Kiss Mark ตีตราเลขาคนสวย
เขียนโดย Peachya
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2564 23.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) แผนของไอรดา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5 แผนของไอรดา
“ฮัลโหล ว่าไง” ฉันพูดใส่ปลายสายทันที่ที่กดรับโทรศัพท์
“แหม เดี๋ยวนี้ฉันโทรหาแกต้องมีอะไรด้วยหรอยะ” เบส เพื่อนตัวดีของฉันตอบกลับมา
“เปล่า ฉันแค่กำลังหงุดหงิดน่ะ แล้วแกมีอะไร”
“ทำไมยะ ไปทำงานวันแรกก็หงุดหงิดละ เออแล้วนี่พี่มาร์คได้ชิมคุกกี้แกยัง พี่เขาชอบไหม” เบสถาม
“ชิมแล้ว แต่ชิมไปชิ้นเดียว คนอะไรก็ไม่รู้ไม่มีมารยาทเลยแก ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้ พี่เขากลับบอกว่าไม่ชอบกินขนม ไม่ใช่สิ บอสบอกว่าไม่ชอบกินขนมค่ะ” ฉันแขวะ
“ฮ่าๆ แกคิดมากไปปะเนี่ย พี่มาร์คของแกอาจจะไม่ชอบจริงๆก็ได้ เออที่ฉันโทรหาแกอะ จะบอกว่ายัยแองจี้กลับมาแล้วนะ มันบอกว่าทักไลน์แกไปแล้วทั้งวันแกไม่ตอบเลย จะชวนไปดริ้งค์” เบสพูด
“เห้ยจริงเหรอ ไปสิ! ฉันจะพลาดได้ไงวะ ไม่เจอยัยแองจี้มานานขนาดไหนแล้วเนี่ย สามปีได้แล้วมั้ง” ฉันเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้นสุดๆ
“งั้นเจอกลับที่คลับDaftสามทุ่มนะ ฉันจองโต๊ะวีไอพีไว้แล้ว แกมาถึงก็ค่อยมาอัพเดทชีวิตของแกแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะ เจอกัน” เบสตอบและกดวางสายไปทันที
ตอนนี้ก็ห้าโมงกว่าแล้ว อีกไม่นานฉันก็จะเลิกงาน ฉันคงต้องรีบกลับบ้านไปแต่งตัวสวยๆ ฉันแก้งานเสร็จหมดแล้วละส่งให้พี่มาร์คตรวจเรียบร้อย แทนที่จะชมกันสักนิด ตอบกลับฉันมาคำเดียวว่า’อืม’ คนอะไรขี้เก๊กชะมัด
“จะกลับเลยไหม” ฉันสะดุ้งเฮือก ก็พี่มาร์คน่ะสิ เดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“ค่ะบอส มิทำงานเสร็จหมดแล้วค่ะ” ฉันตอบ
“งั้นตามมา” พี่มาร์คพูดจบก็เดินตรงไปที่ลิฟต์ ใช้เวลาไม่นานพี่มาร์คก็ขับรถมาส่งฉันที่บ้าน แถมยังทิ้งท้ายไว้อีกว่าต่อจากนี้เขาจะมารับฉันที่บ้านทุกเช้าเพื่อไปทำงานด้วยกัน และตอนเย็นก็ให้ฉันรอกลับพร้อมเขา
“ป้าพรคะ วันนี้มิขอทานอะไรเบาๆนะคะ มินัดเพื่อนไว้ ทานเยอะเดี๋ยวใส่ชุดไม่สวย คริคริ” ฉันพูดกับป้าพรอย่างอารมณ์ดี
“ค่ะคุณหนู เดี๋ยวป้าทำสลัดทูน่าของโปรดให้แล้วกันนะคะ คุณหนูจะออกไปเที่ยว ได้บอกคุณท่านไว้ไหมคะ” จริงด้วย ฉันลืมโทรหาคุณพ่อคุณแม่ไปสนิทเลย ก็วันนี้ทั้งวันฉันมัวแต่ก้มหัวอยู่กับโต๊ะทำงานเนี่ยสิ ขนาดยัยแองจี้ทักมา ฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ “จริงด้วยค่ะป้า เดี๋ยวมิขอตัวไปแต่งตัวก่อนนะคะ จะโทรหาคุณพ่อคุณแม่ด้วย” ว่าจบฉันก็วิ่งขึ้นห้องนอนทันที
ทันทีที่ปลายสายกดรับ หน้าจอก็ปรากฏหน้าคุณแม่ขึ้นมา “ยังไงยัยลูกสาว แม่โทรหาตั้งหลายสายไม่รับเลยนะ ไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้างคะ” คุณแม่ถามฉัน
“ขอโทษทีค่ะคุณแม่ มิไม่เห็นจริงๆ มัวแต่นั่งทำงาน ก็พี่มาร์คน่ะสิคะ ใช้งานมิโหดมาก คุณแม่รู้ไหม มิได้ทานข้าวมื้อแรกก็ปาเข้าไปเกือบสี่โมงเย็นแล้ว” ฉันฟ้องคุณแม่
“ฮ่าๆ จริงเหรอลูก แม่ว่าตามาร์คนี่โหดใช่เล่นนะ แล้วนี่เราไปทำงานยังไง ลุงชัยไปส่งหรือเปล่า” คุณแม่ถามฉัน
“พี่มาร์คอาสาจะรับส่งมิค่ะ แต่คุณแม่อย่าไปเข้าข้างว่าพี่เขาดูแลมิดีนะ มิว่าพี่เขาแค่กลัวมิจะสายมากกว่า” ฉันตอบพลางทำหน้าบูด แต่แล้วคุณพ่อก็โผล่หน้าเข้ามาในจอ ยืนอยู่หลังคุณแม่ “คุณพ่อ! เป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างไหม” ฉันถาม
“พ่อสบายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอดูแลพ่ออย่างใกล้ชิด นี่อีกสามวันพ่อก็จะให้แม่เขากลับไปทำงานแล้ว” คุณพ่อตอบ “แล้วเราล่ะ เป็นยังไงบ้าง พี่มาร์คดูแลเราโอเคไหม” คุณพ่อถาม
“ก็ดีมั้งคะ พี่เขามารับมาส่งมิ ส่วนเรื่องงานมิก็ยังไม่ทราบค่ะ แต่มิว่ามิอาจจะเจองานหนัก ขนาดวันแรกนะคะ ยังโดนดุเลย”
“ไว้พ่อจะคุยกับอาเดชให้ช่วยดูเราอีกแรงนะ มิว่างก็ควรไปพบคุณอาเขาบ้างนะลูก มีอะไรขาดเหลือไม่ต้องเกรงใจ คุยกับคุณอาได้เลย” คุณพ่อพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ค่ะคุณพ่อ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวมิจะไปแต่งตัวแล้ว มินัดเบสกับแองจี้ไว้ค่ะ”
“อย่าซนให้มากนักนะ ให้ลุงชัยไปรับไปส่งนะลูก” ฉันยิ้มให้คุณพ่อกับคุณแม่และโบกมือลาท่าน เพียงไม่กี่วินาทีสายก็ตัดไป
ผ่านไป20นาที ตอนนี้ฉันก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังแต่งตัว ฉันแต่งหน้าโทนชมพูอ่อนบางๆโชว์ผิวขาวผ่องพร้อมกับม้วนปลายผมให้เป็นลอนเล็กน้อย เลือกหยิบชุดสายเดี่ยวสีขาวตัวสั้น โชว์หลังโชว์ไหล่นิดๆ ว่าแล้วก็โพสรูปหน่อยดีกว่า ฉันไม่ได้ลงรูปมาเป็นเดือนแล้วนะ เดี๋ยวเพื่อนๆจะหาว่า
iam_mi
831 Likes
iam_mi Ladies’ night! ใครไม่พร้อมไม่รู้ มิพร้อมค่า
View all 103 comments
bestie.p ทางนี้ก็พร้อมจ้ะ
phong.sv ละลายหมดแล้วใจ
angelaangie มัวแต่ถ่ายรูป ออกมาได้แล้ว!!!
หลังจากที่ฉันแต่งตัวทานข้าวเรียบร้อย เดินลงมายังหน้าบ้านก็เจอลุงชัยเตรียมรถรอไว้อยู่แล้ว ไม่ถึงสามสิบนาทีฉันก็มาถึงที่คลับ ฉันนัดลุงชัยไว้ห้าทุ่มครึ่ง ไม่อยากกลับดึกมาก กลัวจะไปทำงานพรุ่งนี้ไม่ไหวน่ะสิ เดินเข้ามาไม่กี่ก้าวฉันก็เห็นเบสกับแองจี้นั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไกลจากประตูทางเข้า ฉันไม่รีรอเดินเข้าไปหาเพื่อนทันที
“โอ้ย ยัยมิ ฉันคิดถึงแกมากๆๆๆๆ” เสียงยัยแองจี้ตะโกนพร้อมกับจับใบหน้าฉันหันซ้ายหันขวาหอมแก้มสองข้างซ้ำไปซ้ำมา
“ฉันรู้แล้ว ฉันก็คิดถึงแก แต่ปล่อยก่อนได้มั้ยเนี่ย แก้มฉันช้ำหมดแล้วนะ” ฉันตอบ
“เออลืมตัวอะ นั่งก่อนสิ” ฉันนั่งลงตรงกลางระหว่างเบสกับแองจี้
“แล้วแกเป็นไงบ้างเนี่ย กลับมาตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง” ฉันถามแองจี้ออกไป
“เพิ่งถึงเมื่อเช้า กะจะเซอไพรส์พวกแก แต่ดันเซอไพรส์กว่าที่ติดต่อแกไม่ได้ไง” ยัยแองจี้พูดพร้อมทำหน้ามุ่ย
“เออโทษทีว่ะ แกกลับมาได้จังหวะมากเลยนะ ฉันเพิ่งทำงานวันแรก เหนื่อยเป็นบ้า” ฉันตอบพร้อมถอนหายใจ
“เออไม่เป็นไร เพราะข่าวดีก็คือฉันย้ายกลับมาถาวรแล้วนะ เรามีเวลาเจอกันอีกเยอะค่ะ” ยัยแองจี้ตอบด้วยท่าทางดี๊ด๊า จริงๆนอกจากเบสแล้วก็มีแองจี้เนี่ยแหละที่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน เพียงแต่ว่าแองจี้ย้ายไปเรียนต่อที่อังกฤษหลายปีก่อนเราเลยไม่ได้เจอกัน ฉันกับแองจี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นเพื่อนสมัยมัธยม พอได้มารู้จักกับเบสช่วงที่ฉันเรียนมหาลัยก็เลยแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน พวกเรานิสัยคล้ายๆกันก็เลยเข้ากันได้ดี แต่หลังจากเบสสนิทกับแองจี้ไม่นาน ยัยนี่ก็ดันย้ายไปอังกฤษซะงั้น
“แล้วมันยังไง ไหนเล่า เรื่องแกกับพี่มาร์คอะ” เบสพูดขึ้น
“เออมันก็ไม่ยังไง แต่เขาดูเย็นชากับฉันมากเลยแก ฉันอุตส่าห์ดีใจที่ได้เจอเขา นึกว่าจะกลับมาสนิทกัน ที่ไหนได้ ทำอย่างกับฉันเป็นธาตุอากาศ เหมือนคนไม่รู้จักกันยังไงอย่างนั้น” ฉับตอบ
“เดี๋ยวนะ พี่มาร์คที่แกเล่นด้วยตอนเด็กๆอะเหรอ นี่พวกแกกลับมาเจอกันเหรอ” ยัยแองจี้ถาม ไม่แปลกที่ยัยนี่จะรู้เรื่อง ก็เพราะเราสนิทกันมากไง ฉันมีอะไร สองคนนี้ก็รู้หมดแหละ
“เออ ก็อย่างที่พวกแกรู้ว่าพ่อฉันไปรักษาตัวต่างประเทศใช่ไหม แม่ฉันก็ไม่อยู่อีก ก็เลยฝากวานอาเดชพ่อของพี่มาร์คให้ช่วยดูแลฉัน แล้วบังเอิญว่าพี่มาร์คเขาย้ายกลับมาทำงานที่ไทย คุณพ่อเลยฝากให้ฉันไปทำงานกับเขา เป็นเลขาอะ” ฉันอธิบาย
“ฟังดูก็ไม่น่าจะมีปัญหาไรเปล่าวะ ดีซะอีก ได้ทำงานกับคนคุ้นเคย” แองจี้พูด
“ฉันก็คิดแบบแกแหละตอนแรก แต่ยัยมิบอกว่าพี่มาร์คเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย โหดสุดๆ” เบสพูด
“จริง หล่อแต่มีรังสีอำมหิต” ฉันเอ่ย
“งั้นแกก็ทำให้เขาต้องยอมแกดิ” แองจี้เสนอ
“ยังไงวะ เขาเป็นเจ้านายฉันนะ ฉันสิต้องยอมเขา แกนี่พูดแปลกๆ” ฉันตอบพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วยสุดๆ
“คืองี้ พี่มาร์คเป็นผู้ชาย แล้วดูแกสิ แกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แถมยังสวยเอ็กซ์ชะมัด แกก็ใช้มารยานิดๆหน่อยๆให้พี่เขาปฎิบัติกับแกให้ดีขึ้นสิ เขายังโสดอยู่ใช่ไหม” แองจี้ถาม
“แก จะบ้าเปล่า ฉันไม่ได้คิดไรกับพี่เขานะ ฉันแค่อยากให้เขาทำเหมือนฉันเป็นน้องสาว ไม่ใช่คนไม่รู้จักกันแบบนี้ ฉันอึดอัด” ฉันตอบ
“ฉันเห็นด้วยกับจี้ แกก็แค่อ้อนๆเขาบ้าง มีใครบ้างจะไม่ตกหลุมพรางแกวะ แค่ทำให้ชีวิตแกแฮปปี้ขึ้นไง ไม่ได้บอกให้ชอบพี่เขาสักหน่อย หรือเขามีแฟนแล้วแกเลยกลัว” เป็นเบสบ้างที่พูดขึ้นมา
“ฉันไม่รู้ว่ะ เพิ่งเจอพี่เขาแปปเดียวเอง คุยเรื่องส่วนตัวอะไรก็ไม่ตอบสักอย่าง แถมคนในบริษัทยังดูเกรงกลัวเขามากด้วยนะ แต่ถ้าให้ฉันเดาก็คงจะโสด ก็ดุเหมือนเสือซะขนาดนั้น” ฉันพูดพร้อมทำหน้าขนลุก
“เข้าทางแกแล้วแหละ เดี๋ยวฉันช่วยแกเอง ไหนๆก็กลับมาอยู่ครบแก๊งกันแล้ว หาอะไรสนุกๆทำหน่อยไม่ดีเหรอคะคุณหนูมิขา” แองจี้พูดกับฉันอย่างล้อเลียน แต่ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป พวกเราก็นั่งดื่มกันไปได้สักพักจนฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มจะเมาแล้วแหละ กี่โมงแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีก
“พวกแก ฉันคงอยู่อีกแปปเดียวนะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน กลัวไม่ตื่น” ฉันเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสอง
“อะไรวะ ฉันกลับมาทั้งทีนะ มิคนเดิมหายไปไหนยะ ปกติแกไม่เคยกลับก่อนตีสอง” ยัยแองจี้ชักสีหน้าไม่พอใจ
“ก็อยากอยู่ต่อ แต่ฉันกลัวโดนว่าอะ เพิ่งทำงานได้วันเดียวจะไปสายแล้วเหรอ” ฉันอธิบายด้วยเหตุผล
“เออๆแล้วแต่แก แต่แกต้องกินไวน์ขวดนี้ให้หมดแล้วค่อยกลับ” เบสพูด
“ก็ได้ยะ อีกสักพักค่อยกลับแล้วกัน” ฉันพูดเสร็จก็ดื่มไวน์ไปตามประสา เมาแล้วแฮะ เหลืออีกเกือบจะครึ่งขวด ฉันเริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำเลยหันไปบอกเพื่อน ทั้งสองก็รับรู้แต่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนฉันสักคน ก็พวกมันติดลมแล้วนิ แต่ทันทีที่ฉันลุกขึ้นและก้าวไปได้แค่สองก้าวก็ชนเข้ากับใครบางคน
“อุ้ย ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันมอง” ร่างสูงที่ฉันเดินชนประคองฉันไว้ พอเงยหน้ามองเท่านั้นแหละ เอ๊ะนี่มันพี่มาร์คนี่ หรือฉันจะตาฟาด พี่มาร์คมาสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ
“เธอมาอยู่นี่ได้ไง” ทันทีที่ร่างสูงตอบกลับมา ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่ฉันคิด สายตาฉันตอนนี้มันพร่ามัวไปหมดแล้ว
“พี่มาร์ค?” ยัยแองจี้ถามขึ้น พี่มาร์คหันหน้าไปมองยัยนั้นเพียงเล็กน้อยก็หันกลับมามองฉัน
“จะไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม เดี๋ยวฉันพาไป” ว่าจบพี่มาร์คก็ดึงแขนฉันพาฉันไปเข้าห้องน้ำ แล้วบอกฉันว่าจะยืนรอฉันอยู่ด้านหน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ