
จากนั้นราชา'ฟาพิวเรดอสจึงเล่าเรื่องราวของอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทุ่งร้างวาซาให้ยูบินฟัง
“ขอบคุณท่านเรดอสที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้แก่ข้า ในเมื่อเราหมดเรื่องราวที่จะกล่าวต่อกันแล้ว ถ้าอย่างงั้นข้าขอตัวก่อน”ยูบินพูดจบคำจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นโค้งคำนับแล้วเดินออกไปทันที
“ทารัสเจ้าเดินไปส่งท่านผู้ควบคุมยูบินด้วย”ราชา'เรดอสออกคำสั่ง
“ขอรับองค์ราชา”อาเมทิส ทารัส ตอบกลับอย่างนอบน้อม
‘ทำไมเขาถึงไม่ติดตรากันนะ เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองขนาดนั้นเลย? ปรกติผู้คนภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเคารพผู้ถือครองตรากันมาก พวกนั้นยึดมั่นในเกียรติยศ พวกเขาทุกคนจะติดตราเพื่อยืนยันตัวตนเวลาที่พวกเขาไปสถานที่ต่างตลอดเวลา คนที่ไม่ติดตรานั้นจะโดนมองอย่างดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นพวกที่อ่อนแอและไร้เกียรติ เพราะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่มีตราแห่งเกียรติยศ ’ราชา'ฟาพิวเรดอสนั่งคิดเพียงลำพัง
…
ยูบินและทารัสเดินออกถึงประตูทางเข้าปราสาท
“เจ้ามาส่งข้าถึงตรงนี้ก็เพียงพอแล้ว”ยูบินพูดกับทารัส
“ขอรับท่านยูบิน”ทารัสตอบกลับ
ระหว่างเดินเล่นอยู่ในเมืองวูนั้นยูบินสอบถามระบบในใจ
‘ระบบค่าสถานะความสูงศักดิ์นี่มันทำอะไรได้บ้าง แล้วมีวิธีการที่จะเพิ่มค่าสถานะนี้ยังไงบ้าง’
[ค่าสถานะความสูงศักดิ์สามารถเพิ่มความน่าเคารพเลื่อมใสของท่าน ส่งผลให้ผู้คนเคารพยำเกรงท่าน ยิ่งมีค่าสถานะนี้สูงเท่าให้ท่านยิ่งได้รับความเคารพได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ค่าสถานะนี้เพิ่มได้หลายวิธีระบบจะเปิดเผยแค่สองวิธีเท่านั้น หนึ่งง่ายๆแค่ท่านนำแต้มแห่งเกียรติยศไปแลกเปลี่ยนกับค่าสถานะความสูงศักดิ์ อัตราแลกเปลี่ยนคือแต้มแห่งเกียรติยศ 1000 เท่ากับแต้มแห่งความสูงศักดิ์ 1 แต้ม วิธีที่สองนั้นท่านต้องได้รับการแสดงความเคารพจากผู้ที่เป็นราชาหรือสูงกว่า]เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของยูบิน
‘ยุ่งยากจังแหะ แต่ยังดีที่มีวิธีการเพิ่มค่าสถานะด้วยการแลกเปลี่ยนหล่ะนะ’ยูบินคิดในใจ
หลังจากออกมานอกเมืองวูสักระยะเขาจึงเรียกกิซออกมาจากมิติส่วนตัวเพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้นั้นเขามีจุดมุ่งหมายคือด้านนอกกำแพงอาณาจักรไอซ์บลัด เขาต้องการที่จะทำภารกิจล่าสังหารให้สำเร็จทั้งหมด แล้วค่อยหาพื้นที่ว่างในการสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา
ผ่านไป 3 เดือนเขาภารกิจล่าสังหารของเขาก็สำเร็จทั้งหมดที่เขาใช้เวลาในการล่าสังหารนานกว่าครั้งก่อนๆนั้นเป็นเพราะว่าสัตว์ปีศาจนั้นไม่ได้เกิดใหม่เหมือนชั้นใต้ดินในปราสาทก่อนหน้านี้ เขาจึงต้องตามล่าสัตว์ปีศาจทุ่งน้ำแข็งทางเหนือเป็นเวลานานกว่าจะทำภารกิจล่าสังหารสำเร็จ
ในช่วงที่ผ่านมานั้นเขาได้ใช้สิทธิอัญเชิญสิ่งมีชีวิตระดับทั่วไปจากรางวัลภารกิจไปจนหมดแล้ว ทุกครั้งที่เขาทำการอัญเชิญสิ่งมีชีวิตสำเร็จภารกิจล่าสังหารของเขาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น
จำนวนอัศวินของยูบินตอนนี้นั้นมีทั้งหมด 11 คนกับอีก 25 ตน
ระดับการฝึกฝนของอัศวินทุกคนของยูบินในปัจจุบัน
[ เพศแทนด้วย (M)=ชาย (F)=หญิง ]
อัศวินเผ่ามนุษย์
กิวดัล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 6 อายุ 40 ปี (M)
ซีน่า เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 6 อายุ 25 ปี (F)
ซูล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 17 ปี (M)
ฟานี่ เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 21 ปี (F)
เฟล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 19 ปี (F)
ปาซิอุส เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 46 ปี (M)
ชาวี่ เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 16 ปี (F)
มาทิส เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 80 ปี (M)
ราเชล เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 9 อายุ 29 ปี (F)
เซียเนล เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 7 อายุ 20 ปี (M)
คาสคูม เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 8 อายุ 102 ปี (M)
อัศวินที่ไม่ใช่เผ่ามนุษย์
คิวรัส เผ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ ระดับทั่วไปขั้นที่ 8 อายุ 1 ปี (M)
อลิซ เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 4 อายุ 18 ปี (F)
เทล เผ่าสัตว์อสูรหมีน้ำแข็ง ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 31 ปี (M)
กิซ เผ่าสัตว์เวทย์เหยี่ยวหิมะ ระดับบิวท์ขั้นที่ 4 อายุ 22 ปี (M)
คาซุ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 18 ปี (M)
กีอัส เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 23 ปี (M)
มิเอล เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 20 ปี (F)
ซิววา เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 17 ปี (F)
เซี่ยเฟิง เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 19 ปี (M)
ฟางหยุน เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 18 ปี (M)
หลงอู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 42 ปี (M)
หนานยู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 39 ปี (F)
ซื่อเฟย เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 21 ปี (M)
เทียนซือ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 88 ปี (M)
หยางจื่อ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 61 ปี (M)
อวี้เฟิง เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 20 ปี (M)
กู่หลง มังกรแดง ระดับทั่วไปขั้นที่ 6 อายุ 1 ปี (M)
หลี่มู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 22 ปี (M)
มู่หลิน เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 26 ปี (F)
แฟรีส เผ่าแฟร์รี่ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 11 ปี (F)
เซียวเหล่ย เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 34 ปี (M)
อามะ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 17 ปี (M)
คูฟ เผ่าสัตว์อสูรยักษ์เขียว ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 47 ปี (M)
ลูฟาคัส อามุล เผ่าเทพ ระดับบิวท์ขั้นที่ 7 อายุ 18 ปี (M)
เทียร์ คีเนเซียร์ เผ่าเทพ ระดับบิวท์ขั้นที่ 8 อายุ 20 ปี (F)
…
เผ่าบรรพกาลนั้นรูปร่างเหมือนมนุษย์ พวกเขานั้นมีความคล้ายมนุษย์ถึง 99% ทว่า…พวกเขานั้นกลับมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนมากกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของพวกเขากับมนุษย์ในระดับการฝึกฝนที่เท่ากันนั้นพวกเขาแข็งกว่ามากนัก
ส่วนเผ่าเทพนั้นพวกเขามีรูปร่างเหมือนมนุษย์เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความพิเศษต่างจากมนุษย์คือพวกเขานั้นมีความสามารถดูดซับปราณและเวทย์ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ปราณและเวทย์ที่พวกเขาดูดซับเข้าไปนั้นบริสุทธิ์กว่าการดูซับด้วยทักษะระดับ 8 ดาวซะอีก ด้วยความสามารถนี้ทำให้พวกเขาฝึกฝนได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างก็คือระดับการฝึกฝนของพวกเขานั้นจะไม่โดนจำกัดด้วยทักษะการฝึกฝน เหมือนดั่งเช่นเหล่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ อายุของขัยของเผ่าเทพนั้นเป็นนิรันดร์… แต่ทว่าพวกเขายังต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้เหมือนกับมนุษย์ ส่วนเรื่องความแข็งแกร่งนั้นไม่ต้องพูดถึง…
ในตอนนี้นั้นยูบินได้สอนทักษะการฝึกฝนปราณและเวทย์ให้กับอัศวินที่สามารถฝึกฝนทักษะของมนุษย์ได้ ถึงแค่ระดับบิวท์ขั้นสูง 6 ดาวเท่านั้น เขารอให้อัศวินเหล่านั้นมีระฝึกฝนขึ้นมาถึงระดับบิวท์ขั้นที่ 9 พร้อมกันทั้งหมดก่อน ถึงจะสอนทักษะระดับสูงกว่านี้ให้แก่พวกเขา เพราะเขายังไม่อยากให้อัศวินเหล่ามีระดับการฝึกฝนมากกว่าเขาในตอนนี้ เว้นไว้เพียงแค่เผ่าเทพทั้งสองก็พอ
‘ถึงเวลาเริ่มแผนการณ์สร้างอาณาจักรแล้วสินะ’
.
.
.
…
หอคอยแห่งเกียรติยศนั้นมันเป็นสถานที่ทดสอบเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศ มันจะตั้งอยู่ในอาณาจักรระดับ 'F ขึ้นไปเท่านั้น…
อาณาจักรในทวีปวาเรนเซียทั้งหมดที่อยู่นอกเขตต้องห้ามเรียงลำดับจากต่ำไปสูงได้ดังนี้ F E D C B A S
ภายในพื้นที่รัศมีหนึ่งแสนกิโลเมตรห่างจากอาณาจักรไอซ์บลัดนั้น มีอาณาจักรน้อยใหญ่มากมาย พื้นที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าทุ่งร้างวาซา มันเป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งเพราะถูกกำแพงศักดิ์สิทธิ์ขวางกั้นไว้ มันมีข้อห้ามในการข้ามกำแพงบอกไว้ว่า'ผู้ไร้ตราที่มาจากภายนอกกำแพงไม่สามารถข้ามกำแพงศักดิ์สิทธิ์
ผู้คนของอาณาจักรทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ทุ่งร้างวาซา ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะไม่มีระดับการฝึกฝน ผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งที่สุดส่วนมากมีระดับการฝึกฝนระดับบิวท์เท่านั้น… เพราะทักษะระดับสูงสุดในทุ่งร้างวาซาคือทักษะระดับบิวท์ขั้นต่ำ 3 ดาว
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่แข็งแกร่งในทุ่งร้างวาซาพวกเขาจะสถาปนาตนเป็นกษัตริย์และก่อตั้งอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา อาณาจักรส่วนใหญ่นั้นเป็นมิตรต่อกันเพราะไม่มีผู้นำที่แข็งแกร่งโดดเด่นขึ้นมานานหลายหมื่นปีมาแล้ว ทำให้ไม่มีขั้วอำนาจที่ปกครองทุ่งร้างวาซาอย่างแท้จริง พวกเขาจึงทำข้อตกลงแบ่งพื้นที่กันสร้างอาณาจักรน้อยใหญ่ขึ้นมามากมายและอาศัยอยู่อย่างสงบสุข
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีพื้นที่กว้างมากมายของทุ่งร้างวาซากว่าร้อยละ 99 ให้จับจองแต่เพราะว่าพื้นที่พวกนั้นมีสัตว์ปีศาจยึดครองไปจนหมด จึงทำให้ยังไม่มีผู้คนที่สามารถเข้าไปยึดครองได้…
การที่ผู้คนจากทุ่งร้างวาซาจะได้รับตราแห่งเกียรติยศได้นั้น พวกเขาต้องผ่านการทดสอบวัดพลังระดับบิวท์ที่ทางเข้ากำแพงศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน หลังจากผ่านเกณฑ์แล้วพวกเข้าจึงจะสามารถเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ได้ จากนั้นพวกเขาถึงจะเดินทางไปรับการทดสอบที่หอคอยแห่งเกียรติยศในแต่ละเมืองเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศ
ผู้ที่อยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเขาไม่ค่อยให้การยอมรับผู้คนจากภายนอกกำแพงซักเท่่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ผู้คนภายนอกกำแพงที่เดินทางเข้ามามักจะอ่อนแอมาก พวกเขานั้นให้ความเคารพต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างมาก
ส่วนผู้คนภายนอกกำแพงที่เข้ามาทดสอบเพื่อรับตราแห่งเกียรติยศสำเร็จแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่จะกลับออกไปนอกกำแพงเพื่อไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง
ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเลือกที่จะไม่เดินทางออกนอกกำแพง เพราะพื้นที่ทุ่งร้างวาซานั้นมีพลังเวทย์และพลังปราณต่ำกว่าภายในกำแพงทำให้ฝึกฝนได้ช้ากว่าอย่างมาก
อาณาจักรไอซ์บลัดถือว่าเป็นอาณาจักรที่มีประชากรมากที่สุดและพื้นที่กว้างมากที่สุดในทุ่งร้างวาซา อาณาจักรอื่นๆนั้นมีผู้คนแค่หนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสนกว่าคนเท่านั้นและพื้นที่ของอาณาจักรของพวกเขาไม่ได้กว้างขวางเหมือนกับอาณาจักรไอซ์บลัด มันแทบจะเรียกว่าอาณาจักรไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกเขาแค่รวมกลุ่มกันขึ้นมาและเรียกตัวเองว่าอาณาจักร ทุกอาณาจักรต้องสร้างกำแพงเพื่อรับมือกับเหล่าสัตว์ปีศาจ การจะเดินทางข้ามอาณาจักรในทุ่งร้างวาซานั้นทำได้ยากอย่างมาก ถ้าหากว่าผู้ฝึกฝนไม่แข็งแกร่งพอก็จะถูกฆ่าโดยสัตว์ปีศาจระหว่างทาง…
ผู้คนภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ล้วนบอกว่า อาณาจักรบริเวณนี้เสมือนอาณาจักรในนามเท่านั้น…เมื่อเทียบกับอาณาจักรที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงอย่างอาณาจักรระดับ'F ขึ้นไปที่อยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์แล้วความแข็งแกร่งนั้นต่างราวฟ้ากับเหว
การที่อาณาจักรจะผ่านเกณฑ์ประเมินขั้นต่ำของระดับ'F นั้นจะต้องมีประชากรที่ถือครองตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 อย่างน้อยหนึ่งพันคน…และในประวัติศาสตร์มันไม่เคยมีอาณาจักรที่อยู่ภายนอกกำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการประเมินแม้แต่อาณาจักรเดียว
ผู้ถือครองตรานั้นหายากอย่างมากในทุ่งร้างวาซา ขนาดที่ว่าอาณาจักรไอซ์บลัดที่มีประชากรมากที่สุดยังมีผู้ที่ถือครองตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 เพียง 12 คนเท่านั้น…
……
ผ่านไป 3 วันยูบินถึงได้ตัดสินใจเดินทางไปที่เมืองวู เขาได้ใช้กิซเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้
ก่อนการเดินทางเขาทำการส่งอัศวินของเขาทั้งหมดที่เหลือเข้าไปรออยู่ในมิติส่วนตัว หลังจากเดินทางใกล้ถึงเมืองวูแล้วเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในช่วงใกล้ที่จะถึงเมือง เขาเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางเป็นเดินเท้าเข้าเมืองแทนและให้กิซเข้าไปรอในมิติส่วนตัวเช่นกัน
เมืองวูนั้นล้อมรอบไปด้วยกำแพงที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับกำแพงรอบอาณาจักร รอบนอกกำแพงมีที่พักชั่วคราวของทหารมากมายพร้อมกับทหารมากมายที่อยู่บริเวณนั้น
‘ที่พักชั่วคราวมากมายพวกนี้คงเป็นทหารที่มากับราชางั้นสินะ’ยูบินคิดในใจ
เมื่อเขามาถึงหน้าประตูเมือง เขาได้จ่ายค่าเข้าเมืองกับทหารยามเป็นเงินทั้งหมด 1 เหรียญเงิน หลังจากที่เขาได้เดินผ่านประตูเข้าไป เขาได้พบกับอาคารบ้านเรือนมากมายที่ดูแปลกตาพวกมันแตกต่างจากโลกที่เขาเคยอยู่…
‘พวกมันดูคล้ายกับสิ่งปลูกสร้างในยุโรปยุคกลาง แต่ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่มาก’ยูบินคิด
ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมาบนถนน บรรยากาศคึกคักกว่าหมูบ้านทั้งสองก่อนหน้านี้มากนัก มีโซนตลาดที่ขายของหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ปีศาจ อาวุธชุดเกราะ อาหารการกินต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ ร้านค้าริมถนน ร้านขายยา
หลังจากที่เขาเดินสำรวจจนพอใจแล้ว เขาจึงเดินทางไปที่ปราสาทของบารอน… จากการสอบถามผู้คนในเมืองเขาใช้เวลาราว 30 นาทีก็เดินมาถึง ปราสาทนั้นตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง
ที่บริเวณนอกกำแพงปราสาทนั้นมีทหารและอัศวินยืนเฝ้ายามเต็มไปหมด เขาได้เดินเข้าไปหาอัศวินคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเขาปราสาท
“ข้าคือผู้ควบคุม มาเพื่อเข้าพบองค์ราชา'ฟาพิว เรดอส เจ้าจงแจ้งต่อองค์ราชาบอกว่าข้ามาถึงแล้ว”ยูบินพูดกับอัศวิน
อัศวินคนนั้นจ้องยูบินอยู่สักพัก เพราะเขาไม่แน่ใจว่ายูบินนั้นใช้ผู้ควบคุมที่หัวหน้าอัศวินเคยบอกเขาหรือไม่ ยูบินนั้นดูอายุน้อยเกินไปที่จะเป็นผู้ควบคุมได้
“ข้าน้อยขอเสียมารยาท หากว่าท่านเป็นผู้ควบคุมจริง โปรดท่านแสดงพลังเพื่อยืนยันตัวตนด้วยขอรับ”อัศวินปาโซพูดกับยูบินด้วนท่าทีนอบน้อม เขาไม่อยากมีปัญหาถ้าเกิดว่ายูบินนั้นเป็นผู้ควบคุมจริงๆ
“ไม่มีปัญหา”ยูบินพูดพร้อมกับเรียกเทลออกมา
หมีสีขาวสูงกว่า 6 เมตรปรากฏตัวขึ้นมาที่บริเวณด้านหน้าของอัศวินปาโซ
“หมีน้ำแข็ง!”อัศวินปาโซเผลอตะโกนออกมาเสียงดัง
เหล่าทหารและอัศวินทั้งหมดที่อยู่บริเวณนั้นต่างยืนอึ้ง พวกเขาไม่เคยเห็นใครเรียกสัตว์ปีศาจออกมาได้อย่างนี้มาก่อน พวกเขาเคยพบเพียงแค่นักฝึกสัตว์เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีอาชีพที่เหนือกว่านั้นที่เรียกว่าผู้ควบคุมสัตว์ปีศาจมาก่อน ทว่าก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาถึงเมืองวูนั้น พวกเขาถึงได้ทราบเรื่องผู้ควบคุมสัตว์ปีศาจ ที่เข้าช่วยเหลืออาณาจักรจากเหตุการณ์สัตว์ปีศาจที่รุกรานเข้ามากในเขตเหนือ หลังจากที่ตกตะลึงได้สักพักพวกเขาทั้งหมดได้คุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพยูบินทันที
“เชิญท่านผู้ควบคุมเข้าไปนั่งรอภายในปราสาทก่อนขอรับ”อัศวินปาโซตอบกลับพร้อมกลับนำทางยูบินเข้าไปด้านในปราสาท
หลังจากยูบินเดินผ่านไปสักพักพวกเขาถึงยืนขึ้น
“ชีวิตนี้ได้ข้ามีโอกาสได้พบผู้ควบคุมแล้ว ถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต…”ทหารหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ทหารและอัศวินทุกคนต่างชื่นชมยูบิน
จากนั้นอัศวินปาโซได้นำทางยูบินเข้าไปภายในปราสาท พวกเขาได้รอองค์ราชา’ฟาพิว เรดอส ที่ห้องรับรองภายในปราสาท
ผ่านไปสักพักขณะที่ยูบินนั่งรออยู่ในห้องรับรอง ได้้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าห้องรับรอง
ตึก ตึก ตึก
เอี๊ยด
ประตูห้องรับรองเปิดออกมา…
ชายชราผมสีขาวสวมใส่ชุดเกราะโลหะสีเงิน พร้อมกับมีตรารูปหัวมังกรสีขาวติดอยู่ที่หน้าอกด้านขวา เดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนผมสีดำหน้าตาคมเข้มสวมใส่ชุดเกราะโลหะสีน้ำเงินและมีตรารูปหัวมังกรสีขาวติดอยู่เช่นกัน ชายชราเดินเข้ามานั่งตรงข้ามยูบิน ส่วนชายชุดเกราะสีน้ำเงินยืนอยู่ด้านหลังด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“ยินดีที่ได้พบท่านผู้ควบคุม ข้าคือราชาของอาณาจักรไอซ์บลัดมีนามว่า’ฟาพิว เรดอส”เขาทักทายด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ยินดีที่ได้พบองค์ราชา'ฟาพิว เรดอส ข้า ยูบิน”ยูบินตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉยพร้อมกับใช้ทักษะ
‘ตรวจสอบ’ยูบินคิด
{ หน้าจอสีฟ้าโปร่งแสงปรากฏขึ้น }
[ ชื่อ : ฟาพิว เรดอส ]
[ อายุ : 198 ปี ]
[ เพศ : ชาย ]
[ เผ่า : มนุษย์]
[ พลังชีวิต : 7.9/7.9 ]
[ ความแข็งแกร่ง : 5.1]
[ ความว่องไว : 4.9 ]
[ พลังวิญญาณ : 0 ]
[ พลังเวทย์ : 0.015 ]
[ พลังปราณ : 0.044 ]
[ ระดับพลัง : บิวท์ขั้นที่ 3 (ปราณ) ผู้ไร้ตราขั้น 9 (เวทย์) ]
[ ทักษะ : ฝึกฝนปราณราชวงศ์ไอซ์บลัด(ระดับบิวท์ต่ำ 3 ดาว),ฝึกฝนเวทย์ราชวงศ์ไอซ์บลัด(ระดับทั่วไปขั้นสูง 3 ดาว) ทักษะ…]
[ข้อมูลเพิ่มเติม…]
…
[ ชื่อ : อาเมทิส ทารัส ]
[ อายุ : 81 ปี ]
[ เพศ : ชาย ]
[ เผ่า : มนุษย์ ]
[ พลังชีวิต : 6/6 ]
[ ความแข็งแกร่ง : 4.3]
[ ความว่องไว : 4.45 ]
[ พลังวิญญาณ : 0 ]
[ พลังเวทย์ : 0.011 ]
[ พลังปราณ : 0.038 ]
[ ระดับพลัง : บิวท์ขั้นที่ 2 (ปราณ) ผู้ไร้ตราขั้น 6 (เวทย์) ]
[ ทักษะ : ฝึกฝนปราณตะกูลอาเมทิส(ระดับบิวท์ขั้นต่ำ 2 ดาว),ฝึกฝนเวทย์ตระกูลอาเมทิส(ระดับทั่วไปขั้นกลาง 2 ดาว)]
[ข้อมูลเพิ่มเติม…]
…
‘ราชานี่แข็งแกร่งกว่าที่เราเอาคิดไว้ แต่ว่าทำไม่ค่าสถานะพวกเขาถึง…มากขนาดนี้!นี่มันยังใช่ผู้ฝึกฝนระดับบิวท์ขั้นต่ำอยู่อีกหรอว่ะเนี่ย การที่ค่าสถานะของพวกเขามากขนาดนี้ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับทักษะการฝึกฝนแล้ว หรือว่าจะเป็นเพราะตรารูปหัวมังกรนั่นกัน’ยูบินคิด จากนั้นเขาได้ใช้ทักษะตรวจสอบพร้อมกับจ้องมองไปที่ตรารูปหัวมังกรสีขาว
{ หน้าจอสีฟ้าโปร่งแสงปรากฏขึ้น }
ตราแห่งเกียรติยศขั้น 1 ระดับ(F) ตราพลังปราณ ทำมาจากศิลาศักดิ์สิทธิ์สีขาว ผู้สร้างคือ’ทาริช คูทาฟ ช่างหลอมขั้น 2 ระดับต่ำ แห่งเมือง วาทูซ อาณาจักรราเร็น ระดับ(E)
[ที่ค่าสถานะของพวกเขาสูงกว่าระดับการฝึกฝนนั้นเพราะว่า พวกเขาเป็นผู้ถือครองตราแห่งเกียรติยศ ซึ่งตราแห่งเกียรติขั้น 1 นั้นจะแบ่งได้เป็นตราพลังปราณและตราพลังเวทย์ เผ่ามนุษย์โดยปรกตินั้นจะสามารถถือครองได้แค่หนึ่งตราเพียงเท่านั้นไม่อย่างงั้นร่างกายจะรับไม่ไหวนอกซะจากว่ามนุษย์ผู้นั้นจะฝึกฝนทักษะระดับสูงกว่า 5 ดาว มันมีแค่บางเผ่าพันธุ์เท่านั้นที่ถือครองได้มากว่าหนึ่งตราโดยกำเนิด ตราพลังปราณขั้น 1 (ระดับF)โดยปรกตินั้นจะทำให้ให้ผู้ถือครองมีพละกำลัง,ความว่องไวและพลังปราณขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม ส่วนตราพลังเวทย์(ระดับF)โดยปรกติจะทำให้ใช้ทักษะพลังเวทย์ได้รุนแรงขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมและเสริมเกราะป้องกันเวทย์ในตัว การที่ตราแห่งเกียรติยศนั้นจะมีพลังมากหรือน้อยนั้นมีสาเหตุสำคัญสองประการคือ หนึ่งยิ่งผู้สร้างตรานั้นเชี่ยวชาญมากเท่่าไหร่ตรายิ่งมีพลังมากเท่านั้น สองยิ่งตรานั้นทำมาจากวัสดุที่ดีเท่าไหร่มันจะยิ่งมอบพลังให้มากเท่านั้น ตราแต่ละขั้นมาระดับไล่จากพลังน้อยไปมากดังนี้ F E D C B A S SS SSS รับเหนือกว่า SSS ระบบไม่มีข้อมูล…]พร้อมกันนั้นได้มีเสียงระบบดังขึ้นในหัวของยูบิน
ในการออกล่าสังหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาออกล่าเองแค่ 3 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเขาได้ปล่อยให้อัศวินของเขาออกล่าแทน เขาได้เก็บตัวฝึกฝนหลายวันจนระดับการฝึกฝนพลังปราณและเวทย์ไปถึงระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 9 และ 3 เผื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดฝันขณะที่เข้าพบองค์ราชาเขาจะได้ตั้งรับได้ทันท่วงที แต่ราชานั้นกลับแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก…
“ที่ข้าเรียกท่านมาพบในวันนี้ก็เพื่อจะขอบคุณท่าน เรื่องที่ท่านช่วยเหลือประชาชนของข้าเอาไว้ ถ้าเกิดว่าท่านไม่ได้ไปอยู่ที่จุดนั้นและสังหารกลุ่มสัตว์ปีศาจคาริวที่ข้ามกำแพงเข้ามารุกรานเขตเหนือ พร้อมกับที่กองทัพของข้าต้องใช้เวลานานในการเดินทาง ความเสียหายที่อาณาจักรไอซ์บลัดได้รับคงคาดการณ์ไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจึงมีสิ่งที่จะตอบแทนท่าน ถึงมันอาจจะไม่ได้มีค่ามากมายสำหรับท่าน แต่ข้าหวังว่าท่านจะรับของเล็กๆน้อยๆนี่ไว้เพื่อแทนคำขอบคุณจากข้า”ราชาฟาพิว เรดอส พูด
ยูบินแทบไม่ได้ฟังที่ราชาเรดอสพูด เพราะเขากำลังทำความเข้าใจเสียงของระบบในหัวของเขา เขารู้แค่ว่าราชาเรดอสจะให้รางวัลเขาเพียงแค่นั้น…
“ข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน”ยูบินตอบกลับ
‘ของฟรีใครจะไม่เอา’เขาคิดในใจ
จากนั้นองค์ราชาฟาพิว เรดอสได้ยื่นเครื่องประดับมิติที่อยู่ในรูปสร้อยให้กับยูบิน
“ในสร้อยนี้มีคริสทัลปราณและเวทย์ระดับทั่วไปขั้นสูงอย่างละ 100 ก้อน หวังว่าท่านจะพอใจ”ราชาเรดอสพูด
‘อย่างละหนึ่งร้อยก้อน! ค่อยสมกับฐานะราชาขึ้นมาบ้าง’ยูบินตกตะลึง
“แค่นี้ไม่ได้มากมายสำหรับข้าเลยองค์ราชา แต่ที่ข้าช่วยเหลือประชาชนของท่านนั้นข้าเต็มใจที่จะทำเยี่ยงนั้นเอง ความจริงแล้วท่านไม่ต้องตอบแทนข้าก็ได้”ยูบินตอบกลับด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่ความจริงแล้วเขากำลังตื่นเต้นอย่างมาก…แต่แค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น
“จิตใจท่านช่างประเสริฐยิ่งนัก ข้าขอเป็นตัวแทนประชาชนของข้าทั้งหมดขอบคุณท่านจากใจจริง”ราชาฟาพิว เรดอส ยืนขึ้นพร้อมโค้งคำนับให้ยูบินอย่างสุภาพ
รางวัลพิเศษ : ท่านได้รับกับคำนับจากผู้สูงศักดิ์ระดับราชาของอาณาจักรระดับทั่วไปเป็นครั้งแรก แต้มแห่งเกียรติยศ + 1,000 แต้ม เปิดการใช้งานค่าสถานะพิเศษ(ความสูงศักดิ์)
ความสูงศักดิ์ + 1 แต้ม
ยูบินเผลอฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากหน้าต่างแจ้งเตือนที่ปรากฎขึ้นที่ด้านหน้าของเขา
องค์ราชานั้นกลับคิดว่ายูบินประทับใจเขาที่แสดงความขอบคุณ…
‘ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาน่าเคารพยิ่งกว่าเดิมได้นะ อาจจะเป็นเพราะคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ก็ได้…’ราชาเรดอสคิด
“ข้าขอเสียมารยาทถามคำถามสักคำ ต่อท่านได้หรือไม่”ราชาเรดอสพูดอย่างนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าสงสัยอะไรถามมาได้เลย”ยูบินตอบกลับ
“ท่านเป็นคนที่มาจากอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?”ราชาเรดอสพูด
‘อาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์คืออะไรกัน’ยูบินงุนงง
“ใช่ข้าไม่ได้มาจากที่นั่น ทำไมท่านถึงถามเช่นนี้ ? แล้วอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์คืออะไร”ยูบินตอบพร้อมกับถามกลับไป
‘เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่’ราชาเรดอสคิดในใจ
“ข้าก็แค่คาดเดาเพียงเท่านั้น ปรกติผู้คนที่มาจากภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะมีความสามารถระดับท่านได้ พวกเขาจะติดตราแห่งเกียรติยศพร้อมกับตราอาชีพ รวมถึงตราอื่นๆเพื่อบ่งบอกตัวตนของพวกเขา แต่ท่านนั้นไม่ได้ติดตราเหล่านั้น”ราชาเรดอสตอบกลับ
จากนั้นราชา'ฟาพิวเรดอสจึงเล่าเรื่องราวของอาณาจักรภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทุ่งร้างวาซาให้ยูบินฟัง
“ขอบคุณท่านเรดอสที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้แก่ข้า ในเมื่อเราหมดเรื่องราวที่จะกล่าวต่อกันแล้ว ถ้าอย่างงั้นข้าขอตัวก่อน”ยูบินพูดจบคำจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นโค้งคำนับแล้วเดินออกไปทันที
“ทารัสเจ้าเดินไปส่งท่านผู้ควบคุมยูบินด้วย”ราชา'เรดอสออกคำสั่ง
“ขอรับองค์ราชา”อาเมทิส ทารัส ตอบกลับอย่างนอบน้อม
‘ทำไมเขาถึงไม่ติดตรากันนะ เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองขนาดนั้นเลย? ปรกติผู้คนภายในกำแพงศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเคารพผู้ถือครองตรากันมาก พวกนั้นยึดมั่นในเกียรติยศ พวกเขาทุกคนจะติดตราเพื่อยืนยันตัวตนเวลาที่พวกเขาไปสถานที่ต่างตลอดเวลา คนที่ไม่ติดตรานั้นจะโดนมองอย่างดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นพวกที่อ่อนแอและไร้เกียรติ เพราะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่มีตราแห่งเกียรติยศ ’ราชา'ฟาพิวเรดอสนั่งคิดเพียงลำพัง
…
ยูบินและทารัสเดินออกถึงประตูทางเข้าปราสาท
“เจ้ามาส่งข้าถึงตรงนี้ก็เพียงพอแล้ว”ยูบินพูดกับทารัส
“ขอรับท่านยูบิน”ทารัสตอบกลับ
ระหว่างเดินเล่นอยู่ในเมืองวูนั้นยูบินสอบถามระบบในใจ
‘ระบบค่าสถานะความสูงศักดิ์นี่มันทำอะไรได้บ้าง แล้วมีวิธีการที่จะเพิ่มค่าสถานะนี้ยังไงบ้าง’
[ค่าสถานะความสูงศักดิ์สามารถเพิ่มความน่าเคารพเลื่อมใสของท่าน ส่งผลให้ผู้คนเคารพยำเกรงท่าน ยิ่งมีค่าสถานะนี้สูงเท่าให้ท่านยิ่งได้รับความเคารพได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ค่าสถานะนี้เพิ่มได้หลายวิธีระบบจะเปิดเผยแค่สองวิธีเท่านั้น หนึ่งง่ายๆแค่ท่านนำแต้มแห่งเกียรติยศไปแลกเปลี่ยนกับค่าสถานะความสูงศักดิ์ อัตราแลกเปลี่ยนคือแต้มแห่งเกียรติยศ 1000 เท่ากับแต้มแห่งความสูงศักดิ์ 1 แต้ม วิธีที่สองนั้นท่านต้องได้รับการแสดงความเคารพจากผู้ที่เป็นราชาหรือสูงกว่า]เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของยูบิน
‘ยุ่งยากจังแหะ แต่ยังดีที่มีวิธีการเพิ่มค่าสถานะด้วยการแลกเปลี่ยนหล่ะนะ’ยูบินคิดในใจ
หลังจากออกมานอกเมืองวูสักระยะเขาจึงเรียกกิซออกมาจากมิติส่วนตัวเพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้นั้นเขามีจุดมุ่งหมายคือด้านนอกกำแพงอาณาจักรไอซ์บลัด เขาต้องการที่จะทำภารกิจล่าสังหารให้สำเร็จทั้งหมด แล้วค่อยหาพื้นที่ว่างในการสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา
ผ่านไป 3 เดือนเขาภารกิจล่าสังหารของเขาก็สำเร็จทั้งหมดที่เขาใช้เวลาในการล่าสังหารนานกว่าครั้งก่อนๆนั้นเป็นเพราะว่าสัตว์ปีศาจนั้นไม่ได้เกิดใหม่เหมือนชั้นใต้ดินในปราสาทก่อนหน้านี้ เขาจึงต้องตามล่าสัตว์ปีศาจทุ่งน้ำแข็งทางเหนือเป็นเวลานานกว่าจะทำภารกิจล่าสังหารสำเร็จ
ในช่วงที่ผ่านมานั้นเขาได้ใช้สิทธิอัญเชิญสิ่งมีชีวิตระดับทั่วไปจากรางวัลภารกิจไปจนหมดแล้ว ทุกครั้งที่เขาทำการอัญเชิญสิ่งมีชีวิตสำเร็จภารกิจล่าสังหารของเขาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น
จำนวนอัศวินของยูบินตอนนี้นั้นมีทั้งหมด 11 คนกับอีก 25 ตน
ระดับการฝึกฝนของอัศวินทุกคนของยูบินในปัจจุบัน
[ เพศแทนด้วย (M)=ชาย (F)=หญิง ]
อัศวินเผ่ามนุษย์
กิวดัล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 6 อายุ 40 ปี (M)
ซีน่า เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 6 อายุ 25 ปี (F)
ซูล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 17 ปี (M)
ฟานี่ เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 21 ปี (F)
เฟล เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 19 ปี (F)
ปาซิอุส เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 46 ปี (M)
ชาวี่ เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 16 ปี (F)
มาทิส เผ่ามนุษย์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 80 ปี (M)
ราเชล เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 9 อายุ 29 ปี (F)
เซียเนล เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 7 อายุ 20 ปี (M)
คาสคูม เผ่ามนุษย์ ระดับผู้ไร้ตราขั้นที่ 8 อายุ 102 ปี (M)
อัศวินที่ไม่ใช่เผ่ามนุษย์
คิวรัส เผ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ ระดับทั่วไปขั้นที่ 8 อายุ 1 ปี (M)
อลิซ เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 4 อายุ 18 ปี (F)
เทล เผ่าสัตว์อสูรหมีน้ำแข็ง ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 31 ปี (M)
กิซ เผ่าสัตว์เวทย์เหยี่ยวหิมะ ระดับบิวท์ขั้นที่ 4 อายุ 22 ปี (M)
คาซุ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 18 ปี (M)
กีอัส เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 23 ปี (M)
มิเอล เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 20 ปี (F)
ซิววา เผ่าเอลฟ์ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 17 ปี (F)
เซี่ยเฟิง เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 19 ปี (M)
ฟางหยุน เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 18 ปี (M)
หลงอู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 42 ปี (M)
หนานยู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 39 ปี (F)
ซื่อเฟย เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 21 ปี (M)
เทียนซือ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 88 ปี (M)
หยางจื่อ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 61 ปี (M)
อวี้เฟิง เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 20 ปี (M)
กู่หลง มังกรแดง ระดับทั่วไปขั้นที่ 6 อายุ 1 ปี (M)
หลี่มู่ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 22 ปี (M)
มู่หลิน เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 26 ปี (F)
แฟรีส เผ่าแฟร์รี่ ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 11 ปี (F)
เซียวเหล่ย เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 1 อายุ 34 ปี (M)
อามะ เผ่าบรรพกาล ระดับบิวท์ขั้นที่ 2 อายุ 17 ปี (M)
คูฟ เผ่าสัตว์อสูรยักษ์เขียว ระดับบิวท์ขั้นที่ 3 อายุ 47 ปี (M)
ลูฟาคัส อามุล เผ่าเทพ ระดับบิวท์ขั้นที่ 7 อายุ 18 ปี (M)
เทียร์ คีเนเซียร์ เผ่าเทพ ระดับบิวท์ขั้นที่ 8 อายุ 20 ปี (F)
…
เผ่าบรรพกาลนั้นรูปร่างเหมือนมนุษย์ พวกเขานั้นมีความคล้ายมนุษย์ถึง 99% ทว่า…พวกเขานั้นกลับมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนมากกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของพวกเขากับมนุษย์ในระดับการฝึกฝนที่เท่ากันนั้นพวกเขาแข็งกว่ามากนัก
ส่วนเผ่าเทพนั้นพวกเขามีรูปร่างเหมือนมนุษย์เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความพิเศษต่างจากมนุษย์คือพวกเขานั้นมีความสามารถดูดซับปราณและเวทย์ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ปราณและเวทย์ที่พวกเขาดูดซับเข้าไปนั้นบริสุทธิ์กว่าการดูซับด้วยทักษะระดับ 8 ดาวซะอีก ด้วยความสามารถนี้ทำให้พวกเขาฝึกฝนได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างก็คือระดับการฝึกฝนของพวกเขานั้นจะไม่โดนจำกัดด้วยทักษะการฝึกฝน เหมือนดั่งเช่นเหล่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ อายุของขัยของเผ่าเทพนั้นเป็นนิรันดร์… แต่ทว่าพวกเขายังต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้เหมือนกับมนุษย์ ส่วนเรื่องความแข็งแกร่งนั้นไม่ต้องพูดถึง…
ในตอนนี้นั้นยูบินได้สอนทักษะการฝึกฝนปราณและเวทย์ให้กับอัศวินที่สามารถฝึกฝนทักษะของมนุษย์ได้ ถึงแค่ระดับบิวท์ขั้นสูง 6 ดาวเท่านั้น เขารอให้อัศวินเหล่านั้นมีระฝึกฝนขึ้นมาถึงระดับบิวท์ขั้นที่ 9 พร้อมกันทั้งหมดก่อน ถึงจะสอนทักษะระดับสูงกว่านี้ให้แก่พวกเขา เพราะเขายังไม่อยากให้อัศวินเหล่ามีระดับการฝึกฝนมากกว่าเขาในตอนนี้ เว้นไว้เพียงแค่เผ่าเทพทั้งสองก็พอ
‘ถึงเวลาเริ่มแผนการณ์สร้างอาณาจักรแล้วสินะ’
.
.
.
…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ